The king of War - บทที่ 1435 ตระกูลเย่เตรียมตัว
ทันใดนั้นดวงตาที่เย็นชาของกษัตริย์เย่ก็จับจ้องมาที่หยางเฉิน กล่าวอย่างดุร้าย “หยางเฉิน เป็นคุณอีกแล้ว! ราชวงศ์เย่ยินดีไว้ชีวิตคุณ แต่ทำไมคุณไม่หวงแหนโอกาสอันล้ำค่าเช่นนี้?”
หยางเฉินขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ด้วยความสามารถระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งของกษัตริย์เย่ ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนี้
เป็นเพราะมีเย่หลินอยู่หรือเปล่า?
“ไว้ชีวิตผมเหรอ?”
หยางเฉินหัวเราะเยาะ “คุณคิดว่า ลำพังความสามารถอันน้อยนิดของราชวงศ์เย่จะทำอะไรผมได้หรือ?”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นช้าๆ
ซ่งโย่วเดินกลับมาอยู่ข้างหลังเขา ยืนข้างๆ ซ่งจั่ว จ้องมาที่เย่หลินตาเป็นมัน
พวกเขาสองพี่น้อง คนหนึ่งบูโดอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสอง คนหนึ่งบูโดอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม แต่เมื่อทั้งสองร่วมมือกัน ก็สามารถระเบิดพละกำลังได้เทียบเท่ากับระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่
ในบรรดาผู้แข็งแกร่งมากมายในสถานที่นี้ นอกจากหยางเฉิน คนเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกกดดันได้มีเพียงเย่หลินเท่านั้น
ในเวลานี้ แววตาอันลุ่มลึกทั้งสองของเย่หลิน มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงเป็นประกายแวววับ
ราชวงศ์เย่ได้เตรียมการสำหรับตี้ชุนมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขานึกไม่ถึงว่าความแข็งแกร่งของหยางเฉิน จะเกินไปจากจินตนาการของพวกเขา แถมยังพาผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์มาด้วย ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่ารับมือยาก
แต่หากมีแค่หยางเฉินและพวก ราชวงศ์เย่ก็มั่นใจที่จะปราบพวกเขา
“เลิกเหลวไหลได้แล้ว ไปสู้กันที่อื่นเถอะ!”
หยางเฉินพูดจบก็เดินนำหน้าออกไป
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดปะทะกันในห้องจัดเลี้ยง ยังมีผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ที่สามารถสลายพลังบูโดที่พวกเขาระเบิดออกมาในระหว่างการต่อสู้ได้ แต่ถ้าผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ต่อสู้กัน เกรงว่าอาคารทั้งหลังจะถล่มในทันที
หลังจากที่หยางเฉินพาซ่งจั่วและซ่งโย่วจากไป ราชวงศ์หลงและราชวงศ์ซ่างกวน รวมถึงราชวงศ์ต้วน ตลอดจนสมาชิกตระกูลหลี่ในเมืองราชวงศ์ซ่างกวน ต่างก็ทยอยตามกันออกไป
จากนั้นผู้แข็งแกร่งจากกองกำลังแต่ละฝ่ายที่ได้รับเชิญจากราชวงศ์เย่ก็ออกไปจากห้องจัดเลี้ยงเช่นกัน ไม่นาน ภายในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เหลือเพียงราชวงศ์เย่ รวมถึงสมาชิกกองกำลังระดับสูงหลายคนของเมืองราชวงศ์เย่
สีหน้าของกษัตริย์เย่มืดมนลงจนถึงขีดสุด มองไปทางเย่หลิน แล้วเอ่ยขอโทษ “ท่านพ่อ ขอโทษที่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
เย่หลินขมวดคิ้ว พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระ การแย่งชิงตี้ชุน ราชวงศ์เย่ของเราไม่สามารถลงมือได้โดยตรง ทำได้เพียงยืมมือคนอื่น แกเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?”
กษัตริย์เย่พยักหน้าและกล่าวด้วยความมั่นใจ “ท่านพ่อไม่ต้องห่วงเลย ผมเตรียมพร้อมมาอย่างดีแล้ว นอกจากหยางเฉินจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก ถ้าไม่อย่างนั้น วันนี้เขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!”
“ดี!”
เย่หลินพยักหน้าและเดินจากไปทันที ตามด้วยสมาชิกของราชวงศ์เย่ที่ทยอยตามกันออกไป
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงที่โล่ง มันคือภูเขาเยี่ยนซาน ภูเขาที่สูงที่สุดในเมืองเยี่ยนตู
แต่ผู้ที่สามารถมาถึงที่นี่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับแดนเทพชั้นยอด ส่วนผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าระดับแดนเทพชั้นยอด หากต้องการมาที่นี่ ก็ยังต้องการเวลาพอสมควร แต่ถึงพวกเขาจะมาแล้วก็ไม่สำคัญอะไร ทันทีที่ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ลงมือ ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าแดนเทพชั้นยอดหากอยู่ใกล้สนามมาเกินไป เกรงว่าจะถูกฆ่าตาย
ในเวลานี้ หยางเฉินกำลังยืนอยู่บนยอดเขาเยี่ยนซาน บนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง มองไปยังราชวงศ์เย่ด้วยความสงสัย
สมาชิกของราชวงศ์เย่จำต้องเงยหน้าขึ้นจึงจะเห็นหยางเฉิน ในเวลานี้ ทุกคนรู้สึกอัปยศเป็นอย่างมาก
แต่หยางเฉินนั้นมีความแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าพวกเขาจะอัปยศอดสู และไม่เต็มใจสักเพียงใด พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
สีหน้าของกษัตริย์เย่มืดมนลง จับจ้องไปที่หยางเฉินและพูดว่า “หยางเฉิน ถ้าคุณยินดีถอนตัวจากการแย่งชิงตี้ชุน ทางราชวงศ์เย่จะไว้ชีวิตคุณ”
หยางเฉิงย่อมรู้ดีว่าการเตรียมการของราชวงศ์เย่ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เห็นต่อหน้าเหล่านี้เท่านั้น แต่ก็ไม่กลัวในสิ่งที่เขาพูดด้วย
เขายิ้มเยาะกล่าวว่า “ผมก็มีประโยคหนึ่งจะบอกกับพวกคุณด้วย ถ้าเลิกคิดเรื่องการกำเนิดตี้ชุน ออกจากเมืองเยี่ยนตูไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ผมจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และอาจจะเลือกปล่อยวางเรื่องความแค้นระหว่างผมกับราชวงศ์เย่ด้วย”
หยางเฉินหมายถึงการปล่อยวางเรื่องกำเนิดตี้ชุน ไม่ใช่การต่อสู้แย่งชิงตี้ชุน เพราะเขายังมีความหวังรำไรที่จะหยุดการถือกำเนิดของตี้ชุน
“บังอาจ!”
กษัตริย์เย่ตะโกนอย่างเย็นชา “ลำพังตัวคุณเอง กล้าคุยโวอย่างหน้าไม่อาย จะให้คนของราชวงศ์เย่ออกไปจากเมืองเยี่ยนตูงั้นหรือ?”
“กษัตริย์เย่ อย่าลืมว่าที่นี่คือเมืองเยี่ยนตู ไม่ใช่เมืองราชวงศ์เย่ของคุณ ที่เมืองราชวงศ์เย่ยังมีผู้รักษากฎคอยคุ้มครองราชวงศ์เย่ของคุณ แต่ที่นี่ หากพ่ายแพ้ ราชวงศ์เย่จะถูกทำลาย คุณลองคิดให้ดีๆ”
หลงจิ้นมองไปที่กษัตริย์เย่ แล้วกล่าวอย่างติดตลก
กษัตริย์ซ่านกวนเยาะเย้ยเช่นกัน “ผมมีลางสังหรณ์ว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป ราชวงศ์ทั้งสี่ของจิ่วโจว จะเหลือเพียงสามราชวงศ์ นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกเรา”
ต้วนหวงได้ฉีกหน้าราชวงศ์เย่แล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่กลัวราชวงศ์เย่อีกต่อไป พลางยิ้มเยาะกล่าวว่า “กษัตริย์เย่ก็มีพรสวรรค์เช่นกัน ตัวเองไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของเขา ยังกล้าให้พ่อของตัวเองออกมา อายุมากขนาดนี้แล้ว ไม่กลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องตลกระหว่างมื้อน้ำชาของคนอื่นบ้างเหรอ ฮ่าๆ…”
“ฮ่าๆๆๆ…”
ทุกคนพากันหัวเราะลั่น
สีหน้าของกษัตริย์เย่ดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ ล้ำลึกขึ้นเรื่อยๆ
“พวกคุณหัวเราะให้เต็มที่เถอะ เพราะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกคุณจะไม่มีโอกาสได้หัวเราะอีกแล้ว” กษัตริย์เย่กล่าวด้วยสีหน้าดุดัน
พูดจบก็ดูนาฬิกาแล้วหันไปทางอื่น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “น่าจะใกล้ถึงแล้วสินะ?”
“หืม?”
เมื่อได้ยินคำพูดของกษัตริย์เย่ ทุกคนก็ตกตะลึง สีหน้าของหลงจิ้นจริงจังมากขึ้นไปอีก
ทั้งกษัตริย์ซ่านกวนและต้วนหวงดูจริงจัง คำพูดที่รุนแรงเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องขอวคารม หากพวกเขาต้องการจัดการกับราชวงศ์เย่จริงๆ เกรงว่าจะต้องพึ่งพาหยางเฉินเท่านั้น
“มาแล้ว!”
ในเวลานี้ หยางเฉินที่อยู่ถัดจากซ่งจั่ว จู่ๆ ก็มองไปในทิศทางหนึ่งและกล่าวอย่างเย็นชา
หยางเฉินย่อมสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ความกังวลเล็กน้อยปรากฏขึ้นในส่วนลึกของนัยน์ตา
ตอนนี้เขารู้เพียงว่าความสามารถของกษัตริย์เย่อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง แม้แต่ความสามารถที่แท้จริงของเย่หลินก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก
ในเวลานี้ ความจริงเขาสัมผัสได้ถึงลมปราณบูโดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งของบูโดจากตะวันออก และในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยที่แข็งแกร่ง
ดูเหมือนว่าเขาจะเคยคบหาสมาคมด้วยมาก่อน แต่จะเป็นใครนั้น หยางเฉินเองก็นึกไม่ออก
“กษัตริย์เย่ คุณกล้ามองหาความช่วยเหลือจากภายนอกเหรอ?” หลงจิ้นถามอย่างโกรธจัด
กษัตริย์เย่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ราชวงศ์เย่ของเรายังรังเกียจที่จะขอความช่วยเหลือจากภายนอก บางทีคุณหยางของพวกคุณอาจเคยไปล่วงเกินบุคคลสำคัญเข้า อีกฝ่ายจึงตามมาเพื่อแก้แค้น?”
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น เขาสัมผัสได้ว่าคำพูดของกษัตริย์เย่มีความหมายแฝงไว้ เคยไปล่วงเกินใครมาก่อนหรือไม่?
คนที่เขาเคยล่วงเกิน ทำให้ราชวงศ์เย่ให้ความสนใจอย่างมาก จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ ดูเหมือนว่าเขาจะมีแค่ดอกเตอร์แบล็กเพียงคนเดียว?
อย่าบอกนะว่าเป็น ดอกเตอร์แบล็ก?
แต่จนป่านนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าดอกเตอร์แบล็กยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถึงอย่างไรดอกเตอร์แบล็กก็ยื่นมือเข้ามาเองอย่างไม่บอกกล่าว จัดการสังหารดอกเตอร์แบล็ก
ขณะที่หยางเฉินกำลังสับสน พลังบูโดที่น่ากลัวและชั่วร้ายได้แผ่ปกคลุมทั่วทั้งสนามทันที วินาทีถัดมา ผู้แข็งแกร่งในชุดเพ้าดำก็เดินเข้ามาทันที
“เป็นคุณนั่นเอง!”
ทันทีที่ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำปรากฏตัว หยางเฉินก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ