The king of War - บทที่ 1424 ต้องการหาเรื่อง
เมื่อได้รับอนุญาตจากกษัตริย์เย่ เจียวโสงก็ยิ้มอย่างมีความสุข “ขอบพระทัยกษัตริย์เย่ที่ช่วยให้สมหวัง!”
จากนั้นเขาก็มองไปที่เจียวต้าเหว่ยลูกชายของตน “ต้าเหว่ย ในเมื่อกษัตริย์เย่ตอบตกลงให้ลูกลงมือแล้ว งั้นก็แสดงความสามารถที่แท้จริงของลูกให้ทุกคนได้เห็นเถิด!”
“ครับพ่อ!”
เจียวต้าเหว่ยยิ้มอย่างโหดเหี้ยม หรี่ตามองหยางเฉินและพูดว่า “เจ้าหนู ถ้าแกไม่อยากตาย ก็คุกเข่าลงขอร้องฉัน บางทีฉันอาจจะปล่อยแกไป”
ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินนั่งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเจียวต้าเหว่ย ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ ก็เป็นแค่มดในสายตาของเขา
มีผู้คนมากมายมาร่วมงาน นอกจากราชวงศ์ทั้งสี่ รวมถึงสมาชิกของตระกูลระดับสูงในเมืองราชวงศ์ที่รู้จักหยางเฉิน นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าหยางเฉินเป็นใคร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสามารถของหยางเฉินเลยว่าแข็งแกร่งเพียงใด
นอกจากบรรดาคนที่รู้จักตัวตนของหยางเฉิน ที่เหลือที่ไม่รู้จักต่างก็มีสีหน้าตั้งตารอคอย ในขณะเดียวกันสายตาของผู้คนมากมายก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
อิจฉาเจียวต้าเหว่ย ท้ายที่สุดเจียวต้าเหว่ยก็ออกหน้าให้ราชวงศ์เย่ เมื่อฆ่าหยางเฉินแล้ว ก็จะได้ใกล้ชิดกับราชวงศ์เย่จริงๆ เมื่อราชวงศ์เย่ไปจุดสูงสุดของจิ่วโจว ตำแหน่งของตระกูลเจียวในจิ่วโจวก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
“รนหาที่ตาย!”
ซ่งโย่ว ตะโกนอย่างโกรธจัด มองไปที่เจียวต้าเหว่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“อะไรกัน? ตัวเองไม่กล้ารับคำท้า คิดจะให้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลออกหน้าแทนเหรอ?” เจียวโสงถามหยางเฉินอย่างโกรธจัดทันที
เจียวต้าเหว่ยจ้องไปที่หยางเฉินด้วยสีหน้าเย้ยหยัน แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าหนู ฉันท้าแก แกกล้าออกมาสู้กับฉันไหม?”
“เจ้าหนูนั่นคงกลัวจนปอดแหก ไม่กล้าแม้แต่จะพูดแล้ว”
“คุณชายคนโตของตระกูลเจียว ได้ทะลวงเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นต้นแล้ว เกรงว่าอีกไม่กี่ปีก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ได้แล้ว บูโดอัจฉริยะอย่างคุณชายใหญ่ตระกูลเจียวเช่นนี้ เกรงว่าจะมีแค่บูโดอัจฉริยะของราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถสู้เขาได้”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สถานะของตระกูลเจียวน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก!”
…
หลายคนจากตระกูลชื่อดังที่ไม่รู้จักหยางเฉินกำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนถึงกับเริ่มอวดอ้างสาวงามดีเลิศในตระกูลของตัวเอง ต้องการเกี่ยวดองกับตระกูลเจียว
“เจ้าหนู ออกมารับความตายซะ!”
คำสรรเสริญของผู้คนรอบๆ ทำให้เจียวต้าเหว่ยรู้สึกเพลิดเพลิน มีท่าทีจองหองขึ้นในทันที พูดกับหยางเฉินอย่างเย่อหยิ่ง
“คุณหยาง ผมจะไปฆ่าเขา!” ซ่งโย่วกล่าว
ในเวลานี้หยางเฉินส่ายหัว ในที่สุดเขาก็มองไปที่เจียวต้าเหว่ยด้วยดวงตาอันลึกล้ำ พูดออกมาเพียงสองคำเท่านั้น “หนวกหู!”
หลังจากพูดสองคำนี้แล้ว ภาพที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เจียวต้าเหว่ยที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องจัดเลี้ยงและเพิ่งประกาศกร้าวให้หยางเฉินก้าวออกมารับความตายเมื่อครู่ เหมือนถูกกระแทกอย่างแรง เลือดไหลออกมาจากมุมปาก ร่างกายเหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก ผงะถอยหลังไป 7-8 ก้าว
“ต้าเหว่ย!”
เจียวโสงหน้าถอดสีทันที ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
คนอื่นๆ ล้วนตกตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินหยางเฉินพูดแค่สองคำว่า “หนวกหู” ก็เห็นร่างของเจียวต้าเหว่ยถูกโจมตีอย่างหนักถอยหลังออกไป เลือดไหลทะลักออกมาจากมุมปาก
ในขณะนี้สีหน้าของเจียวต้าเหว่ยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สองตาจับจ้องไปที่หยางเฉิน ในส่วนลึกของดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่สามารถพูดไม่ออกสักคำ ในตอนแรกมีเลือดไหลทะลักออกจากมุมปาก จากนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกมาทวารทั้งเจ็ดรวมถึงหูและจมูก
“ปัง!”
ท่ามกลางความตกใจของทุกคน เจียวต้าเหว่ยเดินโซเซถอยหลังไปไม่กี่ก้าว แล้วร่างก็ล้มลงกับพื้น
“ต้าเหว่ย!”
เจียวโสงสาวเท้าเข้ามาถึงข้างกายเจียวต้าเหว่ยทันที หลังจากที่เขาตรวจดูแล้ว ก็ได้รู้ว่าลูกชายของตน ซึ่งเป็นบูโดอัจฉริยะของตระกูลเจียวได้เสียชีวิตลงแล้ว
หมอวิเศษท่านหนึ่งของราชวงศ์เย่รีบก้าวออกมา ตอนแรกยังคิดจะช่วยชีวิตเจียวต้าเหว่ย แต่เมื่อเขาจับชีพจรแล้ว สีหน้าก็เคร่งขรึม มองไปทางหยางเฉินด้วยความกลัว แล้วมองไปที่กษัตริย์เย่พร้อมกับบอกว่า “อวัยวะภายในของเขาแหลกละเอียด เขาตายแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนในที่นี้ก็ตกตะลึง!
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หยางเฉิน หยางเฉินนั่งนิ่งเป็นภูเขา ไม่แม้แต่จะมองเจียวต้าเหว่ยที่ถูกฆ่าเพราะคำพูดสองคำของเขา ราวกับว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย
แม้แต่กษัตริย์เย่ก็ยังมีความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในดวงตา เขารู้ว่าหยางเฉินแข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดว่าหยางเฉินจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
ไม่ใช่แค่กษัตริย์เย่เท่านั้น แต่ยังมีกษัตริย์ซ่านกวนและต้วนหวงด้วย รวมถึงหลงหวงก็มีสีหน้าตกใจเช่นกัน โดยเฉพาะสายตาของกษัตริย์ซ่านกวนและหลงหวง ยังมีความประหลาดใจอยู่มาก
ในขณะเดียวกัน ซ่งจั่วและซ่งโย่วที่อยู่ข้างกายหยางเฉิน ก็มีสีหน้าเหลือเชื่อเช่นกัน พวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ คนหนึ่งคือแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม คนหนึ่งคือแดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง
แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถบดขยี้อวัยวะภายในของผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นต้นได้ด้วยคำพูดประโยคเดียว แต่หยางเฉินกลับทำได้
“เจ้าหนู ลูกชายของฉันไม่ได้ใช้ความสามารถของตระกูลช่วย แต่อาศัยความสามารถของตัวเองเพื่อต่อสู้กับแก แกกล้าดียังไงที่ปล่อยให้คนของนายใช้อาวุธลับสังหารลูกชายของฉัน”
ใบหน้าของเจียวโสงเต็มไปด้วยความโกรธ มองไปทางหยางเฉิน อยากจะใช้สายตาฆ่าหยางเฉินเหลือเกิน พลางพูดอย่างดุร้าย “ฉันจะฆ่าแก!”
“ที่แท้ ผู้แข็งแกร่งของตระกูลของเจ้าหนุ่มนั้นใช้อาวุธลับ มิน่าล่ะแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นปลายอย่างฉันยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย”
“เจ้าหนุ่มที่ชื่อหยางเฉินไร้ยางอายจริงๆ ตัวเองไม่กล้ารับการท้าทายนี้ แต่สั่งให้ผู้แข็งแกร่งของตระกูลใช้อาวุธลับทำร้ายคนอื่น”
“กษัตริย์เย่ คนแบบนี้ไม่ควรปรากฏตัวอยู่ในงานฉลองวันเกิดของผู้อาวุโสเย่หลิน ได้โปรดให้ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่ลงมือเถอะ ฆ่าพวกเขาเสียที่นี่!”
…
เพียงชั่วครู่ คนของตระกูลผู้มีอำนาจทั้งหมดที่ไม่รู้จักหยางเฉินได้ตะโกนด้วยความโกรธ ประกาศกร้าวให้ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่สังหารหยางเฉิน
สีหน้าของกษัตริย์เย่แย่ลงทันที เขาย่อมรู้ว่าคนเหล่านั้นต้องการโอ้อวดราชวงศ์เย่ จึงขอให้ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่สังหารหยางเฉิน แต่เขารู้ดีว่า ต่อให้ผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์เย่จะออกมาพร้อมกัน มันก็ไม่ง่ายหากคิดจะฆ่าหยางเฉิน
ไม่ต้องพูดถึงว่าตัวหยางเฉินเองเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ ตอนนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์อยู่ข้างกายอีกสองคน
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีราชวงศ์หลงและราชวงศ์ซ่างกวนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับหยางเฉิน แม้แต่ราชวงศ์ต้วนก็ยังสั่นคลอน เมื่อหยางเฉินกุมสถานะได้เปรียบ ราชวงศ์ต้วนน่าจะเอนเอียงไปทางหยางเฉินทันที
นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับราชวงศ์เย่
หยางเฉินมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา เมื่อเห็นว่าทุกคนต้องการใช้กำลังปราบปรามเขา เขาจึงยิ้มให้กษัตริย์เย่และกล่าวว่า “คนเยอะแบบนี้ยังคิดจะสอพลอราชวงศ์เย่ ให้ราชวงศ์เย่มาฆ่าผม กษัตริย์เย่จะไม่ปล่อยให้ผู้ที่ติดตามราชวงศ์เย่รู้สึกผิดหวัง!”
กษัตริย์เย่สูดหายใจเข้าลึกๆ สองตาจับจ้องมาที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “ถ้าคุณมาร่วมงานฉลองวันเกิดของพ่อผม ผมยินดีต้อนรับคุณ แต่ถ้าไม่ใช่ ผมแนะนำให้คุณอย่าสร้างปัญหาจะดีที่สุด”
“แต่ว่า ผมจะสร้างปัญหาเหรอ?” หยางเฉินถามด้วยสีหน้ายั่วเย้า