The king of War - บทที่ 1647 รีบออกมา
บทที่ 1647 รีบออกมา
วินาทีต่อมา ร่างชายชรา เหมือนเทวดาลงมาจากฟ้า ปรากฏตัวในจวนเจ้าเมือง
เจ้าเมืองหวยเฉิง หรี่ตามองอีกฝ่าย พูดอย่างเย็นชาว่า “ราชายา คนของนายบุกมาในจวนเมืองหวยเฉิงของฉัน ทำร้ายคนของฉันจนบาดเจ็บสาหัส แม้แต่แขกคนสำคัญของฉัน เขาก็จะพาไปด้วย นายเคยถามตัวเองบ้างไหม ว่าเคยไว้หน้าฉันหรือเปล่า”
คนที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน คือราชายา เจ้าของหุบเขาราชายา
ราชายายิ้มเย็นชา “สำหรับราชายาอย่างฉัน นายเป็นใครไม่ทราบ มีสิทธิ์อะไร ที่ฉันต้องไว้หน้านาย”
เจ้าเมืองหวยเฉิงโกรธจนหัวเราะออกมา “ดูเหมือนเราคงไม่ต้องคุยกันแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นมาเอาจริงเลยละกัน!”
พูดจบ พลานุภาพอันบ้าคลั่ง แผ่ออกจากตัวเจ้าเมืองหวยเฉิง
ทันใดนั้น เหมือนอุณหภูมิบริเวณรอบๆ สูงขึ้นหลายองศา เจ้าเมืองหวยเฉิงราวกับเตาผิง มีพลังความร้อน ส่งออกจากตัวไม่หยุด
เมื่อรู้สึกถึงพลานุภาพบนตัวเจ้าเมืองหวยเฉิง สีหน้าของราชายา เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
หยางเฉินสีหน้าตกตะลึง เขารู้ว่าพละกำลังของเจ้าเมืองหวยเฉิง แข็งแกร่งมาก ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่คิดไม่ถึงว่า บนโลกนี้ จะมีคนปล่อยพลานุภาพบู๊ ที่มีอุณหภูมิความร้อนออกมาด้วย
เขาแน่ใจว่า อุณหภูมิบริเวณรอบๆ สูงขึ้นหลายองศา เกี่ยวข้องกับพลานุภาพบู๊ ที่เจ้าเมืองหวยเฉิง ปล่อยออกมา
ราชายาหรี่ตาพูดว่า “คิดไม่ถึงว่านายจะฝึกพลังแห่งธาตุได้แล้ว ไม่คาดฝันจริงๆ!”
เมื่อพูดจบ พลังบู๊อันเยือกเย็น แผ่ออกจากตัวราชายา เมื่อกี้บริเวณรอบๆ ยังร้อนระอุ เพียงพริบตา อุณหภูมิกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
ไม่ใช่เพราะว่าพลานุภาพบู๊ บนตัวเจ้าเมืองหวยเฉิงหายไป แต่พลังเย็นยะเยือก บนตัวราชายา ทำให้อุณหภูมิลดลง
หยางเฉินเพิ่งรู้จักพลังแห่งธาตุเป็นครั้งแรก
พลานุภาพบู๊บนตัวเจ้าเมืองหวยเฉิง แฝงด้วยพลังความร้อน ส่วนพลานุภาพบู๊บนตัวราชายา คือความเย็นยะเยือก
อีกทั้งสองคน เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด อีกทั้งราชายา
รู้พละกำลังของเจ้าเมืองหวยเฉิงอยู่แล้ว ว่าคือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่กลับพูดว่าคิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายฝึกพลังแห่งธาตุออกมาได้
หมายความว่า ถึงแดนบู๊ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว ก็ใช่ว่าจะฝึกพลังแห่งธาตุออกมาได้อย่างนั้นเหรอ
แน่นอนว่า
ทั้งหมดนี้ คือการคาดเดา
หยางเฉินเพิ่งเคยเจอผู้แข็งแกร่ง แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด เป็นครั้งแรก
พลานุภาพบู๊ร้อนและเย็น อันแข็งแกร่ง ปะทะเข้าหากัน
ทั้งสองยืนตรงข้ามกัน ไม่มีใครชิงลงมือก่อน
อุณหภูมิรอบๆ ร้อนและเย็นเป็นระยะ
ผู้แข็งแกร่งของเจ้าเมืองหวยเฉิง มองอยู่ไกลๆ มีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ที่กล้าเข้าไปใกล้เล็กน้อย
ทั้งสองเผชิญหน้ากันสามนาทีเต็มๆ พลังความเย็นบนตัวราชายา หายไปทันที
“ฉันจะพาหยางเฉินไป เขาฆ่าผู้แข็งแกร่งหุบเขาราชายา เขาต้องไปหุบเขาราชายากับฉัน”
เขามองเจ้าเมืองหวยเฉิง แล้วพูดว่า
เจ้าเมืองหวยเฉิง เห็นพลานุภาพบู๊บนตัวราชายาหายไป
ก็ขจัดพลานุภาพบนตัวออกไป ยิ้มเย็นชา “ฉันพูดไม่ชัดเจนหรือไง
หรือหูของราชายา ใช้การได้ไม่ดีแล้ว หยางเฉินเป็นแขกคนสำคัญของฉัน ใครกล้าพาตัวเขาไป”
หยางเฉินขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงว่าราชายา มาจวนเมืองหวยเฉิงด้วยตัวเอง เพราะมาพาตัวเขาไป
ตอนนี้เขาแสดงพลังการต่อสู้ออกมา
ทำได้เพียงปล่อยพละกำลัง ที่ทัดเทียมกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นออกมา อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเลย
ถึงเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นกลาง ก็สามารถบดขยี้เขาได้แล้ว
ถ้าเจ้าเมืองหวยเฉิง ไม่สนใจเขา ราชายาอยากพาตัวเขาไป คงไม่มีใครขวางไว้ได้
ราชายาหรี่ตาลง พูดว่า “ถ้าฉันต้องพาตัวเขาไปล่ะ”
เจ้าเมืองหวยเฉิงหัวเราะ “นายลองดูสิ!”
เมื่อพูดจบ เขาปลดปล่อยพลานุภาพบู๊
ออกจากตัว แต่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ราชายา
แต่เล่นงานใส่เย่าหลี
ตอนนี้เย่าหลีรู้สึกหนาวเข้าไปในกระดูก ราวกับตัวเองขยับเพียงทีเดียว ก็สามารถตายได้
เจ้าเมืองหวยเฉิง ยิ้มแล้วพูดว่า
นายโปรดปรานลูกศิษย์คนนี้มาก ถ้าฉันเดาไม่ผิด เขาคงเป็นผู้สืบทอดคนเดียวของนายสินะ”
“ฉันได้ยินมาว่า
เมื่อพูดออกมา ทุกคนถึงกับตกตะลึง!
ความอาฆาต
ฉายขึ้นในแววตาของราชายา จ้องเจ้าเมืองหวยเฉิงเขม็ง “นายเอาลูกศิษย์ฉัน
มาขู่ฉันงั้นเหรอ”
เจ้าเมืองหวยเฉิงยิ้มเย็นชา “ขู่อะไรกัน ฟังดูไม่ไพเราะเลย
ฉันแค่กะจะให้เขาอยู่ในจวนเมืองหวยเฉิง อีกสักระยะ
นายจะเอาแขกคนสำคัญของฉันไปไม่ใช่เหรอ ตามสบายเลย!”
หยางเฉินเพิ่งเข้าใจเจตนาของเจ้าเมืองหวยเฉิง ถ้าราชายาจะเอาตัวเขาไป
ใช้ไม้แข็ง สุดท้ายจะมีเพียงผลลัพธ์เดียว นั่นก็คือหยางเฉินโดนราชายาฆ่าตาย
ถ้าเจ้าเมืองหวยเฉิง
เช่นเดียวกัน
ราชายาอยากเอาตัวเย่าหลีไป ก็ยากเหมือนกัน
นอกเสียจากเขาจะเตรียมใจ เอาศพเย่าหลีกลับไป
แต่ฟังจากที่เจ้าเมืองหวยเฉิงพูด เย่าหลีคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของราชายา ราชายาจะเอาศพไปได้อย่างไร
ขณะนั้น ศิษย์คนหนึ่ง
แย่แล้ว มีคนลอบโจมตีหุบเขาราชายา เราสูญเสียหนักมาก!”
เดินอย่างตื่นตระหนกมาข้างราชายา พูดอย่างตระหนกว่า “ราชายา
“อะไรนะ”
สีหน้าของราชายา เปลี่ยนไปทันที
ลูกศิษย์รีบพูดว่า “ราชายา ข่าวเพิ่งส่งมาจากหุบเขาราชายา พละกำลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยๆ เป็นผู้แข็งแกร่ง แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด ในหุบเขาราชายา ไม่มีใครต้านทานได้!”
ราชายามองเจ้าเมืองหวยเฉิงทันที ถามอย่างโมโหว่า “คนของนายเหรอ”
เจ้าเมืองหวยเฉิงขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นชาว่า “ถ้าเป็นคนของฉัน ฉันจะพูดไร้สาระกับนายเยอะขนาดนี้ไหม”
“วันนี้ ฉันพูดไว้แค่นี้ จะเอาแขกคนสำคัญของฉันไปก็ได้ แต่ผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของนาย ต้องอยู่ที่จวนฉันสักระยะ”
“ถ้าแขกคนสำคัญของฉัน ได้รับบาดเจ็บเพียงนิดเดียว ในหุบเขาราชายาของนาย ฉันรับรองว่าผู้สืบทอดของนายจะต้องชดใช้เป็นเท่าตัว!”
ราชายาโมโห แต่ระบายออกมาไม่ได้ อีกทั้งยังทำอะไรเจ้าเมืองหวยเฉิงไม่ได้
อยากพาหยางเฉินไป แต่กลับพาไปไม่ได้ อีกทั้งในหุบเขาราชายา ก็มีผู้แข็งแกร่งกำลังเหิมเกริมอยู่ เขาทำได้เพียงกลับไปเท่านั้น
“ฉันจะดูสิว่า นายจะอยู่ในจวนเมืองหวยเฉิง ได้นานแค่ไหน!”
ราชายามองหยางเฉิน แล้วพูดด้วยสีหน้าอาฆาต
พูดจบ เขาสะบัดมือ “กลับ!”
คนของหุบเขาราชายา มาและไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียว คนหุบเขาราชายา ที่อยู่ในจวนเมืองหวยเฉิง กลับไปหมดแล้ว
หยางเฉินมาตรงหน้าเจ้าเมืองหวยเฉิง โค้งตัวเบาๆ แล้วพูดว่า “ขอบคุณบุญคุณที่เจ้าเมืองช่วยชีวิต!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงส่ายหน้าเบาๆ พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ทางที่ดี นายอยู่จวนเจ้าเมืองหวยเฉิงอีกสักระยะ ในจวนเมืองหวยเฉิง เขาทำอะไรนายไม่ได้ แต่ถ้าออกจากที่นี่ ราชายาคงฆ่านายได้อย่างง่ายดาย”
หยางเฉินสีหน้าไม่สู้ดี พูดขึ้นมาว่า “ถ้าไม่ฆ่าเจียงลั่ว ผมคงอยู่ได้ไม่กี่วัน ในเมื่อเจียงลั่ว อยู่หุบเขาราชายา ถึงแม้ต้องตาย ผมก็ต้องไปหุบเขาราชายา!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงขมวดคิ้ว อย่างที่หยางเฉินพูด เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว ความรุนแรงของพิษกู่ไร้หัวใจ เจ้าเมืองหวยเฉิง รู้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ขณะนั้น เสียงมือถือของหยางเฉินดังขึ้น เมื่อรับสาย ได้ยินเสียงเหล่าจิ่วดังขึ้น “รีบออกจากจวนเมืองหวยเฉินโดยเร็ว!”