The king of War - บทที่ 1823 หัวหน้าสมาพันธ์บูโด หัวหน้าสมาพันธ์บูโด
บทที่ 1823 หัวหน้าสมาพันธ์บูโด หัวหน้าสมาพันธ์บูโด
ขาดคำจากเสียงของหยางเฉิน ทั้งบริเวณสะดุ้งกันไปทั่ว
ทุกคนที่อยู่นั้นมองไปที่หยางเฉินด้วยสีหน้าแบบไม่อยากเชื่อ เหมือนว่าคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าหยางเฉินจะกล้าใช้วาจาโอหังขนาดนี้กับไป๋หลี่ฉางคง
ไป๋หลี่ฉางคงเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดจากตระกูลบู๊โบราณเชียวนะ!
มีก็แต่ตู้จ้ง ถึงแม้บนใบหน้ายังดูมีกังวลอยู่ แต่ในแววกังวลนั้น ก็ยังมีความหวังรอแฝงอยู่
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาประมือกับไป๋หลี่ฉางคงถล่มไป๋หลี่ฉางคงแพ้ไปได้อย่างง่ายดาย ก็มีคิดอยู่ว่าคงจะเป็นหยางเฉินแอบช่วยอยู่ ถึงตอนนี้ ความคิดนี้ยิ่งเหมือนจะชัดแจ้งยิ่งขึ้น
“หยางเฉิน นี่แกกำลังหาที่ตายแล้ว!”
ไป๋หลี่ฉางคงยังไม่ทันพูด ติงเหวินจัวถลันออกมาก่อน พูดด้วยสีหน้ากราดเกรี้ยวว่า “แกมันตัวอะไรกัน?เอาฐานะอะไรมาขู่บังคับท่านไป๋หลี่ฉางคง?”
“หรือแกยังไม่รู้อีกว่า ท่านนี้มาจากราชวงค์ไป๋หลี่แห่งตระกูลบู๊โบราณ?แกรู้หรือเปล่าว่า ตระกูลบู๊โบราณนั้น มีความหมายอย่างไรในจิ่วโจว?”
หยางเฉินไม่ได้ไปใส่ใจกับติงเหวินจัว กลับใช้สีหน้าที่สงบนิ่ง มองไปที่เวลาในนาฬิกาข้อมือ เอ่ยปากพูด “ผ่านไปสี่สิบห้าวิ.แล้ว เจ้ายังเหลือโอกาสอีกสิบห้าวิ. ”
ไป๋หลี่ฉางคงโกรธสุดถึงกับหัวเราะ ตาทั้งคู่จ้องเขม็งที่หยางเฉิน พูดเสียงหนาวเยือก “ข้าก็อยากจะขอดูว่าไอ้มดปลวกในโลกสามัญนี้ มันจะทำอะไรข้าได้?”
ตู้จ้งรู้สึกห่วงกังวลขึ้นมาพูดว่า “หยางเฉิน หรือไม่ ให้ข้าจัดดีกว่า?”
หยางเฉินส่ายหน้าเล็กน้อย มองไปที่ไป๋หลี่ฉางคงพูดว่า “หนึ่งนาทีที่กำหนดให้คุณ หมดแล้ว!คุณไปตายได้แล้ว”
ไป๋หลี่ฉางคงหัวเราะลั่นขึ้นมาในทันที พูดด้วยสีหน้าท้าทาย “ไอ้เจ้ามดปลวกสามานย์ ช่างโง่เง่าจริง ๆ สงสัยยังไม่เคยรู้จักผู้แข็งแกร่งขั้นแปดชั้นสุดยอด ว่ามีความเก่งกาจขนาดไหนมั้ง?”
ไป๋หลี่ฉางคงโกรธสุดถึงกับหัวเราะ ตาทั้งคู่จ้องเขม็งที่หยางเฉิน พูดเสียงหนาวเยือก “ข้าก็อยากจะขอดูว่าไอ้มดปลวกในโลกสามัญนี้ มันจะทำอะไรข้าได้?”
ติงเหวินจัวก็อวยตามไปว่า “คุณท่านไป๋หลี่ ในเมื่อไอ้เด็กน้อยนี่มันกล้าท้าทายท่าน ท่านก็อย่าไปออมมือให้มันเลย ให้ดีก็จัดการหักแขนขาทั้งสี่ชิ้นของมันทิ้งก่อนเลย!”
“สำหรับผู้แข็งแกร่งในวงการบูโดนั้น ถ้าต้องอยู่ในสภาพแขนขาทั้งสี่ใช้การไม่ได้ น่าจะเป็นเรื่องที่ทารุณร้ายที่สุดมัง?”
ใบหน้าติงเหวินจัวเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แค้นเคียดอยากหักแขนหักขาหยางเฉินด้วยมือตัวเอง
ตู้จ้งตวาดใส่ด้วยความโกรธ “ติงเหวินจัว แกหุบปากเสีย!แกขืนพูดอย่างคนปากเสียอีก ข้าจะจัดการหักแขนขาแกก่อนเสียเดี๋ยวนี้แหละ!”
ผู้แข็งแกร่งของสมาพันธ์บูโดคนอื่น ๆ ต่างพากันมองติงเหวินจัวอย่างโกรธเคือง
ไป๋หลี่ฉางคงพูดแต่ละคำมีแต่คำว่าเศษขยะโลกสามัญ มันไม่ได้เหยียดหยามหยางเฉินเท่านั้น แต่โดนรวมไปหมดทั้งผู้แข็งแกร่งในโลกสามัญที่อยู่ในที่นี้ ถูกเขาดูถูกไปหมด
หยางเฉินไม่ได้ใส่ใจกับทุกคน ตาที่มองเห็นไป๋หลี่ฉางคงนั้น เหมือนมองคนที่ตายไปแล้ว
“โปรดจำไว้ใช้ในชาติหน้านะ ต้องรู้จักเป็นคน!”
หยางเฉินจู่ ๆ ก็พูดออกไป
พอเสียงพูดจบ พลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวกระแสหนึ่ง ระเบิดออกมาจากตัวของเขาในฉับพลัน
บรึม!
ในนาทีนั้น ห้องโถงงานเลี้ยงที่ใหญ่โต ถูกพลังบูโดที่กระจายออกมาจากตัวหยางเฉินครอบคลุมกดดันไปทั่ว คนที่อยู่ในนั้นทั้งหมดตาลุกโต สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ใบหน้าเต็มไปด้วยความโอหังของไป๋หลี่ฉางคง ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ระหว่างผู้แข็งแกร่งด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าต้องลงมือ เพียงแค่กระแสพลังที่เปล่งออกมา ก็พอให้คาดเดาได้โดยประมาณแล้ว รู้ได้ขนาดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีพลังฝีมืออยู่ในขั้นชั้นไหน
ไป๋หลี่ฉางคงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด หยางเฉินถึงแม้ก็อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด แต่เขาได้รับการฝึกฝนจากตำราลับที่ผู้แข็งแกร่งจากตี้ชุนมอบให้ และเขาเองก็มีสายเลือดคลั่งอยู่ในตัว อีกทั้งยังฝึกจนได้พลังแห่งธาตุด้วย
ให้แม้นว่าจะไม่เจาะจงไปกระตุ้นเอาระบบพวกนี้ออกมา แค่เพียงระเบิดพลังแท้ ๆ ในระดับแดนตัวเองออกมาใช้ ก็แกร่งกล้ามากแล้ว อย่างน้อยก็อยู่ถึงกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นแล้ว
“เจ้า นี่เจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นนี่!”
ไป๋หลี่ฉางคงพูดเสียงสั่นออกมาในทันใด
พอได้ยินที่เขาพูดออกมา ผู้แข็งแกร่งในสมาพันธ์บูโดต่างก็จึงได้เข้าใจ หยางเฉินนี้เก่งกาจมาถึงเพียงนี้ มองดูอายุยังไม่ได้ถึงสามสิบ พลังฝีมือก้าวเข้าไปถึงกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นแล้วหรือนี่?
หยางเฉินแค่นหัวเราะเสียงหนาวเยือก “ข้าก็เหมือนกับเจ้านี่แหละ ต่างก็อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดนี่แหละ แต่ ข้ากลับเป็นอยู่ที่ว่าเก็บฆ่าเจ้าได้!”
ไป๋หลี่ฉางคงรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัวเสียดลึกเข้าไปในกระดูก เขาไม่มีอะไรจะต้องสงสัยเลย จากอานุภาพพลังที่ปล่อยออกมาจากตัวของหยางเฉิน เขาก็รู้ได้เลยว่าช่วงห่างของสองคนไกลกันมากขนาดไหน
มาถึงวินาทีนี้ เขาถึงได้รู้จริงขึ้นมาอย่างฉับพลัน มิน่าผู้ที่มีพลังฝีมือแดนกึ่งเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นอย่างอาโอกิ ยามาโตะ ตอนที่ถูกหยางเฉินตัดหน้าชิงเอายาเม็ดเลือดเดือดไป ไม่เพียงไม่ได้คิดชิงคืนจากหยางเฉิน แต่ยังกลับรีบจากออกไปเฉย
ที่แท้ อาโอกิ ยามาโตะไม่ใช่ว่าถูกพลังฝูงคนกลุ่มสมาพันธ์บูโดกดดัน แต่เป็นเพราะหวั่นหวาดในตัวหยางเฉิน จึงได้ทิ้งไม่เอายาเม็ดเลือดเดือดรีบถอยจากออกไป
ตอนที่เขาประมือกับอาโอกิ ยามาโตะ แม้เพียงกระบวนท่าเดียวยังรับไม่ได้ ส่วนหยางเฉินคนนี้ ผู้แข็งแกร่งขนาดอาโอกิ ยามาโตะยังกลัว ถ้าหากหยางเฉินจะลงมือฆ่า เขาจะยังมีทางรอดชีวิตหรือ?
คิดมาถึงตอนนี้ ไป๋หลี่ฉางคงไม่มีอะไรต้องให้คิดลังเลแล้ว ส่งแรงลงไปที่ขา พาร่างทั้งตัวถอยหนีไปอย่างเฉียบพลัน
บรรดาเหล่าผู้แข็งแกร่ง ทุกคนต่างตะลึงงง นี่มันอะไรกัน ไป๋หลี่ฉางคงจะหนีเลยหรือ?
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะตั้งสติได้จากที่เห็นไป๋หลี่ฉางคงกระโดดหนี ก็ได้เห็นหยางเฉินเหลือแต่เงา แทบจะช่วงกะพริบตา ก็ตามถึงตัวไป๋หลี่ฉางคง
“ท่านหยางโปรดไว้ชีวิตด้วย!”
ไป๋หลี่ฉางคงยังอยู่ในขณะวิ่งหนี หัวยังไม่ได้หัน ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายฆ่าที่น่าสยดสยองบล็อกตัวเขาไว้แล้ว ตกใจกลัวสุดขั้ว ร้องขอชีวิตเสียงลั่น
“ปึง!”
เสียงพูดของเขาเพิ่งขาด หยางเฉินก็ปรากฏขึ้นข้างหลัง ขาข้างหนึ่งถีบเข้าตรงกลางหลังของเขา เสียงการกระทบกันดังขึ้น พร้อมกับความสะท้านใจของทุกคนที่เห็น ร่างของไป๋หลี่ฉางคงลอยละลิ่วออกไป
จนกว่าร่างของเขากลับลงไปอยู่กับพื้นอีกครั้ง เลือดสด ๆ ทะลักออกจากปากไป๋หลี่ฉางคง ตัวร่างชักกระตุกได้ไม่กี่ที แล้วก็หยุดนิ่ง ตาทั้งคู่ยังเหลือกค้างอย่างหวาดกลัวแฝงด้วยความเสียใจต้องตายไปอย่างตาไม่หลับ
เงียบสนิท!
ห้องโถงงานเลี้ยงอันใหญ่โต เงียบเป็นตาย!
คนที่อยู่ทั้งหมดเงียบนิ่งเป็นจักจั่นโดนหนาว หายใจยังไม่กล้าออกเสียง สายตาแต่ละคนมองไปที่หยางเฉิน ลูกตาแต่ละคนเหม่องงอย่างไม่อยากเชื่อ
หนึ่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด ถูกหยางเฉินฆ่าทิ้ง
ในโลกนี้ มีบูโดอัจฉริยะระดับพระกาฬขนาดนี้จริงหรือ?
ติงเหวินจัวผู้ซึ่งมาจากหนึ่งในห้าตระกูลตอนเหนือ งงทื่อเต็มหน้า ด้วยความตกใจกลัว ยืนสั่นไปทั้งตัวไม่ได้หยุด
คิดถึงตัวเองที่ถูกหยางเฉินหักข้อมือ เทียบดูกับไป๋หลี่ฉางคง เขานี่เรียกว่าโชคดีมากเกิน
แต่ว่า เมื่อกี้นี้ที่เขาจะแสดงความภักดีกับไป๋หลี่ฉางคง ส่งเสียงเชียร์ให้หักแขนขาหยางเฉินทิ้ง ด้วยสาเหตุนี้ หยางเฉินจะฆ่าเขาไหมนี่?
“ข้าติงเหวินจัวขอนำเสนอ ตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดไม่จำเป็นต้องผ่านการประชุมค่อยแต่งตั้งแล้ว ทั้งนี้พวกเราพร้อมใจกันยกให้คุณหยางรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดสมัยที่หนึ่งนี้เลย!”
ติงเหวินจัวก็เอ่ยปากขึ้นมาในพลัน พูดจบ ก็รีบมองไปที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “ขอให้คุณหยางได้โปรด กรุณาตอบรับเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโดสมัยที่หนึ่งนี้ด้วย!”
ได้ยินที่ติงเหวินจัวพูด เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งในสมาพันธ์บูโด ต่างคนก็ถึงได้ดึงสติกลับมา แต่ละคนมองไปที่ติงเหวินจัว ต่างก็มีสีหน้าเหยียดหยาม
“ขอให้คุณหยางรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด!”
ตู้จ้งยืนชะงักอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้เอ่ยปากพูด
“ขอให้คุณหยางรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดด้วย!”
“ขอให้คุณหยางรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดด้วย!”
……
ในช่วงเวลานั้น ห้องโถงจัดเลี้ยงที่ใหญ่โต เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสมาพันธ์บูโด ต่างก็พากันออกเสียงกันอย่างดัง สีหน้าของแต่ละคน เต็มไปด้วยความตื่นใจ
มีผู้แข็งแกร่งระดับหยางเฉินมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด อนาคตของสมาพันธ์บูโดเจริญก้าวหน้าไม่มีที่สิ้นสุด ที่สำคัญคือ การเข้าสู้ศึกกับพวกผู้แข็งแกร่งประเทศซันในวันพรุ่งนี้ พวกเขามีความมั่นใจเต็ม