The king of War - บทที่ 1631 อย่าให้มีชีวิตรอดกลับไป
บทที่ 1631 อย่าให้มีชีวิตรอดกลับไป
หยางเฉินยิ้มเยาะ “ไม่เจียมกะลาหัว!”
ทันทีที่เขาพูดจบ พลังแห่งวิถีบู๊ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทันที
เพราะเขาต้องการควบคุมพิษกู่ไร้หัวใจ ดังนั้นจึงอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งอยู่ตลอดเวลา ในเวลานี้เมื่อเปิดตำราเทพสงคราม พลังแห่งวิถีบู๊ที่อยู่เหนือกว่าระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา
เมื่อครู่ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงที่ยังคิดว่าสามารถเอาชนะหยางเฉินได้ ก็รู้สึกถึงพลังกดดันจากตัวหยางเฉิน สีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากทันที
“นาย นายเป็นใครกันแน่?”
ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงถามด้วยความตกใจอย่างถึงขีดสุด
พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมปราณที่อยู่เหนือพวกเขาไปไกลจากตัวหยางเฉิน
ความแข็งแกร่งที่พวกเขาระเบิดออกมาในตอนนี้ เทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก แต่หยางเฉินกลับทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน มันสามารถพิสูจน์ได้ว่าความแข็งแกร่งของหยางเฉิน อย่างน้อยก็อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด
ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดที่ดูเหมือนจะมีอายุไม่ถึง 30 ปี ต่อให้อยู่ในเมืองหวยเฉิง ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน
สองพี่น้องตระกูลซ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ในเวลานี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินที่ไม่ได้เจอเพียงไม่กี่เดือน ไม่เพียงแต่มีสติรับรู้มากขึ้น แต่วิถีบู๊ยังพัฒนาขึ้นมากด้วย
หยางเฉินมองไปยังผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงทั้งสองด้วยสีหน้านิ่งเฉย “ผมคือใคร พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ แต่พวกคุณต้องรู้ว่า พวกคุณฆ่าลูกเขยของเจ้าเมืองหวยเฉิง ตายอยู่ในมือผม แต่จนถึงตอนนี้ ผมยังมีชีวิตอยู่ รู้ไหมว่าทำไม?”
เมื่อครู่ตอนที่หยางเฉินพูดแบบนี้ ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงยังคิดว่าหยางเฉินกำลังโกหก แต่ตอนนี้พวกเขาเชื่อหยางเฉินแล้ว
ชายหนุ่มที่มีความสามารถระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?
“ขอโทษที่มารบกวน!”
ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงทั้งสองมองหน้ากัน สำรวมพลังแห่งวิถีบู๊ในร่างกายเอาไว้ เมื่อเห็นหยางเฉินพูดจบแล้ว ก็หันหลังเดินจากไป
“ตอนที่ให้พวกคุณไป พวกคุณก็ไม่ไป ตอนนี้คิดจะไป มันสายเกินไปแล้ว!”
หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา พอพูดจบ ร่างของเขาก็กลายเป็นเงา ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงในทันที
“นายกำลังจะทำอะไร?”
ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงถึงกับหน้าถอดสีทันที
หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “พวกเรามาจากหุบเขาราชายา อาจารย์ของพวกเราคือราชายา
ถ้านายกล้าฆ่าพวกเรา เขาจะต้องล้างแค้นให้พวกเราอย่างแน่นอน”
“ปัง! ปัง!”
หยางเฉินตบติดต่อกันสองครั้งอย่างไม่ลังเล เห็นเพียงผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงกระอักเลือดและกระเด็นออกไปเหมือนว่าวที่สายขาด
ทันทีที่ร่างของพวกเขาตกลงบนพื้น ก็หมดโอกาสรอดชีวิตอย่างสมบูรณ์
สองพี่น้องตระกูลซ่งมองไปยังผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงที่ขาดใจตายอย่างตกตะลึง แล้วถามด้วยความประหลาดใจ
“คุณหยาง
คุณฆ่าพวกเขาจริงๆ เหรอ?”
“พวกเขามาที่นี่เพื่อจับตัวพวกคุณกลับไปที่หุบเขาราชายา หากในเวลานี้ยังปล่อยให้พวกเขามีชีวิตรอดกลับไป
ที่นี่ของผมอาจจะถูกเปิดเผย
พอถึงตอนนั้นจะต้องเผชิญกับความยุ่งยากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมไม่ชอบปัญหา” หยางเฉินกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น สองพี่น้องตระกูลซ่งก็พูดไม่ออก
เป็นเพราะกลัวปัญหา จึงต้องสังหารผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงสองคน
หยางเฉินมองไปที่เฝิงเสียวหว่านแล้วพูดว่า “อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสจั่วโย่วเป็นยังไงบ้าง? เธอมีวิธีใดที่จะฟื้นฟูพื้นฐานวิถีบู๊ของพวกเขาให้กลับคืนมาบ้างไหม?”
เฝิงเสียวหว่านเคยรักษาผู้ที่สูญเสียพื้นฐานวิถีบู๊มาก่อน ไหนเธอจะมีความสัมพันธ์อันดีกับสองพี่น้องตระกูลซ่งอีก
เฝิงเสียวหว่านพยักหน้าและพูดว่า
ส่วนเรื่องที่ว่าพวกเขาจะสามารถฟื้นฟูได้ทั้งหมดหรือไม่ ก็ต้องสังเกตติดตามการรักษาอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร”
“ก็น่าจะได้ แต่ยังต้องการการรักษาเพิ่มเติมอีก
เมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเสียวหว่าน หยางเฉินก็รู้สึกโล่งใจ
ไม่ว่าจะอย่างไร สองพี่น้องตระกูลซ่งก็พลัดเข้าไปในหุบเขาราชายาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อที่จะหาสมุนไพรให้เขา เลยทำให้ผู้คนในหุบเขาราชายาขุ่นเคือง
สองพี่น้องตระกูลซ่งมีสีหน้าตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเสียวหว่าน
“ซ่งจั่วถามด้วยความตื่นเต้น “เสียวหว่าน คุณพูดจริงเหรอ ว่าจะสามารถช่วยฟื้นฟูพื้นฐานวิถีบู๊ให้พวกเขาได้?”
เฝิงเสียวหว่านพยักหน้า
จากนั้นฉันจะให้การรักษาอื่นๆ กับคุณ”
แล้วหยิบยาเม็ดสองเม็ดออกมายื่นให้สองพี่น้องตระกูลซ่ง “คุณกินยาพวกนี้ไปก่อน
“ตกลง!”
สองพี่น้องตระกูลซ่งรีบตอบ
สำหรับผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊คนหนึ่งแล้ว การสูญเสียพื้นฐานวิถีบู๊เป็นสิ่งที่โหดร้ายที่สุด ผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊จำนวนมากยอมตายดีกว่ายอมรับว่าตัวเองเป็นคนไร้น้ำยา
สองพี่น้องตระกูลซ่งสูญเสียวิถีบู๊ไปหมดแล้ว ตอนนี้เฝิงเสียวหว่านบอกว่าเธอสามารถรักษาพวกเขาได้ แค่นี้ก็รู้ว่าพวกเขารู้สึกตื่นเต้นแค่ไหน
เพียงแต่ว่า เฝิงเสียวหว่านนั้นเหนื่อยเกินไป ด้านหนึ่งก็ต้องคิดหาทางฟื้นฟูสติรับรู้ของหม่าชาว แล้วก็ต้องคิดหาวิธีจัดการกับพิษกู่ไร้หัวใจในร่างกายของหยางเฉิน ตอนนี้ยังต้องหาทางรักษาพื้นฐานวิถีบู๊ของศิษย์พี่ซ่งอีก
อ้ายหลินพูดอย่างร้อนใจ “เสียวหว่าน สถานการณ์ของพี่เฉินก็เร่งด่วนเหมือนกัน เธอต้องหาวิธีที่จะฟื้นฟูพี่เฉิน!”
อ้ายหลินไม่ได้สนิทสนมกับสองพี่น้องตระกูลซ่ง อยู่ดีๆ ก็โผล่ออกมา แล้วยังต้องให้เฝิงเสียวหว่านรักษาอีก ในใจเธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เฝิงเสียวหว่านรีบพูดขึ้นว่า “พี่อ้าย พี่ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ชักช้าในการให้การรักษาพี่ชายใหญ่และพี่หม่า”
สองพี่น้องตระกูลซ่งถามว่า “คุณหยาง คุณเป็นอะไรไป?”
เฝิงเสียวหว่านเล่าเรื่องหยางเฉินให้ฟังคร่าวๆ เมื่อฟังเฝิงเสียวหว่านพูดจบ สองพี่น้องตระกูลซ่งก็มีสีหน้าเคร่งขรึมมาก
“เสียวหว่าน คุณไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา ไปคิดหาวิธีจัดการเรื่องคุณหยางและคุณหม่าก่อน จากนั้นค่อยมารักษาพวกเรา พวกเราไม่เป็นอะไร ยังอดทนรอได้ ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดก็คือวิถีบู๊ถูกทำลาย? พวกเราทำใจยอมรับได้”
ซ่งจั่วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “สถานการณ์ของคุณหยางเร่งด่วนเกินไป เราไม่สามารถทำผิดพลาดได้ในขณะนี้”
ซ่งโย่วก็เอ่ยปากพูดบ้าง “ผมได้ยินมาว่า เมื่อคุณถูกยาพิษกู่ จะมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุดเพียงเจ็ดวันเท่านั้น แม้ว่าคุณหยางจะยับยั้งพิษกู่ไร้หัวใจไว้ชั่วคราว แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่า คุณหยางจะสามารถควบคุมมันไว้ได้ตลอดเวลา”
หยางเฉินเอ่ยปากพูดบ้าง “ไม่ต้องกังวล สถานการณ์ของผมในตอนนี้ ผมรู้ดี ตอนนี้ยังตายไม่ได้ เวลานี้อันตรายรอบตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องจ้างยอดฝีมือ เสียวหว่านรักษาพวกคุณสองพี่น้องได้ ก็จะยิ่งเพิ่มความปลอดภัยของพวกเราให้มากขึ้น”
เขาไม่ได้มีเจตนาพูดขู่ขวัญ ตอนนี้เขาแข็งแกร่งแล้ว ล่วงเกินใครต่อใครมามากมาย เขาไม่สามารถปกป้องคนรอบข้างได้ตลอดเวลา
สำหรับสองพี่น้องตระกูลซ่ง หากร่วมมือกัน จะสามารถปลดปล่อยความสามารถที่เทียบเท่าระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ หากทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่ มีบางเรื่องที่เขาสามารถไปทำได้อย่างสบายใจแล้ว
ในเวลานี้เฝิงเสียวหว่านพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “คุณไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ทำให้การรักษาของใครต้องล่าช้า ฉันก็ไม่ได้ทำการรักษาตลอด 24 ชั่วโมงสักหน่อย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเสียวหว่าน ทุกคนก็แอบโล่งใจ
ทันใดนั้นซ่งจั่วก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหยาง คุณฆ่าผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิง เกรงว่าอีกไม่นานผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงที่แข็งแกร่งกว่าจะมาถึง พอถึงตอนนั้นพวกเราควรทำอย่างไรดี?”
แววตาอาฆาตปรากฏขึ้นบนดวงตาของหยางเฉิน “มาคนเดียวก็ฆ่าคนเดียว! ถ้ามาสองคนก็ฆ่าทั้งคู่! ขอเพียงผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงกล้ามา ก็อย่าให้พวกเขาได้มีชีวิตรอดกลับไป!”