The king of War - บทที่ 1669 จะต้องอยู่
บทที่ 1669 จะต้องอยู่
“หลี่เสิ้ง
ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าไม่ใช่พวกเราฆ่าจริง ๆ นะ เจ้าต้องใช้สมองคิดให้ดี ๆ นี้มันเป็นแผนอันชั่วร้ายของผู้หญิงคนนี้ชัด ๆ
หล่อนต้องการยุให้เกิดการขัดแย้งกันระหว่างหุบเขาราชายากับจวนเมืองหวยเฉิง”
ผู้แข็งแกร่งที่หวยฉิงอวี่หวยฉิงอวี่จัดมา หันมองหน้าหลี่เสิ้งแล้วรีบพูด
เขาชื่อหยวนโส้วไฉ เป็นผู้แข็งแกร่งที่หวยฉิงอวี่หวยฉิงอวี่แอบเลี้ยงไว้ลับ
คอยช่วยทำงานให้หวยฉิงอวี่หวยฉิงอวี่มาอยู่ตลอด และรู้เรื่องดีที่หวยฉิงอวี่หวยฉิงอวี่คิดจะครอบครองจวนเมืองหวยเฉิง
ๆ
ในขณะนี้เป็นช่วงนาทีสำคัญที่สุด
หวยฉิงอวี่หวยฉิงอวี่ได้เตรียมจะลงมือจัดการกับเจ้าเมืองหวยเฉิงแล้ว แต่กลับมาเกิดเรื่องที่มีเงื่อนงำในเชิงเลวร้าย หากหุบเขาราชายาเปิดศึกกับจวนเมืองหวยเฉิง ทั้งสองฝ่ายย่อมต้องเกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
ถึงเวลานั้นแม้นว่าหวยฉิงอวี่หวยฉิงอวี่จะได้ครอบครองจวนเมืองหวยเฉิง ก็คงเป็นจวนเมืองหวยเฉิงที่ยับเยินใกล้ล่มสลายแล้ว
ได้ยินหยวนโส้วไฉพูดดังนั้น หวยหลันรีบพูดไปว่า “ถ้าข้ามีความสามารถขนาดนั้นก็คงดีสินะ ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นแผนร้ายของข้า
ข้าจะทำแบบนี้เพื่ออะไร?แล้วทำไปได้ยังไง?การสังหารสองผู้คุมกฎแห่งหุบเขาราชายาฝีมือระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปด อีกหนึ่งผู้แข็งแกร่งฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นด้วย?”
งั้นเจ้าช่วยบอกข้าหน่อย
“หรือจะว่า เป็นการใช้พลังฝีมือสองผู้แข็งแกร่งที่อยู่ข้าง ๆ ข้านี้หรือ?หนึ่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดที่บาดเจ็บสาหัส
กับอีกหนึ่งผู้แข็งแกร่งระดับกลางแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดที่เจ็บหนักอยู่ด้วยเช่นกัน รวมข้าที่เหมือนมดปลวกฝีมือแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดงั้นหรือ?”
หยวนโส้วไฉก็เลยถึงกับมึน “อ่า……….”
ในทันทีนั้นก็ทำให้เขาตอบอะไรไม่ถูก ก็อย่างที่หวยหลันพูด ด้วยอาศัยพวกหยางเฉินนั้นไม่มีทางจะฆ่าพวกสวีฮว๋าสามคนนั้นได้
ทอดสายตามองไปทั่วทั้งจวนเมืองหวยเฉิง ผู้ที่สามารถทำได้ขนาดนี้ นอกจากยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าลงมือเอง หรือไม่งั้นก็ต้องเป็นทีมงานที่มีพลังฝีมือสามารถบดขยี้พวกสวีฮว๋าทั้งสามคนได้
ถ้าไม่ใช่ตกอยู่ในสภาพวิกฤตจำเป็นจริง ๆ
แล้ว ราชายากับเจ้าเมืองหวยเฉิงจะไม่มีการออกมาลงมือสังหารผู้แข็งแกร่งของแต่ละฝ่ายแน่นอน เพราะถ้าใครไปสังหารผู้แข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม
ฝ่ายตรงข้ามก็จะมาสังหารผู้แข็งแกร่งของตัวเองได้เหมือนกัน
ในเมื่อไม่ใช่ฝีมือจากผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ถ้างั้นก็มีแต่กลุ่มทีมงานที่มีความสามารถพอที่จะบดขยี้สวีฮว๋าสามคน และหยวนโส้วไฉกับพวกผู้แข็งแกร่งรวมกันหกคน ก็พอดีมีปัจจัยลงตัวตรงตามนี้
หลี่เสิ้งก็เข้าใจได้ตามเหตุผลนี้
ก็จงรับสนองไฟแค้นของพวกเราหุบเขาราชายาได้แล้ว!”
พูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมว่า “ตอนนี้ แกยังจะมีอะไรพูดอีกไหม?ถ้าไม่มี
ผู้แข็งแกร่งจากหุบเขาราชายาที่มีหลี่เสิ้งเป็นหัวหน้า ตัวหลี่เสิ้งเองเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลาย
นอกจากนั้นอีกเก้านาย ก็มีหนึ่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด
สองผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นกลาง ที่เหลือหกนาย ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น
กองกำลังขนาดนี้ แทบจะเรียกได้ว่ายกเว้นหุบเขาราชายาออกมาด้วยตัวเองแล้ว นี่เป็นกองกำลังสุดยอดที่สุดของหุบเขาราชายา
ถ้าทั้งสองฝ่ายเปิดศึกกันขึ้น พวกทางฝ่ายหยวนโส้วไฉกับพวก ไม่มีทางที่จะสู้ได้เลย
หยวนโส้วไฉไม่มีอะไรจะพูด ความคิดในสมองแล่นพล่าน
ขณะนี้เขามั่นใจได้ว่า พวกผู้แข็งแกร่งจากหุบเขาราชายา หวยหลันนั่นแหละเป็นผู้ชักนำเข้ามารับมือพวกเขา ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าหวยหลันชักนำเข้ามาได้ยังไง
แต่ที่รู้ได้แน่ เรื่องการถูกฆ่าของสวีฮว๋ากับผู้คุมกฎทั้งซ้ายขวา มีแต่ตัวพวกเขาเองนั่นแหละที่น่าสงสัยมากที่สุด
เวลานี้ ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ไม่มีทางที่จะทำให้หลี่เสิ้งเชื่อได้
และถ้าพวกเขาขืนอยู่ที่นี่ ก็คงจะต้านรับอยู่ได้ไม่นาน ในเมื่อเห็นแล้วว่าสู้ไม่ได้ งั้นก็คงไม่มีอะไรจำเป็นต้องอยู่ต่อแล้ว
คิดมาถึงตอนนี้ หยวนโส้วไฉไม่เห็นมีอะไรต้องลังเลอีก
สั่งการออกไปทันที
“พวกเราทั้งหมด ถอย!”
เสียงสั่งการจบ เขาก็ได้วิ่งนำมุ่งออกไปนอกประตูโรงเรียนร้างนั้น
ทุกคนที่เหลืออยู่นอกนั้นยืนอึ้งนิดหนึ่ง แล้วก็เฮโลพากันวิ่งตามหยวนโส้วไฉออกไป
หลี่เสิ้งสั่งออกไปด้วยความโกรธ “ตามพวกมันไป!”
สิ้นเสียงตวาดสั่ง ผู้แข็งแกร่งทั้งสิบจากหุบเขาราชายา มุ่งหน้าตามพวกหยวนโส้วไฉออกไป
ชั่วครู่เดี๋ยวเดียว ในโรงเรียนร้างนั้น ผู้แข็งแกร่งจากจวนเมืองหวยเฉิงและหุบเขาราชายา ออกกันไปกันทั้งหมด
เหล่าจิ่วมองไปที่หวยหลัน “ตอนนี้ พวกเราจะเอายังไงดี?”
หวยหลันยิ้ม
ๆ “ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งจากจวนเมืองหวยเฉิงและหุบเขาราชายาคิดว่าน่าจะถูกเบื้องบนของพวกเขาสั่งถอนกำลังกลับกัน
เพื่อเตรียมเปิดสงครามกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครมาสนใจพวกเรา ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่พวกเราจะออกจากที่นี่ไป”
หยางเฉินพูดว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นพวกเราไปกันเถอะ!”
จิตใจของเขารุ่มร้อนอยากจะกลับให้ถึงเยี่ยนตูแล้ว อยากรีบเอาแก้ววิเศษที่ได้จากตัวของสวีฮว๋า ไปให้เฝิงเสียวหว่านจัดการใช้รักษาหม่าชาว
หวยหลันกลับบอกว่า “ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการออกจากที่นี่ไป แต่ฉันไม่อยากเสนอให้ไปในตอนนี้”
เหล่าจิ่วและหยางเฉินพากันหันไปมองหล่อน
หวยหลันพูดต่อ
“ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้บอกไว้แล้วว่า ไม่ว่าจวนเมืองหวยเฉิงหรือหุบเขาราชายา ใครจะได้เป็นผู้ครอบครองเมืองหวยเฉิง หลังจากได้ฟื้นฟูระเบียบจัดรูปแบบเมืองหวยเฉิงจนเข้าที่แล้ว
พวกเขาจะไม่มีทางปล่อยพี่หยางเด็ดขาด”
“ในเมื่อจะต้องเป็นเช่นนั้น
ไม่สู้เราฉวยโอกาสนี้ไล่ฆ่าพวกมันทิ้งสักหลายคน ผู้แข็งแกร่งของพวกมันตายไปได้ยิ่งมาก
ความกดดันให้พี่หยางในภายหลังก็ยิ่งจะได้น้อยลง”
“แน่นอน นี้เป็นเพียงความคิดโดยส่วนตัวฉันเอง การจะไปในทันทีนี้หรือไม่
ก็ต้องอยู่ในการตัดสินใจของพี่หยางเอง”
“ทว่า
ถ้าเกิดพวกเราถูกเปิดเผย กลัวว่าเดี๋ยวจะโดนคนของจวนเมืองหวยเฉิงกับหุบเขาราชายาทั้งสองฝ่ายจับมือกันมาเล่นงานพวกเราได้นะ”
การที่พวกเราจะไปตามไล่ล่าผู้แข็งแกร่งทั้งสองฝ่าย มันก็มีความเสี่ยงต่อพวกเราสูงอยู่มาก
ได้ยินที่หวยหลันพูดมา หยางเฉินฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ในทันที
ก่อนหน้านี้หวยหลันก็เคยพูดถึงเรื่องทำนองนี้
และที่หวยหลันพูดก็มีเหตุผลมาก ในเมื่อเจ้าเมืองหวยเฉิงไม่สามารถฆ่าเขาได้
อีกทั้งรู้ชัดแล้วว่าเขาฝึกบรรลุถึงพลังแห่งธาตุน้ำแล้ว จะต้องไม่ไว้ชีวิตเขาเป็นแน่
อีกทั้งหยางเฉินก็ยังเคยได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งจากหุบเขาราชายาก่อนหน้านี้ เหล่าจิ่วก็ฉวยโอกาสตอนที่ราชายาไปเมืองหวยเฉิงลุยเข้าไปฆ่าผู้แข็งแกร่งในหุบเขาราชายาไปไม่น้อย บัญชีนี้แน่นอนว่าถูกบันทึกใส่ไว้ให้กับหยางเฉิน
โดยนิสัยส่วนตัวของราชายา แน่นอนว่าจะไม่ยอมปล่อยหยางเฉินเด็ดขาด
เวลานี้การประหัตประหารกันของหุบเขาราชายากับจวนเมืองหวยเฉิง
ไม่ว่าสุดท้ายฝ่ายชนะจะเป็นฝ่ายไหน พอว่างมือลงมา ต่างก็จะต้องตามฆ่าหยางเฉินให้ได้ต่อเป็นแน่
คิดมาถึงตอนนี้ ในใจของหยางเฉินก็เห็นคำตอบแล้ว
เหล่าจิ่วพูดเสียงขรึม “หยางเฉิน
ตอนนี้ขอให้ท่านไปเมืองเหมียวกับข้า เพียงแต่ท่านไม่ออกจากเมืองเหมียว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเมืองหวยเฉิงหรือราชายา ไม่มีทางมาทำอะไรท่านได้”
อันตรายแบบนี้ ไม่คุ้มค่าในการเสี่ยง
“อาศัยความมีพรสวรรค์ด้านบูโดของท่าน เพียงขอให้สงบใจในสมาธิฝึกอยู่ที่เมืองเหมียวไม่กี่ปี
การจะก้าวให้ถึงขั้นสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีหวังเลยนะ”
“ถึงเวลานั้น เมืองหวยเฉิงยังมีใครจะมาตอแยอะไรกับท่านได้?”
หยางเฉิงส่ายหน้า
มองไปที่เหล่าจิ่วพูดว่า “ท่านจิ่ว ข้าไม่สามารถอยู่ยาวในเมืองเหมียว ข้างนอกยังมีญาติมิตรของข้าอีกมากมาย
โดยเฉพาะลูกเมียของข้า ทุกวันนี้ยังต้องหลบซ่อนอยู่ข้างนอก”
“ข้าคิดว่า จะไล่ฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของเมืองหวยเฉิงให้มากเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
“ท่านจิ่ว
ท่านก็ได้ช่วยข้ามามากแล้ว ท่านกลับเมืองเหมียวของท่านไปเถอะ และพาหวยหลันไปด้วย ข้าตัวคนเดียว จะได้เป็นเป้าสายตาน้อยลง
จะได้หลบซ่อนตัวเองง่าย”
เหล่าจิ่วขมวดคิ้วย่น มองไปที่หยางเฉิน “ท่านจำเป็นต้องอยู่หรือ?”
หยางเฉินผงกหัว “จำเป็นจะต้องอยู่!”
เขาได้แยกจากกับลูกเมียมาถึงห้าปีเต็ม
และด้วยความจำเป็นในขณะนี้ ก็ต้องแยกจากกันมาอีกถึงหนึ่งปี
ๆ แล้ว กว่าจะได้พบกันก็อย่างแสนยาก
เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ๆ ต่อฉินซีและเสี้ยวเสี้ยว เขาไม่สามารถจะให้พวกเขาต้องรับความทุกข์จากความทุกข์ที่ไม่ใช่ของพวกเขาที่ควรต้องรับ