The king of War - บทที่ 1706 ดังไปทั่วจวนมู่
ไม่นาน หยางเฉินพาตัวเฝิงเสียวหว่านมาหาเจ้าเมืองมู่
“หยางเฉิน เสียหว่าน พวกนายมาทำอะไร?”
เจ้าเมืองมู่เห็นทั้งสองคน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แล้วก็ถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “เจ้าเมืองมู่ ท่านน่าจะรู้เรื่องที่เจ้าเมืองหวยเฉิงจะมาจวนมู่แล้วใช่มั้ยครับ?”
เจ้าเมืองมู่แแปลกใจเล็กน้อย เหมือนกับว่าคาดไม่ถึง ที่หยางเฉินเองก็รู้ข่าวเรื่องนี้แล้ว
เขาไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกนายสบายใจได้ ในเมื่อฉันตอบตกลงพวกนายไว้แล้วว่าจะปกป้องพวกนาย เพราะงั้นถึงแม้ว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงมาเอง ขอแค่ฉันไม่ตาย เขาก็อย่าได้คิดจะแตะต้องพวกนายแม้แต่นิดเดียว”
หยางเฉินพูดว่า “ครั้งนี้ที่เจ้าเมืองหวยเฉิงมา มีความเป็นไปได้อย่างมากที่มาเพื่อทดสอบคุณ เสียวหว่านมีวิธีที่จะทำให้ขาของคุณหายดีได้ชั่วคราว แต่อยู่ได้แค่ระยะเวลาสิบนาทีเท่านั้น”
“เมื่อสิบนาทีผ่านไป ขาของท่าน ก็จะกลับเป็นสภาพไร้ความรู้สึกเหมือนเดิมทันที”
เจ้าเมืองมู่ดีใจขึ้นมาทันที ถามอย่างตื่นเต้นว่า “พูดจริงงั้นหรอ?”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่เฝิงเสียวหว่าน
เฝิงเสียวหว่านพยักหน้าเล็กน้อย “จริงค่ะ!”
“ฮ่าๆ โอเค!”
เจ้าเมืองมู่หัวเราะพูดว่า “ฉันไม่ได้ลุกขึ้นยืนมานานหลายปีแล้ว แม้จะแค่สิบนาที ฉันก็พอใจมากแล้ว จะเริ่มกันเมื่อไหร่?”
เจ้าเมืองมู่อดทนรอไม่ไหวแล้ว
หยางเฉินหันไปถามเฝิงเสียวหว่าน “เสียวหว่าน เธอฝังเข็มต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
เฝิงเสียวหว่านพูดว่า “สิบนาทีค่ะ!”
แล้วหยางเฉินก็หันไปมองเจ้าเมืองมู่ พูดว่า “รอเจ้าเมืองหวยเฉิงเข้าเมืองซ่านเฉิงมาแล้ว ให้เสียวหว่านมาฝังเข็มให้กับคุณ ว่ายังไงครับ?”
เจ้าเมืองมู่พยักหน้า พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดีมาก!”
กำลังคุยกันอยู่ มู่ฮว๋าก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน พูดว่า “ท่านเจ้าเมืองครับ เมื่อกี้นี้ เจ้าเมืองหวยเฉิงเข้ามาในซ่านเฉิงแล้วครับ ตอนนี้กำลังตรงมาทางจวนมู่ น่าจะอีกประมาณห้านาทีก็ถึงแล้วครับ”
หยางเฉินตกตะลึง “เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”
เจ้าเมืองมู่หรี่ตาพูดว่า “ไอ้แก่ตัวนี้ มาเร็วจริงๆ!”
พูดจบ เขาสั่งว่า “ถ้าหากเจ้าเมืองหวยเฉิงมาแล้ว นายคิดหาวิธีรั้งเขาไว้ แต่ถ้าเกิดการปะทะกันกับเขาเด็ดขาด”
มู่ฮว๋ารีบตอบรับ “ครับ ท่านเจ้าเมือง!”
มู่ฮว๋าจากไป เจ้าเมืองมู่ ก็หันไปมองเฝิงเสียวหว่าน พูดว่า “เสียวหว่าน รบกวนเธอด้วยละ!”
เฝิงเสียวหว่านพยักหน้า หยิบเอากระเป๋าเข็มออกมา บนใบหน้า เต็มไปด้วยสีหน้าจริงจัง
หยางเฉินเหลือบมองเฝิงเสียวหว่าน จากนั้นก็ค่อยๆถอยออก แล้วไปหาเหล่ากับและหวยหลัน
เพิ่งเข้าไปในห้อง หวยหลันก็พูดด้วยสีหน้าร้อนรนว่า “พี่หยาง เมื่อกี้นี้ เจ้าเมืองหวยเฉิงได้เข้ามาในเมืองซ่านเฉิงแล้ว อย่างมากอีกแค่ห้านาที เขาก็จะมาถึงจวนมูนแล้วค่ะ”
หยางเฉินพยักหน้า สีหน้าเป็นกังวล “เสียวหว่านกำลังฝังเข็มให้เจ้าเมืองมู่ ใช้เวลาเพียงแค่สิบนาที ถึงจะสามารถทำให้ขาของเจ้าเมืองมู่หายเป็นปกติได้ชั่วคราว”
เหล่าจิ่วขมวดคิ้ว เอ่ยปากพูดว่า “อย่างนี้แล้ว เจ้าเมืองหวยเฉิงก็ต้องเสียเวลก่อนมาจวนมู่ห้านาที ไม่อย่างนั้นสภาพตอนนี้เจ้าเมืองมู่ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าเมืองหวยเฉิง”
เขาเป็นคนข้างกายของหยางเฉินที่แข็งแกร่งมากที่สุด รู้ถึงพลังอำนาจได้ดีมากกว่า
ถึงแม้ว่าพลังอำนาจในตัวของเจ้าเมืองมู่จะแข็งแกร่งมาก แต่เขาสามารถสัมผัสได้ ว่าพลังอำนาจบูโดของเจ้าเมืองหวยเฉิงนั้นแข็งแกร่งกว่า
เจ้าเมืองหวยเฉิงมาจวนมู่ในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่ามาเพื่อทดสอบพลังของเจ้าเมืองมู่ ถ้าหากพลังของเจ้าเมืองมู่สู้เจ้าเมืองหวยเฉิงไม่ได้ เจ้าเมืองหวยเฉิงจะต้องทำการกดดันเจ้าเมืองมู่ให้ส่งตัวหยางเฉินออกไปแน่นอน
ดังนั้นแล้ว หากพลังของเจ้าเมืองมู่ในตอนนี้ยิ่งแข็งแกร่ง พวกเขาก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้น
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้ากังวลว่า “ตอนนี้ทำได้แค่ฝากฝังความหวังไว้ที่เสียวหว่านแล้วละ พวกเราซ่อนตัวอยู่ที่นี่ อย่าได้ออกไป ถ้าหากถูกเจ้าเมืองหวยเฉิงเห็นเข้าแล้วจะแย่”
พวกเขาในตอนนี้ต่างก็อึดอัดอย่างมาก แม้แต่ขยับเดินก็ไม่กล้า ไม่ใช่เพราะพวกเขาใจเสาะหวาดกลัว แต่เพราะพลังของเจ้าเมืองหวยเฉิงแข็งแกร่งมาก สู้ด้วยไม่ไหวจริงๆ
ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในแม่น้ำหวยเหอ ที่หยางเฉินสามารถพาตัวเหล่าจิ่วและหวยหลันหนีไปได้ ก็เป็นเพราะว่าบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำ และด้วยความไม่ได้ตั้งตัว จึงเปลี่ยนแปลงธรรมชาติแม่น้ำหวยเหอ แล้วเจ้าเมืองหวยเฉิงไม่สามารถออกมาจากแม่น้ำและไล่ฆ่าพวกเขาได้
แต่ตอนนี้ เจ้าเมืองหวยเฉิงรู้เรื่องที่เขาบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำแล้ว อีกอย่างตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่บนน้ำ หากหยางเฉินคิดจะมีชีวิตรอดออกมาจากสายตาของเจ้าเมืองหวยเฉิงนั้นไม่มีความหวังเลยสักนิด
เพิ่งครบห้านาที แรงกดดันบูโดสิ่งหนึ่งก็เข้ามาใกล้จวนมู่
วินาทีนี้ ทั่วทั้งจวนมู่ สีหน้าต่างก็หวาดกลัวกันหมด
“เจ้าเมืองหวยเฉิง ท่านมาได้ยังไงกันครับ?”
มู่ฮว๋าที่เฝ้าอยู่หน้าประตูจวนมู่มาตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นเจ้าเมืองหวยเฉิง จึงถามด้วยรอยยิ้ม
เจ้าเมืองหวยเฉิงยืนมือไขว้หลัง ยืนอยู่หน้าประตูจวนมู่ เหลือบมองมู่ฮว๋า และพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันมาเยี่ยมเยียนเจ้าเมืองมู่!”
มู่ฮว๋าพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขออภัยด้วยจริงๆครับ เจ้าเมืองมู่ของพวกเรากำลังจำศีลฝึกฝนอยู่ ไม่สะดวกพบแขกครับ เมื่อเขาออกมาแล้ว ผมจะแจ้งให้ครับ”
เจ้าเมืองหวยเฉิงคิ้วกระตุก หรี่ตามองมู่ฮว๋าแล้วพูดว่า “ถ้าหากว่าวันนี้ฉันต้องพบเจ้าเมืองมู่ให้ได้ละ?”
เสียงสิ้นสุดลง แรงกดดันที่น่ากลัวก็แผ่มาที่ตัวมู่ฮว๋า
วินาทีนี้ มู่ฮว๋ารู้สึกเพียงแค่ว่าร่างกายเหมือนมีภูเขากดทับ แล้วทำให้ร่างกายก็โค้งตัวลงเล็กน้อย
พลังบูโดในร่างกายของเขาระเบิดออกมา เพื่อจะมาต่อต้านแรงกดดันบูโดของเจ้าเมืองหวยเฉิง
เพียงแต่ ระดับบูโดของทั้งสองคนห่างกันมาก มู่ฮว๋าต่อต้านไว้ไม่ได้
มู่ฮว๋ากัดฟันพูดว่า “เจ้าเมืองหวยเฉิง คุณคิดจะรังแกผู้ด้อยกว่าหรือครับ? กดดันผู้น้อยอย่างผมเช่นนี้ แม้คุณจะฆ่าผมทิ้ง แล้วคุณจะได้อะไรครับ?”
เจ้าเมืองหวยเฉิงยิ้มเยาะ พลังอำนาจที่แข็งแกร่งมากกว่าได้แผ่ออกมาจากตัวเขา แล้วกระทบลงสู่ตัวมู่ฮว๋า
“ปัก!”
มู่ฮว๋าคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นอย่างแรง จนพื้นแตกร้าว
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด น่ากลัวเป็นอย่างมาก!เพียงแค่แรงกดดันจากพลังบูโดเท่านั้น ก็สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นกลางร่างกายอ่อนตัว คุกเข่าลงกับพื้นได้
มู่ฮว๋ากัดฟันแน่น พยายามพยุงร่างกาย ไม่ยอมให้เข่าอีกข้างของตัวเองทรุดลงพื้น
“เจ้าเมืองหวยเฉิง คุณทำมากเกินไปหรือเปล่าครับ?”
ในเวลานี้เอง ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำคนหนึ่งที่แบกดาบยาวไว้ เดินออกมา
ขณะเดียวกัน พลังบูโดที่แข็งแกร่งอย่างหนึ่งได้แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา
ชั่วขณะนั้น แรงกดดันบนตัวของมู่ฮว๋าลดลงอย่างมาก แต่ก็แค่ลดลงเท่านั้น ไม่ได้หายไปจนหมด
สายตาของเจ้าเมืองหวยเฉิงหรี่ลง จ้องมองไปที่ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำ เอ่ยปากพูดว่า “นักดาบเงาเพชฌฆาต!”
ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำนั่นก็คือนักดาบเงาเพชฌฆาตข้างกายของเจ้าเมืองมู่ ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น เหมือนดั่งดาบเล่มหนึ่ง มีกลิ่นอายของดาบคมที่แข็งแกร่งทั้งตัว และแผ่กระจายออกไปรอบด้าน
นักดาบเงาเพชฌฆาตพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “ไม่คิดเลย ว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงก็รู้จักผม”
เจ้าเมืองหวยเฉิงยิ้มเยาะ “แค่นาย คิดอยากจะขวางฉัน? บอกให้เจ้าเมืองมู่ออกมา ไม่อย่างนั้น ก็อย่าได้หาว่าฉันไม่เกรงใจนาย!”
เสียงสิ้นสุดลง พลังอำนาจบูโดที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ได้แผ่ออกมาจากตัวเขา แล้วครอบงำร่างกายของนักดาบเงาเพชฌฆาต
“เจ้าเมืองหวยเฉิง นายเกินไปแล้วนะ!”
ในตอนที่นักดาบเงาเพชฌฆาตกำลังเตรียมจะลงมือ น้ำเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง ก็ได้ดังก้องทั่วทั้งจวนมู่