The king of War - บทที่ 1330 ผู้แข็งแกร่งลึกลับ
“คุณหยาง ข้าไม่กล้าขออะไรจากท่าน แต่จะขอท่านว่า หลังจากฆ่าเขาแล้วจะมีทางรอดให้กับราชวงศ์หลง”
“ตอนนี้ราชวงศ์หลงมีการสูญเสียมากเกินไปแล้ว หากต้องมีการสูญเสียมากขึ้นอีก เกรงว่าราชวงศ์หลงจะต้องกลายเป็นอดีตไป”
หยางเฉินชำเลืองมองเทียนหยู่อย่างเยือกเย็น จากนั้นก็ทอดสายตาไปที่หลงหวงและพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้ไม่ใช่ว่าข้าจะให้ทางรอดแก่ราชวงศ์หลงหรือเปล่า แต่หลงหวงจะยินดีจ่ายชดใช้สำหรับความผิดของตัวเองหรือเปล่า”
หลงหวงรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเป้าหมายของสัตว์ร้าย พลังกดดันของวิถีบู๊ทำให้เลือดในร่างกายของเขาพลุ่งพล่าน
ในเวลานี้อย่าว่าแต่จะให้ลงมือกับหยางเฉินเลย แค่ขยับนิดเดียวยังทำได้ยาก
“ท่านต้องการให้ข้าอธิบายอะไรกับท่าน?” หลงหวงกัดฟันถาม
“ท่านจะตาย หรือจะตายไปพร้อมกับราชวงศ์หลง!”
หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา
ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหน หลงหวงก็หนีความตายไม่พ้น
“ไม่ว่าจะยังไง ข้าก็หนีความตายไม่พ้น เช่นนั้นท่านก็ลงมือเลยสิ จะมัวพูดจาไร้สาระอยู่ทำไม?”
หลงหวงสีหน้าเย้ยหยัน มองไปยังหยางเฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งแบบผู้เหนือกว่า พลางกล่าวอย่างโอหัง “ด้วยความสามารถในตอนนี้ของท่าน หากคิดจะฆ่าข้า มันน่าจะง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”
“แต่ท่านก็ยังไม่ฆ่าข้าสักที ก็น่าจะกลัวเหมือนกันใช่ไหม?”
หยางเฉินหรี่ตาลง ที่เขาไม่ได้ลงมือฆ่าหลงหวงในทันที ก็เพราะมีความห่วงหน้าพะวงหลังจริงๆ
ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกถึงพลังที่น่าเกรงขามอยู่กลายๆ เมื่ออยู่ในราชวงศ์หลง แต่ก็มั่นใจได้ว่ามันไม่ได้แผ่มาจากตัวหลงหวง
คนที่ปลดปล่อยพลังอันน่าเกรงขามที่ออกมา ดูเหมือนจะอยู่ในคฤหาสน์ราชวงศ์หลง แต่กลับไม่ยอมแสดงตัว
เมื่อครู่เขาได้ลงมือสังหารหลงหวงแล้ว แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น พลังอันน่าเกรงขามยิ่งชัดเจนขึ้น
เขามีลางสังหรณ์ว่า เมื่อเขาฆ่าหลงหวง ศัตรูจะปรากฏตัวขึ้นอย่างแน่นอน
“คุณหยาง ท่านจะให้โอกาสข้าสักครั้งได้ไหม?”
ทันใดนั้น หลงจิ้นก็ก้าวออกมาข้างหน้าและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หยางเฉินสงสัย “ท่านต้องการโอกาสอะไร?”
“โอกาสสังหารหลงหวง!” หลงจิ้นพูดเน้นทีละคำ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไม่เพียงแต่หยางเฉินเท่านั้นที่ตกตะลึง แต่สมาชิกราชวงศ์หลงก็มีสีหน้าประหลาดใจด้วย
หลงหวงเคยต่อสู้กับหลงจิ้นมาก่อน วิถีบู๊ของทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน แต่กำลังต่อสู้ของหลงจิ้นนั้นสู้หลงหวงไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของหยางเฉิน หลงจิ้นคงถูกฆ่าตายไปแล้ว
ในเมื่อหลงจิ้นสู้ไม่ได้ แล้วทำไมเวลานี้ถึงบอกว่าต้องการลงมือสังหารหลงหวง?
“หลงจิ้น เจ้าอยากจะเป็นสุนัขของหยางเฉินขนาดนี้เลยหรือ?”
หลงหวงทำหน้าเย้ยหยัน “เจ้ารู้ว่า ตราบใดที่หยางเฉินอยู่ ต่อให้เจ้าแพ้ เขาก็จะช่วยชีวิตเจ้า”
“เจ้าเห็นว่าดูเหมือนเขาจะลังเลที่จะฆ่าข้า ก็เลยวางแผนที่จะลงมือเอง พอถึงตอนนั้นต่อให้แพ้ ก็จะยังมีชีวิตรอด”
หลงหวงไม่สนใจเลยว่าหลงหวงจะเสียดสีเขาด้วยซ้ำ
เขาไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลงหวง เมื่อครู่ยังไม่มีแม้แต่แรงสู้ต่อ
แต่เมื่อครู่หลงเทียนหยู่ได้มอบยารักษาอาการบาดเจ็บที่นำกลับมาจากคลินิกอ้ายหมินเมืองเยี่ยนตูของเฝิงเสียวหว่านแก่เขาเม็ดหนึ่ง หลังจากที่เขากินเข้าไป อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของเขาก็หายเป็นปกติ
ยิ่งกว่านั้น เขามีความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าผลลัพธ์ของยาเม็ดยังไม่ถูกดูดซึมอย่างสมบูรณ์
ตอนนี้การกินยารักษาอาการบาดเจ็บของเขา เปรียบเสมือนภาชนะเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นผลดีสำหรับการพัฒนาของความสามารถของเขา
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เวลาที่เขาต่อสู้กับหลงหวง เขาจะได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว
“ท่านจิ้น!”
หลงเทียนหยู่มีสีหน้ากังวล รีบพูดห้ามเขา “ท่านจิ้น ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา มอบเขาให้คุณหยางจัดการดีกว่า!”
หลงจิ้นส่ายหัว มองไปทางหยางเฉินด้วยสายตาอ้อนวอนเหมือนเก่า “คุณหยาง ข้าหวังว่าท่านจะให้โอกาสข้า!”
“ตกลง!”
หยางเฉินพยักหน้า เข้าใจดีว่าทำไมหลงจิ้นถึงต้องการใช้การต่อสู้เพื่อทำให้วิถีบู๊ของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถทะลวงผ่านเขตแดนได้
“แต่ข้าต้องบอกท่านเอาไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อท่านต่อสู้กับหลงหวง ต่อให้ถูกเขาฆ่า ข้าก็ช่วยท่านไม่ได้” หยางเฉินพูดต่อ
หลงจิ้นพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว!”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะให้โอกาสท่านจัดการกับเขาด้วยตัวเอง!” หยางเฉินกล่าว
ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน หลงจิ้นก้าวเข้าไปหาหลงหวงทีละก้าว
ทั้งสองต่อสู้กันเอง บนร่างกายของทุกคนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
“หลงจิ้น ลำพังตัวเจ้า คิดจะสังหารข้าเหรอ?”
หลงหวงกัดฟันแน่น มองไปยังหลงจิ้นด้วยสายตารังเกียจ
“ข้าจะต้องฆ่าท่านให้ได้!”
หลงจิ้นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
พอสิ้นเสียง ลมปราณแห่งวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็ค่อยๆ แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของลมปราณจากตัวเขา สายตาเหยียดหยามของ หลงหวงก็เหือดหายไปและจริงจังมากขึ้น
หลงหวงสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากตัวหลงจิ้น ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ วิถีบู๊ของเขาดูเหมือนจะเข้าใกล้ระดับแดนเหนือมนุษย์มากขึ้น
“ฆ่ามัน!”
ทันใดนั้นหลงหวงก็แผดเสียงลั่น และพุ่งตรงเข้าไปหาหลงจิ้น
การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ได้เปิดฉากขึ้นทันที
ขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น หยางเฉินก็หน้านิ่วคิ้วขมวด “หรือว่าความเข้าใจของข้าจะผิดไป?”
อานุภาพวิถีบู๊ที่คลุมเครือก่อนหน้านี้ได้หายไปพร้อมกับการต่อสู้ระหว่างหลงหวงและหลงจิ้น
ดูเหมือนจะกำลังเตือนหยางเฉินว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของราชวงศ์หลง
ขณะที่หยางเฉินกำลังสับสนอยู่ภายในใจ หลงเทียนหยู่ก็เข้ามาอยู่ข้างกายหยางเฉิน พลางเอ่ยด้วยสีหน้าอ้อนวอน “คุณหยาง ถ้าท่านจิ้นตกอยู่ในอันตราย ได้โปรดช่วยเขาด้วย”
หยางเฉินเอ่ยเบาๆ “ข้าบอกแล้ว ต่อให้เขาตายก็จะไม่ช่วยเขา มันคือทางเลือกที่เขาเลือกเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลงเทียนหยู่ก็มีสีหน้าผิดหวัง แต่ก็รู้ดีว่า ไม่มีมิตรภาพใดๆ ระหว่างตนเองกับหยางเฉิน
ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของหยางเฉิน เมื่อครู่เขากับหลงจิ้นคงตายไปแล้ว
“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณหยาง!”
หลงเทียนหยู่ขอบคุณอย่างจริงใจ แต่กลับไม่พูดอะไรเลย มองไปที่หลงหวงและหลงจิ้นที่กำลังอยู่ในการต่อสู้อันดุเดือดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เป็นไปตามคาด หลงจิ้นเกิดแรงบันดาลใจและเข้าใจในวิถีบู๊มากขึ้น กำลังต่อสู้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขาถูกกดขี่จากหลงหวงมาโดยตลอด ครั้งนี้ทั้งสองคนมีกำลังพอๆ กัน เหมือนกำลังต่อสู้กับตัวเอง ไม่มีใครได้เปรียบ ไม่มีใครฆ่าใครได้
“ท่านจิ้น ท่านต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป!”
หลงเทียนหยู่อธิษฐานอยู่ภายในใจเงียบๆ
“ในราชวงศ์หลง นอกจากหลงหวงแล้ว ยังมีใครที่แข็งแกร่งกว่านี้หรือไม่?”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็เอ่ยปากถามขึ้น
หลงเทียนหยู่มีสีหน้าประหลาดใจ มองไปที่หยางเฉินพร้อมกับส่ายหน้า “ข้ารู้แค่ว่า เมื่อสามสิบปีที่แล้ว จวนผู้ว่าการเมืองหวยเฉิงรับตัวหลงเยว่ซึ่งเป็นบูโดอัจฉริยะคนแรกของราชวงศ์หลงไป ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย”
“และที่ท่านเพิ่งพูดเมื่อกี้ เรื่องที่หลงเยว่ถูกท่านฆ่า ข้าเองก็เพิ่งรู้ข่าวนี้”
“คุณหยาง ทำไมจู่ๆ ท่านถึงถามแบบนี้ล่ะ”
หยางเฉินไม่ตอบ แต่ถามต่ออีก “นอกจากหลงเยว่ ยังมีใครในราชวงศ์หลงที่เข้าตาตระกูลบู๊โบราณและถูกพาตัวไปหรือไม่?”
หลงเทียนหยู่สั่นศีรษะ “ว่ากันว่าหลงเยว่เป็นบูโดอัจฉริยะเพียงคนเดียวของราชวงศ์หลงที่ถูกตระกูลบู๊โบราณพาตัวไปในรอบร้อยปี”
หยางเฉินพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของหยางเฉิน หลงเทียนหยู่ก็รู้สึกสับสนอยู่ภายในใจ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมจู่ๆ หยางเฉินถึงถามคำถามนี้ขึ้นมา