The king of War - บทที่ 1788 ต้องยืนหยัดอดทนไว้
บทที่ 1788 ต้องยืนหยัดอดทนไว้
หยางเฉินสีหน้าเฉื่อยชา รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มาจากช่วงหน้าท้อง เขามองไปที่ฉินยีอย่างเหม่อลอย และพึมพำ “เสี่ยวยี ผมคือหยางเฉินพี่เขยของคุณนะ หรือว่าคุณลืมผมแล้ว?”
เดิมทีสีหน้าที่เฉื่อยชาของฉินยี หลังจากได้ยินหยางเฉินเรียก“เสี่ยวยี”แล้ว ตัวสั่นไปทั้งตัว เมื่อมองไปที่หยางเฉินอีกครั้ง ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็เกิดขึ้นอย่างพูดไม่ถูก
แต่ว่า เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออก ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ตกลงเป็นใครกันแน่
ไม่นาน น้ำตาก็ไหลอาบแก้มตัวเอง
ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเห็นชายคนนี้ เธอรู้สึกมีความคุ้นเคยมาก ซึ่งทำให้เธอมีความคิดที่อยากโผเข้าไปในอ้อมกอดของเขา และอยากร้องไห้ออกมาดังๆ
“คุณเป็นใครกันแน่? ทำไมเห็นคุณ ฉันมีความรู้สึกคุ้นเคยมาก?”
ฉินยีน้ำตาอาบแก้ม ตาทั้งคู่จ้องมองผู้ชายที่อยูใกล้แค่เอื้อม ดูคุ้นเคยแต่ก็เหมือนเป็นผู้ชายแปลกหน้า ถามด้วยเสียงสะอื้น
ในที่สุดหยางเฉินก็แน่ใจแล้วว่า ไม่ทราบเพราะสาเหตุอะไร ฉินยีได้ลืมเขาอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงลงมือกับเขาหนักเช่นนี้
หยางเฉินพูดว่า “กำจัดขยะรอบๆตัวก่อน แล้วเราค่อยมาคุยรายละเอียดกัน โอเคไหม?”
ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ฉินยีก็ปล่อยกริช เหลือบมองไปยังผู้แข็งแกร่งที่อยู่รอบๆ สีหน้าเย็นชาทันที ทันใดนั้นก็พุ่งออกไป
หลังจากหนึ่งนาทีผ่านไป นอกจากหยางเฉิน และนักพรตเต๋าที่ถูกหยางเฉินโจมตีบาดเจ็บสาหัสจนปลิวออกไป คนอื่นๆถูกฉินยีฆ่าตายจนหมดสิ้น
และหยางเฉินใช้โอกาสตอนที่ฉินยีลงมือ ก็รีบทานยาหนึ่งเม็ดเป็นยาที่เฝิงเสี่ยวหว่านให้เขาไว้เพื่อใช้รักษาอาการบาดเจ็บ
เมื่อครู่ ฉินยีใช้กริชแทงหน้าท้องของเขาจนบาดเจ็บ ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงมาก อันที่จริง ตอนที่ฉินยีใช้กริชแทงมานั้น หยางเฉินก็ได้เลี่ยงไม่ให้แทงถูกอวัยวะที่สำคัญต่างๆ กริชก็แค่แทงถูกผิวหนังภายนอกเท่านั้น
บาดเจ็บแค่นี้ ถือได้ว่าเป็นอาการบาดเจ็บภายนอกที่รุนแรง มียาที่เฝิงเสี่ยวหว่านให้ไว้ กลับกัน อาการบาดเจ็บแค่นี้ถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ตรงกันข้าม ก่อนหน้านี้ตอนที่ประลองฝีมือกับนักพรตเต๋า อาการบาดเจ็บที่ถูกนักพรตเต๋าทำร้าย ถือว่าสาหัสมาก
“ตอนนี้ บอกฉันได้หรือยัง ตกลงคุณเป็นใครกันแน่?”
ในเวลานี้ฉินยีเดินเข้ามา สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาอีกครั้ง จ้องมองหยางเฉินแบบไม่กะพริบตาและถาม
หยางเฉินเหลือบมองไปที่ไม่ไกลนัก นักพรตเต๋าที่ถูกเขาทำร้ายบาดเจ็บจนล้มลงกับพื้น
ฉินยีขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา “เขาเป็นคนของเซิ่งกง ฉันจะไม่ฆ่าเขา!”
หยางเฉินแอบถอนหายใจเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าฉินยีลืมทุกอย่างจนหมดสิ้น แม้ว่าเขาจะไปฆ่านักพรตเต๋า ฉินยีก็คงจะไม่เห็นด้วย และอาจลงมือกับเขาด้วยซ้ำ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยางเฉินจึงละทิ้งโอกาสที่จะลงมือกับนักพรตเต๋า มองดูฉินยีแล้วถามว่า “ผมเป็นพี่เขยของคุณ หยางเฉินไง! เสี่ยวยีคุณไม่รู้จักผมแล้วเหรอ?”
“พี่เขย?”
ฉินยีขมวดคิ้ว และพูดอย่างเย็นชา “ตั้งแต่เล็กจนโตฉันเติบโตมาจากเซิ่งกงฉันไม่เคยมีพี่สาวเลย แล้วฉันจะมีพี่เขยได้อย่างไร? ตกลงคุณเป็นใครกันแน่? หากคุณไม่อธิบายให้ชัดเจน ฉันจะฆ่าคุณเดี๋ยวนี้!”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หยางเฉินจึงละทิ้งโอกาสที่จะลงมือกับนักพรตเต๋า มองดูฉินยีแล้วถามว่า “ผมเป็นพี่เขยของคุณ หยางเฉินไง! เสี่ยวยีคุณไม่รู้จักผมแล้วเหรอ?”
พูดจบ เธอก็ยกริชในมือขึ้นอีกครั้ง
แต่หยางเฉินรู้สึกได้ว่า ฉินยีไม่ได้มีเจตนาฆ่าต่อเขา
เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้หยางเฉินสงสัยอย่างมากก็คือ ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับฉินยี? ทำไมถึงบอกว่า ตั้งแต่เล็กจนโตตัวเองได้เติบโตมาจากเซิ่งกง?
ถ้าไม่ใช่เพราะไฝที่มุมปากของฉินยี หยางเฉินถึงขั้นสงสัยว่า หรือว่าตัวเองจำคนผิดจริงๆ แต่เห็นได้ชัดว่า เขาใกล้ชิดกับฉินยีมาเป็นเวลานาน ไฝทุกเม็ดบนใบหน้าของฉินยี เขาก็จำได้อย่างชัดเจน
เขามั่นใจมาก ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ก็คือฉินยี
“เสี่ยวยีที่ผมพูดเป็นความจริง ผมเป็นพี่เขยของคุณจริงๆ พี่สาวของคุณคือฉินซี พ่อของคุณคือฉินต้าหย่ง และคุณมีหลานสาวที่น่ารักคนหนึ่งชื่อเสี้ยวเสี้ยว”
หยางเฉินมีสีหน้าจริงจัง และถามต่อว่า “เธอคงไม่ใช่ลืมคนเหล่านี้จนหมดแล้วนะ”
“จริงสิ เมื่อก่อนเธอยังเคยพูดว่า เธอไม่ต้องการให้ผมเป็นพี่เขยของเธอ เธอจะให้ผมเป็นพี่ชายของคุณ เป็นพี่ชายที่สามารถอยู่กับเธอได้ตลอด หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้เธอก็ลืมจนหมดสิ้นแล้วเหรอ?”
ฉินยียิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น ในส่วนลึกสมองของเธอ มีร่างที่พร่ามัวปรากฏขึ้นทันที แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของคนเหล่านั้นได้ชัดเจน แต่เธอก็มีความรู้สึกที่รุนแรง คนเหล่านี้ ล้วนเป็นญาติของเธอ
เธอพยายามอย่างมากที่จะมองใบหน้าของคนเหล่านั้นให้ชัดเจน แต่มองยังไงก็เห็นไม่ชัด
“อ๊ะ……”
ทันใดนั้นฉินยีก็ตะโกนร้องเสียงดัง สองมือกุมศีรษะไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่รุนแรง ทำให้เหงื่อออกทั่วร่างของเธอ
สีหน้าของหยางเฉินเปลี่ยนไปทันที รีบถามว่า “เสี่ยวยีตกลงเธอเป็นอะไร? อย่าทำให้ผมตกใจนะ!”
ไม่ว่าเขาจะตะโกนยังไง ฉินยีก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ กุมศีรษะไว้ตลอด และกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ในขณะนี้ นักพรตเต๋าก็ฟื้นคืนพลังบางส่วน เขาลุกจากพื้นแล้วยืนขึ้น มองไปยังฉินยีที่กุมศีรษะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทันใดนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชา และพูดว่า “คุณคือธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งเซิ่งกงของพวกเรา เจ้าแห่งเซิ่งกงในอนาคต อย่าฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระ”
“ขอเพียงคุณฆ่าเขาซะ ความเจ็บปวดแบบนั้นก็จะหายไป ธิดาศักดิ์สิทธิ์ รีบฆ่าเขาซะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของนักพรตเต๋า หยางเฉินก็ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่แรงกล้า ไอ้สารเลวคนนี้ น่ารังเกียจจริงๆ
ถึงแม้เขาก็ไม่ต้องการให้ฉินยีต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดแบบนี้ แต่เขารู้ดีว่า นักพรตเต๋าจงใจพูดเช่นนั้น ก็เพื่อให้ฉินยีละทิ้งความทรงจำ มีแต่วิธีนี้ ฉินยีถึงจะถูกเซิ่งกงควบคุมต่อไป
แม้ว่าหยางเฉินจะไม่ทราบแน่ชัด ว่าบนตัวฉินยีเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เขาสามารถแน่ใจได้ก็คือ ฉินยีต้องถูกเซิ่งกงควบคุมอย่างแน่นอน และเซิ่งกงต้องทำอะไรบางอย่างกับฉินยีแน่นอน ฉินยีถึงได้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง และยังมีพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นที่น่าสะพรึงกลัว
แต่ว่า หยางเฉินก็ยังคงไม่เข้าใจ เซิ่งกงทำได้อย่างไร ทำให้ฉินยีคิดว่าตั้งแต่เล็กจนโตเธอเติบโตมาจากเซิ่งกง?
ถึงแม้จะสงสัย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ หยางเฉินรีบพูดว่า “เสี่ยวยี เธออย่าฟังที่เขาพูด เขากลัวว่าเธอจะฟื้นความทรงจำ ดังนั้นเขาเลยจงใจที่จะพูดอย่างนั้น”
“ต้องเป็นเซิ่งกงที่ทำอะไรกับเธอแน่ๆ ดังนั้นเธอจึงลืมทุกอย่าง ไม่งั้นเวลาที่เธอพยายามนึกถึงเรื่องอดีต ทำไมถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้?”
“เสี่ยวยี ขอเพียงเธอยืนหยัดอดทน เธอก็จะสามารถฟื้นความทรงจำได้แน่นอน!”
หยางเฉินพูดเสียงดัง
นักพรตเต๋าหัวเราะเยาะ และพูดอย่างดูถูก “ไม่ดูกำลังความสามารถของตน! ในเมื่อเซิ่งกงมีวิธีทำให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่าง คุณคิดว่า ถึงแม้ตอนนี้เธอจะฟื้นความทรงจำได้ แลัวยังไงล่ะ?”
“เซิ่งกงสามารถให้ทุกอย่างกับเธอได้ ก็สามารถเอาทุกอย่างกลับคืนมาได้เช่นกัน รวมถึงชีวิตของเธอด้วย!”
หยางเฉินพูดอย่างโมโห “นายหาที่ตาย!”
นักพรตเต๋าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อาศัยนายในตอนนี้ สามารถฆ่าฉันได้เหรอ?”
หยางเฉินเงียบไปในทันที เมื่อครู่ต่อสู้กับนักพรตเต๋าทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้ว่าจะสู้ต่อไป ก็ไม่มีใครฆ่าใครได้ มีแต่จะบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
ขณะนี้ ฉินยียังอยู่ในช่วงแห่งความเจ็บปวด สีหน้าของหยางเฉินเต็มไปด้วยความกังวล กำหมัดไว้แน่น แอบสาบานในใจว่า ทุกสิ่งที่ฉินยีได้รับ เขาจะต้องคืนให้กับเซิ่งกงเป็นพันเท่า
หยางเฉินอธิษฐานในใจ “เสี่ยวยี คุณต้องอดทนยืนหยัดขึ้นมาให้ได้นะ!”