The king of War - บทที่ 1422 หยางเฉินจอมเผ็ดจการ
หยางเฉินรู้สึกได้ว่า ชายวัยกลางคนที่ประตูรู้จักเขา แต่หลังจากตรวจสอบบัตรเชิญแล้ว ดันไม่ให้เขาเข้าไป
มันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงการสมรู้ร่วมคิดในทันใด เป็นไปตามคาด ชายวัยกลางคนพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะบัตรเชิญของคุณเป็นของปลอม!”
ทันทีที่ชายวัยกลางคนปฏิเสธไม่ให้หยางเฉินเข้าไป หยางเฉินก็คาดเดาได้ถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ นึกไม่ถึงว่ามันจะเป็นจริง
ในเวลานี้ เหลือเพียงห้านาทีก่อนงานฉลองวันเกิดของเย่หลินจะเริ่ม คนที่ควรมาก็มากันหมดแล้ว หยางเฉินถือเป็นกลุ่มสุดท้าย
แต่เหตุการณ์ที่ประตูโรงแรมนานาชาติเยี่ยนตูยังคงดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย
หยางเฉินมองชายวัยกลางคนด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย หรี่ตาลงพูดกับชายวัยกลางคนว่า “คุณคิดว่า ผมต้องใช้บัตรเชิญปลอมมาร่วมงานฉลองวันเกิดของราชวงศ์เย่เหรอ?”
“หรือว่าไม่ใช่?” ชายวัยกลางคนย้อนถาม
ทันใดนั้นหยางเฉินก็หัวเราะเยาะแล้วก้าวไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันพลังกดดันของบูโดอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
ในเวลาเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ทั้งสองที่อยู่ด้านหลังเขา ก็ระเบิดพลังบูโดของพวกเขาออกมาพร้อมกัน
ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ทั้งสามได้ร่วมกันปลดปล่อยพลังบูโด ทันใดนั้นทั่วทั้งเมืองเยี่ยนตูก็ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยพลังบูโด บนท้องฟ้าเหนือโรงแรมนานาชาติเยี่ยนตู เมฆดำเคลื่อนตัว ฟ้าแลบฟ้าร้องดังกึกก้อง
เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์อยู่ในความโกรธ สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดระหว่างฟ้าดินได้ ผู้คนนับไม่ถ้วนแหงนหน้ามองท้องฟ้า
“หยางเฉินจะมา ใครกล้ามาขวาง?”
หยางเฉินตะโกนลั่น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง ระเบิดขึ้นในหูของทุกคน
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ล้อมรอบหยางเฉินและพวกทั้งสาม รู้สึกเพียงร่างกายที่สั่นเทาอย่างรุนแรง พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขวางทางหยางเฉินไว้ ดังนั้นจึงเปิดทางให้ทันที
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการขัดขวาง แต่พลังของหยางเฉินและผู้อาวุโสจั่วโย่วทั้งสองน่ากลัวเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพจะต้านไหว
“หยางเฉิน!”
ในห้องจัดเลี้ยง เมื่อทุกคนเห็นหยางเฉินก็ล้วนตกตะลึง โดยเฉพาะสมาชิกของราชวงศ์เย่ แต่ละคนจ้องมองหยางเฉินราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม
กษัตริย์เย่ก้าวไปข้างหน้า พลังต่อสู้ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งในกายปะทุขึ้นทันที เขาจ้องไปที่หยางเฉินอย่างเย็นชาและพูดว่า “หยางเฉิน นี่เป็นงานฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของพ่อผม ผมไม่ได้เชิญคุณ คุณมาโดยไม่ได้รับเชิญ มันหมายความว่าอย่างไร?”
ในเวลานี้ เย่หลินไม่ได้อยู่ที่นี่ ดูเหมือนกำลังรอช่วงเวลาดีๆ สุดท้าย ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่ที่นำโดยกษัตริย์เย่ ล้วนจ้องมองที่หยางเฉินอย่างระแวดระวัง
ไม่ใช่แค่สมาชิกของราชวงศ์เย่ แต่ยังรวมถึงคนที่คุ้นเคยกับหยางเฉิน สมาชิกของราชวงศ์ต้วน รวมถึงสมาชิกของราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์หลง ล้วนมาถึงกันหมดแล้ว
โต๊ะแรกที่อยู่หน้าสุดล้วนเป็นทายาทสายตรงของราชวงศ์เย่ อีกสามโต๊ะที่อยู่ต่ำลงมาคือสมาชิกของสามราชวงศ์ใหญ่ ราชวงศ์ต้วน ราชวงศ์หลง และราชวงศ์ซ่างกวน
และที่อยู่หลังแต่ละราชวงศ์ ล้วนเป็นตระกูลชั้นนำในเมืองราชวงศ์ของตนเอง
ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คน นอกจากประชาชนจากราชวงศ์ทั้งสี่แล้ว ยังมีกองกำลังระดับสูงอีกมากมายในแต่ละพื้นที่ของจิ่วโจว
ในที่นี้ไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักหยางเฉิน ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อของหยางเฉินด้วยซ้ำ
ในเวลานี้ จู่ๆ ชายหนุ่มดังกล่าวก็ปรากฏตัวขึ้นที่งานฉลองวันเกิดของราชวงศ์เย่ ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าทุกคนตกใจแค่ไหน
หยางเฉินชำเลืองมองกษัตริย์เย่อย่างเฉยเมย พลางพูดเย้ยหยัน “ในเมืองเยี่ยนตู ไม่มีที่ใดที่ผมไปไม่ได้ กษัตริย์เย่ไม่ต้อนรับผมเหรอ?”
กษัตริย์เย่อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งเท่านั้น อย่าว่าแต่เทียบกับหยางเฉินเลย ต่อให้เทียบซ่งโย่ว ก็ไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้
ซ่งจั่วและซ่งโย่วจ้องไปที่กษัตริย์เย่อย่างเฉยเมย ราวกับว่าขอเพียงหยางเฉินออกคำสั่ง พวกเขาจะลงมือฆ่ากษัตริย์เย่ภายในเสี้ยววินาที
กษัตริย์เย่ย่อมรู้สึกถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรงจากซ่งจั่วและซ่งโย่ว เขาตกใจเล็กน้อย เขารู้จักหยางเฉินเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้มีซ่งจั่วและซ่งโย่วอีก นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ดูเหมือนว่าเรื่องราวของราชวงศ์เย่ จะไม่จบลงง่ายๆ ในวันนี้
ทางด้านราชวงศ์หลงในขณะนี้ หลงจิ้นยืนขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กษัตริย์เย่ คุณหยางมาจากเมืองเยี่ยนตู เป็นบูโดอัจฉริยะในจิ่วโจวของผม หากจะมาร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบร้อยปีของผู้อาวุโสเย่หลิน จะมีปัญหาอะไรหรือ?”
กษัตริย์ซ่านกวนรีบพูดตาม “ใช่แล้ว คุณหยางมาร่วมงานฉลองวันเกิดของผู้อาวุโสเย่หลิน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ผมคิดว่าหากผู้อาวุโสเย่หลินมาถึง คงจะไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง?”
ราชวงศ์ทั้งสี่ นอกจากราชวงศ์เย่แล้ว ทั้งกษัตริย์ซ่างกวนและหลงหวงล้วนออกหน้าพูดแทนหยางเฉิน ตอนนี้เหลือเพียงราชวงศ์ต้วนเท่านั้น ที่ยังไม่ได้แสดงท่าที
สิ่งนี้ทำให้หลายคนที่ไม่รู้จักหยางเฉินมีสีหน้าตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมชายหนุ่มที่ดูอายุไม่ถึงสามสิบ ถึงได้กระตุ้นให้เกิดการวิวาทระหว่างราชวงศ์ทั้งสี่ทั้งเปิดเผยและแบบลับๆ?
ยังมีอีกหลายคนมองไปทางราชวงศ์ต้วนโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการเห็นทัศนคติของราชวงศ์ต้วนที่ยังไม่ได้แสดงท่าทีเพียงหนึ่งเดียว
ต้วนหวงย่อมก็รู้สึกเช่นกัน เขามองไปที่กษัตริย์เย่ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณหยางก็ให้ความเคารพผู้อาวุโสเย่หลินเช่นกัน ต้องการมาเยี่ยมเยียนเขา วันนี้เป็นวันมงคล กษัตริย์เย่ได้โปรดให้คุณหยางเข้าประจำที่นั่งเถอะ!”
ต้วนหวงเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์จริงๆ เขาแสดงให้เห็นว่าหยางเฉินมาเยี่ยมเย่หลินด้วยความเคารพ แถมยังขอให้กษัตริย์เย่เชิญหยางเฉินนั่ง ไม่ทำให้เกิดการขุ่นเคืองทั้งสองฝ่าย
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ได้ประจบประแจงทั้งสองฝั่ง
หยางเฉินหรี่ตามองต้วนหวง แล้วกล่าวพร้อมกับยิ้มเยาะ “ผมไม่เคยคิดที่จะมาเยี่ยมเยียนเย่หลินด้วยความรพเลย”
พูดจบก็เดินตรงไปข้างหน้าโดยไม่สนใจความไม่เต็มใจของกษัตริย์เย่ นั่งลงที่โต๊ะของราชวงศ์เย่ที่อยู่ตำแหน่งหน้าสุด
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังนั่งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นของเย่หลิน ซึ่งทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตกใจ
หลังจากถูกหยางเฉินแขวะไปประโยคหนึ่งอย่างเฉยเมย ต้วนหวงดูกระอักกระอ่วน และรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อนึกถึงบุญคุณความแค้นระหว่างหยางเฉินกับราชวงศ์เย่ ต้วนหวงก็ตระหนักว่าคำพูดเมื่อครู่ของตัวเอง ทำให้หยางเฉินเกลียดเขามากแค่ไหน
“หยางเฉิน!”
กษัตริย์เย่เห็นหยางเฉินนั่งตรงตำแหน่งของเย่หลิน ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที
แต่กลับดูเหมือนว่าหยางเฉินจะไม่ทันสังเกตเห็นความโกรธของกษัตริย์เย่ เขาพูดกับซ่งจั่วและซ่งโย่วว่า “พวกคุณก็นั่งด้วยสิ!”
ซ่งจั่วและซ่งโย่วย่อมไม่ขัดคำสั่งของหยางเฉิน ต่างคนต่างเหยียดแขนออกมา จับผู้อาวุโสของราชวงศ์เย่ทางด้านซ้ายและด้านขวาของพวกเขา จากนั้นก็ออกแรงดึงผู้อาวุโสของราชวงศ์เย่ทั้งสองออกจากที่นั่ง
บุคคลที่ถูกจัดให้นั่งขนาบซ้ายขวาเย่หลิน ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าสถานะของพวกเขาในราชวงศ์เย่นั้นสูงเพียงใด สูงกว่าตำแหน่งของกษัตริย์เย่ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้กลับถูกซ่งจั่วและซ่งโย่วจับโยนทิ้งไปอีกทางเหมือนลูกไก่
จากนั้นทั้งซ่งจั่วและซ่งโย่วก็นั่งลง
ทั้งงานเกิดความเงียบงันขึ้นในทันใด ทุกคนล้วนมีสีหน้าตกตะลึง
แต่ที่แตกต่างจากความตกใจของฝูงชนก็คือ สมาชิกของราชวงศ์เย่ ที่โกรธจัด โดยเฉพาะกษัตริย์เย่ที่มองไปที่หยางเฉินด้วยดวงตาที่แทบจะพ่นไฟออกมาได้
“หยางเฉิน คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
กษัตริย์เย่แทบจะกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา