The king of War - บทที่ 1637 มีเพียงความตายเท่านั้น
บทที่ 1637 มีเพียงความตายเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเหล่าจิ่ว ขนาดหยางเฉินยังอึ้งไป เรื่องที่เขาฆ่าผู้แข็งแกร่งหุบเขาราชายาสองคน หุบเขาราชายารู้เรื่องนี้แล้ว ถ้าการตายของฉื้อถู้ โดนหุบเขาราชายารู้อีก ความแค้นระหว่างเขากับหุบเขาราชายา ต้องฝังลึกยิ่งขึ้นแน่นอน
นี่เหล่าจิ่ว กำลังทำให้เขาเป็นปฏิปักษ์กับหุบเขาราชายาอย่างชัดเจน
ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาทั้งสี่คน สีหน้าเคร่งขรึม แต่ก็กลัววิชาพิษกู่ของเหล่าจิ่ว จึงไม่กล้าปฏิเสธ
“ได้ พวกเรารับปากพวกนาย!”
ในที่สุด ทั้งสี่คนพยักหน้าตกลง
เหล่าจิ่วดีดนิ้ว ทั้งสี่คนโดนยาพิษกู่
ทั้งสี่คนพากันตกตะลึง “นายทำอะไรพวกเรา”
เหล่าจิ่วพูดว่า “พวกนายโดนหนอนดูดจิตแล้ว ถ้ากล้าทรยศฉัน พวกนายจะได้รับความเจ็บปวด จากการดูดจิต สุดท้ายจะตายทั้งเป็น”
“พวกนายอย่าคิดฆ่าตัวตาย เพราะตอนหนอนดูดจิตกำเริบ พวกนายจะไร้เรี่ยวแรง ไม่มีแรงแม้แต่จะยกมีดขึ้นมา”
เมื่อได้ยิน สี่คนนั้นหน้าซีดเผือด โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งที่นำมา ซึ่งเคยโดนยาพิษกู่ของเหล่าจิ่ว ดูตระหนกตกใจเข้าไปอีก
“ไสหัวไป!”
เหล่าจิ่วตวาดออกมา ทั้งสี่คนพากันออกไป
หลังจากผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาออกไป เหล่าจิ่วจึงพูดกับหยางเฉินว่า “ราชายา ของหุบเขาราชายา ฉันรู้ว่าถ้าล่วงเกินคนคนนี้ ต้องไม่จบไม่สิ้นอย่างแน่นอน”
“ในเมื่อพวกเขารู้แล้ว ว่านายฆ่าผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาสองคน แม้จะฆ่าเพิ่มขึ้นอีก ต้องโดนอีกฝ่ายจำไว้แน่นอน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สู้ใช้ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาทั้งสี่คนนี้ มาเป็นสายในหุบเขาราชายาให้เราดีกว่า”
เมื่อได้ยินเหล่าจิ่วพูดเช่นนี้ หยางเฉินพยักหน้าเข้าใจ “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้รู้สถานการณ์ที่หุบเขาราชายาทุกเมื่อ”
เหล่าจิ่วพูดว่า
แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ แม้อยู่ในหุบเขาราชายา ก็ไม่มีทางเป็นคนไร้ชื่อเสียง”
“พละกำลังของสี่คนเมื่อกี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะคนที่นำมา พละกำลัง
“ไปกันเถอะ! เราไปหาที่พักกันก่อน จากนั้นรอคนของจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง ก็พอแล้ว”
หลังผ่านไปยี่สิบนาที ทั้งสองคนเข้าพักในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง
ระหว่างทางที่พวกเขามาโรงแรม
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาโดนคนจ้องอยู่
ได้กลิ่นอายของผู้แข็งแกร่ง แดนเหนือมนุษย์ สิบกว่าคน
แต่ทั้งสองคน
พวกเขารอแค่ให้อีกฝ่ายมาก็พอแล้ว
ไม่สนใจสักนิด ที่นี่คือเมืองหวยเฉิง ในเมื่อมีคนล่อหยางเฉินมาเมืองหวยเฉิง ต้องลงมืออยู่แล้ว
แม้เจียงลั่วอยู่จวนเจ้าเมืองหวยเฉิง หยางเฉินกับเหล่าจิ่ว คงไม่สามารถบุกไปหา ที่จวนเจ้าเมืองหวยเฉิงได้หรอก
เมืองหวยเฉิงเหมือนกับเมืองเหมียว
คนที่สามารถอยู่ในเมืองนี้ได้ ส่วนใหญ่เป็นคนของตระกูลบู๊ดั้งเดิมอยู่แล้ว
ล้วนเป็นเมืองวิถีบู๊ ที่รุ่งเรืองด้านบู๊
พละกำลังของเจ้าเมืองหวยเฉิง คงเหมือนกับเจ้าเมืองเหมียว อยู่ในขั้นลึกล้ำ จนไม่สามารถคาดเดาได้
จู่ๆ หยางเฉินถามขึ้นว่า
“ท่านเก้า คุณว่าพละกำลังของเจ้าเมืองหวยเฉิง
ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าหรือยัง”
เหล่าจิ่วหัวเราะ พูดอย่างไม่ปิดบังว่า
“ได้เป็นเจ้าเมืองของเมืองหวยเฉิง พละกำลังต้องถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าอยู่แล้ว
แต่เขาอยู่แดนเหนือมนุษย์ชั้นไหนกันแน่ ฉันไม่รู้เหมือนกัน”
หยางเฉินแอบตกใจ พละกำลังของเจ้าเมืองหวยเฉิง ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าแล้วเหรอ
ปัจจุบัน
ที่ทัดเทียมกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นได้แล้ว
แดนวิถีบู๊ของเขา ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแล้ว สายเลือดคลั่ง สามารถปลดปล่อยพลัง
เขารู้ดีว่าพละกำลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด แข็งแกร่งแค่ไหน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ที่แข็งแกร่งกว่านี้
ขณะนั้น ความเจ็บปวด เกิดขึ้นที่หัวใจของหยางเฉิน
“ซี๊ด!”
หยางเฉินสูดปาก ไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมา ทนความเจ็บปวด ที่โดนพิษกู่ไร้หัวใจกัดกินหัวใจ
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน พิษกู่ไร้หัวใจ กำลังกัดกินหัวใจตัวเองอยู่
ทันใดนั้น ทั้งตัวหยางเฉิน เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ
เมื่อเห็นดังนั้น สีหน้าเหล่าจิ่ว
เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขายื่นมือออกมา
แตะลงไปบนตำแหน่งหัวใจของหยางเฉิน หลายสิบครั้ง
“กลั้นลมหายใจ รวบรวมสติ! เคลื่อนไหววิชาผลการฝึกตน ระงับพิษกู่ไร้หัวใจเอาไว้!”
เหล่าจิ่วพูดเตือนสติทันที
หยางเฉินรีบนั่งขัดสมาธิ เริ่มเคลื่อนไหวตำราเทพสงคราม หยางเฉินรู้สึกความเจ็บปวดตรงหัวใจลดลงไปมาก อาจเป็นเพราะที่เหล่าจิ่วแตะลงบนตำแหน่งหัวใจของเขาเมื่อครู่
แต่ความเจ็บปวดแค่ลดลงไปเท่านั้น ไม่ได้หายไป
จากร่างกายวิถีบู๊ แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดของเขา ยังรับความเจ็บปวดแบบนี้ได้ยาก จินตนาการความรุนแรงของพิษกู่ไร้หัวใจได้เลย
ครั้งนี้ ความเจ็บปวดต่อเนื่องห้านาที ถึงจะหายไป
เห็นสีหน้าหยางเฉินเริ่มมีเลือดฝาด
เหล่าจิ่วพูดเสียงขรึมว่า “พิษกู่ไร้หัวใจในตัวนาย ปรับตัวกับการยับยั้งของนายได้แล้ว ถ้ายังจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ ถึงนายรอดผ่านเจ็ดวันไปได้
แต่กลัวว่าหัวใจนายจะได้รับความเสียหายรุนแรง”
“เมื่อกี้ฉันใช้วิชาพิษกู่ ลดความเจ็บปวดที่พิษกู่ไร้หัวใจมีต่อนาย แต่ทำได้เพียงเท่านี้ ไม่สามารถกำจัดพิษกู่ไร้หัวใจได้”
หยางเฉินพยักหน้า มองเหล่าจิ่วแล้วพูดว่า “ท่านเก้าช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้ผมได้ เป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมแล้ว”
เหล่าจิ่วพูดเสียงขรึม “เดิมทีฉันจะอยู่กับนายที่นี่ รอให้คนของเมืองหวยเฉิงมา แต่ดูเหมือนตอนนี้ พวกเรามีเวลาไม่มากเท่าไรแล้ว เราต้องหาวิธี หาตัวเจียงลั่วให้เจอเร็วที่สุด และฆ่าเขาซะ”
พูดจบ เขาทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่
หยางเฉินรู้ว่าเหล่าจิ่ว กำลังคิดว่าจะหาเจียงลั่วยังไง เขาจึงไม่รบกวน รอให้เหล่าจิ่วพูด
ผ่านไปครู่ใหญ่ เหล่าจิ่วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าเมืองเหมียวเดาว่าเจียงลั่ว วางพิษกู่ไร้หัวใจใส่นาย มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า เป็นวิธีที่จวนเจ้าเมืองหวยเฉิง ล่อนายมาที่เมืองหวยเฉิง”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะหาเจียงลั่วให้เจอโดยเร็ว คงทำได้เพียงไปจวนเมืองหวยเฉิง แต่ถ้าไปจวนเมืองหวยเฉิง เราจะอันตรายมาก นายกล้าไปเหรอ”
ได้ยินคำพูดของเหล่าจิ่ว หยางเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง
ผ่านไปนาน เขาพูดออกมาว่า “ท่านเก้า ผมเป็นแบบนี้แล้ว ไม่กลัวเป็นตาย แต่ผมจะทำให้คุณพลอยลำบากไปด้วยไม่ได้ ผมจะไปจวนเจ้าเมืองคนเดียว”
เหล่าจิ่วรีบส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ได้!”
“เจ้าเมืองเหมียวสั่งมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ต้องให้นายรอดออกไปจากเมืองหวยเฉิง จะให้นายไปเสี่ยงอันตรายที่จวนเจ้าเมือง ฉันทำไม่ได้หรอก”
หยางเฉินสีหน้ายืนหยัด “ถ้าคุณไม่ให้ผมไปจวนเจ้าเมืองคนเดียว งั้นเราก็ไม่ต้องไป รอให้คนของจวนเจ้าเมือง มาหาที่นี่”
เหล่าจิ่วขมวดคิ้ว พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เวลาของนายไม่มากแล้ว จะเสียเวลาไม่ได้! ไม่มีใครรู้ว่าจวนเจ้าเมือง มีเจตนาอะไร ขืนเรารอต่อไปเรื่อยๆ แล้วพวกเขาไม่มาหาเราล่ะ”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “นั่นเป็นโชคชะตาของผม!”
เหล่าจิ่วเงียบไป เขารู้ถึงความรุนแรงของพิษกู่ไร้หัวใจเป็นอย่างดี ขนาดเจ้าเมืองเหมียว ยังไม่มีวิธีแก้ ดูเหมือนตอนนี้ คงมีแค่การฆ่าผู้ควบคุมพิษกู่อย่างเจียงลั่ว ถึงจะแก้ไขปัญหานี้ได้
แต่เจียงลั่วอยู่ที่จวนเจ้าเมือง และจวนเจ้าเมือง เป็นสถานที่อันตรายขั้นสุดยอด สำหรับหยางเฉิน
ถ้าให้หยางเฉินไปคนเดียวจริงๆ คงมีเพียงแค่ความตายเท่านั้น