The king of War - บทที่ 1325 จลาจลในราชวงศ์หลง
หลงเสียงกับหลงเทียนหยู่สองพ่อลูกตื่นตกใจจนงง พวกเขาเดิมยังห่วงในเรื่องที่หลงจิ้นไปเยี่ยนตู จะลงมือสังหารคนรอบข้างหยางเฉิน คิดไม่ถึงว่าหลงจิ้นกลับยืนเลือกอยู่ตรงข้ามกับกษัตริย์หลง อีกยังจะให้หลงเสียงรับสืบทอดบัลลังก์
ความโกรธในแววตากษัตริย์หลงยิ่งทวีความรุนแรง สายตาที่มองไปที่หลงจิ้น เหมือนมองศพ
“ในเมื่อแกจะรนหาที่ตาย งั้นข้าก็จะให้เจ้าได้สมปรารถนา!”
กษัตริย์หลงพูดเน้นทีละคำ
ตามหลังจากที่เขาพูดจบ ผู้แข็งแกร่งสี่นายที่ล้อมหลงจิ้นอยู่ ครุกรุ่นการทำศึกขึ้นมารอบตัว
ศึกใหญ่ รอการจุดชนวน!
“เสด็จพ่อ ขอได้โปรดกรุณา!”
หลงเสียงร้องตะโกนทัก คุกเข่าลงแทบเท้ากษัตริย์หลง พูดด้วยสีหน้าร้อนรน “คุณท่านจิ้นไม่ได้คิดจะล่วงเกินท่าน แต่ห่วงเรื่องหยางจิ้นจะมาทำลายล้างราชวงศ์หลง”
“คุณท่านจิ้นเป็นกำลังหลักของราชวงศ์ เคยมีวีรกรรมในการสร้างราชวงศ์ ขอเสด็จพ่อได้โปรดระงับความกริ้วโกรธ ละเว้นโทษให้คุณท่านจิ้นด้วย!”
หลงเทียนหยู่ก็รีบคุกเข่าลงแทบเท้ากษัตริย์จิ้น ร้องวอนขอไม่หยุด “เสด็จปู่ โปรดระงับกวามโกรธด้วย!”
“เสด็จพ่อ ท่านอย่าได้ไปเชื่อคำพูดไอ้พวกนี้ที่พยายามวอนขอให้ท่านปล่อยหลงจิ้นเชียว ข้อเท็จจริงเห็นชัดอยู่แล้วว่า หลงจิ้นแอบสวามิภักดิ์หลงเสียงแล้ว วันนี้จึงได้มาบังคับให้ท่านสละราชบัลลังก์”
ขณะนั้นเอง ข้างหลังกษัตริย์หลง เงาร่างชายหนุ่มวัยกลางคนเดินขึ้นหน้ามา ชิงพูดขึ้นมา “หม่อมฉันอยากบอกนะ อย่าว่าแต่หลงจิ้น เป็นไปได้ว่าแม้หลงเสียงและหลงเทียนหยู่ ต่างก็ไปสวามิภักดิ์กับหยางเฉินแล้ว”
หลงเสียงระเบิดโทสะขึ้นมาในฉับพลัน ตวาดใส่ไปว่า “หลงหนิง เจ้าอย่าพูดพล่อยไร้สาระไป!”
หลงหนิงเป็นโอรสองค์ที่สี่ของกษัตริย์หลง หลังจากหลงเคอตายแล้ว ผู้ที่มีคุณสมบัติสืบทอดบัลลังก์ราชวงศ์ตระกูลหลงก็คือหลงเสียง ให้ต่อไป ก็คือหลงหนิง
เวลานี้ เพียงถ้าได้ขจัดหลงเสียงทิ้ง หลงหนิงก็จะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์สืบไป
หลงหนิงหัวเราะหนาวเยือก “พี่รอง ข้าไม่ได้พูดอะไรพล่อย ๆ ไร้สาระนะ ก็ดูนะ เสด็จพ่อต้องการจัดการเก็บคนรอบข้างของหยางเฉิน พี่กับหลงเทียนหยู่ทำไมยืนกรานขัดขวาง?”
“มาตอนนี้ แม้กระทั่งหลงจิ้น ก็ยังประกาศขอให้เสด็จพ่อสละราชบัลลังก์ หวังยกบัลลังก์ให้เจ้า นี่ไม่ใช่เพราะพวกเจ้าไปสวามิภักดิ์กับหยางเฉินกันแล้วหรือ?”
สีหน้ากษัตริย์หลงยิ่งดูยิ่งดูไม่ได้ เขาไม่เพียงนิสัยโหดเหี้ยม ความขี้ระแวงยิ่งมีหนัก
เดิมยังไม่ได้คิดมาถึงขั้นนี้ มาตอนนี้มีหลงหนิงมาพูดตอกย้ำเข้า เขาจึงนึกขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน ในเรื่องที่พวกหลงเสียงไปสวามิภักดิ์กับหยางเฉินแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมาก
“หลงหนิง……..”
หลงเสียงกำลังคิดจะโต้กลับ ก็ถูกกษัตริย์หลงตวาดใส่ “หุบปาก!”
“ถ้าพวกแกยังขืนกล้าพูดเรื่องพล่อย ๆ อีก ข้าจะให้เจ้าทั้งสองพ่อลูกรับโทษเดียวกันกับหลงจิ้น ตายสถานเดียว!”
พูดจบคำนี้ หลงเสียงกับหลงเทียนหยู่หน้าซีดเป็นขี้เถ้า
ไม่ต้องสงสัย กษัตริย์หลงตั้งใจฆ่าหลงจิ้นอย่างแน่ชัดแล้ว
นัยน์ตาหลงจิ้นพบแต่ความสิ้นหวัง แววตาที่สงบนิ่งตั้งแต่ต้นมา ค่อย ๆ เพิ่มความหนาวเยือกลงไป
“หลงจิ้น เจ้าลักลอบสมคบคิดกับอริราชศัตรูราชวงศ์หลง โทษต้องตาย!”
กษัตริย์หลงตวาดเสียงออกไป ยกมือที่หนาใหญ่ขึ้น ออกคำสั่ง “ฆ่า!”
ติดตามกับเสียงคำสั่งลงมา สี่ผู้แข็งแกร่งที่ล้อมหลงจิ้นอยู่ ใช้พลังเต็มที่ในทันทีนั้น พุ่งลงมือใส่หลงจิ้น
แววตาหลงจิ้นทอประกายจ้าหนาวเยือก “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะต้องลงมือ ก็เพื่อขจัดภัยอันตรายให้กับราชวงศ์ตระกูลหลงละ! ”
สิ้นเสียงพูด กระแสพลังบูโดกึ่งแดนเหนือมนุษย์ แผ่กระจายออกจากตัวเขา
สี่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่จู่โจมใส่เขา ความหวาดหวั่นแสดงออกเต็มหน้า พวกเขารู้สึกได้ถึงตัวเองถูกครอบงำด้วยกระแสถูกฆ่าตายอย่างน่ากลัว คิดอยากจะถอยออกจากการต่อสู้ แต่ก็สายไปแล้ว
“ปึง ปึง ปึง ปึง!”
ท่านกลางการตะลึงพรั่นกลัวของบรรดาคนในราชวงศ์หลง สี่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพ เหมือนว่าวสายป่านขาด ลอยปลิวออกไปรอบข้าง ในขณะที่ยังไม่ทันได้แตะถูกตัวหลงจิ้นเลย
หันกลับมองไปที่หลงจิ้น คงยังยืนอยู่ที่เดิม นัยน์ตาหนาวเฉียบ จ้องแน่วอยู่ที่กษัตริย์หลง
ส่วนในแววตากษัตริย์หลงให้เห็นได้ถึงความสะท้านกลัว สีหน้าบ่งความไม่อยากเชื่อ “พลังฝีมือบูโดของเจ้า มาถึงขั้นนี้แล้วเชียว!”
ในราชวงศ์ตระกูลหลง พลังฝีมือที่เก่งฉกาจที่สุดคือกษัตริย์หลง กึ่งแดนเหนือมนุษย์
แต่มาตอนนี้ พลังฝีมือของหลงจิ้น ก็ยังมาได้ถึงขั้นเดียวกันนี้ คิดรู้ได้เลยว่า กษัตริย์หลงจะสะท้านกลัวขนาดไหน
ไม่แต่เพียงกษัตริย์หลง คนอื่นทั่วไปนั้น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสะท้านกลัว หลายท่านผู้อาวุโส ยังให้รู้สึกถึงความอัศจรรย์ใจ
หนึ่งองค์กษัตริย์หลง ถ้าหากเพิ่มหนึ่งท่านหลงจิ้น ราชวงศ์ตระกูลหลงก็มีแล้วถึงสองผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ สถานะภาพขนาดนี้ เทียบกับอีกสามตระกูลราชวงศ์ใหญ่ เรียกได้ว่าขาดลอย
“ฝ่าบาท ท่านควรจะเข้าใจแจ่มชัดนะ หากเราท่านต่อสู้กัน มีแต่บาดเจ็บแพ้กันไปทั้งคู่”
“หลงเสียงก็ลูกของท่าน และในบรรดาองค์ชายหลายคนนั้น ก็เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุดในการรับเป็นรัชทายาท”
“ท่านเองก็ได้ครองอยู่ในบัลลังก์มาเกือบทั้งชีวิตแล้ว สมควรถึงเวลาที่ท่านจะลงจากบัลลังก์ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้มีแต่หลงเสียงเข้ามารับสืบทอดบัลลังก์ จึงมีโอกาสพาให้ราชวงศ์หลงรอดพ้นภัยวิกฤตนี้ได้”
หลงจิ้นพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “ฉะนั้น ท่านได้โปรดลงจากบัลลังก์เถอะ!”
แววตาสะท้านกลัวของกษัตริย์หลงค่อย ๆ ผ่อนคลายลง ลึก ๆ จากนัยน์ตา ใจคิดฆ่าที่บ้าคลั่ง ส่องประกายวูบแล้วก็หายไป
ที่เขาสามารถครองอยู่ในอำนาจนานได้ขนาดนี้ นอกจากความเป็นกษัตริย์ของเขา ยังมีพลังฝีมือที่เก่งฉกาจที่สุดในราชวงศ์ตระกูลหลง จึงไม่มีใครสามารถไปสั่นคลอนฐานะของเขาได้
แต่ในขณะนี้ ปรากฏมีผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในแดนเดียวกันกับเขาอีกหนึ่งคน มิหนำซ้ำยังจะให้เขาสละบัลลังก์ ฐานะศักดิ์ของเขาในราชวงศ์ตระกูลหลง กำลังถูกความกดดันบังคับอย่างใหญ่หลวง
“ฝ่าบาท ขอท่านได้โปรดพิจารณาด้วย!”
ในขณะนั้นเอง ผู้เฒ่าอาวุโสท่านหนึ่งในราชวงศ์ตระกูลหลง ก็ออกมาคุกเข่าลงแทบเท้ากษัตริย์หลง ตาแดง ๆ พูดไปว่า “ที่หลงจิ้นทำลงไป ก็เพื่อราชวงศ์ตระกูลหลง”
“ขอฝ่าบาทให้สละราชบัลลังก์ เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติของราชวงศ์ทั้งตระกูลเถอะ!”
พอมีผู้นำร่อง ก็มีผู้อาวุโสวัยเฒ่าในราชวงศ์อีกหลายคน พากันคุกเข่าลง
“ฝ่าบาท ขอท่านได้โปรดสละราชบัลลังก์เถิด!”
“ฝ่าบาท ขอท่านได้โปรดสละราชบัลลังก์เถิด!”
……….
เพียงชั่วเวลาไม่นาน ทั่วทั้งคฤหาสน์ราชวงศ์หลง มีแต่เสียงขอให้กษัตริย์หลงสละบัลลังก์
กษัตริย์หลงคงยังไม่มีปฏิกิริยา สายตาที่มองไปที่หลงจิ้น ไม่ได้เก็บซ่อนใจมุ่งฆ่าแม้แต่น้อย กัดฟันอย่างเคียดแค้นพูดไปว่า “ราชวงศ์หลง มีแต่ข้าที่เป็นกษัตริย์!และมีแต่ข้าเท่านั้น จึงใช่คนที่มีคุณสมบัติเป็นกษัตริย์ได้!”
“หลงเสียงเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลาย จะมีคุณสมบัติอะไรมาเป็นกษัตริย์สืบต่อราชวงศ์หลง?”
“หากแม้นให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพขั้นปลายมาสืบต่อเป็นกษัตริย์ ราชวงศ์หลงของข้ามิจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกไปในกลุ่มราชวงศ์อื่น ๆ หรือ?”
กษัตริย์หลงย้อนถามกลับ “ย้อนกลับมาที่แกหลงจิ้น เอาแต่พูดว่าจะให้ข้าสละบัลลังก์ แกมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
หลงจิ้นหัวเราะเสียงเยือก “ข้าโตขึ้นมาในราชวงศ์หลง เห็นมากับตาในความเจริญก้าวหน้าของราชวงศ์หลง พ่อแม่ของข้าพลีชีพเพื่อราชวงศ์หลง พี่น้องของข้าก็พลีชีพเพื่อราชวงศ์หลง”
“ปัจจุบันในสายครอบครัวของข้า มีเหลือเพียงข้าคนเดียวที่ยังทนมีชีวิตอยู่ ในความคิดเห็นฝ่าบาท คนอย่างข้า ยังจะมีจุดประสงค์อะไรอีกหรือ?”
คำพูดของหลงจิ้น ทำให้เหล่าผู้อาวุโสในราชวงศ์หลงหลายท่านสะเทือนอารมณ์
สายเลือดในตระกูลของเขา เหลือเขาเพียงคนเดียว นอกนั้นล้วนพลีชีพเพื่อราชวงศ์หลงกันทั้งหมด สายเลือดของตระกูลที่จงรักภักดีขนาดนี้ ยังจะมีจุดประสงค์อะไรกับราชวงศ์หลงอีก?
มาคราวนี้ แม้กระทั่งคนหนุ่มรุ่นหลังที่ไม่เคยรู้เรื่องในอดีตของราชวงศ์หลง แต่ละคนต่างก็คุกเข่าลง อ้อนวอนร้องขอไปที่กษัตริย์หลง “ฝ่าบาท ขอท่านได้โปรดสละบัลลังก์เถิด!”
พวกเขามีความเทิดทูนในกษัตริย์หลง แต่ก็เข้าใจดี ราชวงศ์หลงเวลานี้ ไปกระทบกระทั่งเอาผู้ที่อยู่ในแดนเหนือมนุษย์เข้าท่านหนึ่ง หากกษัตริย์หลงยังอยู่ในบัลลังก์ น่ากลัวว่าราชวงศ์หลงทั้งหมด จะกลายเป็นเรื่องอดีตกาล
สีหน้ากษัตริย์หลงอึมครึมลงสุด ๆ ตาที่มองไปที่หลงจิ้น แววฆ่ายิ่งดูยิ่งข้นเข้ม