The king of War - บทที่ 1317 หยางเฉินที่แข็งกร้าว
พวกเขาเห็นกับตา ตอนที่ยอดฝีมือตระกูลเจี่ยงพุ่งเข้าถึงข้างหน้าหยางเฉิน ยังไม่ทันได้สะกิดถูกตัวของหยางเฉิน อีกทั้งยังไม่ทันได้เห็นหยางเฉินขยับมือ ได้ยินแค่พูดว่า “ไสหัวไป” หลังจากนั้นก็เห็นผู้แข็งแกร่งคนนั้น ลอยลิ่วออกไป
“คนเป็นไง ตายแล้ว!”
ในเวลานั้นเอง หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงมองไปที่ยอดฝีมือตระกูลเจี่ยงที่ตายแบบไม่ทันหลับตา พูดด้วยความหวาดกลัว
“อะไรกัน?”
“ตายแล้ว?”
“ไม่นะ!”
งงชะงักไปชั่วอึ้ง หวงเหล่ยสีหน้ายังดูไม่อยากเชื่อ “เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงนี่?”
“ผู้เฒ่าจางนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสุดยอดของตระกูลเจี่ยง เป็นไปได้ยังไงที่ถูกฆ่าตาย?”
หวงเหล่ยเหมือนบ้าไปแล้ว ถลาเข้าไปที่เบื้องหน้ายอดฝีมือ ชั่วเดี๋ยวเดียว เขาก็ต้องแน่ใจ ผู้แข็งแกร่งที่เขาเห็นว่าสุดยอดที่สุดนั้น ตายแล้วจริง ๆ
ตายด้วยคำพูดคำเดียว
“ผลุบ!”
หวงเหล่ยทรุดตัวลงทันที คุกเข่าคลานเข้าไปถึงแทบเท้าหยางเฉิน วอนขอด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุด ๆ “ท่านประธาน ผมผิดไปแล้ว ผมยอมรับผิดจริง ๆ!”
“เพราะพวกเขาบีบบังคับผม ให้ผมทรยศต่อท่าน มิฉะนั้นพวกมันจะฆ่าผม”
“ท่านประธาน ผมถูกบีบบังคับอย่างทำอะไรไม่ได้จริง ๆ นะครับ!โปรดกรุณาผมสักครั้งด้วย ต่อไปผมไม่กล้าทำอีกแล้ว”
หยางเฉินมองหน้าหวงเหล่ยด้วยสายตาหนาวเยือก “ข้าก็เชื่อนะว่าแกถูกบีบบังคับ แต่ถ้าเมื่อกี้นี้แกไม่ทำผยองอวดเบ่งแบบนั้น ข้าคงมีทางรอดให้แกเลือกสักทางแน่”
“แต่ว่าตอนนี้ แกต้องตายลูกเดียว!”
เสียงพูดหยางเฉินจบ ขยับนิ้วดีด ดินสอที่อยู่ในมือ พุ่งทะลวงคอหอยหวงเหล่ยทะลุออกไป
ในขณะนั้น เงียบกริบไปทั้งบริเวณ!
ในบริเวณนั้นล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร พวกเขาในแต่ละวันก็จะพบอยู่แต่กับกลุ่มที่เกี่ยวกับงานด้านธุรกิจ อาจจะมีรู้เรื่องของผู้แข็งแกร่งบูโดบ้าง แต่ผู้ที่เคยได้สัมผัสกับของจริงมีก็แค่ไม่กี่คน
สิ่งที่ได้พบได้เห็นในวันนี้ ทำเอาพวกเขาแทบเป็นลม
“ผลึบผลับ!”
“ผลึบผลับ!”
……
กลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่แต่เดิมคล้อยตามไปกับหวงเหล่ย ตอนนี้แต่ละคนคุกเข่าลงแทบเท้าหยางเฉิน “ท่านประธาน พวกเราผิดไปแล้ว ขอท่านได้โปรดให้ทางรอดชีวิตพวกเราด้วย…….”
หยางเฉินมองแล้วพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ให้ถึงเช้าพรุ่งนี้ พวกแกจะต้องทำการส่งต่อมอบงานในมือของพวกแกทั้งหมดให้เรียบร้อย หากข้ารู้ว่าใครตุกติก หรือมีการแอบขายข้อมูลของบริษัท ข้าจะไปเก็บชีวิตมันทิ้งไปด้วยมือข้าเอง!”
ความเก่งฉกาจของหยางเฉินที่เป็นประจักษ์เมื่อครู่นี้ ได้สยบคนทั้งบริเวณหมดแล้ว มีหรือใครจะกล้าออกเสียงค้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่คุกเข่าวอนขอชีวิตพวกนั้น ต่างแสดงความยินยอมโดยดุษดี รับปากจะส่งมอบงานในมือให้เป็นที่เรียบร้อย
พวกกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ยืนหยัดติดตามมากับลั่วปิง ต่างรู้สึกเป็นปลื้ม พวกเขาย่อมรู้ดี โอกาสของพวกเขามาถึงแล้ว
เมื่อไล่พวกกลุ่มบริหารระดับสูงสายของหวงเหล่ยออกไปจากบริเวณแล้ว หยางเฉินกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้ว พูดกับผู้บริหารระดับสูงที่เหลือว่า “หลังจากนี้ต่อไป งานของพวกคุณคงต้องหนักขึ้นอีกเป็นเท่าตัว และขณะเดียวกัน ค่าจ้างพวกคุณก็จะให้เพิ่มเป็นเท่าตัวด้วย”
พูดจบ หยางเฉินมองไปที่ลั่วปิงแล้วสั่งไปว่า “เอาละ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคุณ จัดการให้พวกผู้บริหารระดับสูงที่ให้ออกไป แบ่งงานมอบให้กับผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ที่นี่รับช่วง”
“ได้ครับ ท่านประธาน!”
ลั่วปิงตอบรับอย่างนอบน้อม ตื้นตันอยูในใจอย่างล้นหลาม
ครั้งนี้ ถึงแม้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะพบกับความวุ่นวายเล็กน้อย แต่กลับเป็นการเสียที่คุ้มค่า อย่างน้อยก็ได้ขจัดกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่คิดทรยศกับบริษัทออกไปหมด
รอจนกว่าหยางเฉินจากไป แต่ละคนจึงหายใจกันได้ทั่วท้อง
แต่ละคนต่างก็ตื่นเต้นกันออกนอกหน้า หลังจากนี้ไป พวกเขานอกจากต้องมีภาระกับงานมากขึ้น ค่าแรงก็ได้เพิ่มอีกเป็นเท่าตัว และยังมีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งอีก
“เอาละ ตอนนี้ พวกเราเริ่มประชุมได้!”ลั่วปิงเปิดประชุมเป็นทางการ
เยี่ยนตู ภายในบริเวณคฤหาสน์แห่งหนึ่ง
“ท่านผู้นำ ผมได้ข่าวที่ไม่สู้ดีมา เห็นว่า พบเบาะแสของหยางเฉินแล้ว เขาอยู่ที่หนิงโจว”
ภายในศาลาพักร้อนบริเวณมุมลานโถง หนึ่งเงาร่างชายวัยกลางคน เข้ามาอย่างร้อนรน รายงานด้วยความเคร่งเครียด
ภายในศาลา ยังมีร่างคนผมขาวนั่งอยู่ด้วย พอได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน ๆ นั้น สีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน “แกว่าอะไรนะ?หยางเฉินยังไม่ตาย? อยู่ที่หนิงโจวหรือ?”
ชายวัยกลางคนเป็นคนสอดแนมของตระกูลเจี่ยง ได้สืบจนรู้เรื่องของหยางเฉินแล้ว
เขาก็รีบผงกหัว “ข่าวว่า ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ได้ส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพไปถึงสิบสองคน ตายหมดที่หนิงโจว ราชวงศ์หลงกับราชวงศ์เย่ ต่างก็อยู่กันไม่เป็นสุข กลัวว่าหยางเฉินจะบุกไปที่เมืองราชวงศ์ด้วยตัวเอง”
สีหน้าผู้นำตระกูลเจี่ยงซีดเผือดลงชัดเจน ที่เขากล้านำผู้แข็งแกร่งในตระกูลเข้ามาที่เยี่ยนตู และเพื่อจะมามีส่วนร่วมขอแบ่งเค้กด้วย พอได้ข่าวว่าหยางเฉินตายแล้ว เขาก็จึงได้จ้องไปที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป
แต่คิดไม่ถึงว่า เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยังไม่ทันได้อยู่มือ เรื่องหยางเฉินยังมีชีวิตอยู่ก็เปิดขึ้นมา
ที่ทำให้หวาดหวั่นยิ่งไปกว่านั้นคือ ขนาดผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ส่งไปถึงสิบสองคน ยังตายหมด
“รีบสั่งการไปที่ทุกคน รีบถอนกำลังออกจากเยี่ยนตู กลับราชวงศ์หลงทันที!”
ผู้นำตระกูลเจี่ยงไม่มีใจลังเลใด ๆ สั่งการออกไปอย่างทันที
“ขอรับ!”
ชายวัยกลางคนนั้นรีบออกในไปทันที
“ข้าเจี่ยงอานจวิน นับว่าเป็นคนระดับชั้นยอดมาตลอดในชีวิตที่ผ่านมา เพียงแค่มาหลงเลอะไปในครั้งเดียวนี้ มันอาจจะถึงกับนำเอาวิกฤติสู่ตระกูลเจี่ยงถึงชีวิตของทั้งตระกูลได้เลย”
เจี่ยงอานจวินพูดขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด
เขารู้ดีอย่างถ่องแท้ หากวันไหนหยางเฉินกลับมาถึงเยี่ยนตู แค่โอกาสจะกลับของคนตระกูลเจี่ยงอาจจะไม่มีเลย
“โครม!”
ในขณะนั้นเอง เกิดเสียงดังสนั่น ที่ให้เห็นคือร่างของหนุ่มวัยกลางคนที่เขาสั่งออกไปปฏิบัติงานคนตะกี้นี้ เหมือนว่าวขาดสาย พุ่งตรงกลับเข้ามาในศาลาที่เจี่ยงอานจวินยังอยู่นั้น
คนหนุ่มวัยกลางคน ๆ นั้นตกลงกับพื้นในทันทีนั้น สัญญาณชีพก็ดับไป
“ใคร!”
เจี่ยงอานจวินสีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน ความโกรธบันดาลขึ้นมา
เขาแหงนหน้ามองออกไป ก็เห็นใบหน้าหนุ่มน้อยที่คุ้นเคยเอาอยู่มาก กำลังก้าวเดินเข้ามา
“ห ย า ง….หยางเฉิน!”
เจี่ยงอานจวินตัวสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อครู่ก่อนหน้านี้กลัวอยู่ว่าหยางเฉินจะกลับมาถึงเยี่ยนตู หยางเฉินเลยปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว และยังอยู่ตรงหน้านี้ด้วย
เหล่าผู้แข็งแกร่งในตระกูลเจี่ยง ได้ล้อมหยางเฉินไว้อยู่กลางวง แต่ละคนมองหยางเฉิน สีหน้ามีแต่ความหวาดกลัว
หยางเฉินมองเจี่ยงอานจวินด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกถามไปว่า “แกนี่นะ คิดจะใช้เงินหนึ่งพันล้าน ซื้อเยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่มีมูลค่านับหมื่นล้านของข้า?”
“ผลุบ!”
เจี่ยงอานจวินถึงกับเข่าอ่อน ทรุดคุกเข่าลงกับพื้น
“คุณหยาง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ท่านเข้าใจผิดแล้วนะครับ!”
เจี่ยงอานจวินพูดเสียงสั่น “ผมไหนเลยจะกล้าคิดหวังได้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปของท่าน?”
“จริงหรือ?”
แวตาหยางเฉินทอส่องประกายฆ่า
ไอ้เฒ่าตัวนี้ กล้าขนาดแหกตาพูดเรื่องโกหกด้าน ๆ มันเห็นเราเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไง?
“ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ ตระกูลเจี่ยงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีเหลืออยู่แล้ว”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
เสียงพูดจบ เขาดีดนิ้วออกไป
“ผลึบ!”
ท่ามกลางความตื่นกลัวของคนทั้งหมด ตรงระหว่างคิ้วของเจี่ยงอานจวินปรากฎออกมาเป็นรูเลือด ร่างกายล้มลงพื้น ตายไปอย่างตาไม่ทันหลับ
“บรึม!”
คนที่อยู่ทั้งหมดถึงกับตะลึงกลัว!
ในเมืองราชวงศ์หลง ตระกูลเจี่ยงเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในราชวงศ์หลง และเจี่ยงอานจวินก็เป็นถึงผู้นำตระกูล พลังฝีมือก็ไปถึงแดนเทพขั้นปลายแล้ว
ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังบูโดที่แข็งแกร่งระดับนี้ กลับถูกหยางเฉินสังหารไปในพริบตา
พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ หยางเฉินฆ่าเจี่ยงอานจวินยังไง เห็นแต่หยางเฉินแค่ดีดนิ้ว หน้าผากของเจี่ยงอานจวินก็เกิดเป็นรูเลือด
ซัดทีเดียว ปลิดชีวิตผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายได้ ในโลกนี้ ยังมีผู้แข็งแกร่งขั้นนี้ด้วยจริงหรือ?
“ฆ่ามัน!”
แววตาหยางเฉินทอประกายฆ่าที่เฉียบคม สั่งคำออกไป