The king of War - บทที่ 1754 ผู้แข็งแกร่งแดนนภา
วินาทีนี้ ทุกคนล้วนเบิกตาโตแล้ว มองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นฉากนี้แบบไม่กะพริบตา
เจียงเหยียนสีหน้าเปลี่ยนไปมากเหมือนกัน มือทั้งสองกำดาบอาถรรพ์ในมือไว้แน่น ชั่วขณะที่ดาบน้ำจะล่วงลงมานั้น เขาก็ขยับแล้ว
ดาบอาถรรพ์ฟันดาบน้ำ!
ตามมาด้วยทุกครั้งที่เขาควงดาบออกมา จะมีดาบน้ำส่วนใหญ่หายไป
เพียงแต่ ดาบน้ำเหนือกว่าเหลือเกิน ถึงแม้เขาจะใช้ดาบอาถรรพ์ฟันดาบน้ำนับไม่ถ้วนไแล้ว ก็ยังคงมีดาบน้ำนับไม่ถ้วนตกอยู่บนตัวของเขา
ภายใต้ความตื่นตกใจของผู้แข็งแกร่งจวนมู่ ทั้งตัวของเจียงเหยียนล้วนเป็นรอยดาบ
“อ๊าก……”
ทันใดนั้นเจียงเหยียนเงยหน้าขึ้นร้องคำราม เหมือนอยากระบายความโกรธแค้นในใจ
เวลานี้ฝนดาบหายไปในที่สุดแล้ว
เท้าของหยางเฉินซวนเซ ถอยหลังไปหลายก้าวแบบโงนเงน สีหน้าซีดเผือดไร้ที่เปรียบ
สำแดงฝนดาบสองครั้งอย่างต่อเนื่อง เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานสำหรับเขามากที่สุด
“พี่หยาง!”
ในเวลานี้ เฝิงเสียวหว่านร้องตะโกนเสียงดังกะทันหัน ขณะเดียวกันโยนขวดพอร์ซเลนอันหนึ่งออกไป
หยางเฉินรีบรับเอาไว้ ไม่ได้ลังเลสักนิดเดียว เปิดจุกขวดออก กลืนยาเม็ดหนึ่งในขวดนั้นลงไป
พอยาเข้าปากจนละลายแล้ว ก็กลายเป็นกระแสอบอุ่น ไหลตามหลอดอาหารเข้าสู่ในร่างกาย
เดิมทีสิ้นเปลืองพลังไปมากมาย หลังจากกินยาเม็ดนั้นที่เฝิงเสียวหว่านให้มา หยางเฉินรู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียว เมื่อสักครู่สิ้นเปลืองพลังไปมาก และตอนนี้ได้รับการชดเชยแล้ว
เพียงแค่ แดนวิถีบู๊ของเขาในตอนนี้เพิ่มขึ้นมากเกินไป ประสิทธิผลการฟื้นตัวของยาเม็ดนี้ต่อตัวเขา จึงลดลงไปมากเหลือเกิน
ดีที่ยังทำให้การสิ้นเปลืองพลังมหาศาลของเขาเมื่อครู่นี้เบาลงแล้ว
“หยางเฉิน!”
หน้าเจียงเหยียนเต็มไปด้วยความดุร้าย จ้องหยางเฉินตาไม่กะพริบแล้วพูดว่า “แกสมควรตาย!”
หยางเฉินสูดหายใจลึกทีหนึ่ง มือขวาจับมีดอาถรรพ์ไว้ จ้องเจียงเหยียนพูดขึ้นว่า “ถามแกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ทำไมพวกแกถึงต้องพาฉันไปตระกูลเจียง?”
เจียงเหยียนพูดแบบกัดฟันแน่น “รอแกตายแล้ว แกก็รู้เองว่าเหตุผลคืออะไร”
พูดจบ เขาเป็นฝ่ายพุ่งเจ้าไปยังหยางเฉินก่อนอย่างคาดไม่ถึง
เขาผู้เป็นสายตรงของตระกูลเจียงที่น่าเกรงขาม ผู้โดดเด่นในบรรดาคนหนุ่มสาว มาโลกทั่วไปครั้งนี้ คาดไม่ถึงถูกขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่า นี่คือมลทินใหญ่สุดในชีวิตนี้ของเขาเลยทีเดียว มีเพียงฆ่าหยางเฉินทิ้ง ถึงจะสามารถสงบความโกรธแค้นในใจเขาลงได้
“คุณหยาง ระวัง!”
ในจวนมู่มีผู้แข็งแกร่งส่งเสียงร้องตกใจออกมา
ดวงตาของหยางเฉินเป็นสีแดงเลือดอีกครั้ง สายเลือดคลั่งถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง ตำราเทพสงครามกำลังโคจรขึ้นมาภายในร่างกาย แขนข้างที่เขาจับมีดอาถรรพ์เอาไว้นั้น สั่นเทาขึ้นมาเบาๆ เช่นกัน
“ไปตายซะ!”
เวลานี้ เจียงเหยียนพุ่งไปด้านหน้าของหยางเฉินแล้ว ดาบอาถรรพ์ในมือร่วงลงมาโดยตรง
“ฉิ้ง!”
หยางเฉินยกมีดอาถรรพ์ขึ้นทันใด ดาบอาถรรพ์ร่วงลงบนมีดอาถรรพ์ ทำเอาร่างกายของหยางเฉินสั่นสะเทือนถอยหลังสิบกว่าก้าวไปในทันที
แดนวิถีบู๊ระหว่างทั้งสองคนแตกต่างกันมากเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เจียงเหยียนได้รับบาดเจ็บหนัก คงฆ่าหยางเฉินได้ในเสี้ยววินาที
“ฉิ้งๆๆ!”
เจียงเหยียนกวัดแกว่งดาบอาถรรพ์อย่างบ้าคลั่ง ฟันลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ตั้งแต่ต้นจนจบหยางเฉินรักษาท่วงท่าที่สกัดต้าน ปล่อยให้การโจมตีของเจียงเหยียนเข้ามา
ในแววตาลึกของเขา มีแสงแวววาวอันชาญฉลาดเปล่งประกาย จ้องเจียงเหยียนตาไม่กะพริบ
เจียงเหยียนไม่รู้ว่ากวัดแกว่งดาบอาถรรพ์ไปตั้งกี่ครั้งแล้ว นับวันการเคลื่อนไหวยิ่งยุ่งเหยิง
หยางเฉินก็ถูกบีบจนติดมุมกำแพง
ในเวลานี้เอง ในสายตาหยางเฉินกราดยิงแสงเยือกเย็นออกมาสองดวง ชั่วขณะที่เจียงเหยียนยกดาบอาถรรพ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และกำลังจะฟันลง เขาก็กระโดดจากพื้นฉับพลันก่อนที่ร่างกายจะระเบิดวาร์ป
“ตู้ม!”
ขณะที่เขาเพิ่งหลบออก ดาบอาถรรพ์ในมือของเจียงเหยียนร่วงลงตรงตำแหน่งที่เขาเพิ่งอยู่เมื่อสักครู่
เจียงเหยียนฟันดาบลงมาครั้งนี้ เมื่อพบว่าหยางเฉินหลบออกไปเรียบร้อยแล้ว สีหน้าเขาเปลี่ยนในชั่วพริบตา ความรู้สึกอันตรายอันเข้มข้นโจมตีเข้ามา
“ตาย!”
เสียงของหยางเฉิน ดังขึ้นข้างหูเขาอย่างฉับพลัน
ระดับความเร็วของหยางเฉินไวจนน่าประหลาด มีดในมือ ปาดเข้าไปยังลำคอของเจียงเหยียนโดยตรง
ชั่วขณะหนึ่งเจียงเหยียนเบิกตาโต เขาเพิ่งฟันดาบลงไป แม้กระทั่งร่างกายยังไม่ทันยืนนิ่ง อย่าว่าแต่โจมตีกลับเลย แม้แต่หลบเลี่ยง ยังหลบไม่พ้นเลย
เขามองอยู่แบบหน้าตาเฉย มีดอาถรรพ์ในมือของหยางเฉิน ยิ่งอยู่ห่างจากบริเวณลำคอของเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ ล้วนทำท่าทางฮึกเหิม จ้องเหตุการณ์ฉากนี้ตาไม่กะพริบ พวกเขาต้องเห็นด้วยสายตาตนเองว่า คนสารเลวที่มาจากตระกูลบู๊โบราณคนนี้ โดนหยางเฉินฆ่าทิ้งแล้ว
“ฉิ้ง!”
สายตามองเห็นมีดอาถรรพ์ของหยางเฉินกำลังจะปาดเข้าที่ลำคอของเจียงเหยียน แต่ในเวลานี้เอง ภาพคนที่มีอายุคนหนึ่ง กลับปรากฏอยู่ด้านหน้าของเจียงเหยียนแล้ว อีกฝ่ายยื่นสองนิ้วมือออกมา คีบมีดอาถรรพ์ของหยางเฉินเอาไว้
มองเห็นผู้อาวุโสคนนี้ หยางเฉินสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่ได้ลังเลสักนิดเดียว ปล่อยมีดอาถรรพ์ทิ้ง กระโดดขึ้น แล้วปรากฏตัวอยู่ไกลออกไปหลายสิบเมตร
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ ก็ท่าทางตื่นตกใจเช่นกัน มองผู้อาวุโสที่ท่าทางดูเหนือชั้นกว่าผู้นั้นอยู่
“ฟึบ!”
ผู้อาวุโสงอนิ้วแล้วดีดออก มีดอาถรรพ์ที่ถูกเขาคีบไว้ระหว่างสองนิ้วมือ ปักอยู่แทบเท้าหยางเฉินไปโดยตรง
หยางเฉินมองทางฝ่ายตรงข้าม สีหน้าอึมครึมถึงขีดสุด เดิมคิดว่าตนเองออกไปจากในขอบเขตการโจมตีของอีกฝ่ายแล้ว กลับนึกไม่ถึงว่า พออีกฝ่ายดีดนิ้วง่ายๆ มีดอาถรรพ์ก็ตกอยู่แทบเท้าของเขาแล้ว
เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายไม่มีความคิดอยากฆ่าเขา ไม่อย่างนั้นมีดคงไม่ใช่ปักที่พื้นแทบเท้าเขาหรอก แต่ว่าเป็นตรงหัวใจของเขาแทน
“ผู้แข็งแกร่งแดนนภา!”
หยางเฉินหรี่ตาทั้งคู่ขึ้นมา จ้องผู้อาวุโสอยู่แล้วพูดว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ ท่านคงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาสินะ?”
ผู้แข็งแกร่งที่ครอบครองฝีมือเช่นนี้ เพียงเป็นได้แค่ผู้แข็งแกร่งแดนนภา
เวลานี้เจียงเหยียนก็ได้สติกลับมาแล้ว ตอนที่มองเห็นผู้อาวุโส สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกโชคดีที่รอดจากหายนะได้แล้ว พูดแบบตื่นเต้น “ท่านเหอ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”
ท่านเหอ ผู้แข็งแกร่งแดนนภาของตระกูลเจียง และเป็นผู้พิทักษ์ของเจียงเหยียน
ท่านเหอเพียงแค่มองเจียงเหยียนนิ่งๆ แวบเดียว จากนั้นพูดว่า “นายรอกลับไปรับการลงโทษของตระกูลเจียงไว้เถอะ!”
พูดจบ เขามองทางหยางเฉิน พูดแบบหน้าตาไร้อารมณ์ “ไว้หน้าตระกูลเจียงสักครั้ง ให้ฉันพาตัวเจียงเหยียนไป ว่าอย่างไร?”
หยางเฉินขมวดคิ้วขึ้นมา จ้องอีกฝ่ายแล้วบอกว่า “ผู้แข็งแกร่งแดนนภาห้ามแทรกแซงเรื่องบนโลกทั่วไป ท่านในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนนภา มาแทรกแซงเรื่องนี้ คงไม่เหมาะสมมั้ง?”
ท่านเหอยักคิ้ว ชั่วพริบตาแรงกดดันวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวส่วนหนึ่งก็ปกคลุมบนตัวของหยางเฉิน พูดจาเสียงเย็นชา “นี่คือนายซักถามฉัน?”
วินาทีนี้ หยางเฉินเพียงรู้สึกว่าบนไหล่ทั้งสอง แบกรับน้ำหนักอันมหาศาล อีกฝ่ายเพียงแค่ปลดปล่อยแรงกดดันวิถีบู๊ออกมา คาดไม่ถึงยังทำให้เขายากจะแบกรับไหว
ร่างกายของเขาโค้งงอลงมาเล็กน้อย เขากัดฟันเอาไว้แน่น กระตุ้นสายเลือดคลั่งในชั่วพริบตา เขารวมพลังทั้งหมดไว้ เพื่อมาต้านทานแรงกดดันวิถีบู๊ของฝ่ายตรงข้าม
เพียงแต่ เดิมทีไม่มีประโยชน์ ความสามารถของอีกฝ่ายแกร่งเกินไป เขาเพิ่งต้านทาน แรงกดดันวิถีบู๊ก็แกร่งขึ้นกว่าเดิม
หัวเข่าทั้งสองของหยางเฉินค่อยๆ งอลง อีกฝ่ายเพียงแค่อยากบีบให้เขาคุกเข่าลง
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่เห็นแบบนี้ ต่างสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายของจวนมู่คนหนึ่ง จ้องท่านเหออยู่ กัดฟันพูดว่า “ท่านผู้อาวุโส ท่านในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนนภา กดขี่คนรุ่นหลังที่มีเพียงความสามารถแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดคนหนึ่ง ค่อนข้างเกินเหตุไปหน่อยไหม?”
“คุกเข่าลง!”
ทันใดนั้นท่านเหอตะโกนใส่ทีหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายของจวนมู่คนนั้น คุกเข่าสองข้างลงพื้นทันใด และไม่ใช่ว่าเขาอยากจะคุกเข่า แต่ความสามารถของท่านเหอแกร่งเหลือเกิน พูดว่าคุกเข่าลงทีเดียว แรงกดดันที่ราวกับสิ่งที่มีอยู่จริง ก็บีบเขาให้คุกเข่าลงกับพื้น
“นายไม่ยอม?”
ท่านเหอมองทางหยางเฉินที่ยังกำลังดิ้นรนอย่างลำบากอยู่ ถามด้วยเสียงเย็นชา