The king of War - บทที่ 1743 เขามีความรู้สึก
เมื่อหวยหลันและเฝิงเสียวหว่านกำลังกังวล เจ้าเมืองหวยได้นำกลุ่มผู้แข็งแกร่งไปทำล้ายล้างตระกูลของผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นที่แอบจับตามายังจวนเมืองหวยเฉิงด้วยตนเอง
สำหรับตระกูลที่เต็มใจยอมจำนนต่อจวนเมืองหวยเฉิง เจ้าเมืองหวยได้มอบยาพิษให้กับพวกเขาเพื่อควบคุมผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ส่วนตระกูลที่หัวแข็ง ก็ได้ทำลายล้างจนหมด
เมื่อเวลาผ่านไป จวนเมืองหวยเฉิงยังคงขยายกำลังเรื่อยๆ เดิมทีหลังจากต่อสู้กับจวนมู่แล้ว ความแข็งแกร่งของจวนเมืองหวยเฉิงซึ่งลดลงอย่างมาก ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
ทุกวันนี้ จำนวนผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าในจวนเมืองหวยเฉิงได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของตอนที่จวนเมืองหวยเฉิงรุ่งเรืองที่สุด
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หยางเฉินไม่เคยหยุดใช้พลังแห่งธาตุน้ำ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึกฝนแดนบูโด แต่พลังจิตของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก
ด้วยการเติบโตของพลังจิต การใช้พลังแห่งธาตุน้ำของเขาก็ได้มาถึงระดับสูงสุดเช่นกัน
สำหรับหวยหลันและเฝิงเสียวหว่านที่ต้องการแอบพาหยางเฉินจากไป ไม่มีโอกาสสักที เพราะนี่คือจวนมู่ พวกเธอต้องการพาหยางเฉินซึ่งยังหลับอยู่และจากไปอย่างเงียบๆนั้น ไม่มีหวังเลย
วันนี้ ในห้องของเจ้าเมืองมู่ มีแรงกดดันของบูโดที่น่ากลัวอย่างยิ่งแพร่ออกมาอย่างกะทันหัน
นักดาบเงาเพชฌฆาตที่เฝ้าอยู่หน้าประตูห้องอยู่ก็ตื่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเดินตรงไปที่ประตู และออร่าของบูโดที่เทียบได้กับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดก็ปะทุออกมาจากเขา
นักดาบเงาเพชฌฆาตพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา”ภายในหนึ่งนาที ทุกคนถอยห่างจากสถานที่แห่งนี้ 500 เมตร มิฉะนั้น ฆ่าโดยไม่มีการละเว้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กลุ่มผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ ซึ่งเดิมทียังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
นักดาบเงาเพชฌฆาตรู้สึกได้ว่า เจ้าเมืองมู่ซึ่งจำศีลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์กำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญของการฝึกฝน ในเวลานี้ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมีการโจมตีของนักฆ่าที่กองกำลังอื่นได้จัดมาบุกจวนมู่ ย่อมส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อเจ้าเมืองมู่
ก็เหมือนกับวันนั้นที่จวนมู่กับจวนเมืองหวยเฉิงต่อสู้กัน แดนบูโดของเขา ถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิดของราชายา คงทะลุไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด
ตอนนี้ จวนมู่กำลังตกอยู่ในเหตุการณ์คับขัน กองกำลังจำนวนมากกำลังจับจ้องมาที่จวนมู่ ในกรณีนี้ เจ้าเมืองมู่ต้องห้ามเป็นอะไรไป
โชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และไม่มีอุบัติเหตุอะไร 20 นาทีต่อมา ออร่าบูโดในห้องค่อยๆหายไป วินาทีต่อมา ประตูห้องถูกเปิดออก และเจ้าเมืองมู่ก็เดินออกจากห้องอย่างช้าๆ
“เจ้าเมือง!”
เมื่อเห็นเจ้าเมืองมู่อีกครั้ง นักดาบเงาเพชฌฆาตดูตื่นเต้นและตกตะลึงมาก มองไปที่ขาทั้งคู่ของเจ้าเมืองมู่ และพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขมาก”ขาของท่าน กลับมาเป็นปกติแล้วหรือ?”
เจ้าเมืองมู่แสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา พยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า”ทักษะทางการแพทย์ของเสียวหว่านยอดเยี่ยมจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เธอทำการรักษาให้ผมช่วยได้มาก หลังจากที่ผมจำศีลฝึกฝน ความสามารถในการฟื้นตัวของผมก็ดีขึ้นมาก จึงทำให้ผมเดินได้เร็วขนาดนี้”
“เพียงแต่ว่า สามารถเดินได้เพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ยังไม่สามารถเดินเป็นเวลานานได้ สำหรับการที่จะหายเป็นปกตินั้น เกรงว่าต้องพึ่งการรักษาของเสียวหว่าน”
นักดาบเงาเพชฌฆาตเพิ่งรู้สึกว่า ออร่าบูโดบนตัวของเจ้าเมืองมู่นั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองมู่ตั้งใจปล่อยมันออกมา แต่เป็นเพราะความแข็งแกร่งนั้นแข็งแกร่งขึ้น จึงมีออร่าที่รุนแรงแผ่ซ่าออกมาโดยไม่ตั้งใจ
นักดาบเงาเพชฌฆาตถาม”เจ้าเมือง นี่ท่าน ทะลุผ่านแดนนภาขั้นหนึ่งแล้วหรือยัง?”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มและส่ายหัว“แค่บูโดพัฒนาขึ้นเท่านั้น แดนนภาขั้นหนึ่งทะลุผ่านง่ายขนาดนั้นเหรอ? ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีผู้แข็งแกร่งมากมายที่มาถึงระดับของผม แต่ตลอดชีวิต ก็ไม่สามารถทะลุเข้าไปแดนนภาขั้นหนึ่งได้”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็นั่งบนรถเข็นอีกครั้ง มองไปที่นักดาบเงาเพชฌฆาตแล้วพูดว่า”เรื่องที่ผมสามารถยืนได้แล้ว เก็บเป็นความลับไว้ก่อน”
นักดาบเงาเพชฌฆาตตอบอย่างรวดเร็ว”ครับ!”
เจ้าเมืองมู่ถามอีกครั้ง“หยางเฉินเป็นอย่างไรบ้าง?”
นักดาบเงาเพชฌฆาตส่ายหัวและพูดอย่างเคร่งขรึม“ยังหลับอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจก็คือ ทั้งๆที่เขายังไม่ตื่น แต่ในทุกๆวัน มีพลังจิตที่ทรงพลังมากแผ่ออกมาจากเขา ไม่เพียงแค่นั้น เขากำลังฝึกฝนพลังแห่งธาตุน้ำทุกวัน อาทิตย์ที่ท่านกำลังจำศีลฝึกฝน พลังจิตและพลังแห่งธาตุน้ำของเขา ใช้คำว่าพุ่งสูงขึ้นมาอธิบายก็ไม่พูดเกินจริง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจ้าเมืองมู่ก็เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กล่าวว่า “ตามผมไปเยี่ยมหยางเฉิน”
“ครับ!”
ในไม่ช้า นักดาบเงาเพชฌฆาตก็ผลักรถเข็นและพาเจ้าเมืองมู่ไปที่ห้องของหยางเฉินพวกเขา
“คุณปู่มู่! คุณปู่เงาเพชฌฆาต!”
“เจ้าเมืองมู่! ผู้อาวุโสเงาเพชฌฆาต!”
เมื่อเฝิงเสียวหว่านและหวยหลันเห็นเจ้าเมืองมู่ ต่างก็ก้าวไปข้างหน้า
เจ้าเมืองมู่พยักหน้าเล็กน้อย มองไปที่หยางเฉินซึ่งยังคงนอนอยู่บนเตียง ถามเฝิงเสียวหว่าน “เสียวหว่าน สถานการณ์ของหยางเฉินตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เฝิงเสียวหว่านถอนหายใจและกล่าวว่า“บอกตามตรง ฉันก็ไม่รู้ว่าพี่หยางเป็นอะไรกันแน่ อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว แต่เขาก็ไม่ตื่นขึ้นมาสีกที ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรู้ว่าพี่หยางไม่ตื่น แม้กระทั่งอาจสงสัยว่าเขาแกล้งหลับหรือเปล่า?”
ในขณะนี้ เจ้าเมืองมู่ก็ลุกขึ้นจากรถเข็นและเดินมาที่หยางเฉินทีละก้าว
เมื่อเห็นว่าเขาเดินได้ หวยหลันก็ตกตะลึง“ท่านเจ้าเมืองมู่ ท่าน ขาของท่านหายดีแล้วหรือ?”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มและอธิบายว่า”เดินได้แค่ระยะสั้นเท่านั้น หากจะหายเป็นปกตินั้น จำเป็นต้องให้เสียวหว่านช่วยผมรักษาต่อไป”
หลังจากพูดจบ เขาก็นั่งที่ขอบเตียงของของหยางเฉิน และวางมือบนตำแหน่งจุดตันเถียนของหยางเฉิน
ขณะที่เขากำลังจะรับรู้สถานการณ์ในจุดตันเถียนของหยางเฉิน มือก็เด้งกลับอย่างแรงด้วยแรงที่ทรงพลัง
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมในทันใด ตอนนี้ แดนบูโดของเขามาถึงขั้นกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งแล้ว ตราบใดที่โอกาสมาถึง เขาก็สามารถเข้าสู่แดนนภาขั้นหนึ่งได้ทุกเมื่อ
ความแข็งแกร่งเช่นนี้ ยังไม่สามารถตรวจจับสถานการณ์จุดตันเถียนของหยางเฉินได้ แต่มือกลับเด้งออกเพราะโดนแรงผลักอันทรงพลังในจุดตันเถียนของหยางเฉิน
รู้ได้เลยว่า ความแข็งแกร่งของคนที่ผนึกจุดตันเถียนของหยางเฉินช่างน่ากลัวเพียงใด
เฝิงเสียวหว่านรีบถาม“คุณปู่มู่ ท่านรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่หยาง?”
เจ้าเมืองมู่กล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม“ถ้าผมเดาไม่ผิด ทั้งๆที่อาการบาดเจ็บของหยางเฉินได้หายแล้ว แต่สาเหตุที่เขาไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ น่าจะเป็นเพราะจุดตันเถียนของเขาถูกผนึกโดยผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งมาก”
“พลังของการผนึกนี้ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยทักษะทางการแพทย์เลย ดังนั้นนี่คือสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้น ที่อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว แต่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้”
“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ นอกจากไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ อย่างอื่นเป็นปกติหมด และเขายังสามารถได้ยินสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเฉิน
หวยหลันและเฝิงเสียวหว่านสองคน ก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง และบนใบหน้าของผู้หญิงสองคนนี้ก็แดง
เฝิงเสียวหว่านมองไปที่เจ้าเมืองมู่ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและถาม”ถ้าเราสัมผัสร่างกายเขา เขาจะรู้สึกได้ใช่ไหม?”
เจ้าเมืองมู่พยักหน้า มองไปที่หยางเฉินและกล่าวว่า“หยางเฉิน ผมพูดถูกใช่ไหม?ถ้าใช่ คุณก็ใช้พลังแห่งธาตุน้ำบอกเราเถอะ!”