The king of War - บทที่ 1591 ราชวงศ์เย่ไปให้พ้น
บทที่ 1591 ราชวงศ์เย่ไปให้พ้น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในเมืองเยี่ยนตู ยอดเมฆา
หยางเฉินนั่งอยู่บนโซฟาเฉียนเปียวทีมผู้พิทักษ์เงาลับ และซาตานของหงเฉิน ทั้งสองยืนอยู่หน้าหยางเฉิน และทั้งคู่ก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เฉียนเปียวพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม ทีมผู้พิทักษ์เงาลับแดนเทพที่แข็งแกร่ง ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว พร้อมที่จะรับฟังคำสั่งของคุณตลอดเวลา!”
ซาตานยังพูดด้วยความเคารพ “คุณหยาง หงเฉินเตรียมพร้อมที่จะลงมือทุกเมื่อ ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทุกคน ถูกเรียกคืนกลับมายังเมืองเยี่ยนตูแล้ว”
พลังทั้งสองนี้ เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของหยางเฉิน หลังจากที่หยางเฉินได้ถ่ายทอดคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานให้กับทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับ หงเฉินผู้แข็งแกร่งแดนเทพก็มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
เพียงแต่ว่า นอกจากหยางเฉินแล้ว ไม่มีใครเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์
สักวันหนึ่ง ถ้าต้องการทำสงครามกับตระกูลบู๊โบราณจริงๆ แค่ทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับหงเฉินมันไม่ค่อยสะใจ
ไม่ต้องพูดถึงการทำสงครามกับตระกูลบู๊โบราณ แม้ว่าจะเป็นการทำสงครามกับราชวงศ์ก็ตาม ผู้แข็งแกร่งของทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับหงเฉินก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้
หยางเฉินมองไปที่เฉียนเปียวกับซาตาน และพูดขึ้นมาทันที “ศึกชิงเจ้าแห่งราชาในวันนี้ที่เมืองเยี่ยนตู เป็นของผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ ทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับหงเฉินไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปแทรกแซง และให้พี่น้องทุกคนออกจากเมืองเยี่ยนตู”
หลังจากได้ยินคำพูดของหยางเฉิน สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เฉียนเปียวพูดว่า “พี่เฉิน แม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยก็สามารถช่วยคุณได้เล็กน้อย ให้พวกเราอยู่ในเมืองเยี่ยนตูเถอะ!”
ซาตานก็รีบแสดงจุดยืนของเขา “คุณหยาง ยังไงหงเฉินก็เป็นนักฆ่า และสิ่งที่ชำนาญที่สุดคือการลอบสังหาร ทำไมไม่ให้แดนเทพขั้นปลายและผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดอยู่ที่นี่ต่อล่ะ?”
หยางเฉินส่ายหัว “รวมทั้งพวกนายสองคน ก็กลับไปด้วย!”
ถึงเวลานี้ ทั้งสองจึงตระหนักได้ว่า ศึกชิงเจ้าแห่งราชาเมืองเยี่ยนตูในวันนี้ คงจะอันตรายมาก
มิเช่นนั้น หยางเฉินคงจะบอกให้พวกเขาทั้งหมดออกจากเมืองเยี่ยนตูได้อย่างไร?
ดูเหมือนว่า แม้แต่หยางเฉิน
ศึกชิงเจ้าแห่งราชาเมืองเยี่ยนตูในวันนี้ จะจบลงอย่างราบรื่น
ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า
หลังจากเฉียนเปียวเงียบไปครู่หนึ่ง ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด “ครับ พี่เฉิน!”
เขารู้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะหมดหนทางจริงๆ หยางเฉินจะไม่ปล่อยให้พวกเขาจากไป
ซาตานก็พูดว่า “ครับ เจ้านาย!”
หยางเฉินเหลือบมองดูเวลา ใกล้ถึงเวลาการประลองแล้ว เขาโบกมือ “พวกนายไปกันเถอะ!”
“ครับ!”
ทั้งสองรีบออกจากยอดเมฆา
ทันใดนั้น ในห้องก็เหลือเพียงหยางเฉินกับเฝิงเจียหยี ยังมีหม่าชาวที่ยังหมดสติอยู่
เฝิงเจียหยีมองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “แม้แต่คุณ ก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะเหรอ?”
หยางเฉินเข้าใจดีว่าความมั่นใจที่เฝิงเจียหยีพูดนั้นหมายถึงอะไร เห็นเพียงความแน่วแน่ในดวงตาของเขา
และจะต้องสืบทอดตี้ชุน!”
และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ฉันต้องเป็นราชาแห่งเมืองเยี่ยนตูให้ได้
หม่าชาวเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดของเขา และตอนนี้เขาต้องได้ไม้เท้าตี้เท่านั้น
จึงจะสามารถเอาลูกแก้วดูดเลือดที่อยู่ในร่างกายของหม่าชาวออกมาได้
มิฉะนั้น มีทางเดียวคือหม่าชาวคงต้องตาย
เป็นวันที่สามแล้วที่ลูกแก้วดูดเลือดปิดผนึกอยู่ในร่างกายของหม่าชาว และในช่วงสามวันที่ผ่านมา ทุกวัน
หยางเฉินรู้สึกได้ชัดเจน ออร่าคลุ้มคลั่งในร่างกายของหม่าชาวมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเป็นเพราะลูกแก้วดูดเลือดที่ปิดผนึกอยู่ในร่างกาย
กำลังต้องการทำลายผนึกอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าคนแข็งแกร่งลึกลับที่ใส่ชุดดำคนนั้นจะบอกว่าเขาสามารถปิดผนึกไว้ได้เจ็ดวัน แต่หยางเฉินยังคงกังวลอยู่ กลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงเจ็ดวัน ลูกแก้วดูดเลือดก็จะทำลายที่ปิดผนึกได้
เฝิงเจียหยีมองไปที่หยางเฉินที่มีใบหน้าเคร่งเครียด และพูดขึ้นมาว่า
“คุณไปสืบทอดตี้ชุน โดยไม่ต้องกังวลใจ
ฉันจะดูแลพี่ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)อย่างดี
หยางเฉินพยักหน้า มองไปที่เฝิงเจียหยีและพูดว่า “ขอบคุณ!”
เวลาผ่านไปทีละวินาที สำหรับเวลาในการประลองศึกชิงเจ้าแห่งราชาเมืองเยี่ยนตู เหลืออีกเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้น
หยางเฉินไม่เสียเวลา นั่งขัดตะหมาด และเข้าสู่สภาวะการฝึกฝน
นับตั้งแต่ในวันนั้นที่บุกทะลวงแดนราชวงศ์เฝิง เขาก็ไม่มีเวลาที่จะรวบรวม
และตอนนี้แดนวิถีบู๊ของเขาได้เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกแล้ว และความแข็งแกร่งของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานที่เคยมี
ก็อ่อนแอลงเช่นกัน
ในอดีตตอนที่เขายังไม่ได้เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์
ด้วยความช่วยเหลือจากคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยาน ตัวเองมีความแข็งแกร่งพอที่จะเข้าสู่สองแดน แต่ตอนนี้
ทำได้เพียงประคับประคองความแข็งแกร่งให้ถึงครึ่งแดน
หากตัวเขาไม่มีสายเลือดคลั่ง คิดว่าแม้แต่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด เขาอาจจะไปไม่ถึง
เมื่อเขาเข้าสู่สภาวะการฝึกฝนเฝิงเจียหยีก็เริ่มฝึกฝนเหมือนกัน เธอไม่รู้แผนการสมรู้ร่วมคิดของเฝิงจื้อเอ้า รู้เพียงว่าพ่อของเธอถูกปลดออกจากตำแหน่งทายาท และตอนนี้ถูกกษัตริย์เฝิงคุมตัวให้อยู่บริเวณราชวงศ์เฝิง
เธอจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างเร่งด่วน และพยายามทำให้ตัวเองมีค่ามากขึ้น จนกระทั่งเธอสามารถมีอำนาจพอที่จะเจรจาต่อรองกับราชวงศ์เฝิง
เมืองเยี่ยนตูในวันนี้
ได้ต้อนรับงานวิถีบู๊ที่ใหญ่โต ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่ง
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตอนที่หยางเฉินให้คนปล่อยข่าวศึกชิงเจ้าแห่งราชาในเมืองเยี่ยนตู ในเมืองเยี่ยนตูก็มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนต่อสู้กันอย่างดุเดือด
แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งในแดนเทพ ส่วนศึกการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ ในขณะนี้ยังไม่ดุเดือด
เวลา
08:50 น.
สนามกีฬาในเมืองเยี่ยตู ไม่เหลือที่นั่งว่าง
กุญแจสำคัญคือ คนที่อยู่ที่นี่
คือผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่อยู่เหนือระดับแดนเทพชั้นต้นขึ้นไป
สำหรับผู้แข็งแกร่งที่มีระดับต่ำกว่าแดนเทพชั้นต้น ไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเข้าไปประลอง
ราชวงศ์ที่แข็งแกร่งทั้งสี่ก็มาถึงแล้ว
เหนือ และใต้ของสถานที่จัดงาน
โดยแยกกันนั่งในสี่ทิศคือ ตะวันออก ตะวันตก
ตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นเมื่อร้อยปีที่แล้ว ทำให้บรรดาราชวงศ์ทั้งเก้าสั่นคลอนจนมีคนในราชวงศ์ห้าต้องตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมา ราชวงศ์และผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์ ห้ามเข้าไปแทรกแซงศึกชิงเจ้าแห่งราชาในเมืองเยี่ยนตู
อย่างไรก็ตาม
หลังจากผ่านศึกชิงเจ้าแห่งราชาในเมืองเยี่ยนตูถึงสองครั้ง ราชวงศ์ก็ค้นพบว่า แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปแทรกแซง
พวกเขาก็ไม่เป็นไร ดังนั้นศึกชิงเจ้าแห่งราชาในเมืองเยี่ยนตูที่หยางเฉินเป็นคนริเริ่มครั้งนี้ ราชวงศ์ทั้งสี่ก็มาทุกคน
ในทิศทางของราชวงศ์เย่ หัวหน้าทีมคือรุ่นน้องของราชวงศ์เย่ ซึ่งมีความแข็งแกร่งแค่ระดับแดนเทพขั้นปลาย
แต่ราชวงศ์ต้วนกับราชวงศ์หลง และราชวงศ์ซ่านกวน ผู้นำทีมมาจากผู้อาวุโสของราชวงศ์
ตัวอย่างเช่น ในทิศทางของราชวงศ์ต้วน ทีมนำโดยพี่ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ของต้วนหวง ซึ่งมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับแดนเทพชั้นยอด
และราชวงศ์ซ่านกวนผู้นำทีมเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับแดนเทพชั้นยอด ซึ่งดูเหมือนจะมีอายุเจ็ดสิบปี
และผู้นำทีมแห่งราชวงศ์หลง ก็เป็นเจ้าบ้านหลงจิ้น
“ไม่คาดคิดว่า ราชวงศ์เย่กล้ามาเมืองเยี่ยนตู ไม่กลัวว่าทั้งหมดต้องมาตายในเมืองเยี่ยนตูหรือ?”
ในทิศทางของราชวงศ์ซ่านกวน ซ่านกวนพูดด้วยรอยยิ้มและจ้องมองไปในทิศทางของชายหนุ่มผู้นำทีมของราชวงศ์เย่
ผู้แข็งแกร่งที่มาจากราชวงศ์เย่ สีหน้าทุกคนดูแย่มาก
ก่อนหน้านั้นตอนที่แดนวิถีบู๊ของหยางเฉินอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม เขาก็เกือบจะฆ่าเจ้าบ้านเย่หลินที่อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก
พวกเขาไม่ต้องการมา
ว่ากันว่า ความแข็งแกร่งของหยางเฉินตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และแม้แต่เย่หลินซึ่งเป็นเจ้าบ้านของพวกเขา ก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้
แล้วอย่างพวกเขาล่ะ?
รุ่นน้องที่เป็นผู้นำทีมของราชวงศ์เย่ชื่อเย่เจียง
อายุประมาณสามสิบห้าปี ในขณะนี้สีหน้าแย่มาก แต่เขายังคงระงับความโกรธของเขาและพูดว่า
“คุณหยางเป็นผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ เขาคงไม่ลงมือกับผู้ที่อ่อนแอที่ยังไม่เข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์แน่นอน”
“ภายในหนึ่งนาที
สมาชิกทุกคนของราชวงศ์เย่ รีบไสหัวออกไปจากที่นี่
ไม่เช่นนั้น ตาย!”
ในขณะนี้
และทันทีที่ปรากฏตัว ก็เล็งเป้าไปที่ราชวงศ์เย่ทันที
จู่ๆก็มีร่างเล็กๆ เข้ามาในสถานที่