The king of War - บทที่ 1587 ปลดจากตำแหน่งทายาท
บทที่ 1587 ปลดจากตำแหน่งทายาท
ต่อจากนี้ไปอีกสองวัน เฝิงเจียหยีก็ยังไม่ไปไหน ยังคงติดตามหยางเฉินตลอดเวลา ไม่ว่าหยางเฉินจะจงใจทำให้เธอลำบากใจแค่ไหน เฝิงเจียหยีก็ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร หยางเฉินให้เธอทำอะไร เธอก็ทำตามทุกอย่าง
แน่นอน ในช่วงเวลาสองวันนี้ หยางเฉินก็ไม่เคยหยุดตามหาที่อยู่ของอ้ายหลินและคนอื่นๆ เฝิงเจียหยีก็อาศัยความสัมพันธ์ของตัวเอง พยายามช่วยหยางเฉินตามหาเต็มที่ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
เรื่องนี้ทำให้หยางเฉินเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น พูดตามหลักแล้ว เฝิงจื้อหย่วนเป็นคนที่ซ่อนตัวอ้ายหลินและคนอื่นๆไว้ เฝิงจื้อหย่วนก็ไม่ได้ต้องการที่จะจับตัวอ้ายหลินจริงๆ เพียงเพื่อให้หม่าชาวยอมรับตัวตนของตัวเอง เพื่อดึงดูดไป๋หลี่เยี่ยน
อีกทั้งเฝิงจื้อหย่วนก็ยังเคยบอกกับหยางเฉินเป็นการส่วนตัว อ้ายหลินและคนอื่นๆทุกคนปลอดภัยดี เนื่องจากเฝิงจื้อหย่วนได้วางแผนเตรียมพร้อมที่จะพลีชีพ คงรับประกันความปลอดภัยของอ้ายหลินและคนอื่นๆอย่างแน่นอน
เพียงแต่ ผ่านไปสองวันเต็มๆ ก็ยังไม่พบอ้ายหลินและคนอื่นๆ ราวกับว่าพวกเขาได้หายไปจากโลกนี้แล้ว
ในคืนที่สอง หยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากเฉียนเปียว “พี่หยาง ศึกชิงเจ้าแห่งราชาเยี่ยนตูเตรียมพร้อมแล้ว พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า จัดขึ้นที่จุดศูนย์กลางของสนามกีฬานานาชาติของเมืองเยี่ยนตู”
หยางเฉินตอบกลับ “ดี ถึงเวลานั้นผมจะปรากตัว!”
หลังจากวางสายแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วและมองไปที่เฝิงเจียหยีและพูดว่า “ผมตั้งใจว่าคืนนี้จะไปจากเมืองราชวงศ์เฝิง คุณคงไม่คิดจะติดตามผมไปจริงๆหรอกมั้ง?55
เฝิงเจียหยีพูดด้วยสีหน้าหนักแน่น “คุณรับปากเอง ให้ฉันเป็นคนรับใช้ของคุณ คงไม่ผิดคำสัญญานะ?”
หยางเฉินขมวดคิ้ว “เฝิงเจียหยี คุณอย่าทำเกินไปนัก เมื่อสองวันก่อนผมก็บอกคุณแล้ว แม้ว่าคุณจะติดตามผม ต่อไปไม่ว่าราชวงศ์เฝิงจะเผชิญกับวิกฤตใดๆ ผมก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว”
“แม้ว่าคุณจะเป็นคนรับใช้ของผม ก็เสียแรงเปล่า คุณแน่ใจหรือว่าต้องการจะติดตามผมจริงๆ?”
เฝิงเจียหยีกัดริมฝีปากสีแดงไว้แน่น และมองไปที่หยางเฉินอย่างดื้อรั้น ในใจเธอเต็มไปด้วยความคับข้องใจ เธอเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ที่สง่างามของราชวงศ์เฝิง ตอนนี้เธอเสนอตัวถึงที่ หยางเฉินไม่สนใจก็ไม่ว่า แม้แต่เป็นคนรับใช้ของหยางเฉิน หยางเฉินก็ยังรู้สึกรังเกียจขนาดนี้
สีหน้าของหยางเฉินหนักแน่นมาก ไม่มีท่าทีที่จะสงสารหรือทะนุถนอมแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ว่าเขาเลือดเย็นหรือไร้ความรู้สึก แต่เขาเข้าใจชัดเจนเฝิงเจียหยีเข้าหาตัวเองเพราะมีจุดประสงค์
ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้ดีว่าเฝิงเจียหยีไม่ได้คิดร้ายกับเขา เขาคงจะขับไล่เธอไปนานแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สองวันที่ผ่านมา เฝิงเจียหยีได้พยายามช่วยหยางเฉินตามหาอ้ายหลินและทุกคนอย่างเต็มที่
แต่ว่าหยางเฉินตั้งใจจะไปจากที่นี่แล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้เขาไม่ต้องการพาเฝิงเจียหยีไปด้วย
ทั้งสองมองหน้ากันเป็นเวลานาน
ถ้าวันหน้าราชวงศ์เฝิงประสบวิกฤติจริงๆ แม้ว่าคุณจะไม่ยื่นมือช่วยเหลือ ก็ไม่เป็นไร”
เฝิงเจียหยี พูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ฉันต้องการติดตามและอยู่ข้างกายคุณจริงๆ
“หยางเฉิน
คุณอย่าขับไล่ฉันไปได้มั้ย? ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ แม้ว่าความแข็งแกร่งจะด้อยกว่าคุณมาก แต่ก็สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหาเล็กๆได้บ้าง
ไม่ใช่เหรอ?”
หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา “ถ้าผมต้องการหลอกใช้คุณที่เป็นองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์เฝิงเพื่อไปทำเรื่องต่างๆ คุณยังยินดีที่จะติดตามผมไหม?”
เฝิงเจียหยีชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นไม่นาน พูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า“ยินดี!”
“ได้ ในเมื่อคุณพูดถึงขนาดนี้แล้ว
เพียงแต่เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าให้คนนอกรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผม กษัตริย์เฝิงไม่พอใจคุณ คุณอย่าโทษผมนะ”
ถ้าผมยังจะขับไล่คุณไปอีก ก็คงจะแล้งน้ำใจเกินไปจริงๆ
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
เฝิงเจียหยีพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันจะไม่โทษคุณ!”
หยางเฉินเหลือบดูเวลา ขณะนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
นั่งเครื่องต้องใช้เวลาสามชั่วโมง เมื่อสองวันก่อน เขาก็ให้เฝิงเจียหยีซื้อตั๋วให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว
จากเมืองราชวงศ์เฝิงไปเมืองเยี่ยนตู
เป็นเที่ยวบินตอนตีหนึ่ง
เพียงแต่ขณะนี้มีปัญหายุ่งยากเรื่องหนึ่ง ตั้งแต่สองวันก่อนหม่าชาวก็อยู่ในอาการโคม่า
จนป่านนี้ก็ยังไม่ฟื้น
และตอนนี้หยางเฉินก็ต้องรีบกลับไปที่เมืองเยี่ยนตู สถานการณ์ของหม่าชาวตอนนี้ ซึ่งไม่เหมาะที่จะไปเมืองเยี่ยนตู
ในขณะที่หยางเฉินไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องของหม่าชาวยังไง
แค่พยักหน้าติดต่อกัน สีหน้าของเธอยังมีความสุขอยู่เล็กน้อย
โทรศัพท์ของเฝิงเจียหยี ก็ดังขึ้น หลังจากที่เธอรับสาย
หลังจากวางสาย เธอพูดด้วยความดีใจ
พ่อของฉันได้จัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สามารถพาพี่หม่าชาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ไปจากที่นี่พร้อมกันแล้ว”
“หยางเฉิน
หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเฝิงจื้อเอ้าจะจัดการเช่นนี้
เหตุผลที่เขาประหลาดใจมาก ก็เพราะเขาเพิ่งแตกหักกับกษัตริย์เฝิง
ถ้าให้กษัตริย์เฝิงรู้ เฝิงจื้อเอ้าเป็นคนวางแผนจัดการเครื่องบินส่วนตัวให้หยางเฉิน และให้หยางเฉินพาหม่าชาวไปจากที่นี่ เขาต้องไม่พอใจเฝิงจื้อเอ้าเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนเฝิงเจียหยีจะดูออกถึงความสงสัยลังเลของหยางเฉิน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า
ไม่มีใครสามารถคุกคามตำแหน่งของพ่อได้อีก”
“ตอนนี้อาสองตายแล้ว อยู่ในราชวงศ์เฝิง
“แม้ว่าเสด็จปู่จะรู้ คุณพ่อเป็นคนวางแผนจัดการให้คุณไปจากเมืองราชวงศ์เฝิง ก็คงไม่สร้างปัญหาให้พ่อลำบากใจหรอก อาจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น”
เมื่อได้ยินเฝิงเจียหยีพูดเช่นนี้ หยางเฉินก็พอจะเข้าใจ
หยางเฉินพูด “ขอบคุณมาก!”
ไม่ว่ายังไง เฝิงจื้อเอ้าสามารถจัดหาเครื่องบินส่วนตัวในเวลานี้ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือหยางเฉินได้มากจริงๆ
สามารถช่วยหยางเฉินได้เฝิงเจียหยีรู้สึกมีความสุขมาก
พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไปกันเถอะ! พวกเราไปเมืองเยี่ยนตูเดี๋ยวนี้เลย ! ฉันยังไม่เคยไปเมืองเยี่ยนตูเลย
พอดีได้โอกาสไปดูสักครั้ง”
“คุณหนู!”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยางเฉินและเฝิงเจียหยีได้นำหม่าชาวที่หมดสติอยู่
มาถึงสนามบินนานาชาติของเมืองราชวงศ์เฝิง เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่ง กำลังจอดอยู่ที่สนามบิน
และมีเครื่องบินโดยสารข้างๆกำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า
“คุณหนู!”
พวกเขาเพิ่งมาถึงด้านหน้าของเครื่องบิน ก็มีบุคคลวัยกลางคน ได้พาผู้แข็งแกร่งที่มีออร่าอันน่าสะพรึงกลัวจำนวนหนึ่ง มาขวางทางของพวกหยางเฉิน
เฝิงเจียหยีมองไปที่ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าคนนั้น และพูดว่า “คุณลุงเหวิน นี่คุณหมายความว่าไง?”
ชายวัยกลางคนที่ชื่อกว่างเหวิน เป็นผู้แข็งแกร่งลำดับหนึ่งของเฝิงจื้อเอ้า ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก
อยู่ในราชวงศ์เฝิง แม้ว่ากว่างเหวินจะไม่ใช่ทายาทสายเลือดโดยตรงของราชวงศ์เฝิง แต่สถานะของเขาที่อยู่ในราชวงศ์เฝิงนั้นสูงมาก
ปรากฏตัวในเวลานี้ ยังขวางทางของเฝิงเจียหยี ซึ่งทำให้หยางเฉินรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติเล็กน้อย
กว่างเหวินเปิดปากพูด “คุณหนู
ฝ่าบาทมีคำสั่ง
ห้ามไม่ให้ท่านออกจากเมืองราชวงศ์เฝิงแม้แต่ก้าวเดียว ได้โปรดเชิญท่านกลับไปกับพวกเราเถอะ!”
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเฝิงเจียหยีเปลี่ยนไปทันที
ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเฝิงจื้อเอ้า บอกว่าได้จัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัว อนุญาตให้เฝิงเจียหยีไปจากที่นี่กับหยางเฉิน
เวลาสั้นๆเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่
กว่างเหวินเป็นยอดฝีมือลำดับหนึ่งที่อยู่ข้างกายของเฝิงจื้อเอ้า แต่มาขัดขวางเธอด้วยตัวเอง
เฝิงเจียหยีถาม “คุณลุงเหวิน พ่อรับปากแล้วให้ฉันไปจากที่นี่ได้ ได้โปรดอย่ามาขัดขวางฉันเลย”
กว่างเหวินพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ เมื่อสักครู่
องค์ชายใหญ่ถูกฝ่าบาทปลดออกจากตำแหน่งผู้สืบทอดแล้ว และคุมตัวองค์ชายใหญ่ให้กักอยู่บริเวณบ้าน ก็เป็นคำสั่งของฝ่าบาท
ให้ผมมาขัดขวางไม่ให้คุณหนูไปจากที่นี่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทันใดนั้นสีหน้าของเฝิงเจียหยีก็เปลี่ยนไปมาก นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
เธอรู้ดีว่า ในบรรดาบุตรชายของกษัตริย์เฝิง
ทั้งคู่ต่างเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ไม่เพียงพรสวรรค์ด้านบูโด แม้แต่ทักษะในการปกครองก็สุดยอดเหนือคนอื่นๆ
มีเพียงเฝิงจื้อเอ้ากับเฝิงจื้อหย่วนเท่านั้นที่มีความสามารถทุกด้านและแข็งแกร่ง
วันนี้ เฝิงจื้อหย่วนทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต ก็มีเพียงเฝิงจื้อเอ้าเท่านั้นที่มีความสามารถมากที่สุดในบรรดาทายาทหลายคนของกษัตริย์เฝิง
แล้วกษัตริย์เฝิงมีเหตุผลอะไร ทำไมต้องปลดตำแหน่งทายาทของเฝิงจื้อเอ้า?