The king of War - บทที่ 1551 ฝ่าบาทหญิงของราชวงศ์
พลังวิถีบู๊ในตัวของกษัตริย์ซ่านกวนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเขาก็ค่อยๆ พองตัวขึ้นราวกับบอลลูน
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่บิดเบี้ยว เห็นได้ชัดว่า หลังจากทานยาแดนเหนือมนุษย์แล้ว ร่างกายของเขาได้รับความเจ็บปวดอย่างไม่ใช่คน
เห็นเพียงดวงตาทั้งของเขามีเลือดแดงก่ำ และรัศมีที่รุนแรง ระเบิดออกมาจากร่างของเขา
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ถอนหายใจ ระงับพลังวิถีบู๊ในร่างกายไว้ และพูดด้วยสีหน้าที่สงบ “ฝ่าบาทรุ่นหนึ่ง สุดท้ายถึงกับใช้วิธีที่น่าเศร้าแบบนี้จบชีวิตลง เป็นการประชดครั้งใหญ่จริงๆ!”
“ตู้ม!”
ทันทีที่พูดจบ หลังจากเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างกายของกษัตริษ์ซ่านกวนก็หายวาบไปจากจุดเดิม
“ฝ่าบาท!”
ผู้คนในราชวงศ์ซ่างกวน เห็นด้วยตาตัวเอง กษัตริษ์ซ่านกวนเสียชีวิตเพราะเขาไม่สามารถทนและต้านพลังของยาแดนเหนือมนุษย์นี้ หลังจากสิ้นพระชนม์ ต่างก็เศร้าโศกเสียใจ
“ท่านปู่!”
ซ่างกวนโหรวตกตะลึง เมื่อมองดูร่างชราที่หายไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งร่างอ่อนแรง ทรุดตัวลงกับพื้น
ท่านปู่ที่เคยรักตัวเองที่สุดคนนั้น หายตัววาบไปแบบนี้แล้วเหรอ?
คนอื่นๆก็ตกตะลึงเช่นกัน เมื่อกี้ยังมีชีวิตอยู่ดีๆ หายไปง่ายดายแบบนี้เหรอ?
กลางอากาศยังกระจายกลิ่นไอเลือดที่แรงมาก
สีหน้าของหยางเฉินนั้นซับซ้อนมาก แทบคิดไม่ถึงว่าจุดจบของกษัตริษ์ซ่านกวน จะเป็นแบบนี้
“ซ่างกวนโหรว ก็เพราะเธอ!”
ทันใดนั้น เสียงโมโหโกรธก็ดังขึ้น และซ่านกวนจื่อจื้อกล่าวด้วยท่าทางดุร้าย “เป็นเพราะผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอที่ชักศึกเข้าบ้าน เสด็จพ่อก็คงไม่ถูกบีบบังคับจนถึงขั้นนี้?”
“เป็นเพราะผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ ที่ทำให้เสด็จพ่อต้องตาย!”
ซ่านกวนโหรวมองไปที่ซ่านกวนจื่อจื้อด้วยสีหน้าเหม่อลอย การตายของกษัตริย์ซ่านกวน เธอก็เสียใจอย่างมาก แต่ตอนนี้ ซ่านกวนจื่อจื้อปกลับพูดว่า เธอเป็นคนทำให้กษัตริย์ซ่านกวนต้องตาย ซึ่งทำให้เธอยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น
ซ่านกวนจื่อโม่กลอกตาและตะโกนรีบพูดขึ้นทันที”ซ่านกวนจื่อจื้อ ฉันบอกให้นายหุบปาก! การตายของเสด็จพ่อเป็นความผิดของเขาเอง เกี่ยวอะไรกับโหรวเอ๋อร์?”
ใครก็คิดไม่ถึงว่าซ่านกวนจื่อโม่ผู้ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกันกับซ่านกวนจื่อจื้อมาโดยตลอด ถึงกับพูดแทนซ่างกวน โหรว
หลังจากตำหนิซ่านกวนจื่อจื้อ เขาก็รีบหันไปพูดกับซ่านกวนโหรว “โหรวเอ๋อร์ เธออย่าคิดมากเด็ดขาด การตายของท่านปู่ เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น เป็นเพราะเขาจริงจังกับอำนาจมากเกินไป ดันนั้นจึงไม่คำนึงถึงสิ่งใด พยายามที่จะใช้ยาแดนเหนือมนุษย์ สุดท้ายความแข็งแกร่งของเขาไม่เพียงพอ กลับทำร้ายตัวเองจนตาย”
ซ่านกวนจื่อจื้อยิ้มอย่างเย็นชา มองไปที่ซ่านกวนจื่อโม่ด้วยท่าทีที่เยาะเย้ยและพูดว่า “ซ่านกวนจื่อโม่ เสด็จพ่อพึ่งเสียชีวิต คุณก็รอไม่ไหวที่จะเอียงไปหาซ่านกวนโหรวแล้วเหรอ?คุณลืมไปแล้วเหรอ? เป็นเพราะคุณให้ท้ายผมแย่งชิงราชบัลลังก์ราชวงศ์กับซ่านกวนโหรว?”
ทันใดนั้นสีหน้าของซ่านกวนจื่อโม่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบพูดอย่างโกรธเคืองว่า“ซ่านกวนจื่อจื้อ อย่าพูดเหลวไหล เป็นเพราะคุณที่คิดว่าคุณเป็นทายาทที่เหมาะสมที่สุดในการขึ้นครองราชบัลลังก์ เมื่อเห็นเสด็จพ่อรักโหรวเออร์ ดังนั้นคุณจึงแค้นเคือง และเป็นศัตรูกับโหรวเอ๋อร์ทุกวิถีทาง เกี่ยวอะไรกับฉัน?
“พอแล้ว!”
ในขณะนั้นซ่านกวนโหรวก็คำราม สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและเศร้าโศก เธอจ้องไปที่ซ่านกวนจื่อจื้อและซ่านกวนจื่อโม่ แล้วพูดด้วยน้ำตาเต็มเบ้า “ฉันไม่เคยโลภอยากได้ราชบัลลังก์ แต่ฉันเข้าใจตั้งแต่เด็กว่า ในฐานะที่เป็นสตรีของราชวงศ์ สุดท้ายก็มีเพียงชะตากรรมของการแต่งงาน ดังนั้นฉันจึงฝึกฝนอย่างหนัก และทำให้ตัวเองดีขึ้น แค่อยากใช้ความเป็นเลิศของตัวเองเพื่อแลกกับอิสรภาพ แต่ไม่ใช่เพราะโลภอยากได้ราชบัลลังก์”
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกคุณยังคิดที่จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจอีกหรือ?”
ซ่างกวนโหรวมีอารมณ์รุนแรง และหลังจากเสียงคำราม ทำให้ทุกคนตกตะลึง
ดวงตาทั้งคู่ของซ่านกวนจื่อจื้อแดงก่ำ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย เขาจ้องไปที่ซ่างกวนโหรว จากสายตาของเขา หยางเฉินได้เห็นเจตนาฆ่าที่แฝงอยู่
ถ้าให้โอกาสเขา เขาจะไม่มีความเมตตาต่อซ่างกวนโหรวอย่างแน่นอน
แต่นี่เป็นเรื่องของราชวงศ์ซ่านกวน หยางเฉินไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ถ้าหากซ่างกวนโหรวต้องการสืบทอดราชบัลลังก์แน่นอนเขาต้องช่วยอยู่แล้ว ถ้าหากซ่างกวนโหรวไม่เต็มใจ เขาก็จะไม่บังคับ
“โหรวเอ๋อร์ เมื่อตอนเสด็จพ่อยังอยู่ เธอก็ถูกแต่งตั้งเป็นทายาทสืบราชบัลลังก์แล้ว ตอนนี้เสด็จพ่อสิ้นพระชนม์แล้ว ถ้างั้นราชบัลลังก์ เธอก็ควรเป็นผู้สืบทอด”
หลังจากที่ซ่านกวนจื่อโม่เงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็รีบพูดขึ้น
ถ้าหากไม่ใช่ก่อนหน้านี้เคยเห็นธาตุแท้ของเขา แม้แต่หยางเฉินก็คงถูกการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเขาหลอกได้ คนที่ไม่รู้ อาจคิดว่าซ่านกวนจื่อโม่ถึงจะเป็นคนที่สนับสนุนซ่านกวนโหรวในการสืบทอดราชบัลลังก์คนนั้น
ซ่างกวนโหรวชักสีหน้าลงทันที และเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “อาสอง คุณฟังไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง? ฉันพูดว่า ฉันไม่เคยโลภที่จะครองราชบัลลังก์ แม้ว่าเสด็จปู่จะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ฉันก็จะไม่สืบทอดราชบัลลังก์”
ได้ยินเช่นนี้ ซ่านกวนจื่อโม่ก็สะดุ้งตกใจและรีบพูดขึ้นว่า “โหรวเอ๋อร์อย่าโมโห ฉันก็ทำเพื่อราชวงศ์ ดังนั้นฉันจึงให้เธอรีบสืบทอดราชบัลลังก์โดยเร็วที่สุด จะขาดผู้นำไม่ได้ ! ตอนนี้ทั้งราชวงศ์ซ่างกวน ก็มีเพียงเธอเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ที่สุด”
“ราชบัลลังก์เป็นของฉัน ใครก็อย่าคิดแย่งไปจากฉัน!”
ทันทีที่ซ่านกวนจื่อโม่พูดจบ ซ่านกวนจื่อจื้อก็ตะโกนอย่างโกรธจัด เพื่อได้ราชบัลลังก์ เขารอมานานเกินไปแล้ว
“ก่อนเสด็จพ่อจะสวรรคต ก็มีประกาศแล้วว่า ให้ฉันเป็นทายาทสืบทอดราชวงศ์ซ่างกวน และกล่าวไว้ชัดเจนว่า จะรับผิดชอบจัดพิธีสืบราชสันติวงศ์ ทุกคนในราชวงศ์ซ่างกวนก็รู้ดี ตอนนี้เสด็จพ่อสิ้นพระชนม์แล้วข้าพเจ้า หรือว่าฉันไม่ควรเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ?”
ซ่านกวนจื่อจื้อกวาดสายตาไปทั่ว และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หรือว่า พวกคุณต้องการขัดต่อพระราชประสงค์ของอดีตฝ่าบาทเหรอ? อย่าลืม ในราชวงศ์ของฉัน ผู้ที่คัดค้านอดีตฝ่าบาท คือโทษประหารชีวิต !”
พอพูดเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาอีก
ตาของซ่างกวนโหรวเต็มไปด้วยความผิดหวัง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า กษัตริย์ซ่านกวนพึ่งถึงแก่กรรม ก็มีคนกระโดดออกมาเพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ซ่านกวนจื่อจื้อต้องการสืบทอดราชบัลลังก์ เธอจะไม่มีวันขัดขวาง แต่ตอนนี้ เธอได้รู้ชัดเจนแล้วว่าซ่านกวนจื่อจื้อเป็นคนยังไง แล้วจะปล่อยให้เขาสืบทอดราชบัลลังก์อย่างราบรื่นได้อย่างไร?
ซ่างกวนโหรวกล่าวว่า “แล้วถ้าฉันไม่ยินยอมล่ะ?”
เสียงของเธอเย็นชาถึงขีดสุด ทั้งร่างราวกับน้ำแข็งลึกลับอายุพันปี เย็นยะเยือกจนคนไม่สามารถเข้าใกล้ได้
ซ่านกวนจื่อจื้อจ้องมองซ่างกวนโหรวด้วยดวงตาแดงก่ำ กัดฟันและพูดว่า “เธอจงใจที่ขัดต่อพระประสงค์ของอดีตฝ่าบาทเหรอ?”
ซ่างกวนโหรวพูดอย่างเย็นชา“ถ้าคุณต้องการอยากจะพูดเช่นนี้ ก็ไม่เป็นไร ฉันไม่เห็นด้วย คุณสามารถสืบทอดราชบัลลังก์ได้เหรอ?”
ซ่างกวนโหรวในเวลานี้ เป็นเหมือนราชินีระดับสูง ด้วยท่าทางประมาณว่าใครไม่เกี่ยวอย่าเข้ามา
ในเวลาเดียวกัน ออร่าของพลังวิถีบู๊ที่น่าสะพรึงกลัวค่อยๆ กระจายออกจากร่างกายของเธอ
“แดนเทพชั้นยอด!”
มีซ่านกวนผู้แข็งแกร่งบางคนรู้สึกถึงกลิ่นอายของพลังวิถีบู๊ที่น่าสะพรึงกลัว กระจายออกจากร่างกายของซ่างกวนโหรว ทันใดนั้นแสดงสีหน้าออกด้วยความตกใจทันที
ซ่านกวนจื่อจื้อก็ตกตะลึงเช่นกัน “นี่เป็นไปได้ยังไง?”
เมื่อไม่นานมานี้ ซ่างกวนโหรวเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นกลาง นี่พึ่งจะผ่านแดนเทพชั้นกลางไม่นาน? ในเวลาอั้นสั้น แดนวิถีบู๊ก็สามารถเข้าสู่แดนเทพชั้นยอดแล้วเหรอ?