The king of War - บทที่ 1660 ข้ามฟากแม่น้ำหวยเหอ
บทที่ 1660 ข้ามฟากแม่น้ำหวยเหอ
ในขณะนั้น ไม่เพียงเจ้าเมืองหวยเฉิงที่ตื่นตะลึง แม้ผู้ที่ดูสงบนิ่งที่สุดอย่างเจียงเฉิงจื่อ
พึมพำกับตัวเองว่า “มันมีอัจฉริยะในการฝึกบูโดแบบนี้ด้วยจริง ๆ”
ยังปรากฏความรู้สึกอัศจรรย์ใจในสีหน้า
ด้วยประสบการณ์ของพวกเขาที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งแค่เพียงระดับกลางแดนเหนือมนุษย์ สามารถฝึกได้บรรลุพลังแห่งธาตุ ได้
ตามหลักการทั่วไปที่เป็นมา มีแต่ผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าของวงการบูโดเท่านั้น ที่จะสามารถฝึกบรรลุพลังแห่งธาตุ ได้
นี่ก็ยังไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว มีหลายผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าของวงการบูโด
แม้นไม่มีผู้ฝึกพลังแห่งธาตุ จนบรรลุได้ ก็คงยังไม่มีการก้าวข้ามแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าระดับสุดยอด
อยู่ไปทั้งชีวิต ก็ยังไม่แน่ว่าจะฝึกบรรลุพลังแห่งธาตุ ได้
แต่ทว่าตอนนี้ หยางเฉินกลับฝึกบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำได้ ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่า เจ้าเมืองหวยเฉินจะตื่นตระหนกขนาดไหน
พูดได้ว่า
พลังแห่งธาตุ เป็นเรื่องในอนาคต เป็นก้อนอิฐที่ใช้เคาะเปิดประตูเพื่อก้าวข้ามแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าระดับสุดยอดของวงการบูโด แต่หยางเฉินกลับใช้เพียงแค่พลังฝีมือระดับกลางแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด
ก็บรรลุแล้ว
“เจ้าสมควรตาย!”
หยางเฉินแทบจะกัดฟันคำรามเสียงโกรธเกรี้ยวนี้ออกมา
“ปึง ปึง ปึง!”
ได้เห็นผิวน้ำรอบบริเวณ
เหมือนจะเดือดพล่านขึ้นมา เกิดเป็นฟองน้ำปุดขึ้นมาส่งเสียงขลุกขลักขลุกขลักไม่ขาดสาย ทันใดนั้นเกิดเสียงระเบิดดังลั่น
น้ำพุ่งขึ้นเป็นดาวกระจาย
อานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวของพลังบูโด แผ่กระจายออกมาจากตัวของหยางเฉินไม่ขาดสาย
เจ้าเมืองหวยเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา คนมีพลังฝีมือระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าอย่าเขานี่ กลับรู้สึกมีความกดดันอย่างหนัก จากผู้แข็งแกร่งแค่ระดับกลางแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดผู้นี้
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดเสียงเยือก “ต่อให้แกฝึกบรรลุถึงพลังแห่งธาตุน้ำ แล้วจะมีอะไร?ในแวดวงบูโดนั้นเจ้ายังห่างออกไปจากข้าอีกไกล เจ้าถึงยังไงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
ขาดคำเสียงพูด เท้าของเขาได้ขยับ เดินตรงลงไปบนน้ำ มุ่งหน้าลุยเข้าหาหยางเฉิน
“ปึง!”
หยางเฉินกระทืบเท้าลงไปในทันใด บนผิวน้ำแม่น้ำหวยเหอ เกิดเป็นคลื่นโหมม้วนกระหน่ำขึ้นมา
สายลำน้ำกลายเป็นงูยักษ์ พุ่งตรงเข้าหาเจ้าเมืองหวยเฉิง
แม่น้ำหวยเหอ ดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมา
“ครืน!”
งูสายน้ำซัดใส่ร่างเจ้าเมืองหวยเฉิง
เจ้าเมืองหวยเฉิงผู้มีพลังธาตุไฟอยู่ พอได้ถูกงูสายน้ำซัดเข้า พลังธาตุไฟบนตัวถูกสยบ
น้ำสยบไฟ คงเป็นกฎเกณฑ์ในประการฉะนี้เอง
หยางเฉินฝึกบรรลุได้ในพลังธาตุน้ำ
ส่วนในตัวเจ้าเมืองหวยเฉิงเองฝึกได้มาในพลังธาตุไฟ ในเวลานี้อยู่บนแม่น้ำหวยเหอ เจ้าเมืองหวยเฉิงจึงไม่สามารถเข้าประชิดตัวหยางเฉินได้เลย เดิมทีที่ยังสามารถย่ำเดินบนผิวน้ำได้
แต่ในรัศมีสิบเมตรรอบบริเวณตัวของหยางเฉิน เจ้าเมืองหวยเฉินไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะให้ยืนได้บนผิวน้ำ
ภาพเห็นเขาสะกิดปลายเท้าเบา ๆ ร่างก็ดูพลิ้วเบาลอยประดุจนกเป็ดน้ำ ถอยกลับไปบนเรือลำน้อยของเจียงเฉิงจื่ออย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเจ้าเมืองเฉิงเครียดลงสุด
ๆ ในสายตาของเขา คนที่เขาเห็นเป็นแค่ตัวแสดงประกอบปลายแถวเหมือนมดปลวกตัวเล็ก ๆ ตอนนี้เขากลับไม่สามารถเข้าใกล้ตัวได้ ถึงแม้เขาอยู่ถึงระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า
ถึงแม้เขาย่ำเดินบนผิวน้ำได้ แต่พอมาเจอเข้ากับหยางเฉินที่บรรลุพลัง พลังแห่งธาตุน้ำแล้ว อยู่ในน้ำ เขาไม่มีปัญญาจะทำอะไรหยางเฉินได้เลยแม้แต่น้อย
หยางเฉินในขณะนี้ ความฮึกเหิมในการศึกเต็มพร้อมทั่วร่าง สองตาทอประกายแดงโร่ ดูเกือบจะเข้าขั้นสติแตกแล้ว
เพียงแต่เขาได้พยายามอดกลั้นไว้ สองตาจ้องเขม็งไปที่เจ้าเมืองหวยเฉิง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นพูดว่า
“ต้องมีสักวันหนึ่ง ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือข้าเอง!”
พูดจบ เขาก็ตรงเข้าไปอุ้มเหล่าจิ่วกับหวยหลัน ขึ้นมา หันมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่เดินออกไปจากเมืองหวยเฉิง
ในเวลานี้ เขาผู้บรรลุพลังแห่งธาตุน้ำแล้ว
บนผิวน้ำ ก็เหมือนยืนอยู่บนผิวพื้นบนดิน
ไม่มีความแปลกต่าง
เจ้าเมืองหวยเฉิงได้แต่มองหยางเฉินเดินออกไป ไม่รู้จะทำยังไง
ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “กล้ากดดันข้า
มีแกเป็นคนแรก!”
เจียงเฉิงจื่อ ก็มองตามทิศทางที่หยางเฉินเดินไป ท่าทีครุ่นคิดอะไรอยู่
“ท่านเจ้าเมือง!”
ในขณะนั้นเอง เรือลำใหญ่หลายลำมุ่งตรงเข้ามา กลุ่มผู้แข็งแกร่งแห่งเมืองหวยเฉิง พากันส่งเสียงเข้ามา
พวกเขาได้มองเห็นมาแต่ไกลแล้วตอนหยางเฉินต่อสู้กับเจ้าเมืองหวยเฉิง แต่ที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงคือ พลังฝีมือเก่งกาจอย่างเจ้าเมืองหวยเฉิง กลับไม่สามารถจัดการหยางเฉินให้อยู่หมัดได้
นอกเหนือจากนี้
ยิ่งทำให้พวกเขาต้องตื่นตาตื่นใจคือ หยางเฉินถึงขนาดเดินอยู่บนแม่น้ำหวยเหอ เหมือนเดินท่องไปกับพื้นถนน
แล้วก็เดินจากไปเฉย ๆ ?
เท่าที่พวกเขารู้กัน มีแต่เพียงผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าเท่านั้น จึงสามารถเดินไปบนผิวน้ำได้
แต่พลังฝีมือของหยางเฉิน เป็นที่รู้กันชัด ๆ ว่าแค่เพียงระดับกลางแดนเหนือมนุษย์
เขาทำไมถึงทำได้ขนาดเดินไปบนผิวน้ำได้?
“พวกเราไปกันเถอะ!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดเสียงเยือก เดินขึ้นเรือใหญ่ไปทันที
และแล้ว แม่น้ำหวยเหอ กลับสู่สภาพลมเรียบคลื่นสงบ
กลางแม่น้ำหวยเหอ มีเพียงเจียงเฉิงจื่อ หนึ่งคนหนึ่งเรือ กำลังตกปลา
อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินได้นำเหล่าจิ่วกับหวยหลันข้ามฟากแม่น้ำหวยเหอ มาอีกฝั่ง เหล่าจิ่วรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาก่อน
พอเขามองไปเห็น เวลานี้พวกเขาได้ข้ามฟากมาอีกฝั่งแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ
เหล่าจิ่วถามด้วยความประหลาดใจว่า “พวกเราออกพ้นจากแม่น้ำหวยเหอ แล้วหรือ?”
หยางเฉินผงกหัว
เหล่าจิ่วถามอีก “ท่านผู้อาวุโสเจียงเฉิงจื่อ ลงมือเองแล้วหรือ?”
เขาคิดไม่ออกจริง
ๆ นอกจากเจียงเฉิงจื่อ จะลงมือช่วยแล้ว
ยังจะมีใครเข้าไปช่วยได้ในเวลานั้น
หยางเฉินได้แต่ส่ายหน้า
เหล่าจิ่วเลยงงเข้าให้ทันที ไม่ใช่เจียงเฉิงจื่อ ลงมือช่วย
ลำพังหยางเฉิน เป็นไปได้ยังไงที่จะเอาตัวเขากับหวยหลัน
ขึ้นมาจากกลางแม่น้ำหวยเหอ พร้อมกันได้?
“อุบ!”
ทันใดนั้น หยางเฉินกระอักเลือดออกมา
“หยางเฉิน!”
สีหน้าเหล่าจิ่วเปลี่ยนไปในพลัน พยุงตัวหยางเฉินไว้
หยางเฉินในขณะนั้น
จึงได้ฝืนยันตัวให้อยู่ พาร่างของเหล่าจิ่วกับหวยหลัน ออกมาจากแม่น้ำหวยเหอ
สีหน้าซีดเผือด ก่อนหน้านี้เขาได้ฝืนกลั้นกระแสแตกกระจายของเส้นเลือดอย่างเต็มสุดพลัง
ตอนนี้เห็นเหล่าจิ่วฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาก็ทนรับความกดดันจากการบาดเจ็บสาหัสภายในได้ กระอักเป็นเลือดออกมา
“ท่านจิ่ว ข้าไม่เป็นอะไร ก็เพียงแต่เมื่อกี้นี้ใช้พลังเกินมากไป!”
หยางเฉินฝืนยันตัวยืนขึ้น เอ่ยปากพูด
เหล่าจิ่วพูดด้วยความรู้สึกละอายว่า “ท่านเจ้าเมืองเหมียวมอบหมายให้ข้ามาคอยคุ้มครองท่าน คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายกลับเป็นท่านที่ช่วยข้าออกมาจากแม่น้ำหวยเหอ”
หยางเฉินรีบส่ายหน้า
“ท่านจิ่ว ถ้าไม่ใช่เพราะท่านช่วยไว้ การเข้าไปในเมืองหวยเฉิงครั้งนี้
น่ากลัวว่าข้ายังไม่ทันได้พบเจียงลั่ว ตัวเองก็คงตายอยู่ในเมืองหวยเฉิงแล้ว”
หยางเฉิงหลังจากได้กระอักเอาเลือดคลั่งออกไป รู้สึกเหมือนความกดดันภายในตัวคลายลง กลับทำให้สบายตัวขึ้นมาก
ก่อนหน้านี้ที่เหล่าจิ่วถาม
ไม่ใช่เขาจะไม่ตอบ แต่มันเหมือนมีลิ่มเลือดจุกอยู่ที่คอหอย
กระอักออกมาไม่ได้ จึงทำให้พูดไม่ออก
ตอนนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นมากแล้ว เขาก็จึงเอ่ยปากถาม
“ท่านเก้า จะมีแต่ผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าเท่านั้นหรือ ที่จะฝึกพลังแห่งธาตุ
ได้?”
เหล่าจิ่วอึ้งงงไปนิดหนึ่ง แล้วก็ผงกหัวพูดว่า
มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่ต้องมีพรสวรรค์ด้านบูโดจริง ๆ จึงจะฝึกให้บรรลุถึงพลังแห่งธาตุ ได้”
“ก็ไม่ใช่ว่าผู้แข็งแกร่งในแวดวงบูโดที่ก้าวถึงระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์แล้ว จะฝึกให้บรรลุถึงพลังแห่งธาตุ ได้ทั้งหมด
“ก็เหมือนอย่างเจ้าเมืองหวยเฉิง เขาได้ฝึกจนบรรลุพลังธาตุไฟแล้ว และ ราชายาแห่งหุบเขาราชายานั่นก็ได้บรรลุถึงพลังธาตุน้ำแข็งแล้ว”
“อีกทั้งผู้แข็งแกร่งที่ฝึกจนบรรลุพลังแห่งธาตุ แล้ว พลังฝีมือการต่อสู้จะก้าวข้ามผู้แข็งแกร่งที่ยังไม่ได้ฝึกจนบรรลุพลังแห่งธาตุ ”
“ก็มีแต่ผู้แข็งแกร่งที่ฝึกจนบรรลุถึงพลังแห่งธาตุ จึงจะมีหวังก้าวขึ้นเหนือกว่าผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าได้”
หยางเฉินถามต่ออีก “ถ้างั้น
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า
จะมีทางฝึกให้บรรลุถึงพลังแห่งธาตุ ได้ไหม?”
เหล่าจิ่วคิดตรึกตรองพักหนึ่ง ส่ายหน้า “ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนนะ น่าจะไม่มี!”
ได้ยินที่เหล่าจิ่วพูดมา จู่
ๆ หยางเฉินก็ยื่นมือออกไป วาดกวักมือไปที่แม่น้ำหวยเหอ ในวินาทีต่อมา น้ำในแม่น้ำหวยเหอได้ก่อตัวขึ้นเป็นร่างงูเล็ก มุ่งตรงเข้ามาที่มือของหยางเฉินในขณะนั้น ดูเหมือนมีชีวิต
ขดม้วนรอบแขนหยางเฉิน
เหล่าจิ่วที่อยู่ข้าง ๆ ถึงกับตะลึงตาค้าง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ