The king of War - บทที่ 1506 ฉันช่วยสงเคราะห์ให้แก
มองซ่านกวนโหรวที่หน้าตาเรียบนิ่ง ทุกคนล้วนตกใจค้างแล้ว เหมือนนึกไม่ถึงว่าลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจของราชวงศ์ว่านกวนคนนี้ จะมีเหตุผลพูดได้เต็มปากเต็มคำถึงขั้นนี้
ซ่านกวนจื่อฉินโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว ยกมืออยากจะตบเข้าไปบนหน้าของซ่านกวนโหรวอย่างแรงสักทีหนึ่ง
“ป้าบ!”
ครั้งนี้ มือของเขาไม่ได้แตะโดนซ่านกวนโหรว ข้อมือถูกมือใหญ่ที่มีกำลังข้างหนึ่งจับไว้แน่น
“หยางเฉิน!”
ซ่านกวนจื่อฉินมองเห็นหยางเฉิน บนหน้ายังมีความตกใจระดับหนึ่ง
เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลาง เวลานี้คาดไม่ถึงโดนหยางเฉินจับข้อมือของเขาไว้แล้ว ทำให้เขาไม่มีทางดิ้นหลุด
สำหรับเขานั้น วิถีบู๊ของหยางเฉินเสียหายแล้ว แค่คิดก็รู้ถึงความตื่นตกใจในใจของเขาเวลานี้
ไม่เพียงแค่ซ่านกวนจื่อฉิน ยังมีคนของตระกูลหลี่ ตอนที่มองเห็นฉากนี้กัน สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ในสายตายังมีแววหวาดกลัวระดับหนึ่ง
“ต่อให้คุณเป็นพ่อของซ่านกวนโหรว ก่อนหน้าที่ไม่ได้เข้าใจความจริงชัดเจน จะลงมือกับเธอไม่ได้!” หยางเฉินพูดด้วยท่าทางนิ่งเฉย
เขากับซ่านกวนโหรวเข้าใจหมดแล้ว ทุกอย่างนี้เป็นแผนที่กษัตริย์ซ่านกวนวางไว้ ถึงทำให้ทั้งสองเกิดความสัมพันธ์ขึ้น แต่ว่าดูจากปฏิกิริยาของซ่านกวนจื่อฉิน น่าจะไม่รู้เรื่องนี้กระจ่าง
เดิมที เขายังสงสัยว่า ทำไมกษัตริย์ซ่านกวนถึงทำแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว
วันนี้คือวันมงคลที่ราชวงศ์ซ่านกวนกับตระกูลหลี่แต่งงานเกี่ยวดองกัน แต่ผลปรากฏว่าหลี่เป่าจุ้นมารับเจ้าสาว กลับพบว่าเขากับซ่านกวนโหรวมีความสัมพันธ์กันแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนจะผูกพันกัน ย่อมเดาเป้าหมายแท้จริงของกษัตริย์ซ่านกวนออกได้ไม่ยาก
พอเป็นแบบนี้ ซ่านกวนโหรวทำให้ราชวงศ์อับอายแล้ว นี่อาจเป็นเพียงชื่อเสียงของซ่านกวนโหรวได้รับผลกระทบมากมาย แต่ว่า เรื่องนี้สำหรับตระกูลหลี่ กลับสร้างผลกระทบใหญ่ยิ่งกว่า
ในความคิดของตระกูลหลี่ นี่คือความอัปยศอดสู
ถ้าตระกูลหลี่ยังยินยอมแต่งกับซ่านกวนโหรว คงอับอายขายขี้หน้าไปถึงไหนต่อไหนจริงๆ แล้ว ดังนั้นงานแต่งครั้งนี้ ทำได้เพียงยกเลิก เพราะเหตุนี้จะทำให้ตระกูลหลี่เห็นหยางเฉินและราชวงศ์ซ่านกวนเป็นศัตรูกัน
กษัตริย์ซ่านกวนทำขนาดนี้ คือผูกหยางเฉินกับราชวงศ์ซ่านกวนเอาไว้ด้วยกันถึงที่สุด
“นาย วิถีบู๊ของนายฟื้นคืนแล้ว?”
ซ่านกวนจื่อฉินจ้องหยางเฉินอยู่ตั้งนาน ถึงถามแบบหวาดผวาสับสน
คนอื่นๆ ก็มองทางหยางเฉินด้วยท่าทางสับสนเหมือนกัน แต่หยางเฉินไม่ได้ตอบคำถามข้อนี้ กลับถือโอกาสผลักทีหนึ่ง ซ่านกวนจื่อฉินโซซัดโซเซถอยหลังไปหลายก้าวถึงหยุดตัวเองได้
คนในนั้นต่างรู้ชัด ซ่านกวนจื่อฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลาง ปัจจุบันนี้ถูกหยางเฉินขวางต้านฝ่ามือหนึ่งอย่างง่ายดาย และแค่ผลักอย่างสบายๆ ก็ผลักซ่านกวนจื่อฉินออกได้ นี่พอจะอธิบายได้แล้วว่า วิถีบู๊ของหยางเฉิน ไม่ได้ถูกทำลาย
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ซ่านกวนโหรวก็คือผู้หญิงของหยางเฉิน ถ้าใครกล้าคิดสกปรกกับเธอ งั้นก็เป็นศัตรูกับฉัน!” สายตาหยางเฉินเยือกเย็น พูดจาเสียงเย็นชา
มองหยางเฉินที่ยืนอยู่ด้านหน้าตนเอง ในใจซ่านกวนโหรวเต็มไปด้วยความอบอุ่น ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าหยางเฉินเพียงเพื่อมอบอิสรภาพให้เธอ ถึงจงใจพูดขนาดนี้ ถึงเป็นคำพูดหลอกลวงประโยคหนึ่ง ก็ทำให้เธอดีใจอย่างมาก ดวงตาแดงก่ำแล้ว
คนของตระกูลหลี่ แต่ละคนสีหน้าดูแย่ไร้ที่เปรียบ โดยเฉพาะหลี่เป่าจุ้น กุมหมัดทั้งสองขึ้นมาแน่น ดวงตาที่อึมครึมคู่นั้น จ้องหยางเฉินไม่กะพริบ กัดฟันพูดว่า “หยางเฉิน หล่อนเป็นคู่หมั้นของฉัน! ต่อให้มีความสัมพันธ์กับแกแล้ว แล้วจะอย่างไร?”
“เหมือนที่ซ่านกวนโหรวพูดเองนั่นแหละ ผู้หญิงที่ฉันเคยเล่นด้วย มีตั้งหลายสิบคน หล่อนก็แค่นอนกับผู้ชายคนเดียวเท่านั้น ฉันยังรับได้”
ฟังคำพูดของหลี่เป่าจุ้นแล้ว ชั่วขณะหนึ่งผู้อาวุโสตระกูลหลี่สีหน้าเปลี่ยนไปมาก รีบตะโกนบอก “หุบปาก!”
ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ไปเมืองราชวงศ์เย่ด้วยกันกับหยางเฉิน เขาเห็นมองกับตาตนเอง หยางเฉินสู้รบกับผู้รักษากฎของราชวงศ์เย่นานขนาดนั้น ถึงแม้สุดท้ายพ่ายแพ้แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่ตระกูลหลี่จะเผชิญหน้าได้
หลังตวาดใส่หลี่เป่าจุ้น เขารีบมองทางหยางเฉินก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อองค์หญิงโหรวกลายเป็นผู้หญิงของคุณหยางแล้ว งั้นพวกเราย่อมไม่กล้าคิดอะไรกับองค์หญิงโหรวอีกครับ”
หยางเฉินมองเขานิ่งๆ ทีหนึ่ง จากนั้นมองทางหลี่เป่าจุ้นที่ทำหน้าไม่ยินยอมบอกว่า “ไสหัวกลับไปบอกหลี่จ้ง ซ่านกวนโหรวเป็นผู้หญิงของฉัน ถ้าตระกูลหลี่ทนรับความลำบากนี้ไม่ไหว ให้มาลงที่ฉันทั้งหมด เพียงแต่ ดีที่สุดพวกนายคิดให้ดี ฉันให้โอกาสพวกนายได้ แต่ว่า มีครั้งที่หนึ่งครั้งที่สองไม่มีครั้งที่สาม!”
หลี่เป่าจุ้นกุมหมัดทั้งสองแน่น พูดแบบกัดฟันว่า “หล่อนเป็นคู่หมั้นของฉัน ต่อให้ไม่รักฉัน ก็จำเป็นต้องแต่งงานกับฉัน!”
“แกหุบปากเดี๋ยวนี้!”
ชั่วขณะนั้นผู้อาวุโสตระกูลหลี่ใกล้จะเป็นบ้าแล้ว หลี่เป่าจุ้นยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่า นี่ไม่ใช่กำลังวอนหาที่ตายเหรอ?
หลี่เป่าจุ้นพูดอย่างโมโห “ความไม่เป็นธรรมนี้ พวกคุณสามารถรับไหว แต่ผมรับไม่ไหว! นังแพศยาคนนี้ ไม่ชอบผม ไม่แต่งก็ได้ ในเมื่อรับปากจะแต่ง งั้นก็คือผู้หญิงของผม นึกไม่ถึงหล่อนนอนกับผู้ชายคนอื่นแล้ว ผมจะให้หล่อนชดใช้อย่างสาสม!”
“ป้าบ!”
ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ตบบนหน้าของหลี่เป่าจุ้นทีหนึ่ง ตวาดใส่ “แกกล้าไม่เคารพต่อองค์หญิงโหรว ฉันจะตีแกให้ขาหักแทนพ่อแกก่อนเลย!”
หลี่เป่าจุ้นเช็ดรอยเลือดบนปากแล้ว ท่าทางบ้าคลั่ง หัวเราะฮาๆ พูดว่า “พวกคุณคิดว่าหยางเฉินฟื้นฟูวิถีบู๊กลับมาแล้วจริงเหรอ? ครั้งก่อนเขาเจ็บหนักขนาดนั้น การฝึกฝนวิถีบู๊จะฟื้นกลับมาได้อย่างไร?”
“ให้ผมพูด เมื่อกี้ที่เขาลงมือกับซ่านกวนจื่อฉิน ความจริงราชวงศ์ซ่านกวนให้ความร่วมมือแสดงละครกับเขาฉากหนึ่ง”
“หยางเฉิน ถ้าแกเป็นลูกผู้ชาย งั้นก็ไสหัวออกมา รับคำท้าของฉัน!”
พูดแบบนี้ออกมา ทั้งหมดตื่นตกใจ!
หลังจากซ่านกวนจื่อฉินอึ้งทึ่งครู่หนึ่ง พูดอย่างอับอายและโกรธเคือง “หลี่เป่าจุ้น แกอย่ามาพูดใส่ร้ายป้ายสี ฉันไม่ได้ให้ความร่วมมือเขาแสดงละคร”
หลี่เป่าจุ้นเยาะเย้ย “ทำไม่ทำ คุณรู้ตัวเองดี”
พูดจบ เขาจ้องหยางเฉินแบบดวงตาไม่กะพริบพูดว่า “ฉันอยากท้าแก แกกล้ารับไหม?”
หลี่เป่าจุ้นเดิมคือผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้น ที่ตระกูลหลี่ ถือว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก ปัจจุบันนี้กลับอยากท้าทายหยางเฉิน
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนต่างตกอยู่บนตัวหยางเฉินกันหมด ในใจผู้คนมากมายมีความสงสัย โดยเฉพาะครั้งก่อนหยางเฉินไปเมืองราชวงศ์เย่ ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเหลือเกิน ยังสลบไปหลายวันด้วย
แม้กระทั่งยังถูกตระกูลหลี่กักบริเวณเอาไว้ ผู้คนมากมายต่างสงสัยว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินเสียหายแล้ว ดังนั้นเขาถึงไม่กล้าบุ่มบ่าม
ไม่เพียงคนของตระกูลหลี่ที่คิดแบบนี้ คนของราชวงศ์ซ่านกวน ก็คิดแบบนี้เช่นกัน
ในสายตาซ่านกวนโหรวมีความกังวลเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง แม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่า หยางเฉินฟื้นวิถีบู๊กลับคืนจริงหรือยัง
“ที่นี่คือราชวงศ์ จะยอมให้พวกนายมากำเริบเสิบสานที่นี่ได้หรือไง?”
ทันใดนั้นซ่านกวนโหรวเดินเข้ามาด้านหน้า ลักษณะพลังวิถีบู๊ของแดนเทพชั้นกลาง กระจายออกจากบนตัวเธอ เหมือนว่าขอเพียงตระกูลหลี่กล้าลงมือ เธอก็จะลงมือต่อคนของตระกูลหลี่
เวลานี้หลี่เป่าจุ้นแทบจะสติฟั่นเฟือน ดวงตาที่อึมครึม จ้องหยางเฉินไม่กะพริบพูดว่า “ถ้าแกเป็นลูกผู้ชาย ก็อย่าหลบด้านหลังผู้หญิง ไสหัวออกมารับคำท้าของฉัน!”
ซ่านกวนโหรวกำลังอยากจะพูดจา ก็ถูกหยางเฉินขัดจังหวะ “ยังเป็นพวกไม่รู้จักกลัวอะไรจริงๆ นะ ต่อให้หลี่จ้งทวดของแกมาอยู่ต่อหน้าฉัน ก็ยังไม่กล้าพูดอยากท้าสู้ฉันเลย ในเมื่อแกอยากหาที่ตาย งั้นฉันจะช่วยสงเคราะห์แกเอง!”
ระหว่างพูดจา เขาก็เดินมาถึงที่ว่างกลางโถงใหญ่ มองทางหลี่เป่าจุ้นด้วยท่าทางทระนงองอาจ