The king of War - บทที่ 1717 เตรียมการต่อสู้
บทที่ 1717 เตรียมการต่อสู้
ขณะนี้ การต่อสู้ระหว่างเจ้าเมืองมู่กับราชายา ยังคงดำเนินต่อไป
อาการบาดเจ็บของเจ้าเมืองมู่สาหัสมาก แต่อาการบาดเจ็บของราชายายิ่งสาหัสกว่า เพียงแต่ราชายานั้นเคยดัดแปลง แทบไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย เหมือนกับเครื่องจักรที่ไม่มีวันหยุด และโจมตีไม่มีสิ้นสุด
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ตะโกนเสียงดัง “เจ้าเมืองมู่ราชายาถูกดัดแปลงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ตอนนี้ถือได้ว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดที่ครึ่งหนึ่งเป็นคนอีกครึ่งหนึ่งเป็นเครื่องจักรเท่านั้น ในร่างกายมีแหล่งพลังงาน ค้นหาแหล่งพลังงาน จากนั้นหาวิธีที่จะระเบิดพลังงานในร่างกายเขา ก็สามารถฆ่าราชายาให้ตายได้”
จากความเข้าใจของเขาที่มีต่อผู้แข็งแกร่งที่ผ่านการดัดแปลงมาแบบนี้ ทุกคนที่เคยถูกดัดแปลง ในร่างกายก็จะมีแหล่งพลังงานชนิดหนึ่ง ราวกับว่ามันให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อการโจมตีของผู้ถูกดัดแปลง
หลังจากที่เจ้าเมืองมู่ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน รูม่านตาก็หดตัวลงทันที ต่อสู้กับราชายาเป็นเวลานานขนาดนี้ เขาได้ตระหนักมานานแล้วว่าราชายามีบางอย่างที่ผิดปกติ ตอนนี้หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหยางเฉินแล้ว เขาถึงเข้าใจว่าที่แท้เรื่องมันเป็นมายังไง
“ตูม!”
เจ้าเมืองมู่ชกราชายาสะเทือนจนต้องถอยหลัง ทันใดนั้นโมเมนตัมวิถีบู๊ก็ระเบิดออกมา ครอบคลุมราชายาโดยตรง พยายามค้นหาแหล่งพลังงานในร่างกายของราชายา
เพียงแต่ว่า ทันทีที่เขาใช้พลังจิตในการรับรู้ เขาก็ตระหนักได้ว่า ทั่วร่างกายของราชายา ดูเหมือนจะถูกห่อหุ้มด้วยของสิ่งหนึ่ง ซึ่งดูดซับการรับรู้ของเขา
“ไม่ได้!”
สีหน้าของเจ้าเมืองมู่นั้นเคร่งขรึมอย่างยิ่ง แม้แต่ความแข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดของเขา ถึงกับไม่สามารถรับรู้ถึงสภาพภายในร่างกายของราชายาได้
แต่ว่าตอนนี้ เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า มันเป็นอย่างที่หยางเฉินพูด ราชายาได้ถูกดัดแปลง ดังนั้นถึงแม้เขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ยังสามารถคงความแข็งแกร่งในการต่อสู้ต่อไปได้
หยางเฉินก็รีบใช้พลังจิตเพื่อต้องการรับรู้และเข้าถึงราชายา แต่ว่า ทันทีที่เขาใช้การรับรู้นั้นเข้าไปบนร่างกายของราชายา ทันใดนั้นก็ถูกดูดซับทันที
“นี่……”
หยางเฉินตกตะลึง เขาไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย
หากหาแหล่งพลังงานในร่างกายของราชายาไม่เจอ ก็ไม่สามารถทำลายแหล่งพลังงานได้ ซึ่งหมายความว่า ขอเพียงพลังงานเพียงพอ ราชายาก็สามารถรักษาสถานะแบบนี้ไปได้ตลอด?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นหยางเฉินก็คิดได้อีกวิธีหนึ่ง รีบตะโกนบอก“เจ้าเมืองมู่อย่าต่อสู้กับเขาแบบซึ่งๆหน้า หาวิธีทำให้พลังงานในร่างกายของเขาลดลง”
“พลังงานในตอนนี้ของเขา มาจากแหล่งพลังงานในร่างกายของเขา ขอเพียงทำให้แหล่งพลังงานในร่างกายของเขาหมด เขาก็ไม่มีพลังต่อสู้อีกแล้ว”
ได้ยินเช่นนี้ เจ้าเมืองมู่ก็ตาสว่างทันที เขาก็ละทิ้งการต่อสู้แบบซึ่งๆหน้า แต่แค่หลบเลี่ยงไปเรื่อยๆ เพื่อให้ราชายาสิ้นเปลืองพลังงาน
มู่ฮว๋ามองไปทางเจ้าเมืองมู่ด้วยสีหน้าที่กังวล และถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แบบนี้ใช้ได้เหรอ?”
หยางเฉินส่ายหัว “ไม่รู้ ทางเลือกเดียวคือต้องลองดู!”
มู่ฮว๋าไม่ได้พูดอีก แต่ในสายตาที่แฝงด้วยความกังวล ยังคงกังวลอย่างมาก
ขณะนี้ ในห้อง โมเมนตัมวิถีบู๊ในตัวของนักดาบเงาเพชฌฆาต ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าเขาได้เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด บนจวนมู่ทั้งชั้น แผ่กระจายเต็มไปด้วยเมฆสีดำที่น่าสะพรึงกลัว
บนท้องฟ้า มีสายฟ้าแวบผ่านไปมาเป็นครั้งคราว ราวกับจะฉีกท้องฟ้าให้แยกออกจากกัน
เหล่าจิ่วยืนอยู่ข้างกายหยางเฉิน มองไปทางเจ้าเมืองมู่และพูดอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้แค่ราชายาคนเดียว ก็ยากที่จะรับมือแล้ว ถ้าหากเจ้าเมืองหวยเฉิงปรากฏตัว แม้ว่านักดาบเงาเพชฌฆาตจะฝ่าทะลวงแดนได้ก็ตาม เกรงว่าเป็นการยากที่จะรับมือเจ้าเมืองหวยเฉิงกับราชายา”
หยางเฉินมองไปที่เหล่าจิ่วและพูดว่า “คงไม่ขนาดนั้นมั้ง? แม้ว่าพลังของราชายาจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของ เจ้าเมืองมู่เมื่อนักดาบเงาเพชฌฆาตฝ่าทะลวงผ่านไปยังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ความแข็งแกร่งจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าเจ้าเมืองหวยเฉิงได้ แต่เจ้าเมืองหวยเฉิงก็ยากที่จะคุกคามเขาได้เช่นกัน
เหล่าจิ่วพูดด้วยน้ำเสียงกังวล “แต่ว่า ในการสู้เมื่อกี้นี้เจ้าเมืองมู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในทางกลับกันราชายาดูเหมือนไม่เป็นอะไรมาก แม้ว่าพลังงานในร่างกายของราชายาจะลดลง หากเจ้าเมืองหวยเฉิงปรากฏตัวขึ้น ในระยะเวลาสั้นๆย่อมมีหนทางช่วยราชายาฟื้นฟูพลังงานได้อย่างแน่นอน”
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่อันตรายที่สุด สำหรับพวกเราแล้ว สิ่งที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือถ้านักดาบเงาเพชฌฆาตยังไม่สามารถฝ่าทะลวงแต่เจ้าเมืองหวยเฉิงก็มาถึงจวนมู่ก่อน หากถึงเวลานั้นเจ้าเมืองมู่ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!”
“แม้ว่านักดาบเงาเพชฌฆาตจะฝ่าทะลวงได้แล้ว หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าเมืองมู่ เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าเมืองหวยเฉิงกับราชายา”
ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหยางเฉินก็ซีดเผือด
เป็นดั่งที่เหล่าจิ่วพูด สิ่งที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือนักดาบเงาเพชฌฆาตยังไม่สามารถฝ่าทะลวง เจ้าเมืองหวยเฉิงก็คงมาถึงจวนมู่ก่อน
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียงเจ้าเมืองหวยเฉิงยังไม่ปรากฏตัว พวกเราก็ยังมีโอกาส!”
ในขณะนี้ ทันใดนั้นกลิ่นออร่าทรงพลัง มาถึงจวนมู่ทันที
“แย่แล้ว! ตระกูลหยวนกับตระกูลกงได้ทรยศจวนมู่แลัว ผู้แข็งแกร่งของพวกเขาบุกมาทางนี้แล้ว!”
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ท่านหนึ่ง วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก มองไปที่มู่ฮว๋าแล้วพูด
สีหน้าของมู่ฮว๋าเปลี่ยนไปมาก และพูดอย่างโกรธเคือง “ตระกูลหยวนกับตระกูลกงใจกล้ามาก ในเวลานี้ถึงกลับกล้าโจมตีจวนมู่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม? รีบโยกย้ายผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ทันที ขัดขวางพวกเขาไว้!”
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่คนนั้นรีบพูดอย่างกังวลใจ “ผู้อาวุโสมู่ ผู้นำของตระกูลหยวนหยวนลี่ ยังมีผู้นำของกงจ้านแห่งตระกูลกง ล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น ถ้าหากไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งของทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตออกไป พวกเราต้านไม่อยู่แน่นอน!”
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของมู่ฮว๋าก็ยิ่งดูไม่ได้เลย
เขาเหลือบมองเจ้าเมืองมู่ที่กำลังต่อสู้กับราชายา แล้วมองไปที่นักดาบเงาเพชฌฆาตที่กำลังจะฝ่าทะลวงคฤหาสน์ที่ผู้แข็งแกร่งของทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตได้ล้อมรอบไว้ ด้วยสีหน้าที่ดิ้นรน
ก่อนหน้านี้ ทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตถูกราชายาโจมตี ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ผู้แข็งแกร่งที่เหลือ ขณะนี้กำลังปกป้องนักดาบเงาเพชฌฆาตเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ
แต่ข้างนอก ผู้แข็งแกร่งของตระกูลหยวนกับตระกูลกงบุกมาถึงแล้ว ทั้งตระกูลหยวนกับตระกูลกงต่างเป็นกองกำลังอำนาจสูงสุดในซ่านเฉิง และความสามารถของผู้นำก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น ณ.ตอนนี้มีเพียงผู้แข็งแกร่งของทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตเท่านั้น ที่สามารถขัดขวางได้
“ให้ผู้แข็งแกร่งทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตไปขัดขวางเถอะ!”
ในขณะที่มู่ฮว๋ากำลังลังเล ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูดขึ้น
มู่ฮว๋ามองไปที่หยางเฉิน และพูดด้วยความโกรธ “คุณรู้ไหมว่าโอกาสเดียวของเราในตอนนี้ก็คือนักดาบเงาเพชฌฆาต หากการฝ่าทะลวงของเขาถูกขัดจังหวะ จวนมู่ของเรา อาจถูกทำลายจนสิ้นซาก”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “แต่ว่า ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่แทบไม่สามารถต้านผู้แข็งแกร่งของตระกูลหยวนกับตระกูลกงได้เลย ช้าหรือเร็วพวกเขาก็จะบุกมาถึงที่นี่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ทำไมตอนนี้ไม่จัดการให้ผู้แข็งแกร่งทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตไปขัดขวางผู้แข็งแกร่งของตระกูลหยวนกับตระกูลกงก่อนล่ะ?”
มู่ฮว๋าเงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้ว่าที่หยางเฉินพูดก็ถูก แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ความปลอดภัยของนักดาบเงาเพชฌฆาตถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“อย่าลังเลเลย ถ้ายังลังเลอีก จวนมู่มีแต่จะล้มตายและบาดเจ็บสาหัสมากขึ้น”
หยางเฉินพูดอย่างเป็นกังวล “อีกอย่างก็ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้แข็งแกร่งของทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตทุกคนไปขัดขวางผู้แข็งแกร่งของตระกูลหยวนกับตระกูลกง แค่สั่งให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าสองคนไป ก็เพียงพอแล้ว
ในที่สุดมู่ฮว๋าก็ตัดสินใจได้ พูดด้วยความไม่พอใจ “ฟางเจิ้ง!ลู่ชิว!ออกมา! ขัดขวางผู้แข็งแกร่งของตระกูลหยวนกับตระกูลกง!”
“ครับ!”
ผู้แข็งแกร่งสองคนของทีมพิทักษ์เงาเพชฌฆาตรีบออกมาทันที และรีบพุ่งไปที่ประตูจวนมู่
เหล่าจิ่วเหลือบมองหยางเฉิน และพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเราควรจะเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ!”
หยางเฉินพยักหน้า เขารู้ว่า แรงกดดันที่จวนมู่ต้องแบกรับ จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อำนาจระดับสูงสุดในพื้นเมืองของซ่านเฉิง ได้แทรกแซงเข้ามาแล้ว เมื่อเจ้าเมืองหวยเฉิงมาถึงจวนมู่ ถ้านักดาบเงาเพชฌฆาตยังไม่สามารถฝ่าทะลุ จวนมู่ก็คงจะถูกทำลายจนสิ้นซากแน่นอน