The king of War - บทที่ 1395 ในที่สุดก็มาแล้ว
สำหรับความเย่อหยิ่งของอู่จื่ออี้ ซ่านกวนโหรวดูถูกอย่างมาก เธอรู้ภูมิหลังของราชวงศ์โบราณดี แต่จากการเปรียบเทียบ เธอรู้ความแข็งแกร่งของหยางเฉินดีกว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอเชื่อว่ากำลังที่อยู่เบื้องหลังของหยางเฉินนั้น เหนือกว่าราชวงศ์โบราณ
ในกรณีนั้น เธอจะขอโทษอู่จื่ออี้ได้อย่างไร?
ซ่านกวนโหรวเยาะเย้ย:”ฉันรู้ว่าราชวงศ์อู่มีภูมิหลังที่ลึกมาก และฉันก็รู้ว่าคุณมีสถานะสูงในราชวงศ์อู่ แต่แล้วไงล่ะ? นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์ซ่านกวน และยังไม่ถึงตาคนนอกอย่างคุณมาอวดดี!”
“เสียวหว่านไม่เพียงแต่เป็นน้องสาวของคุณหยาง แต่ยังเป็นน้องสาวของฉันซ่านกวนโหรวอีกด้วย ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็อย่าคิดที่จะพาเธอไปจากเมืองราชวงศ์ของฉัน!”
ขณะที่เสียงจบลง ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งหลายของราชวงศ์ซ่านกวน เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ๆ ได้ทุกเมื่อ
สีหน้าของอู่จื่ออี้ก็บึ้งมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เขาเป็นถึงหลานชายของกษัตริย์ราชวงศ์อู่ กลับถูกผู้หญิงดูหมิ่นได้ขนาดนี้
ถูกต้อง ในความเห็นของเขา ใครก็ตามที่กล้าปฏิบัติต่อเขาด้วยทัศนคติที่แข็งกร้าว ถือเป็นความอัปยศต่อเขา
สีหน้าของผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์สองคนที่อยู่ข้างกายเขา ก็ดูแย่มาก ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์อู่ ปกติพวกเขาจะเป็นคนด่าคนอื่น แต่ตอนนี้ เจ้านายของพวกเขา กลับถูกคนอื่นด่าในที่สาธารณะ
“พี่ซ่านกวน ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจะไปกับราชวงศ์อู่กับพวกเขา”
เฝิงเสียวหว่านเครียดทันที และรีบพูดขึ้น
เธอที่จิตใจดี ไม่อยากให้ซ่านกวนโหรวเดือดร้อนเพราะตน
จากการสนทนาระหว่างทั้งสองคน เธอรู้แล้วว่าความแข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวนนั้น สู้ราชวงศ์อู่ไม่ได้
แน่นอนว่า เธอไม่ให้หยางเฉินเดือดร้อนเช่นกัน
โชคดีที่หยางเฉินยังไม่มา ถ้าหยางเฉินมา เกรงว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“เสียวหว่านไม่ต้องกังวล พี่หยางของเธอจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปแน่นอน อย่าว่าแต่แค่เด็กรุ่นหลังของราชวงศ์อู่เลย ถึงผู้อาวุโสของราชวงศ์อู่มา พี่หยางของเธอก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของเธอได้”
ซ่านกวนโหรวมองไปที่เฝิงเสียวหว่าน และพูดขึ้น
แม้ว่าอู่จื่ออี้จะโมโห แต่สติทำให้เขาสามารถระงับความโกรธมาตลอดได้ เขาไม่คิดว่าซ่านกวนโหรวเป็นผู้หญิงที่โง่เขลาที่ไร้สมอง ทั้งๆ ที่รู้ถึงตัวตนของตน แต่ยังกล้าพูดแบบนี้อีก
นั่นสามารถแสดงให้เห็นว่าซ่านกวนโหรวกล้าหาญจริงๆ
พี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน คงอายุไม่มากสินะ?
สามารถได้รับการปฏิบัติในฐานะแขกของราชวงศ์ซ่านกวน ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าภูมิหลังของเขาไม่ธรรมดา
ราชวงศ์ซ่านกวนถึงขั้นไม่ไว้หน้าเขา เพราะเห็นแก่ชายหนุ่มคนนั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นแค่ว่า พี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน กองกำลังที่อยู่เบื้องหลังนั้นแข็งแกร่งกว่าราชวงศ์อู่
มองไปทั้งจิ่วโจว ดูเหมือนว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งกว่าราชวงศ์อู่ จะมีแค่ตระกูลบู๊โบราณที่ซ่อนเร้นจากโลกเท่านั้น
หรือว่าพี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน จะเป็นคนของตระกูลบู๊โบราณ?
เมื่อคิดเล่นนี้ สายตาของอู่จื่ออี้ก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
ตอนที่ซ่านกวนโหรวเห็นความโกรธของอู่จื่ออี้จู่ๆ ก็ลดลง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในใจ และมองอู่จื่ออี้ดีขึ้นมามาก
ดูเหมือนว่าบุคคลนี้ จะไม่ธรรมดาในราชวงศ์อู่
“เสียวหวาน มานี่!”
ซ่านกวนโหรวพูดกับเฝิงเสียวหว่าน
แม้ว่าเฝิงเสียวหว่านไม่อยากให้ซ่านกวนโกรวเดือดร้อน แต่เธอก็รู้ว่า ตอนนี้เธอต้องฟังคำพูดของซ่านกวนโหรว เธอเหลือบมองอู่จื่ออี้อย่างระมัดระวัง แล้วเดินไปหาซ่านกวนโหรว
แต่ว่า ทันทีที่เธอก้าวไปข้างหน้า ก็ถูกผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์สองคนที่อู่จื่ออี้พามา บังทางเดินไว้
“คุณจะไม่ปล่อยเหรอ?”
เสียงของซ่านกวนโหรวเย็นชาลง
ตามการคำนวณของเธอ หยางเฉินน่าจะมาถึงเร็วๆ นี้
อู่จื่ออี้ไม่ได้ตอบซ่านกวนโหรว ดวงตาที่ลึกล้ำนั้น มองไปที่เฝิงเสียวหว่านซึ่งอยู่ในความตื่นตระหนก:”เธอควรคิดให้ดี ถ้าเธอตามฉันไปราชวงศ์อู่ ต่อไปจะไม่มีใครสามารถกลั่นแกล้งเธอได้ ฉันสามารถให้ความมั่งคั่งไม่รู้จักหมดสิ้นกับเธอได้”
เฝิงเสียวหว่านเชื่อว่ามีหยางเฉินอยู่ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาแกล้งเธอ และไม่ต้องการความมั่งคั่ง เธอแค่อยากจะอยู่เคียงข้างหยางเฉิน
ดังนั้น เธอจึงส่ายหัวโดยไม่ลังเล:”พี่ชาย ขอโทษค่ะ ฉันไม่อยากไปราชวงศ์อู่ หวังว่าคุณจะปล่อยฉันไปได้!”
อู่จื่ออี้ไม่พูด นิ่งเงียบ กะพริบตาเป็นครั้งคราว ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยปัญญา
ผ่านไปสักพัก เขาก็ส่ายหัว:”เธอต้องตามฉันไปราชวงศ์อู่!”
ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สีหน้าของซ่านกวนโหรวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ใบหน้าเล็กๆ ของเฝิงเสียวหว่านเต็มไปด้วยความกลัว:”พี่ชาย ขอแค่คุณปล่อยฉันไป ที่ฉันสัญญากับคุณ จะทำได้แน่นอน!”
แม้ว่าอู่จื่ออี้จะกังวลเล็กน้อย ว่าพี่หยางของเฝิงเสียวหว่านคนนั้นจะมีภูมิหลังของตระกูลบู๊โบราณ แต่เฝิงเสียวหว่านสามารถปรุงยาได้ ความกังวลทั้งหมดก็หายไป
เพราะในโลกปัจจุบัน เฝิงเสียวหว่าน เป็นนักปรุงยาคนแรกที่เขารู้จัก ที่สามารถปรุงยาได้ หากข่าวนี้ถูกปล่อยออกไป มันจะสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
ความแข็งแกร่งของราชวงศ์โบราณนั้นแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ถึงจะสู้กับตระกูลบู๊โบราณธรรมดา ราชวงศ์อู่ก็ไม่กลัว
ถึงแม้พี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน จะมาจากตระกูลบู๊โบราณจริงๆ เขาก็ต้องพาเฝิงเสียวหว่านไปให้ได้
“พาตัวไป!”
อู่จื่ออี้ไม่พูดมากอีก ออกคำสั่ง ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่งตบด้วยมีด เฝิงเสียวหว่านสลบไป เขาอุ้มเฝิงเสียวหว่านโดยตรง และพยายามจะออกไป
ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์อีกคน ตามอู่จื่ออี้อย่างใกล้ชิด และพยายามออกไป
แม้ว่าซ่านกวนโหรวจะพาผู้แข็งแกร่งมาหลายคนเช่นกัน แต่สองคนที่อยู่ข้างกายอู่จื่ออี้ ต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ในระดับเดียวกับกษัตริย์ซ่านกวน และพวกเขาจึงไม่สามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลย
“คุณห้ามพาเธอไป!”
ซ่านกวนโหรวกั้นตรงประตูด้วยใบหน้าที่แน่วแน่ และบรรดาผู้แข็งแกร่งแดนเทพก็ไม่ถอย ทุกคนจ้องมองที่ อู่จื่ออี้และคนอื่น ๆ ด้วยความระแวดระวัง
อู่จื่ออี้หยุดชะงัก และเจตนาฆ่าก็ฉายในดวงตาของเขา:”ฉันให้เวลาพวกคุณสิบวินาที จะหลีกไป หรือจะตาย!”
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ซ่านกวนโหรวรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถหายใจได้
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพของราชวงศ์ซ่านกวนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และพวกเขาไม่กล้าที่จะหลายใจแรงๆ
“หลีกไปซะ!”
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงสิบวินาที ในที่สุดซ่านกวนโหรวก็พูดออกมา ด้วยสีหน้าไม่ยอม
ไม่ใช่ว่าเธอกลัว แต่เธอมีสติปัญญามาก ในกรณีนี้ พวกเขาไม่สามารถหยุดอู่จื่ออี้และคนอื่นๆ ได้เลย เมื่อสงครามเริ่มขึ้น แค่ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่ง ก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดมดได้
ยิ่งไปกว่านั้นอู่จื่ออี้ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์สองคนอยู่ข้างเขา และอู่จื่ออี้เองก็แข็งแกร่งเช่นกัน และมาถึงระดับแดนเทพชั้นปลายแล้ว
อู่จื่ออี้ไม่ได้มองซ่านกวนโกรวเลย เดินก้าวไปข้างหน้า
คนหนึ่งเดินตามหลังเขา อีกคนหนึ่งอุ้มเฝิงเสียวหว่านไว้บนไหล่ของเขา และเดินตามกันออกไป
ซ่านกวนโหรวจ้องมองไปที่แผ่นหลังทั้งสามคน แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย เธอทำได้เพียงภาวนาให้หยางเฉินมาเร็วๆ
แต่ว่า ที่ปลายทางของทางเดิน อู่จื่ออี้และอีกสามคนหยุดเดินกะทันหัน
ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น:”วางน้องสาวของฉันลง!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ร่างกายที่ตึงเครียดของซ่านกวนโหรวก็คลายออกในที่สุด และพึมพำกับตัวเองว่า:”ในที่สุด คุณก็มาแล้ว!”