The king of War - บทที่ 1308 ตามหาหยางเฉิน
“คุณมาหาคุณหยาง?”
คนของทีมลาดตระเวนหน่วยเล็กได้ยินชายวัยกลางคนมาหาหยางเฉิน ท่าทีของเขาอ่อนลงอย่างมากทันที
พวกเขารู้อยู่แก่ใจดี การที่ตระกูลลู่มีวันนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพึ่งพาหยางเฉิน ถ้าหากชายวัยกลางคนคนนี้เป็นเพื่อนของหยางเฉิน พวกเขาไม่กล้าล่วงเกิน
“คุณเป็นเพื่อนของคุณหยาง?”
หัวหน้าหน่วยของทีมลาดตระเวนเอ่ยปากถาม
ชายวัยกลางคนส่ายหัว
“แล้วคุณคือ?”
หัวหน้าหน่วยทีมลาดตระเวนถามต่อ
“ฆ่าคน!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของชายวัยกลางคน ร่างกายสั่นไหว ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหัวหน้าหน่วยทีมลาดตระเวนอย่างกะทันหัน
“เพี๊ยะ!”
เป็นเพียงนิ้วมือทั้งห้าของเขากางออก คว้าคอของหัวหน้าหน่วยทีมลาดตระเวนโดยตรง ร่างกายของหัวหน้าหน่วยถูกยกขึ้นสูงจากพื้น
สมาชิกที่เหลือของหน่วยตกใจมาก บนใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขายังไง พวกเขามองไม่เห็นด้วยซ้ำ
“หยางเฉินอยู่ไหน?”
ชายวัยกลางคนถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ผม…ผมไม่ ไม่รู้!”
หัวหน้าหน่วยทีมลาดตระเวนรีบพูด
“แควก!”
เสียงของกระดูกแตกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน คอของหัวหน้าหน่วยทีมลาดตระเวนถูกบีบจนหัก ร่างกายทรุดล้มลงบนพื้น
สมาชิกคนอื่นรู้สึกตกใจมาก หัวหน้าหน่วยที่ยังมีชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้ ถูกฆ่าตายอย่างง่ายดายแบบนี้?
“กึก!”
สมาชิกที่เหลือของหน่วยทยอยกันคุกเข่าลงพื้น แต่ละคนพูดด้วยสีหน้าที่อ้อนวอน “นายท่าน พวกเราไม่รู้ พวกเราไม่รู้จริงๆ!”
“คุณไปถามหัวหน้าตระกูลของพวกเราดีกว่า ถ้าหากเขาไม่รู้ คุณสามารถไปถามลู่ฉิงเสว่ ใช่ ลู่ฉิงเสว่!”
“ลู่ฉิงเสว่เป็นคนช่วยคุณหยาง เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตของลู่ฉิงเสว่ คุณหยางถึงช่วยทำให้ตระกูลลู่กลายเป็นเจ้าแห่งหนิงโจว คุณไปหาเธอ เธอจะต้องรู้แน่ว่าหยางเฉินอยู่ไหน”
“ฉึกฉึกฉึก…”
ทันทีที่สิ้นเสียงคำพูดของสมาชิกหน่วยคนนั้น มีก้อนหินหลายก้อนพุ่งทะลวงผ่านลำคอของพวกเขาอย่างกะทันหัน เหลือไว้เพียงศพที่นอนอยู่บนพื้น
ร่างกายของชายวัยกลางคนสั่นไหว หายไปจากตรงที่เดิม
ตอนนี้ บรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงของตระกูลลู่ค่อนข้างคึกคัก บนใบหน้าของคนตระกูลลู่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกคน
ทุกคนรู้ดี หลังจากงานเลี้ยงครั้งนี้สิ้นสุดลง ตระกูลลู่จะกลายเป็นเจ้าแห่งหนิงโจวอย่างทางการ
“ฮ่าฮ่า ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานเลี้ยง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปต้องรบกวนทุกท่านสนับสนุนแล้ว!”
ลู่ชวนในฐานะทายาทผู้สืบทอดหัวหน้าตระกูลรุ่นต่อไป ตอนนี้เขากำลังยกมือขึ้นประสานทำท่าคาราวะพูดกับผู้คนที่อยู่โดยรอบอย่างยิ้มแย้ม
“แน่นอน แน่นอน!”
ทุกคนตอบรับอย่างยิ้มแย้ม
“ปัง!”
ในตอนนั้นเอง มีเสียงดังสนั่นดังขึ้น ประตูใหญ่ของห้องจัดเลี้ยงลอยเข้ามาในงานเลี้ยง แขกหลายคนที่อยู่ใกล้ประตูมากที่สุด โดนประตูกระแทกจนลอยกระเด็นออกไปพร้อมกับกระอักเลือด
“ใคร?”
ชั่วขณะ ทุกคนรู้สึกตกใจมาก
คนของตระกูลลู่ตะคอกด้วยความโกรธ สายตามองไปทางชายวัยกลางคนที่ปรากฏตัวขึ้นตรงประตูห้องจัดเลี้ยง
ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือพี่ใหญ่ของหลงเคอ หลงเยว่
“ไอ้สาระเลว คุณเป็นใคร? ถึงขั้นกล้าบุกรุกตระกูลลู่ของเรา รนหาที่ตาย!”
ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของตระกูลลู่ตะคอกด้วยความโกรธ หลังจากนั้นพุ่งเข้าไปโดยตรง
ทว่าหลงเยว่ยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่ขยับตัว ดวงตาที่เย็นชาทั้งคู่จ้องผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่ที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตนเอง
“ไปตายซะเถอะ!”
หลังจากที่ผู้แข็งแกร่งตระกูลลู่พุ่งไปถึงตรงหน้าของหลงเยว่ คำรามด้วยความโกรธพร้อมกับชกหมัดออกไป
“ปัง!”
วินาทีต่อมา ภาพที่ทำให้ทุกคนตกใจเกิดขึ้นแล้ว เห็นเพียงหลงเยว่ยืนอยู่ตรงที่เดิม เหวี่ยงฝ่ามือออกไป ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ ผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่คนนั้นโดนตบจนลอยกระเด็นออกไปโดยตรง
หลังจากที่ร่างกายตกลงสู่พื้น สิ้นใจตายทันที
เงียบ!
ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เงียบลงทันที ทุกคนมองไปทางหลงเยว่ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
ในแววตาของลู่หยวนทงก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่ที่ลงมือก่อนหน้านี้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง แต่กลับโดนหลงเยว่ตบจนตายด้วยฝ่ามือเดียว สามารถจินตนาการความแข็งแกร่งของหลงเยว่ได้เลย
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้มีเพียงคนของตระกูลลู่ ยังมีคนอื่นที่เป็นผู้นำของตระกูลใหญ่แห่งหนิงโจวด้วย ทุกคนล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตที่เคยเห็นอะไรมามาก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้
บนใบหน้าของหลงเยว่ในตอนนี้เต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่า กวาดสายตามองโดยรอบ ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “หยางเฉินอยู่ไหน?”
เสียงของเขาดังราวกับฟ้าผ่าก้องอยู่ในห้องจัดเลี้ยง มีผู้คนมากมายรู้สึกหวาดกลัวมาก
“หยางเฉิน?”
“หยางเฉินเป็นใคร?”
“ผมได้ยินมาว่าเขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่ช่วยเหลือตระกูลลู่ ดูเหมือนจะถูกเรียกว่าคุณหยาง หรือว่าเขาก็คือหยางเฉิน”
……
หลังจากได้ยินหลงเยว่ต้องการหาหยางเฉิน ในที่สุดผู้คนในงานเลี้ยงก็เริ่มเอ่ยปากถกเถียงกัน
โดยเฉพาะคนของตระกูลลู่รู้สึกหวาดกลัวจนตื่นตระหนก เขามาหาหยางเฉิน
ทุกคนรู้ดี หยางเฉินคือผู้มีพระคุณของตระกูลลู่ ไม่มีหยางเฉิน ตระกูลลู่อย่าว่าแต่กลายเป็นเจ้าแห่งหนิงโจว เกรงว่าคงถูกตระกูลหลี่และตระกูลจางกลืนกินไปแล้วมั้ง?
“หยางเฉินไปแล้ว!”
ลู่ชวนกัดฟันก้าวออกมา หลังจากนั้นรีบถาม “ไม่ทราบว่านายท่านคนนี้มาหาคุณหยาง มีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่า?”
หลงเยว่ไม่ได้สนใจลู่ชวน แต่ขมวดคิ้วแทน “ผมให้เวลาพวกคุณสิบนาที สั่งให้หยางเฉินไสหัวออกมารับความตาย ไม่อย่างนั้น ทุกคนตาย!”
พูดจบ เอานั่งลงตรงหน้าโต๊ะอาหาร หยิบตะเกียบขึ้นมาหนึ่งคู่ นั่งดื่มนั่งกินคนเดียวเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วินาทีนี้ ทุกคนที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย
หลังจากผู้นำตระกูลใหญ่หลายคนของหนิงโจวสบตากัน ชายชราหนึ่งในนั้นเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลงเยว่ ถามด้วยความระมัดระวัง “นายท่าน ผมแค่มาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลลู่ หยางเฉินที่คุณตามหาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผม ผมขอตัวก่อน”
พูดจบ เขาหันหลังแล้วเตรียมตัวเดินจากไป
“ฉึก!”
ชายชราคนนั้นเพิ่งก้าวออกไปได้ไม่กี่ก้าว ร่างกายหยุดชะงัก หลังจากนั้นล้มลงบนพื้นอย่างเชื่องช้า
ทุกคนอุทานด้วยความตกใจ ตอนที่พวกเขาสังเกตเห็นหลังศีรษะของชายชรามีตะเกียบครึ่งท่อนโผล่ออกมาเพิ่งจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ชั่วขณะ ผู้นำของตระกูลใหญ่ที่ต้องการหาข้ออ้างออกจากไป บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่กล้าขยับตัวทันที
ผู้แข็งแกร่งที่สามารถใช้ตะเกียบฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย ใช่คนที่พวกเขาสามารถรับมือเหรอ?
“หัวหน้าตระกูลลู่ คุณยังรออะไร? รีบติดต่อหยางเฉิน สั่งให้เขามารับความตายสิ!”
“ใช่ ใช่ ใช่ รีบสั่งให้หมอนั่นไสหัวมารับความตาย พวกเราล้วนแต่ถูกเขาทำให้ซวยไปด้วย”
……
ทันใดนั้น พวกผู้นำของตระกูลใหญ่ที่พยายามเอาอกเอาใจตระกูลลู่ เริ่มหันมาจ้องลู่หยวนทงและตะคอกด้วยความโกรธ
สำหรับพวกเขา พวกเขาล้วนแต่เป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ตระกูลลู่ทำให้พวกเขาซวยไปด้วย แม้กระทั่งอยากไปก็ไปไม่ได้
หลังจากได้ยินเสียงตะคอกด้วยความโกรธของทุกคน ลู่หยวนทงถึงตั้งสติได้ กัดฟันพูด “หุบปากให้หมดเลย!”
ทุกคนถึงยอมเงียบ
ลู่หยวนทงพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “คุณหยางไปไหน ตระกูลลู่ของเราก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าเขาเพิ่งไปได้ไม่นาน”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกคุณจะมาตำหนิตระกูลลู่ แต่จำเป็นต้องระดมกำลังของแต่ละตระกูลตามหาคุณหยางให้เจอ”
“ไม่อย่างนั้น อาศัยตระกูลลู่ของผมตามหาเขาภายในสิบนาที มันไม่มีความหวังอะไรเลย”
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายถึงตั้งสติได้ พวกเขาในตอนนี้ล้วนแต่เป็นตุ๊กตาที่ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ชั่วขณะ ทุกคนเริ่มทยอยกันหยิบโทรศัพท์ออกมาติดต่อคนของตระกูลตนเอง สั่งให้พวกเขาระดมคนทั้งหมดตามหาหยางเฉินทั่วทั้งเมือง