The king of War - บทที่ 1351 มารับแขกพิเศษ
กัวเชิ่งยังไม่ได้เดินออกมาจากห้อง ก็มองเห็นผู้หญิงวัยสาวที่แต่งตัวสง่างามคนหนึ่ง ภายใต้การติดตามของผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่ง เดินเข้ามาแล้ว
“คุณหนูซ่านกวน!”
กัวเชิ่งรีบเข้ามาทันที โค้งตัวให้ซ่านกวนโหรวเล็กน้อย
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตื่นตกใจคือ ซ่านกวนโหรวที่เพิ่งทะลวงสู่แดนเทพชั้นต้นได้ไม่นานนัก เวลานี้บนตัวมีกลิ่นอายวิถีบู๊ของแดนเทพชั้นกลางแพร่กระจายแบบเลือนราง
ในใจกัวเชิ่งหวาดหวั่นมาก พรสวรรค์ด้านบูโดยิ่งใหญ่เช่นนี้ ในจิ่วโจวอันกว้างใหญ่ กลัวว่ามีไม่กี่คนกระมัง?
“สวัสดีครับคุณหนูซ่านกวน!”
เวลานี้หลี่เป่าเฟิงก็เข้าไปต้อนรับด้วย ก้มหน้าเล็กน้อยพูดขึ้น
ซ่านกวนโหรวมองยังไม่มองหลี่เป่าเฟิงสักแวบเดียว แต่ว่าพยักหน้าให้กัวเชิ่งเล็กน้อย “เจ้าบ้านกัวไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก!”
กัวเชิ่งรีบสอบถามทันที “ไม่ทราบว่าคุณหนูซ่านกวนมาที่ตระกูลกัว มีอะไรสั่งการเหรอครับ?”
ซ่านกวนโหรวไม่ได้ตอบ ดวงตาที่งดงามคู่นั้น ตกอยู่บนตัวของกัวฉูฉู่ ที่ด้านหลังกัวเชิ่งในทันใด
เห็นซ่านกวนโหรวมองทางตนเอง กัวฉูฉู่ประหม่าอยู่บ้างนิดหน่อย ไม่เข้าใจว่ากษัตริย์ในอนาคตของราชวงศ์ซ่านกวนคนนี้ ทำไมถึงจ้องตนเองไว้
“เรื่องสั่งการคงไม่มี ที่ฉันมาวันนี้ คือต้องการรับตัวแขกพิเศษคนหนึ่ง!”
สายตาของซ่านกวนโหรวไม่ได้หยุดอยู่บนตัวของกัวฉูฉู่นานมากเท่าไร ไม่นานก็ย้ายออก มองทางกัวเชิ่งแล้วบอกไป
“แขกพิเศษ?”
กัวเชิ่งทำหน้าตกใจ
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น กัวฉูฉู่และหลี่เป่าเฟิง ก็ล้วนประหม่าในใจเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลี่เป่าเฟิง ทันใดนั้นในใจเต็มไปด้วยความกังวล
แขกพิเศษที่สามารถทำให้ซ่านกวนโหรวมารับที่ตระกูลกัวด้วยตนเองได้ แค่คิดก็รู้ว่า สถานะของอีกฝ่ายสูงส่งมากแค่ไหน
คาดไม่ถึงอีกฝ่ายจะอยู่ที่ตระกูลกัว คงไม่ใช่หมายความว่า ตระกูลกัวสามารถพึ่งพาแขกพิเศษคนนั้น กลายเป็นม้ามืดได้?
ปัจจุบันนี้ คือจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่ตระกูลหลี่กับตระกูลกัวแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ถ้าปรากฏปัญหาขึ้น แผนการที่วางมาอย่างดีของตระกูลหลี่ คงต้องสูญเปล่าแล้ว
“ความหมายของคุณหนูซ่านกวนคือ แขกพิเศษที่ท่านต้องการมารับ อยู่ที่ตระกูลกัวของพวกผม?”
กัวเชิ่งหลังจากตะลึงไปครู่หนึ่งนั้น รีบสอบถามทันที
ซ่านกวนโหรวพยักหน้า จากนั้นสายตาตกอยู่บนตัวของกัวฉูฉู่ บนใบหน้ายังมีการหยอกล้อระดับหนึ่ง หัวเราะบอกว่า “คุณหนูกัว คุณรับแขกพิเศษของฉันมาที่ตระกูลกัวแล้ว ตอนนี้สามารถส่งคนคืนให้ฉันได้หรือยัง?”
พูดคำนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นสีหน้ากัวฉูฉู่เปลี่ยนมาก
ทันใดนั้นเธอคิดได้ว่า ชายหนุ่มคนนั้นที่เธอรับจากสนามบินมาที่ตระกูลกัวเคยพูดว่า เขาจะไปราชวงศ์ซ่านกวน
และมีเพียงชายหนุ่มคนนั้น เป็นคนที่เธอรับมาที่ตระกูลกัวแล้ว
ตอนนี้ ซ่านกวนโหรวนั่งรถยนต์ของกษัตริย์ซ่านกวน มาที่ตระกูลกัวด้วยตนเอง ตามหาเธอเพื่อต้องการตัวคน อย่างนั้นแขกพิเศษที่ซ่านกวนโหรวต้องการรับไปคือใคร มันเด่นชัดมาก
ไม่เพียงแค่กัวฉูฉู่ที่ตกใจค้างแล้ว กัวเชิ่งหน้าตาอึ้งทึ่งเหมือนกัน เขาย่อมรู้ว่า ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กัวฉูฉู่รับกลับมาแล้ว ซึ่งทำให้หลี่เป่าเฟิงมาตระกูลกัวอย่างโมโห
สำหรับหลี่เป่าเฟิง หลังจากตอบสนองกลับมา ได้เพียงรู้สึกว่าความหนาวเหน็บ แผ่ซ่านทั่วตัว ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยไปหมด
ถ้าเกิดพูดว่า ชายหนุ่มที่อยู่บนเครื่องบินคนนั้น เป็นแขกพิเศษของซ่านกวนโหรว นั่นไม่ใช่หมายความว่า เหตุผลที่ชายหนุ่มคนนั้นมายังตระกูลกัว ล้วนเป็นเพราะเขาเหรอ?
“คุณหนูซ่านกวน ผมอยากทราบว่า แขกพิเศษที่ท่านพูดถึง เป็นผู้ชายอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีคนหนึ่งหรือเปล่าครับ?”
หลี่เป่าเฟิงถามด้วยท่าทางกังวล
เรื่องราวที่เกิดบนเครื่องบิน ซ่านกวนโหรวล้วนรู้ทั้งหมดแล้ว เห็นลักษณะสีหน้าดูกังวลเต็มที่ของหลี่เป่าเฟิง เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังกลัวอะไร
กัวเชิ่งและกัวฉูฉู่คือมองทางซ่านกวนโหรวแบบท่าทางประหม่า รอคอยเธอให้คำตอบ
ซ่านกวนโหรวหัวเราะนิ่งๆ หรี่ตาจ้องหลี่เป่าเฟิงบอกว่า “ดูแล้ว คุณชายเฟิงก็เคยเจอกับแขกพิเศษของฉันแล้ว?”
“ความจริง เขาไม่ถือว่าเป็นแขกพิเศษของฉันหรอก แต่เป็นแขกพิเศษของคุณปู่ฉัน ครั้งนี้เขามาที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน ก็คือได้รับคำเชิญของคุณปู่ฉัน ถึงหาเวลาว่างมาที่ราชวงศ์ซ่านกวนสักรอบ”
ซ่านกวนโหรวพูดประโยคนี้ออกมา หลี่เป่าเฟิงเพียงรู้สึกหนาวเย็นครู่หนึ่ง จากปลายเท้าลอยขึ้นมา พุ่งไปยังยอดศีรษะ
กัวเชิ่งยิ่งขาซวนเซ ถอยหลังไปหลายก้าวทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สำหรับกัวฉูฉู่ ถึงแม้จะไม่ได้มีปฏิกิริยาหนักเท่ากัวเชิ่งและหลี่เป่าเฟิง แต่ว่าบนใบหน้าที่งดงามนั้น ก็เต็มไปด้วยแววความตื่นตกใจที่เข้มข้นเช่นกัน
ที่แท้ เขาอยากไปราชวงศ์ซ่านกวนจริง โดยเฉพาะยังได้รับคำเชิญของกษัตริย์ซ่านกวนถึงมาด้วย
“แย่แล้ว!”
ทันใดนั้นกัวเชิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ชั่วพริบตาเดียวสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ หมุนตัวแล้วพุ่งออกไปด้านนอกแล้ว ขณะเดียวกันทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ “คุณหนูซ่านกวน ขอตัวสักครู่ครับ!”
เมื่อสักครู่เขาเพิ่งสั่งการลงไป อยากให้คนไปหักแขนขาของหยางเฉินทิ้ง ปัจจุบันนี้ซ่านกวนโหรวมารับคนที่ตระกูลกัวด้วยตนเอง ถ้าหยางเฉินโดนหักกระดูกที่ตระกูลกัวแล้ว เกรงว่าวันนี้ก็คือวันตายของตระกูลกัว
กัวฉูฉู่ได้สติกลับมาเช่นกัน รู้ว่ากัวเชิ่งอยากไปห้ามยอดฝีมือของตระกูลกัวที่จะลงมือกับหยางเฉิน ชั่วขณะหนึ่งเธอทำท่าทางกังวล
หลี่เป่าเฟิงที่เดิมทีในใจหวาดกลัว หลังจากนึกได้ว่าเมื่อสักครู่กัวเชิ่งส่งคนอยากไปหักแขนขาหยางเฉิน ความกลัวได้เลือนหายไปในชั่วพริบตา กลับทำหน้าดีใจที่คนอื่นเจอหายนะ
“คุณหนูซ่านกวนครับ ท่านยังไม่รู้ เมื่อสักครู่นี้ เจ้าบ้านกัวได้ส่งคนอยากไปหักแขนขาแขกพิเศษของท่านแล้วครับ กลัวว่าเจ้าบ้านกัวคงกำลังไปขัดขวาง”
หลี่เป่าเฟิงรีบเดินขึ้นมา ท่าทางแบบแย่งเอาความดีความชอบไป หัวเราะพูดขึ้น
“งั้นเหรอ?”
ซ่านกวนโหรวหัวเราะเบาๆ ตอนที่มองทางหลี่เป่าเฟิง ยังทำหน้าหยอกล้อ
อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งของตระกูลกัวเลย แม้แต่เป็นกษัตริย์ซ่านกวนปู่ของเธอ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน
สามารถพูดได้ว่า ที่เมืองราชวงศ์ซ่านกวน คนที่สามารถทำร้ายหยางเฉินได้ ยังไม่เกิดมา ซ่านกวนโหรวไม่กังวลสักนิด
หลี่เป่าเฟิงก็ไม่ได้สังเกตถึงการหยอกล้อในสายตาของซ่านกวนโหรว รีบพยักหน้าบอกว่า “เป็นแบบนี้จริงครับ ไม่แน่ว่าแขกพิเศษของท่าน คงถูกผู้แข็งแกร่งที่เจ้าบ้านกัวส่งไปหักแขนขาทิ้งแล้วครับ”
ชั่วขณะนั้นกัวฉูฉู่ร้อนใจแล้ว รีบพูดว่า “คุณหนูซ่านกวนคะ ท่านใจเย็นก่อนค่ะ!”
“เรื่องนี้มีการเข้าใจผิด เป็นหลี่เป่าเฟิงจงใจใส่ร้ายความสัมพันธ์ของฉันกับแขกพิเศษของท่าน บังคับตระกูลกัวให้ลงมือต่อแขกพิเศษของท่าน คุณปู่ฉันอยู่ภายใต้ความจำยอม ถึงส่งคนไปจัดการแขกพิเศษของท่านค่ะ”
“ท่าน……”
คำพูดของกัวฉูฉู่ยังไม่ทันจบ ก็ถูกหลี่เป่าเฟิงขัดจังหวะ “เธอหุบปากไปให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
หลี่เป่าเฟิงพูดจาแบบท่าทางโกรธเคือง “เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันด้วย? ฉันเพียงแค่แวะมาเยี่ยมปู่ของเธอหน่อย ใครจะรู้ว่าปู่เธอกินปูนร้อนท้อง กลัวฉันรู้ว่าเธอพาผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งมาที่ตระกูลกัว และผิดใจตระกูลหลี่ ถึงส่งผู้แข็งแกร่งออกไปอยากจัดการแขกพิเศษของคุณหนูซ่านกวน”
“ไม่ใช่แบบนี้นะคะ ไม่ใช่แบบนี้……”
กัวฉูฉู่ใกล้จะร้องไห้แล้ว “คุณหนูซ่านกวน ไม่ใช่แบบนี้จริงๆ นะคะ ท่านอย่าฟังหลี่เป่าเฟิงพูดเหลวไหล ทั่งที่ก็คือเขาที่ข่มขู่คุณปู่ฉัน”
“เธอ……”
หลี่เป่าเฟิงยังอยากพูดต่อ กลับถูกซ่านกวนโหรวตวาดใส่ “หุบปากไปเลย!”
หลี่เป่าเฟิงฝืนกลั้นคำพูดส่วนท้ายกลับไป ไม่กล้าพูดมากอีกสักคำ
กัวฉูฉู่ก็ไม่กล้าพูดอีกเช่นกัน มองทางซ่านกวนโหรวด้วยท่าทางประหม่า
รอยยิ้มบนหน้าของซ่านกวนโหรวหายไปตั้งนานแล้ว เวลานี้ทำหน้าเย็นชา “พวกคุณไม่ต้องผลักไสความรับผิดชอบให้กันเองหรอก รอคุณหยางมาแล้ว ย่อมพูดความจริงออกมาเอง”
ตอนที่พูดจา สายตาที่เย็นเฉียบของเธอ ยังชายตามองหลี่เป่าเฟิงแวบหนึ่ง
เธอรู้ว่า ทำไมหยางเฉินถึงถูกกัวฉูฉู่พามาที่ตระกูลกัว ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นหลี่เป่าเฟิงทำให้เกิดขึ้น