The king of War - บทที่ 1399 พบเขาแล้ว
ชายผู้มีใบหน้าแบบตะวันตกไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับที่ 3 ของหงเฉิน ซาตาน
หลังจากที่หยางเฉินสังหารผู้นำของหงเฉิน เขาก็ปล่อยให้ซาตานจัดระบบหงเฉิน หงเฉินในวันนี้ หยางเฉินเป็นเจ้านาย
เดิมทีหงเฉินก็เป็นองค์กรนักฆ่าอยู่แล้ว และข่าวภายในองกรค์ก็มีพลังมากเช่นกัน จะหาหม่าชาวนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ในเวลาเดียวกัน ราชวงศ์เฝิงที่เป็นหนึ่งในสองราชวงศ์โบราณ ในห้องลับใต้ดิน หม่าชาวนั่งขัดสมาธิ เต็มไปด้วยรัศมีบูโดที่น่าสะพรึงกลัวทั่วร่างกายของเขา
และบนเท้าของเขา มีห่วงโซ่คู่หนึ่งที่ทำจากวัสดุโลหะผสมที่มีความแข็งแรงสูง
ในเวลานี้ ชายวัยกลางคนในชุดจีนเดินมาและเอามือไว้ข้างหลัง และมองมาที่หม่าชาวที่ติดอยู่ในห้องลับ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ขอเพียงคุณยินดีที่จะยอมรับตัวตนของคุณและยอมกลับไปในตระกูล ราชวงศ์เฝิงจะปฏิบัติดีต่อคุณอย่างดีแน่นอน ด้วยตัวตนและสถานะของคุณ เมื่อมองไปทั้งจิ่วโจว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะเทียบได้กับคุณ”
หม่าชาวลืมตาขึ้น แต่สายตาทั้งคู่กลับเย็นยะเยือก จ้องมองชายวัยกลางคนอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ถึงพวกคุณจะถามผมอีกร้อยครั้ง ผมก็ยังยืนยันเป็นคำตอบแรก ผมชื่อหม่าชาว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับราชวงศ์เฝิง”
“ผมขอเตือนพวกคุณรีบปล่อยผมไปดีกว่า ไม่เช่นนั้น เมื่อพี่เฉินของผมรู้ เขาจะไม่มีวันปล่อยราชวงศ์เฝิงไปแน่นอน ถึงตอนนั้น ราชวงศ์เฝิงจะต้องถูกทำลายล้างเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหม่าชาว ชายวัยกลางคนก็ส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา “คุณประเมินเขาสูงเกินไปแล้วมั้ง? หรือคุณเป็นแค่กบในกะลา ไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของราชวงศ์เฝิงของผม?”
“เขาเป็นเพียงจอมพลในสนามรบ เขาสามารถทำลายล้างราชวงศ์เฝิงของผมได้งั้นหรือ? ช่างตลกจริงๆ!”
“ผู้พิทักษ์ในสนามรบแดนเหนือ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงแดนเทพชั้นยอดเท่านั้น ในราชวงศ์เฝิงของผม มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดมากมาย และมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ก็ไม่น้อยเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดเพียงคนเดียว จะทำอะไรได้?”
หม่าชาวไม่อยากสนใจชายวัยกลางคนผู้หยิ่งผยองคนนี้ หลับตาลงและฝึกฝนต่อไป
ตั้งแต่เขาถูกนำกลับจากหนิงโจวโดยราชวงศ์เฝิงเมื่อสามเดือนที่แล้ว เขาก็ถูกขังอยู่ในห้องลับนี้
ในช่วงเวลานี้ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหน้าเขาเคยเกลี้ยกล่อมเขาหลายครั้งแล้ว ให้เขายอมรับว่าเขาเป็นสมาชิกของราชวงศ์เฝิง และต้องการให้เขาภักดีต่อราชวงศ์เฝิง หากเขาปฏิเสธ เขาก็จะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป
เขามั่นใจว่าวันหนึ่งหยางเฉินจะมาที่ราชวงศ์เฝิงและพาเขาไปจากที่นี่
“คุณเป็นคนโง่เหรอ? แค่ทางเลือกที่ง่ายเช่นนี้ คุณก็ไม่รู้เหรอว่าต้องเลือกยังไง?เป็นหลานชายคนโตของราชวงศ์เฝิงเชียวนะ ฝ่าบาทในอนาคตของราชวงศ์เฝิง ทำไมคุณถึงไปติดตามคนนอก?”
เมื่อเห็นว่ากล่อมยังไงหม่าชาวก็ไม่ฟัง ชายวัยกลางคนก็โกรธและตะโกนขึ้นทันที
เขาคือเฝิงจื้อหย่วนบิดาผู้ให้กำเนิดหม่าชาว เดิมทีมันควรจะเป็นภาพที่อบอุ่นมากเมื่อพ่อและลูกชายได้พบกัน แต่คิดไม่ถึงว่า หม่าชาวไม่สนใจเขาเลยตั้งแต่ที่ทั้งสองได้พบกัน
ในการสืบทอดราชบัลลังก์ของราชวงศ์เฝิง ยังคงเป็นการสืบทอดทางสายตรงที่เก่าแก่มาก
หม่าชาวเป็นหลานชายคนโตของราชวงศ์เฝิง กล่าวคือ เมื่อเขาเกิด เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทายาทคนที่ต้องสืบทอดบัลลังก์รุ่นที่สามของราชวงศ์เฝิงแล้ว
แม้ว่าเฝิงจื้อหย่วนจะเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของหม่าชาว แต่เขาเป็นลูกคนที่สองในบรรดาพระโอรส จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นครองบัลลังก์
เฝิงจื้อหย่วนมักจะขัดแย้งกับองค์ชายคนโตของราชวงศ์เฝิง หากหม่าชาวไม่ยอมรับตัวตนของเขา องค์ชายคนโตจะไม่มีวันส่งต่อบัลลังก์ให้กับหม่าชาวในอนาคตแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ เฝิงจื้อหย่วนจึงยืนยันต้องการให้หม่าชายยอมรับตัวตนของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร หม่าชาวก็ไม่ยอมกลับไปที่ราชวงศ์เฝิง
“คุณฟังผมพูดอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อเห็นว่าหม่าชาวเพิกเฉยต่อเขา เฝิงจื้อหย่วนเกือบจะระเบิดด้วยความโกรธ
ไม่ว่าเฝิงจื้อหย่วนจะโมโหเพียงใด หม่าชาวก็นั่งนิ่งเหมือนระฆัง บังคับให้ดวงตาของเขานิ่ง โดยไม่ไปสนใจเลย
กับหม่าชาว เฝิงจื้อหย่วนมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจอยู่แล้ว และในที่สุดเขาก็จากไปอย่างหมดหนทาง
ขณะที่เฝิงจื้อหย่วนเพิ่งจากไป หม่าชาวก็ลืมตามองไปทางทิศที่เฝิงจื้อหย่วนจากไป และพูดอย่างเย็นชาว่า “ขอเพียงคุณยินดีที่จะอธิบายให้ผมฟังว่า ทำไมถึงทำให้ผมกลายเป็นเด็กกำพร้า ผมก็สามารถตอบตกลงได้ แต่ว่า คุณไม่อธิบายอะไรเลย จะให้ผมอภัยคุณได้ยังไง?”
ในความคิดของหม่าชาว ขอเพียงเฝิงจื้อหย่วน อธิบายให้เขาฟังว่า ทำไมถึงทอดทิ้งเขาและน้องสาวของเขาในตอนนั้น เขาก็ยอมที่จะยอมรับ แต่ทุกครั้งที่หม่าชาวถาม เฝิงจื้อหย่วนก็เลือกที่จะเงียบ
นี่คือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเขาที่จะยอมรับมัน เขาไม่ใช่คนประเภทที่ไม่ยอมฟังคนอื่น ขอเพียงเรื่องที่เฝิงจื้อหย่วนทอดทิ้งเขาและน้องสาวเป็นเรื่องที่เฝิงจื้อหย่วนไม่ทำไม่ได้ และมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น หม่าชาวก็สามารถให้อภัยเขาได้
“สามเดือนแล้ว อ้ายหลิน ลูกของเราจิ้งอันน่าจะคลอดแล้วใช่ไหม?”
ดวงตาของหม่าชาวเป็นสีแดง และเขาพึมพำด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ในช่วงสามเดือนที่เขาติดอยู่ที่นี่ เขาไม่กลัวอะไรเลย แต่เขากลัวว่าภรรยาและลูกๆของเขาจะลำบากเมื่อเขาจากไป
เมื่อหม่าชาวกำลังคิดถึงอ้ายหลิน อ้ายหลินซึ่งอยู่ไกลจากราชวงศ์ซ่านกวน กำลังอุ้มลูกของเธอและอยู่กับหยางเฉิน
มีคำสัญญาของหยางเฉิน ว่าจะพบหม่าชาวแน่นอน อารมณ์ของอ้ายหลินก็ดีขึ้นมาก เพราะเธอรู้ว่าหยางเฉินจะไม่พูดอะไรที่มันไม่แน่นอน
ในเวลานี้ หยางเฉินกำลังอุ้มเสี่ยวจิ้งอัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเอ็นดู
จากบนตัวของอ้ายหลินและเสี่ยวจิ้งอัน เหมือนเขาจะมองเห็นความยากลำบากทุกสิ่งที่ฉินซีได้แบกรับเมื่อเธอให้กำเนิดเสี้ยวเสี้ยวด้วยตัวเอง
เมื่อเทียบกับเสี้ยวเสี้ยวแล้ว เสี่ยวจิ้งอันก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ตอนที่เสี่ยวจิ้งอันเกิดมา แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่อยู่ใกล้ๆ แต่อย่างน้อยสองเดือนหลังจากที่เธอเกิด อ้ายหลินก็ได้พบเจอหยางเฉินแล้ว
มีหยางเฉินอยู่ที่นี่ ไม่มีใครสามารถทำร้ายพวกเขาได้ แต่ฉินซีและเสี้ยวเสี้ยวในสมัยนั้น ได้รับความดูถูกมากมาย
“หยางเฉิน คุณจะไปรับเสี่ยวซีพวกเขาเมื่อไหร่?” อ้ายหลินถามอย่างกะทันหัน
หยางเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กล่าวว่า “รออีกหน่อย!”
ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงเสียวหว่านตกเป็นเป้าหมายของราชวงศ์อู่ หยางเฉินวางแผนที่จะไปรับฉินซีและคนอื่นๆในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่พบอู่จื่ออี้ ข่าวที่ว่าเฝิงเสียวหว่านสามารถปรุงยาเม็ดได้นั้นอาจถูกกระจายออกไป ก่อนอื่น เขาต้องหาวิธีแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นนี้ก่อน
นอกจากนี้ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าหม่าชาวอยู่ไหน และไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร
อย่างน้อยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ปัญหาทั้งหมดที่ต้องแก้ไขได้รับการแก้ไขแล้ว เขาจึงจะสามารถวางใจที่จะไปรับครอบครัวของเขามา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วที่คนทั้งเมืองตามหาอู่จื่ออี้ แต่ก็ยังไม่มีข่าวใดๆ
สิ่งนี้ทำให้หยางเฉินกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ ปรมาจารย์ปรุงยาได้สูญพันธุ์ไปแล้วในโลกนี้ หากข่าวที่เฝิงเสียวหว่านปรุงยาเป็นรั่วไหลออกไป พวกเขาจะลำบากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กังวลว่าราชวงศ์ซ่านกวนจะรั่วไหลข่าวออกไป พวกเขากลัวว่าอู่จื่ออี้จะรอดไปได้ และราชวงศ์อู่จะทำทุกวิถีทางเพื่อพาเฝิงเสียวหว่านไป
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะดีขึ้นมากในตอนนี้ แต่เขาอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองเท่านั้น แม้ว่าจะรวมกับเทคนิคการหายใจขั้นเก้าของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานก็สามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเขาไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าเท่านั้น
ด้วยความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ ต่อหน้าราชวงศ์อู่ ยังไม่เพียงพอที่จะไปสู้
เมื่อหยางเฉินกังวลว่าอู่จื่ออี้จะหลบหนีไป ในที่สุดก็มีข่าวมาว่า “คุณหยาง พบอู่จื่ออี้แล้ว!”