The king of War - บทที่ 1350 ผู้สืบทอด
“ฮาๆ!”
หลี่เป่าเฟิงหัวเราะเสียงดังแบบได้ใจ “ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ รอแน่ใจเวลาแล้ว ผมจะบอกให้ฉูฉู่รู้”
กัวฉูฉู่หน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็เข้าใจ เวลานี้ถ้าปฏิเสธออกไป มีเพียงจะนำหายนะมาสู่ตระกูลกัว
ต่อให้เธอไม่รับปาก ตระกูลกัวก็จะไม่อนุญาต
“คุณปู่กัว ผมยังมีเรื่องหนึ่งอยากขอร้องท่านครับ!”
หลี่เป่าเฟิงพูดขึ้นอีกกะทันหัน
“นายว่ามา!” กัวเชิ่งบอกไป
หลี่เป่าเฟิงหัวเราะหึๆ มองทางกัวฉูฉู่แวบหนึ่ง จากนั้นถึงพูดกับกัวเชิ่งว่า “คือว่าอย่างนี้ครับ วันนี้ตอนที่ฉูฉู่กลับมาตระกูลกัว ยังพาชายหนุ่มคนหนึ่งกลับมาด้วย ผมฟังคนบอกว่า ชายหนุ่มคนนั้น ถูกฉูฉู่พาไปไว้ที่ห้องของเธอแล้ว”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉูฉู่เป็นคู่หมั้นของผม ถ้าเกิดเรื่องที่หล่อนพาชายหนุ่มคนอื่นกลับห้องตัวเองแพร่ออกไป คงจะสร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของพวกเราสองตระกูล”
“ดังนั้น ผมอยากขอให้คุณปู่กัวรับปากว่า จะเอาตัวชายหนุ่มคนนั้นมาให้ผมจัดการครับ”
พอกัวฉูฉู่กลับมาตระกูลกัว ก็มาหากัวเชิ่งแล้วรายงานข่าวเลย สำหรับเรื่องที่กัวฉูฉู่พาหยางเฉินกลับมา กัวเชิ่งยังไม่รู้ชัดจริงๆ
เวลานี้ได้ยินคำพูดของหลี่เป่าเฟิง ชั่วขณะนั้นสีหน้าเขาเปลี่ยนไปมาก มองทางกัวฉูฉู่พลางสอบถามว่า “ฉูฉู่ มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”
ชั่วขณะหนึ่งกัวฉูฉู่สับสนพอสมควร รีบพูดอธิบายทันที “คุณปู่คะ หนูกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันนะคะ แม้แต่ชื่อของเขาหนูยังไม่รู้เลยค่ะ”
“เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีความผิดอะไร หนูไม่อยากทำเขาเดือดร้อน เพราะตัวเอง ถึงพาเขามาหลบซ่อนที่ตระกูลกัวชั่วคราวค่ะ”
หลังจากยืนยันแล้ว กัวเชิ่งก็พลิกฝ่ามือตบ ตบบนหน้าของกัวฉูฉู่อย่างแรง พูดด้วยความโมโห “สารเลว แกเป็นคู่หมั้นของเป่าเฟิงแล้ว นึกไม่ถึงกล้าพาผู้ชายคนอื่นกลับมา ต่อให้แกกับเขาไม่รู้จักกัน ก็ไม่ได้!”
“เป่าเฟิง นายวางใจได้ คุณปู่กัวจะให้คำอธิบายกับนายเอง!”
“คุณปู่!”
มุมปากกัวฉูฉู่มีเลือดสดไหลออกมา ตอนที่มองทางกัวเชิ่ง ในสายตาเป็นความผิดหวัง
มุมปากหลี่เป่าเฟิงวาดรอยยิ้มที่จอมปลอมขึ้น ยิ้มอยู่พูดว่า “งั้นขอบคุณคุณปู่กัวมากๆ เลยนะครับ!”
“ใครก็ได้เข้ามาที ไปหักแขนขาผู้ชายคนนั้นพาตัวเข้ามาให้ฉัน!”
กัวเชิ่งสั่งการทีหนึ่ง บอดี้การ์ดของตระกูลกัวหลายคน มุ่งไปยังคฤหาสน์ของกัวฉูฉู่
“คุณปู่ อย่าค่ะ!”
ชั่วขณะนั้นกัวฉูฉู่ร้อนใจ รีบพูดอ้อนวอนว่า “คุณปู่คะ หนูกับผู้ชายคนนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์กันสักนิด เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งจริงๆ ท่านอย่าทำร้ายเขานะคะ!”
สำหรับการอ้อนวอนของกัวฉูฉู่ กัวเชิ่งไม่ใส่ใจ ถึงแม้เขาจะไม่อยากให้หลานสาวสุดที่รักลำบากใจ แต่โดยเฉพาะกัวฉูฉู่เป็นผู้หญิง อยู่ที่ตระกูลกัว เป็นผู้หญิงดีเลิศแค่ไหน ก็ได้เพียงกลายเป็นเครื่องสังเวยของการแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์
ผู้แข็งแกร่งหลายคนออกไปจากห้องแล้ว เห็นได้ชัดว่าอยากไปทำธุระตามคำสั่งของกัวเชิ่ง
เห็นกัวฉูฉู่ที่อ้อนวอนแบบหน้าสับสนเต็มที่ บนหน้าหลี่เป่าเฟิงเต็มไปด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง นี่ก็คือเส้นสนกลในของตระกูลหลี่
ถึงแม้ตระกูลกัวกับตระกูลหลี่จะเป็นตระกูลระดับเดียวกัน แต่ว่าความสามารถกลับเสมอกัน ขอเพียงตระกูลหลี่ยินยอม ย่อมสามารถทำให้ตระกูลกัวพังพินาศเร็วมาก
แน่นอนว่า ผู้แข็งแกร่งชั้นสูงของตระกูลกัว ถึงแม้โดยพื้นฐานล้วนเป็นคนที่จ่ายเงินจำนวนมากจ้างมา แต่โดยเฉพาะตระกูลกัวก็เป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำของเมืองราชวงศ์ซ่านกวน
ถ้าสองตระกูลใหญ่อยากต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะจริง ต่อให้สุดท้ายฝ่ายที่จะต้องพังย่อยยับคือตระกูลกัว แต่ว่าตระกูลหลี่ก็คงได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน นี่คือเหตุผลว่าทำไม หลายปีมานี้ ตระกูลหลี่ถึงไม่แตะต้องตระกูลกัวมาโดยตลอด
“หลี่เป่าเฟิง นายมันเลว!”
กัวฉูฉู่กระหืดกระหอบ อ้อนวอนกัวเชิ่งไม่ได้ผล ชั่วขณะนั้นจ้องมองหลี่เป่าเฟิงอย่างโมโหพูดว่า “จากการกระทำของนายในวันนี้ ต่อให้ฉันแต่งงานกับนายแล้ว นายก็จะแค่ได้รับร่างกายที่ไม่มีจิตวิญญาณไปเท่านั้น!”
ในแววตาลึกของหลี่เป่าเฟิงมีแสงเย็นเฉียบแวบผ่าน ถ้าไม่ใช่ความสามารถของเขาสู้กัวฉูฉู่ไม่ได้ ด้วยคำพูดเมื่อสักครู่ของกัวฉูฉู่นั้น ก็เพียงพอให้เขาลงมือแล้ว
ถึงแม้เขาจะลงมืออยู่ต่อหน้ากัวเชิ่ง กัวเชิ่งก็จะไม่กล้าทำอะไรเขา
แต่ทำอย่างไรได้ เขาสู้กัวฉูฉู่ไม่ได้
“คุณปู่กัว คุณก็เห็นแล้วนะ ตอนนี้ฉูฉู่ดูเป็นศัตรูต่อผมมาก รอหลังจากหล่อนแต่งเข้าตระกูลหลี่ของพวกผม ถ้าทำให้หล่อนได้รับบาดเจ็บอะไรแล้ว ผมคิดว่าคุณปู่กัวจะต้องเข้าใจได้แน่ ถูกหรือเปล่าครับ?”
หลี่เป่าเฟิงมองทางกัวเชิ่ง หรี่ตาพูดขึ้น
ในคำพูดของเขา เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการข่มขู่
ชั่วพริบตาเดียวกัวเชิ่งสีหน้าอึมครึมลงไป ตอนที่มองทางหลี่เป่าเฟิง ในสายตามีความโกรธเคืองแวบผ่าน “นี่คือนายกำลังข่มขู่ฉัน?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกโกรธของกัวเชิ่ง ในใจของหลี่เป่าเฟิงแอบตกใจ ถึงแม้ตระกูลหลี่จะไม่แพ้ต่อตระกูลกัว แต่ว่ากัวเชิ่ง ก็เป็นการมีตัวตนระดับเดียวกันกับผู้นำตระกูลหลี่
ถ้าหากยั่วโมโหกัวเชิ่งขึ้นมาจริงๆ กลัวว่าเขาคงไม่มีจุดจบที่ดี
“ไม่กล้าครับ!”
หลี่เป่าเฟิงรีบปฏิเสธทันที จากนั้นพูดว่า “ผมเพียงแค่ถือโอกาสพูดไปเท่านั้นเอง คุณปู่กัวแค่ฟังก็พอครับ”
“เหอะ!”
กัวเชิ่งพูดด้วยเสียงเย็นชา “หลี่เป่าเฟิง เก็บความคิดอันนั้นของนายเอาไว้ ต่อให้ตระกูลกัวของฉันด้อยแค่ไหน ถ้าอยากสู้จนตายกับตระกูลหลี่จริง ก็สามารถดึงตระกูลหลี่ลงจากหิ้งได้!”
“ฉูฉู่เป็นรุ่นหลานที่ฉันชอบมากที่สุด รอแต่งงานไปตระกูลหลี่แล้ว ถ้าให้ฉันรู้ว่า นายกล้ารังแกหล่อน ก็อย่าโทษฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!”
เวลานี้ ลักษณะพลังที่สยองขวัญส่วนหนึ่ง แพร่กระจายออกมาจากบนตัวของกัวเชิ่ง
“ปัง!”
เขายกมือฉับพลัน ตบฝ่ามือลงอย่างฉับไว โต๊ะน้ำชาที่ราคาแพงตัวนั้น กลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตา
ทั่วทั้งในห้อง ล้วนตลบอบอวลด้วยแรงกดดันวิถีบู๊ที่น่าสะพรึงกลัว
กัวเชิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด ส่วนหลี่เป่าเฟิงเป็นแค่แดนของแดนราชาขั้นปลาย เวลานี้ภายใต้ความโกรธแค้นของกัวเชิ่ง หลี่เป่าเฟิงสั่นไปทั้งตัวแล้ว
“คุณปู่กัว ผมสำนึกผิดแล้วครับ!”
หลี่เป่าเฟิงเก็บความจองหองลง รีบกล่าวขอโทษ ตามมาด้วยการพูดรับรองว่า “ท่านวางใจได้เต็มที่ครับ รอฉูฉู่แต่งงานเข้าไปแล้ว ผมจะดูแลหล่อนเป็นอย่างดีแน่นอน จะพยายามให้หล่อนหลงรักผมในเร็ววันครับ”
“หวังว่านายจะพูดจริงทำจริง!” กัวเชิ่งพูดจาเสียงเย็นชา
ในเวลานี้เอง โรลส์-รอยซ์รุ่นยาวขึ้นคันหนึ่ง ค่อยๆ ขับเข้ามาตระกูลกัว จอดที่หน้าประตูบ้านกัวเชิ่งอย่างราบรื่นมาก
“ผู้นำครับ คุณหนูซ่านกวนมาแล้วครับ!”
พ่อบ้านพุ่งเข้ามาในห้องแบบท่าทางสับสน พูดกับกัวเชิ่งว่า “รถที่คุณหนูซ่านกวนนั่งมายังเป็นรถคันนั้นของกษัตริย์ซ่านกวนด้วยครับ”
“อะไรนะ?”
เดิมทีได้ยินข่าวว่าคุณหนูซ่านกวนมาแล้ว กัวเชิ่งยังไม่ได้ตกใจมากมาย แต่ตอนที่เขาได้ยินว่า รถที่คุณหนูซ่านกวนโดยสารมาเป็นรถคันนั้นของกษัตริย์ซ่านกวน ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไปมาก
เขารีบลุกขึ้น เดินไปข้างนอก พลางพูดอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมพวกนายไม่บอกให้ฉันรู้แต่แรก?”
ที่ตระกูลซ่านกวน คนที่ถูกเรียกว่าคุณหนูซ่านกวน มีเพียงผู้หญิงคนเดียว นั่นก็คือซ่านกวนโหรว
หลังจากหลี่เป่าเฟิงรู้ว่าซ่านกวนโหรวมา บนหน้าก็ปรากฏแววตกใจ
จากความเข้าใจของเขา ราชวงศ์ซ่านกวนไม่ค่อยชอบตระกูลกัวเท่าไร และซ่านกวนโหรวก็เป็นคนโปรดข้างกายของกษัตริย์กวนด้วย มาตระกูลกัวกะทันหันได้อย่างไร?
ประเด็นสำคัญสุดคือ ซ่านกวนโหรวยังนั่งรถยนต์ของกษัตริย์ซ่านกวนเข้ามา นี่มีความหมายล้ำลึกให้คนคิดต่อได้พอสมควร
ที่ตระกูลซ่านกวน ชื่อของซ่านกวนโหรว เป็นที่โด่งดังมาก เพราะเธออยู่ในราชวงศ์ซ่านกวน คือการมีอยู่ของผู้มีพรสวรรค์ด้านบูโดแกร่งสุด
ไม่เพียงแค่นี้ เธอยังถูกตั้งให้เป็นผู้สืบทอดรุ่นที่สามของราชวงศ์ซ่านกวนด้วย
นี่ยังไม่พอ สิ่งที่ทำให้คนตื่นตกใจที่สุดคือ กษัตริย์ซ่านกวนเคยแสดงท่าทีเอาไว้ รอตอนที่เขาลงจากตำแหน่ง ถ้าในรุ่นสองของราชวงศ์ซ่านกวน ไม่มีใครวิถีบู๊แกร่งเกินกว่าซ่านกวนโหรวได้ ก็ให้ซ่านกวนโหรวสืบทอดตำแหน่งกษัตริย์โดยตรง
จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า สถานะของซ่านกวนโหรวในราชวงศ์ซ่านกวน มีความสูงส่งมากแค่ไหน