The king of War - บทที่ 1796 จุดสูงสุดของโลก
บทที่ 1796 จุดสูงสุดของโลก
แม้ว่าโยชิดะ ไตจัวกับอาโอคิ ซึนะจะงง แต่พวกเขาก็ยังดูสัญญาเมื่อพวกเขาเห็นเนื้อหาของสัญญา สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“งี่เง่า!”
อาโอคิ ซึนะตะโกนอย่างโกรธจัด โยนสัญญาลงบนโต๊ะอย่างแรง จ้องมองหยางเฉินด้วยความโกรธและพูด “นายนี่ช่างใจกล้าเหลือเกิน กล้ามายั่วยุสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศซัน ใครเป็นผู้ให้ท้ายนายทำให้กล้าหาญเช่นนี้?”
“ตูม!”
ทันทีที่อาโอคิ ซึนะพูดจบ หยางเฉินซึ่งเดิมทีอยู่ห่างจากเขาหลายเมตร ทันใดนั้น ศอกหนึ่ง ต่อยที่หน้าอกของอาโอคิ ซึนะอย่างแรง เห็นอาโอคิ ซึนะพ่นเลือดออกมาเต็มปาก และร่างกายก็ปลิวกระเด็นออกไปทันที และกระแทกผนังห้องวีไอพีอย่างแรง
โยชิดะ ไตจัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสยดสยอง
เมื่อวานตอนที่เขาไปที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ได้เห็นความแข็งแกร่งของหยางเฉินแล้ว และยูอิจิ คาชิโระก็ถูกหยางเฉินใช้แก้วกระแทกใส่ใบหน้าจนฟันหน้าหลุดไปสี่ซี่
มีเพียงอาโอคิ ซึนะเท่านั้น ครั้งแรกที่พบเจอหยางเฉิน นี่พึ่งเจอ ก็ถูกหยางเฉินต่อยจนปลิวออกไปทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง อาโอคิ ซึนะจึงพยายามลุกขึ้นจากพื้นดิน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสยดสยอง และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
เขารู้สึกว่าอวัยวะภายร่างกายทุกส่วนเคลื่อนที่ และเขายังคงรู้สึกว่า หยางเฉินไม่ได้ออกแรงใดๆ
หยางเฉินมองดูผู้คนสองสามคนด้วยใบหน้าขี้เล่นและพูดว่า “ในอีกสามวันข้างหน้า พวกนายจะนัดต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งวิถีบู๊ในจิ่วโจวไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ไม่กล้าเซ็นสัญญานี้กับฉันแล้วหรือ? เป็นไปได้ไหม การแข่งขันยังไม่เริ่ม พวกนายก็กลัวแล้ว?”
ผู้รับผิดชอบสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิ่วโจว ต่างนิ่งเงียบ ไหนเลยจะมีใครกล้าพูดอีก
หยางเฉินไม่เสียเวลา และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “รีบเซ็นซะ ฉันไม่มีเวลามาเสียให้กับเศษสวะอย่างพวกนาย”
เขารู้สึกว่าอวัยวะภายร่างกายทุกส่วนเคลื่อนที่ และเขายังคงรู้สึกว่า หยางเฉินไม่ได้ออกแรงใดๆ
มันเป็นดูถูกกันชัดๆ แต่ผู้รับผิดชอบทั้งสามคนของบริษัทยักษ์ กลัวจนหัวหด หลังจากที่โยชิดะ ไตจัวได้สบตากับอาโอคิ ซึนะ พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้า และเซ็นชื่อในสัญญา
หยางเฉินเก็บเอกสารสัญญา เหลือบมองคนสองสามคนอย่างดูถูก และพูดว่า “ทางที่ดีพวกนายควรเตรียมตัวล่วงหน้า อย่ารอให้การแข่งขันในอีกสามวันข้างหน้าสิ้นสุดลง พวกนายจะไม่มีเวลาไปจากจิ่วโจว”
พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป
จนกระทั่งหยางเฉินจากไปเป็นเวลานาน ทั้งสามคนถึงกล้าปล่อยอารมณ์ออกมา
“ตูม!”
โยชิดะ ไตจัวทุบกำปั้นลงบนโต๊ะอาหาร และพูดด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลวนี่ถึงกลับกล้ามาข่มขู่พวกเรา พวกเราต้องไม่ปล่อยเขาไป”
ยูอิจิ คาชิโระกำหมัดไว้แน่น และพูดด้วยความเกลียดชัง “สามวันข้างหน้า ฉันจะทำให้เขาเหมือนตายทั้งเป็น! ชีวิตของเขา คะมิแชโบลของเรา เอาแน่นอน!”
อาโอคิ ซึนะเองก็โกรธมาก และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เพิ่มอาโอกิแชโบลของพวกเราเข้าไปด้วย และในสามวันข้างหน้า ฉันจะทำลายชื่อเสียงของเขา และให้เขากลายเป็นศัตรูของสาธารณะ!”
ยูอิจิ คาชิโระพูดว่า “อย่ากังวลไป ฉันได้ให้คนถ่ายวิดีโอที่เขาพบกับฉันเพียงลำพังไว้แล้ว และในอีกสามวันข้างหน้าเมื่อการแข่งขันการต่อสู้จบลง ฉันจะให้คนเผยแพร่วิดีโอ จากความเกลียดชังของผู้คนในจิ่วโจวที่มีต่อประเทศซันของพวกเรา หยางเฉินจะต้องกลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะอย่างแน่นอน ฉันจะคอยดู ถึงเวลานั้น เขาจะตอบสนองอย่างไร”
หลังจากที่หยางเฉินออกจากหอเหอเยว่ ก็ไปที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป
“ท่านประธาน!”
อาคารใหญ่ของบริษัทชั้นบนสุดออฟฟิตของท่านประธาน หยางเฉินเรียกลั่วปิงมา ลั่วปิงท่าทางสุภาพ และพูดว่า “ท่านประธานพวกเราเตรียมพร้อมที่จะเข้าครอบครองอุตสาหกรรมทั้งหมดของสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิ่วโจวแล้ว”
หยางเฉินพยักหน้า “ดี ในอีกสามวัน ฉันต้องการให้คนของสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศซัน ไสหัวไปจากจิ่วโจว ในเวลานั้น อุตสาหกรรมของพวกเขา จะถูกรวมเข้ากับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป”
สีหน้าลั่วปิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กำมือทั้งสองข้างไว้แน่น เขาตั้งตารออีกสามวันข้างหน้า ฉากของอุตสาหกรรมของสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิ่วโจวรวมเข้ากับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
หยางเฉินพูดอีกครั้ง “ไม่มีอะไรแล้ว คุณไปทำงานเถอะ!”
ลั่วปิงปิดประตูอย่างระมัดระวัง และเดินออกไป
ในออฟฟิต ชั่วขณะก็เหลือหยางเฉินเพียงคนเดียว หยางเฉินยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ เอามือไขว้หลัง มองดูการจราจรที่คับคั่งนอกหน้าต่าง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ในที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึง”
จู่ๆหยางเฉินก็เงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าสีฟ้า ดวงตาสีแดงและพูดว่า “แม่ครับ อีกไม่นานผมจะทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปกลายเป็นบริษัทชั้นนำของโลก”
เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเป็นสิ่งเดียวในโลกนี้ที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้เขาระลึกถึง เยี่ยนเฉินกรุ๊ปในวันนี้ แม้ว่าจะแข็งแกร่งมาก แต่อยู่ในระดับโลก ก็ยังไม่สามารถติดอันดับหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกได้
อย่างไรก็ตามหยางเฉินเชื่อว่า หลังจากที่เขารวมอุตสาหกรรมทั้งหมดของสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิ่วโจวให้เข้ากับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว ความแข็งแกร่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะติดอันดับหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก
หลังจากช่วงเช้าได้ใช้เวลาอยู่ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หลังจากเซ็นเอกสารบางอย่างที่ต้องการลายเซ็นของเขาเสร็จแล้ว ในตอนบ่าย เขาก็กลับไปที่ยอดเมฆา
มีลั่วปิง เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย ลั่วปิงจัดการงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอย่างเป็นระเบียบ
หลังจากกลับไปที่ยอดเมฆา ซ่งจั่วกับซ่งโย่วสองพี่น้อง กำลังฝึกบู๊อยู่ในสนาม เฝิงเจียหยีก็อยู่ด้วย ในตอนนี้พี่น้องตระกูลซ่งทั้งคู่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าระยะต้นแล้ว แต่เฝิงเจียหยีอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง พี่น้องตระกูลซ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะสอนการฝึกฝนให้กับเธอ
ภายในห้อง อ้ายหลินอุ้มเสี่ยวจิ้งอัน เฝ้าอยู่ในห้องของหม่าชาว
เฝิงเสียวหว่านอยู่อีกห้องคนเดียว กำลังศึกษาค้นคว้ายาสมุนไพรจีนของเธอ
หวยหลัน นั่งอยู่คนเดียวในห้องโถง มีเอกสารมากมายวางบนโต๊ะกาแฟ และเธอก็กำลังตั้งใจดู
“พี่หยาง คุณกลับมาแล้วเหรอ!”
เมื่อเห็นหยางเฉินกำลังเดินมา หวยหลันก็ลุกขึ้น และพูดด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินพยักหน้า เหลือบมองเอกสารในมือของหวยหลัน และถามด้วยรอยยิ้ม “นี่คุณเริ่มวางแผนเรื่องที่อุตสาหกรรมของสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิ่วโจวรวมเข้ากับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว จะทำยังไงให้บริษัทเหล่านี้รวมตัวกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้ราบรื่นเหรอ?”
หวยหลันพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นปัญหาเล็กๆ ฉันกำลังพิจารณา จะทำยังไงให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปกลายเป็นบริษัทชั้นนำของโลก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางเฉินก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
หวยหลันพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวหว่านบอกฉันแล้ว เยี่ยนเฉินกรุ๊ปมีความหมายกับคุณมาก และคุณต้องการให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมาตลอด ถ้าครั้งนี้หลังจากสามบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิ่วโจวได้เข้าร่วมกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว เป้าหมายนี้ยิ่งใกล้มากขึ้น
“เพียงแต่ว่า อยากให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปกลายเป็นหนึ่งในสิบของบริษัทชั้นนำของโลกนั้น มันยังยาก แม้ว่าสามบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศซันจะก่อตั้งอุตสาหกรรมของตนเองขึ้นในจิ่วโจว แต่อุตสาหกรรมเหล่านี้ ไม่ได้มีมูลค่ามหาศาล เป็นเพียงบริษัทที่คุณภาพเทคโนโลยีมีเกณฑ์ต่ำ หลังจากรวมเข้ากับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว ก็แค่สามารถเพิ่มมูลค่าตลาดหุ้นของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เท่านั้น และไม่ส่งผลดีอะไร”
หยางเฉินเริ่มสนใจขึ้นมาทันที นั่งบนโซฟาตรงข้ามกับหวยหลัน มองมาที่เธอแล้วถามว่า “คุณมีความคิดอย่างไร?”
หวยหลันพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเป็นคนอื่น ถ้าต้องการจะพัฒนาเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ให้เป็นหนึ่งในสิบของบริษัทชั้นนำในโลก คงเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับคุณ มันง่ายกว่ามาก”
“โอ้?”
หยางเฉินมีข้อสงสัยบางอย่าง ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองมีความสามารถอะไร ที่สามารถทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก