The king of War - บทที่ 1783 แข่งกัน
บทที่ 1783 แข่งกัน
หลังจากที่หยางเฉินเหลือบมองหวยหลันและเสียวหว่าน เขามองไปที่นักดาบเงาเพชฌฆาต และกล่าว”ผมต้องการรบกวนรุ่นพี่สั่งคนส่งเสียวหว่านและเสี่ยวหลันออกจากที่นี่ไปก่อนครับ”
นักดาบเงาเพชฌฆาต ถาม “นายไม่ไปจากที่นี่กับพวกเธอเหรอ?”
หยางเฉินส่ายหัว: “ทุกวันนี้ มีคนมากมายจ้องผม พวกเธออยู่ผมกับจะอันตรายมาก ผมต้องเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อื่นเพื่อให้เสียวหว่านและเสี่ยวหลันสามารถจากไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย”
หลังจากฟังคำกล่าวของหยางเฉินแล้ว เสียวหว่านและหวยหลันต่างก็ตาแดงและทั้งคู่ก็เข้าใจว่าสถานการณ์ปัจจุบันของหยางเฉินไม่ดีนัก ถ้าอยู่กับหยางเฉิน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่สามารถช่วยหยางเฉินได้ พวกเขาจะกลายเป็นภาระของหยางเฉิน
นักดาบเงาเพชฌฆาตพึ่งเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น เขาไม่ลังเลเลย และกล่าว “โอเค ฉันจะสั่งการให้ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของจวนมู่ คุ้มกันพวกเธออย่างลับๆ นายวางใจได้”
ในไม่ช้า นักดาบเงาเพชฌฆาต ก็หาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายของจวนมู่ นำพาเสียวหว่านและหวยหลัน ออกจากไป
ส่วนหยางเฉินเขาเดินออกจากจวนมู่ และไปเดินเล่นที่ซ่านเฉิงคนเดียว
ทันทีที่เขาออกจากจวนมู่ เขาก็ตกเป็นเป้าหมายของผู้แข็งแกร่งหลายคน
แม้ว่าหลายคนจะกลัวหยางเฉิน แต่ข่าวที่ว่าหยางเฉินมีมีดพกอาถรรพ์ได้แพร่กระจายไปทั่วซ่านเฉิง และหลายคนอยากจะได้ของอาถรรพ์นี้
หยางเฉินเพิกเฉยราวกับว่าเขาไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งมากมายตามเขาอย่างลับๆ เดินเล่นที่ซ่านเฉิงอย่างชิวๆ
จนกระทั่งเขาได้รับข้อความว่าเที่ยวบินที่เสียวหว่านและหวยหลันได้ออกจากซ่านเฉิง หัวใจของเขาที่แขวนอยู่บนนั้นในที่สุดก็ล่วงลงมาได้สักที
เขาจงใจนำทางผู้แข็งแกร่งที่ติดตามเขาไปยังที่เปลี่ยวและหยุดกะทันหัน
“ออกมาให้หมด!”
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เมื่อได้ยินคำกล่าวของเขา เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดต่างก็ตกใจ พวกเขาถูกค้นพบแล้ว?
แต่ไม่มีใครออกมา
ดวงตาของหยางเฉินแข็งค้าง เขาเด็ดใบไม้สีเขียว แล้วโยนออกไปตามทางที่ผู้แข็งแกร่งอยู่
ชั่วขณะหนึ่ง ใบไม้สีเขียวหลายสิบใบพุ่งเข้าไปในทางทางนั้น
“หยางเฉิน!”
เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมาจากทิศทางที่หยางเฉินโยนใบไม้สีเขียวออกไป และยังมีผู้แข็งแกร่งสี่คนตามหลังเขา
อย่างไรก็ตาม ทุกคนได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัดจากใบไม้สีเขียนที่หยางเฉินโยนออกไป
หยางเฉินเยาะเย้ย มองไปที่ห้าคนที่เดินออกมาและกล่าวอย่างเย็นชา “ติดตามมานานขนาดนี้แล้ว ต้องการอะไรกันแน่?”
ผู้แข็งแกร่งทั้งห้าคนเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดทั้งหมด และผู้แข็งแกร่งที่นำโดยพวกเขามีความแข็งแกร่งถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด
เพียงห้าคนเนี่ยนะ ไม่ได้อยู่ในสายตาของหยางเฉินเลยสักนิด และเขาไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานสายเลือดคลั่งด้วยซ้ำ เขาก็มั่นใจได้ว่าสามารถฆ่าคนเหล่านี้ได้
ผู้แข็งแกร่งนำกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หยางเฉินพวกฉันไม่ได้มีเรื่องราวความแค้นกับนายมาก่อน ต้องการแค่เงิน ถ้านายมอบมีดพกอาถรรพ์มาโดยดี พวกฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายนาย”
ทันใดนั้นหยางเฉินหัวเราะ หยิบมีดพกอาถรรพ์ออกมาโดยตรง มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มแล้วถาม “นายต้องการมัน?มาเอาสิ!”
ผู้แข็งแกร่งทั้งห้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจแต่เดิม เห็นหยางเฉินหยิบมีดพกอาถรรพ์ออกมาอย่างง่ายดาย มีแววตาที่หวาดกลัวและพวกเขาไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า
ผู้แข็งแกร่งนำกัดฟันและกล่าว “หยางเฉิน นายกำลังเล่นกลอะไร?”
หยางเฉินอยากจะหัวเราะออกเสียงดัง: “พวกนายต้องการให้ฉันมอบมีดพกอาถรรพ์ออกมาให้พวกนาย พวกนายจะไม่มาเอาเอง จะให้ฉันเอาไปให้พวกนายหรือไง?”
หลังจากฟังคำกล่าวของหยางเฉิน สีหน้าของผู้แข็งแกร่งห้าคนนั้นเต็มไปด้วยความมึนงง
ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของทั้งหลายจ้องไปที่ผู้แข็งแกร่งนำ
ผู้แข็งแกร่งนำมีสีหน้าที่มืดมน ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกว่าจัดการเสือได้ยากจริงๆ เดิมทีพวกเขามาเพื่อมีดพกอาถรรพ์และตอนนี้มีดพกอาถรรพ์ก็อยู่ในมือของหยางเฉินเรียบร้อย แต่พวกเขาไม่กล้าไปเอามันมา
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ผู้แข็งแกร่งนำก็กล่าว “ไอ้หนู นายวางมีดลงบนพื้นแล้วออกไปที่นี่”
หยางเฉินหัวเราะและส่ายหัว: “พวกนายไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาหยิบมีด หากเป็นเช่นนี้ ฉันจะไปแล้วล่ะ”
กล่าวจบเขาก็เก็บมีดแล้วหันหลังเดินจากไป
“ไอ้เหี้ย นี่มึงล้อเล่นเหรอ?”
ใบหน้าของผู้แข็งแกร่งนำเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและตะโกน: “พี่น้องทุกคน จัดการมัน!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็เป็นผู้นำในการวิ่งไปหาหยางเฉิน และอีกผู้แข็งแกร่งสี่คนก็วิ่งตามเขาไปฝั่งหยางเฉินด้วยเช่นกัน
วินาทีถัดมา หยางเฉินถูกล้อมรอบด้วยผู้แข็งแกร่งห้าคน
ผู้นำของชายผู้แข็งแกร่งจ้องไปที่หยางเฉินและกล่าว “ไอ้หนู เอามีดพกอาถรรพ์ออกมา!”
ใบหน้าของหยางเฉินด้วยความเบื่อ หยิบมีดพกอาถรรพ์ออกมาอีกครั้ง และโยนมันไปทางอีกฝ่าย และอีกฝ่ายก็เอื้อมมือออกมาและรับมันไว้
หยางเฉินหัวเราะและถาม “ฉันไปได้หรือยัง?”
ผู้แข็งแกร่งทั้งห้าต่างตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถือมีดพกอาถรรพ์เบิกตาค้างอย่างไม่น่าเชื่อ หยางเฉินมอบมีดพกอาถรรพ์ออกมาให้จริงๆด้วย?
มีดพกอาถรรพ์นี้เป็นของปลอมหรือเปล่า?
มิฉะนั้น หยางเฉินจะมอบมีดพกอาถรรพ์ได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบถือมีดพกอาถรรพ์และปล่อยออร่าของศิลปะการต่อสู้ออกมา
ในวินาทีต่อมา ออร่าของศิลปะการต่อสู้อันทรงพลังก็ปะทุออกมาจากเขา
เดิมทีเขามีแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด แต่พลังที่ปะทุออกมาจากเขาในเวลานี้เกินกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”
เขามองขึ้นไปบนฟ้าโดยตรงและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และกล่าวอย่างตื่นเต้น: “ฉันได้ของอาถรรพ์นี้มาจริงๆ ด้วย ในอนาคตภายใต้แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า ใครจะกล้ามาต่อสู้กับฉัน?”
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่กับเขาต่างตื่นเต้นหลังจากสัมผัสออร่าอันทรงพลังในตัวเขาได้: “พี่ชาย เยี่ยมมาก ในที่สุดพี่ก็ได้มีดพกอาถรรพ์นี้แล้ว ดูสิว่าใครจะมากล้าสู้กับพวกเรา?”
ในขณะ ผู้แข็งแกร่งหลายคนที่มีลมหายใจที่น่าสะพรึงกลัวได้ออกมาจากที่มืด
ผู้แข็งแกร่งมากกว่า 20 คนออกมาติดต่อกันโดยไม่มีจังหวะที่ขาดเลยแม้แต่นิด ทั้งหมดล้วนเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นขึ้นไป และยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นคนหนึ่ง แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางคนหนึ่ง
ผู้แข็งแกร่ง 20 คนล้อมกลุ่มคนทั้งห้าที่อยู่ตรงกลางโดยตรง
“มอบมีดพกอาถรรพ์ออกมา!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา ถือมีดพกอาถรรพ์ไว้ “นายเป็นอะไรกันแน่? นายนี่มันขยะแถวไหน!กล้าดียังไงมาแย่งของของฉันหลี่กาง?เก่งจริงก็มาสู้!”
หลี่กางจับมีดพกอาถรรพ์ไว้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด
“นายตาย!”
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นตะโกนอย่างโกรธเคืองและมุ่งไปยังหลี่กาง
ส่วนหยางเฉินหลังจากที่ผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดปรากฏตัวขึ้น เขาเดินออกไปข้างๆและมองดูด้วยสายตาที่เย็นชา พวกนายต้องการมีดพกอาถรรพ์นักไม่ใช่เหรอ?งั้นพวกนายก็แย่งกันเองละกัน
ในเวลานี้ กลุ่มของหลี่กาง ได้เริ่มทำสงครามกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นคนนั้นแล้ว ส่วนคนอื่นๆไม่ได้เข้ามาแทรกแซง เฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย
ผู้แข็งแกร่งมากกว่า 20 คนที่ออกมาหลังเป็นผู้แข็งแกร่งกองกำลังหลายคน และตอนนี้พวกเขากำลังรอให้หลี่กางและผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นนั้นสูญเสียพลังกันทั้งคู่ จากนั้นถือโอกาสแย่งมีดพกอาถรรพ์
เมื่อเวลาผ่านไป หลี่กางได้ควบคุมมีดพกอาถรรพ์ และผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นคนนั้นสู้หลี่กางไม่ได้
สิ่งนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่นอกสนามมีความคาดหวังมากขึ้นสำหรับมีดพกอาถรรพ์ หลี่กาง อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดของแดน ด้วยความช่วยเหลือจากมีดพกอาถรรพ์ สามารถกดผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นไว้ได้ ลองนึกดูว่ามีดพกอาถรรพ์นี้แข็งแกร่งเพียงใด
“มีใครอีก?”
หลี่กางขึ้นมาก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นคนนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส อีกฝ่ายรู้ว่าตนไม่สามารถแย่งมีดพกอาถรรพ์ได้ ตนไม่ลังเลที่จะวิ่งหนี่ออกจากที่ตรงนั้นไป
หลี่กางยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
หยางเฉินไม่รีบร้อน เขาซ่อนตัวอยู่ในความมืด เฝ้าดูคนเหล่านี้ต่อสู้เพื่อแย่งมีดพกอาถรรพ์ด้วยดวงตาที่เย็นชา
เขาไม่กังวลเลยสักนิดว่ามีดพกอาถรรพ์จะถูกผู้อื่นเอาไป ตามคำกล่าวของ เจ้าเมืองมู่ มีดพกอาถรรพ์นี้ได้รับการขัดเกลาโดยเขาและตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถควบคุมมีดพกอาถรรพ์นี้ได้
ถ้าเขาไม่ต้องการให้หลี่กางใช้มีดพกอาถรรพ์ มีดพกอาถรรพ์จะกลายเป็นมีดธรรมดาทันที แต่ตอนนี้ มันยังไม่ใช่เวลา เขาต้องใช้แรงจากมือของหลี่กาง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เพิ่มเติมเข้ามา
ท้ายที่สุด ในบรรดาคนเหล่านี้ ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางที่ไม่เคลื่อนไหวสักที