The king of War - บทที่ 1790 สบายดีไหม
บทที่ 1790 สบายดีไหม?
เสียงกรี๊ดของหวยหลัน ดึงดูดความสนใจของทุกคน
หยางเฉินก็มองมาที่หม่าชาว และเห็นนิ้วของหม่าชาวขยับจริงๆ เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นมาก
เฝิงเสี่ยวหว่านรีบพูด “พี่อ้าย คุณรีบเรียกพี่หม่าสิ ให้เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคย”
อ้ายหลินเพิ่งได้สติ รีบเดินไปหาหม่าชาวที่หน้าเตียงผู้ป่วย จับมือทั้งสองข้างของหม่าชาวไว้แน่น แล้วพูดน้ำตาคลอเบ้า “หม่าชาว ฉันคืออ้ายหลิน คุณได้ยินเสียงของฉันใช่ไหม? คุณรีบฟื้นเถอะ เสี่ยวจิ้งอันลูกชายของเราเกิดแล้วนะ อีกไม่กี่วัน ลูกก็จะเก้าเดือนแล้ว ฉันขอร้องคุณรีบฟื้นขึ้นมา ได้ไหม?”
“จริงสิ จิ้งอันเรียกพ่อได้แล้วนะ”
พูดจบ เธอรีบรับเสี่ยวจิ้งอันมาจากมือของเฝิงเสี่ยวหว่าน เดินมาหาหม่าชาวหน้าเตียงผู้ป่วย และพูดกับเสี่ยวจิ้งอัน “จิ้งอัน นี่คือคุณพ่อ เธอรีบเรียกคุณพ่อเร็ว”
เสี่ยวจิ้งอันกะพริบตาโต และมองไปที่คุณพ่อที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในช่วงเวลานี้ อ้ายหลินได้พาเสี่ยวจิ้งอันเฝ้าอยู่ข้างกายของหม่าชาวโดย และสอนให้เสี่ยวจิ้งอันเรียกคุณพ่อทุกวัน
แม้ว่าเสี่ยวจิ้งอันจะมีอายุเพียง9เดือน แต่ก็สามารถเรียกคุณพ่อได้แล้วหลังจากมองหม่าชาวอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเสียงอู้อี้ของเด็กน้อย “ปะป๊า ! ปะป๊า! ปะป๊า!”
ในเวลานี้ หม่าชาวซึ่งยังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ขยับนิ้วอีกครั้ง และมีน้ำตาไหลออกจากหางตา
เฝิงเสี่ยวหว่านผู้ซึ่งเฝ้าสังเกตอาการสัญญาณชีพของหม่าชาวโดยตลอด ทันใดนั้นด้วยความยินดี และรีบพูดว่า “อาการสัญญาณชีพทุกอย่างในร่างกายพี่หม่า ดีขึ้นเรื่อยๆ พี่อ้าย พวกคุณรีบพูดคุยกับเขาต่อไป พี่หม่ากำลังจะฟี้นแล้ว”
อ้ายหลินก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ วางเสี่ยวจิ้งอันไว้ข้างๆหม่าชาว เอามือของเสี่ยวจิ้งอันวางบนฝ่ามือของหม่าชาว และมือของเธอก็ทับมือของเสี่ยวจิ้งอันไว้ มือของครอบครัวทั้งสามคน วางอยู่ด้วยกัน
อ้ายหลินพูดด้วยเสียงสะอื้น “หม่าชาว คุณรู้สึกได้หรือยัง? มือของเสี่ยวจิ้งอันวางอยู่บนฝ่ามือของคุณ เขาเป็นลูกชายของคุณ คุณอยู่ในอาการโคม่ามาครึ่งปีแล้ว เสี่ยวจิ้งอันกำลังจะครบหนึ่งขวบแล้ว คุณคงไม่อยากพลาดวันเกิดปีแรกของเสี่ยวจิ้งอันใช่ไหม? คุณรีบฟื้นได้แล้ว ดีไหม?”
เฝิงเสี่ยวหว่านผู้ซึ่งเฝ้าสังเกตอาการสัญญาณชีพของหม่าชาวโดยตลอด ทันใดนั้นด้วยความยินดี และรีบพูดว่า “อาการสัญญาณชีพทุกอย่างในร่างกายพี่หม่า ดีขึ้นเรื่อยๆ พี่อ้าย พวกคุณรีบพูดคุยกับเขาต่อไป พี่หม่ากำลังจะฟี้นแล้ว”
“ปะป๊า! ปะป๊า!”
……
เสี่ยวจิ้งอันดูเหมือนจะรู้สึกถึงลมหายใจของพ่อ และยังคงเรียกไม่หยุด “ปะป๊า”。
ผู้หญิงหลายคนที่อยู่ในห้อง ต่างน้ำตาไหลอย่างเงียบๆ
เมื่อตอนเสี่ยวจิ้งอันอายุได้เพียงสามเดือน หม่าชาวก็ตกอยู่ในอาการโคม่า และตอนนี้เวลาผ่านไปหกเดือนเต็มๆ หม่าชาวก็ยังอยู่ในอาการโคม่า
หยางเฉินมีสีหน้าตื่นเต้นเช่นกัน มองหม่าชาวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เขาก็รู้สึกไม่สบายใจมาก
เฝิงเสี่ยวหว่านก็ช่วยหยางเฉินรักษาไปเรื่อยๆ พยายามใช้โอกาสนี้เพื่อปลุกหม่าชาวให้ฟื้นขึ้นมา
เพียงแต่ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ จนเสี่ยวจิ้งอันก็หลับไปแล้ว หม่าชาวก็ไม่สามารถลืมตาได้ เดิมทีเขายังขยับนิ้วได้ แต่ตอนนี้ไม่ขยับเลย เหมือนกลับมาเป็นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เฝิงเสี่ยวหว่านอธิบายว่า “พวกคุณวางใจเถอะ พี่หม่ามีปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว เพียงแต่เป็นเพราะเขาอยู่ในอาการโคม่านานเกินไป และสภาพร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป ดังนั้นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เขาถึงจะฟื้นได้เต็มที่”
“ตอนนี้ สัญญาณชีพจรทั้งหมดของเขา กลับมาสู่ระดับปกติแล้วน่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็คงจะฟื้นตัวได้แล้ว”
ตัวอ้ายหลินเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เช่นกัน เครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพจรของหม่าชาว เธอก็เป็นคนจัดการด้วยตัวเอง แน่นอนเธอก็รู้ว่าเฝิงสี่ยวหว่านไม่ได้หลอกทุกคน แต่เป็นแบบนี้จริงๆ
ในช่วงครึ่งปีก่อนหน้านี้ สัญญาณชีพจรทุกอย่างของหม่าเฉานั้น ต่ำกว่าระดับปกติ แต่วันนี้ สัญญาณชีพจรกลับคืนสู่ระดับปกติแล้ว
อีกทั้ง เมื่อกี้หยางเฉินก็เพิ่งวางลูกแก้วจรัสราตรีไว้บนร่างของหม่าชาว ก็สามารถทำให้หม่าชาวมีปฏิกิริยาขนาดนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป หม่าชาวต้องฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน
“เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายกันไปเถอะ!”
ขณะนี้หยางเฉินเหลือบมองทุกคน และพูดขึ้น
ไม่นาน ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงอ้ายหลินกับเสี่ยวจิ้งอันเท่านั้น คนอื่นๆต่างก็ออกจากห้องผู้ป่วยไปหมดแล้ว
ในห้องโถงของวิลล่า หยางเฉินนั่งอยู่บนโซฟา และคนอื่นๆก็นั่งอยู่ด้านข้าง
มีเฝิงเสี่ยวหว่านกับหวยหลัน มีเฝิงเจียหยี และยังมีสองพี่น้องตระกูลซ่ง
หยางเฉินถามขึ้นทันที “เสี่ยวหว่าน คุณคิดว่า อีกนานแค่ไหน กว่าหม่าชาวจะฟื้น?”
หลังจากเฝิงเสี่ยวหว่านเงียบไปครู่หนึ่ง ส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้ว่าประสิทธิภาพของลูกแก้วจรัสราตรี จึงไม่สามารถบอกได้ว่าพี่หม่าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ใจได้ก็คือ เขาต้องฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน น่าจะในช่วงไม่กี่วันนี้”
หยางเฉินพยักหน้า หม่าชาวอยู่ในอาการโคม่ามาครึ่งปีเต็มๆแล้ว ก็ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย วันนี้เขาเพิ่งวางลูกแก้วจรัสราตรีไว้บนตัวเขา สัญญาณชีพจรในร่างกายของเขาทุกอย่างก็กลับสู่ระดับปกติแล้ว น่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถฟื้นขึ้นมาได้แล้ว
สิ่งที่เขากังวลใจมาตลอด ในที่สุดก็สามารถวางใจได้แล้ว
หยางเฉินมองไปที่ซ่งจั่วและซ่งโย่วที่อยู่ด้านข้าง แล้วถามว่า “อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสจั่วกับผู้อาวุโสโย่วเป็นอย่างไรบ้าง?”
ชั่วขณะเฝิงเสี่ยวหว่านรู้สึกผิด เหลือบมองทั้งสองคน จากนั้นมองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “อาการบาดเจ็บของคุณปู่ทั้งสองนั้นสาหัสมาก เกรงว่าในเวลาอันสั้นจะไม่สามารถฟื้นฟูถึงจุดสูงสุด ตามสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาต้องการฟื้นฟูคืนสู่จุดสูงสุด อย่างน้อยต้องใช้เวลาครึ่งปี”
“คุณปู๋จั่ว คุณปู่โย่ว ขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถทำให้พวกคุณฟื้นฟูสู่สภาพเดิมได้ทันที”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซ่งจั่วและซ่งโย่วก็รีบพูดว่า “คุณหนูเฝิงพูดเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ พวกเราคงพิการไปตลอดชีวิตแล้ว คุณสามารถรักษาเราสองพี่น้อง และในเวลาหกเดือนสามารถทำให้พวกเรากลับสู่จุดสูงสุดเหมือนเดิม พวกเรารู้สึกขอบคุณมาก”
ในเวลานี้ หยางเฉินหยิบขวดเซรามิกสีขาวออกมา ยื่นขวดให้เฝิง เสี่ยวหว่านและพูดว่า “เสี่ยวหว่าน นี่คือยาเม็ดที่ฉันได้รับมาจากจวนเมืองหวยเฉิง ว่ากันว่ามันสามารถยกระดับวิถีบู๊ของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ และไม่มีผลข้างเคียง คุณดูสิ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็เอาให้ผู้อาวุโสทั้งสองท่านทานได้เลย!”
ที่ซ่งจั่วและซ่งโย่วได้รับบาดเจ็บสาหัส และการบำเพ็ญของวิถีบู๊ถูกทำลาย ก็เพราะพวกเขาต้องการวัสดุยาเพื่อมารักษาหม่าชาว เลยไปค้นหายาที่เมืองหวยเฉิง จากนั้นก็ถูกคนของหุบเขาราชายาไล่ฆ่า
หยางเฉิงไม่ทำให้พวกเขาเสียเปรียบแน่นอน
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน สองพี่น้องตระกูลซ่งต่างก็ประหลาดใจ ซ่งจั่วรีบพูด “คุณหยาง ยานี้แพงเกินไป เอามาให้พวกเรากินคงเสียเปล่า คุณเก็บไว้ใช้เองเถอะ พวกเราไม่รีบร้อนอะไร”
หยางเฉินพูด “ท่านผู้อาวุโสไม่ต้องพูดแล้ว เป็นเพราะพวกคุณไปช่วยพี่ชายของผมหาวัสดุยา เลยถูกคนของหุบเขาราชายาทำลายการบำเพ็ญของวิถีบู๊ เพียงแค่ยาสองเม็ดเท่านั้น”
สองพี่น้องตระกูลซ่ง หลังจากได้ฟังคำพูดของหยางเฉิน ชั่วขณะก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก และทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรอีก
เฝิงเสี่ยวหว่านรีบหยิบยาออกมา ทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “นี่คือยาทุละแดน! หลังจากผู้แข็งแกร่งระดับต่ำกว่าแดนเหนือมนุษญ์ขั้นห้าทานแล้ว ก็สามารถยกระดับของแดนวิถีบู๊ได้ แม้ว่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับสูงกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าทานแล้ว หากการสะสมเพียงพอก็เป็นไปได้ที่จะฝ่าทะลวงแดนได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเสี่ยวหว่าน สองพี่น้องตระกูลซ่งก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก
พวกเขารู้ว่าในโลกนี้มีสิ่งแปลกๆมหัศจรรย์มากมาย แต่คาดไม่ถึงว่า ยาเม็ดเดียว จะมีพลังงานมากมายขนาดนี้
หยางเฉินพูดว่า “ผู้อาวุโสจั่วและโย่ว พวกคุณรีบทานเดี๋ยวนี้เลย!”
เขายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก หากสามารถยกระดับแดนวิถีบู๊ของสองพี่น้อง สำหรับเขา ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
หลังจากที่หม่าชาวฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจะไปหาฉินซี ตอนนี้ฉินซีได้กลายเป็นสมาชิกของเซิ่งกง แล้วฉินซีและคนอื่นๆล่ะ? ตอนนี้อยู่ที่ไหน? และสบายดีทุกคนไหม?