The king of War - บทที่ 1509 หยางเฉินถูกเปิดเผย
ซ่านกวนฟู่ในเวลานี้ ทั่วตัวล้วนเป็นความอาฆาตแค้น หลังกษัตริย์ซ่านกวนอึ้งทึ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ถึงดึงสติกลับ รีบบอกว่า “ไม่ได้ครับ”
“ทำไมไม่ได้?”
ซ่านกวนฟู่ถามด้วยเสียงเย็นชา
กษัตริย์ซ่านกวนรีบบอกว่า “เรื่องพวกนี้เป็นแค่การคาดเดาของพวกเราเท่านั้น วิถีบู๊เขาเสียหายหมดถึงที่สุดจริงหรือไม่ ยังไม่มีทางแน่ใจได้ครับ”
“ถ้าวิถีบู๊ของหยางเฉินไม่ได้ถูกทำลายล่ะ? ถ้าเกิดพวกเราอยากฆ่าเขา ขอเพียงเขาต่อต้าน ต่อให้เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสด็จอา แต่ก็ต้องสร้างความเสียหายมหาศาลให้แก่ราชวงศ์แน่ครับ”
ชั่วขณะหนึ่งซ่านกวนฟู่เงียบงัน ที่กษัตริย์ซ่านกวนพูดมาไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ถ้าหยางเฉินไม่ได้ถูกทำลาย ถ้าหากราชวงศ์ไปฆ่าเขา ถ้าฆ่าเขาได้ก็แล้วไป แต่ถ้าฆ่าไม่ได้ จนทำให้เขาหนีออกจากราชวงศ์ไปได้ล่ะ?
กษัตริย์ซ่านกวนไม่กล้าเสี่ยง ซ่านกวนฟู่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเหมือนกัน โดยเฉพาะนี่คือการสืบทอดระยะพันปีของราชวงศ์ ถ้าโดนพังทลาย พวกเขาไม่มีทางแบกรับผลสุดท้ายได้
“สำหรับพวกเรานั้น ความลำบากใหญ่สุดตอนนี้ คือไม่มีทางยืนยันว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายหรือเปล่ากันแน่ ถ้ายืนยันได้ ความยุ่งยากทุกอย่างก็แก้ตกไปได้อย่างง่ายดาย”
เวลานี้กษัตริย์ซ่านกวนเอ่ยปากพูดอีก ในสายตาเต็มไปด้วยแสงสว่างอันฉลาด พูดต่อไปว่า “พวกเราอยากจะลองเชิง คงยากมาก ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราลองกระตุ้นสักครั้ง คิดหาวิธีทำให้ตระกูลหลี่มาลองเชิง”
ซ่านกวนฟู่รีบมองทางกษัตริย์ซ่านกวนทันที ถามว่า “นายมีแผนแล้ว?”
กษัตริย์ซ่านกวนพยักหน้า “เสด็จอา ท่านรอดูเรื่องสนุกดีกว่าครับ!”
ในขณะเดียวกัน ตระกูลหลี่
ศพของหลี่เป่าจุ้น ถูกวางไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลหลี่ หลี่จ้งนั่งอยู่บนตำแหน่งผู้นำ ตำแหน่งต่ำกว่าล้วนเป็นญาติสายตรงของตระกูลหลี่ เวลานี้บนหน้าแต่ละคน ล้วนเป็นแววตาแห่งความโกรธแค้น
“คุณปู่ครับ หยางเฉินไม่เพียงนอนกับซ่านกวนโหรว ยังฆ่าหลี่เป่าจุ้นลูกชายผมอีก นี่คือยั่วยุพวกเราตระกูลหลี่เสียจริงนะครับ คุณปู่ ผมขอร้องท่านส่งกำลังไปราชวงศ์ซ่านกวน ฆ่าหยางเฉิน ล้างแค้นนี้ครับ!”
บิดาของหลี่เป่าจุ้น พูดจาแบบหน้าตาดุร้ายเต็มที่
เจ็บปวดที่สูญเสียลูกอันเป็นที่รัก แค่คิดก็รู้ว่า เขาในเวลานี้ โกรธเคืองมากแค่ไหน
หลี่จ้งไม่ได้พูดจา สีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว แรงอาฆาตทั้งตัวกำลังพรั่งพรู เขานึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าหยางเฉินจะฟื้นวิถีบู๊กลับคืนได้แล้วจริงๆ
หลี่เจียงสงสีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว มองทางหลี่จ้งพลันบอกว่า “ท่านพ่อ หยางเฉินรังแกคนเกินเหตุ คาดไม่ถึงฆ่าลูกหลานตระกูลหลี่ต่อหน้าสาธารณชน ถ้าเรื่องนี้ไม่ให้เขาชดใช้คืน พวกเราตระกูลหลี่จะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวนเอานะครับ”
หลี่จ้งยังคงเงียบงันไม่พูด เวลานี้ เขานึกถึงหลี่ไท่ไป๋ที่หายไปจากราชวงศ์เรื่องนี้ขึ้นมา เดิมทีเขายังคาดเดาอยู่ สรุปเป็นราชวงศ์ซ่านกวนควบคุมหลี่ไท่ไป๋ไว้ หรือว่าหยางเฉินฆ่าหลี่ไท่ไป๋แล้ว ตอนนี้ดูแล้ว เป็นหยางเฉินฆ่าหลี่ไท่ไป๋ไปเรียบร้อย
ถ้าพูดมาขนาดนี้ หยางเฉินในปัจจุบัน คงฟื้นการฝึกฝนวิถีบู๊กลับมาแล้ว มิฉะนั้นจะฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพของตระกูลหลี่ได้อย่างไร?
เงียบงันตั้งนาน หลี่จ้งกัดฟันพูดว่า “ให้เขาชดใช้คืน? พวกแกบอกฉันมา ให้เขาชดใช้คืนอย่างไร? เขาฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพทิ้งได้ พอจะอธิบายได้แล้วว่า เขาในตอนนี้ ฟื้นการฝึกฝนวิถีบู๊กลับมาแล้ว ตระกูลหลี่จะมีใครฆ่าเขาทิ้งได้กัน?”
หลี่จ้งมีแผนสำรองไว้จริง แต่ว่ากลับไม่มีทางรับมือหยางเฉินไหว หยางเฉินแกร่งแค่ไหน เขาเห็นมากับตาตนเอง แม้แต่ผู้พิทักษ์ของราชวงศ์เย่ ยังใช้กำลังมหาศาล ถึงโจมตีหยางเฉินแพ้ได้
ด้วยความสามารถในปัจจุบันนี้ของตระกูลหลี่ อยากจะฆ่าหยางเฉิน เดิมทีไม่มีความหวัง
สิ่งสำคัญที่สุดคือ แผนสำรองที่เขาเตรียมไว้ เพื่อแผนการที่ใหญ่ยิ่งกว่า และไม่ใช่เอามาสิ้นเปลืองในการจัดการหยางเฉิน
ต่อให้เขาเตรียมการอย่างครอบคลุม สามารถฆ่าหยางเฉินตายได้ งั้นความสามารถแท้จริงของตระกูลหลี่ ก็จะเปิดเผยถึงที่สุด ถึงตอนนั้นอยากวางแผนอีก คงยากมากๆ
สามารถพูดได้ว่า ในความคิดเขานั้น ตอนนี้ปัจจัยผันแปรใหญ่ที่สุดก็คือหยางเฉิน ถ้าไม่มีหยางเฉิน บางทีเขาคงเริ่มปฏิบัติแผนการของเขาแล้ว
“เหล่าจู่ครับ ผมมีเรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดดี”
ในเวลานี้เอง ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ที่ก่อนหน้านี้พาหลี่เป่าจุ้นไปรับเจ้าสาวที่ราชวงศ์ซ่านกวน เอ่ยปากพูดขึ้นกะทันหัน
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนต่างตกอยู่บนตัวของผู้อาวุโสตระกูลหลี่ หลี่จ้งพูดเสียงเย็นยะเยือก “พูดมา!”
ผู้อาวุโสตระกูลหลี่รีบบอกว่า “ผมนึกย้อนอย่างละเอียดดูหน่อย ตอนที่หยางเฉินฆ่าเป่าจุ้น คือฆ่าตายในเสี้ยววินาที แต่ว่าจากบนตัวเขา ไม่มีกลิ่นอายวิถีบู๊ใดๆ ปล่อยออกมาเลยครับ”
“ว่าตามเหตุผล ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งความสามารถแกร่งแค่ไหน ตอนที่โจมตี จะมีกลิ่นอายวิถีบู๊ปล่อยออก นอกจากว่าแดนวิถีบู๊แตกต่างกันมากเกินไป แต่ว่าผมก็เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ ต่อให้หยางเฉินแกร่งแค่ไหน อย่างมากคือความสามารถแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม ความต่างในขั้นแบบนี้ ผมน่าจะสัมผัสถึงกลิ่นอายวิถีบู๊บนตัวเขาที่กำลังกระเพื่อมอยู่ถึงจะถูกสิครับ แต่ว่าผมกลับไม่ได้สัมผัสถึงเลย”
“โดยเฉพาะ หยางเฉินยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับมาตลอด จนกระทั่งตอนที่เป่าจุ้นพุ่งถึงด้านหน้าเขา เขาถึงลงมือฉับพลัน นั่นคือโจมตีหมัดหนึ่งออกมาโดยตรงสุด จากนั้นเป่าจุ้นก็ตายอนาถอยู่ในมือของเขาครับ”
“ผมสงสัยว่า หยางเฉินไม่ได้ฟื้นแดนวิถีบู๊กลับมา แต่ว่ารักษาร่างกายและกำลังของแดนเหนือมนุษย์เอาไว้ ดังนั้นเขาถึงไม่ยอมลงมือมาตลอด โดยเฉพาะพอลงมือ จะใช้แรงโหดเหี้ยมโจมตีโดยตรงครับ”
พูดเรื่องพวกนี้ออกมา ทุกคนต่างตกใจหมด
หลี่จ้งมีความรู้สึกเข้าใจบางอย่างขึ้นทันใด รีบถามว่า “นายแน่ใจเหรอ?”
ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ตอบทันที “ที่ผมพูดมาล้วนจริงแท้แน่นอนครับ สำหรับแดนวิถีบู๊ของหยางเฉินถูกทำลายจริงหรือไม่ เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผมเท่านั้นครับ”
หลี่เจียงสงรีบบอกว่า “ท่านพ่อครับ ผมคิดว่า หยางเฉินอาจจะไม่ได้ฟื้นแดนวิถีบู๊กลับมาจริงนะครับ เพียงแค่ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไร รักษาร่างกายของแดนเหนือมนุษย์ไว้ได้”
“พูดขนาดนี้ อธิบายทุกอย่างได้กระจ่างแล้ว ด้วยนิสัยของเขา ถ้าพวกเราตระกูลหลี่กล้าทรยศเขา เขาคงจัดการพวกเราด้วยตัวเองตั้งแต่แรก แต่ว่าเขากลับไม่ได้ทำ แม้กระทั่งยินยอมพร้อมใจโดนพวกเรากักบริเวณตั้งหลายวัน”
“เดิมที ผมยังคิดว่า หยางเฉินกำลังลองเชิงพวกเรา ตอนนี้ดูแล้ว คงไม่ใช่ เป็นเพราะเขาไม่มีทางฟื้นวิถีบู๊กลับคืนได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าบุ่มบ่าม ดังนั้นถึงถูกพวกเรากักบริเวณไว้หลายวัน”
“สิ่งที่เขากลัวอย่างแท้จริง คือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ ในเมื่อเขาฆ่าหลี่ไท่ไป๋แดนเทพชั้นยอดได้ งั้นก็อธิบายได้ว่า ตอนนี้เขาน่าจะสังหารผู้แข็งแกร่งต่ำกว่าแดนเหนือมนุษย์ได้”
หลี่จ้งไม่ได้พูดจา แต่ว่าบนใบหน้า กลับเต็มไปด้วยการดิ้นรน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตระกูลหลี่ เขาไม่กล้าไปเสี่ยงง่ายๆ
แต่ถ้าอยากยืนอยู่ด้านที่เป็นปฏิปักษ์ต่อหยางเฉินจริง อย่างนั้นตอนนี้ ก็คือโอกาสเหมาะที่สุดในการฆ่าหยางเฉิน
เพราะตอนนี้ เป็นไปได้มากว่าวิถีบู๊ของหยางเฉินเสียหายจริง แต่ว่าเขายังครอบครองร่างกายของแดนเหนือมนุษย์ ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่ง จะฟื้นวิถีบู๊กลับคืน
ถ้าหากหยางเฉินฟื้นการฝึกฝนวิถีบู๊กลับคืนได้อีก กลัวว่าเขาคงไม่ปล่อยตระกูลหลี่ไป
ตอนที่หลี่จ้งกำลังสองจิตสองใจ คนใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาทันใด คุกเข่าต่อหน้าหลี่จ้งพูดว่า “เหล่าจู่ครับ คนของราชวงศ์มาแล้วครับ บอกว่ามีธุระสำคัญอยากพูดกับเหล่าจู่ครับ เรื่องนี่เกี่ยวข้องกับการจัดการหยางเฉินครับ”
หลี่จ้งขมวดคิ้วแล้ว จากนั้นพูดว่า “ให้เขาเข้ามา!”