The king of War - บทที่ 1824 ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย
บทที่ 1824 ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย
ตู้จ้งถึงตอนนี้ยืนยันได้แล้วว่า ก่อนหน้านี้ที่ประมือกับไป๋หลี่ฉางคง ก็คือหยางเฉินนี่แหละที่แอบช่วยเขาอยู่ ทำให้เขาชนะไป๋หลี่ฉางคง อย่างง่ายดาย
จริงอยู่ เขาก็มีความคิดจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด แต่เมื่อได้เห็นถึงความเก่งกาจของหยางเฉินแล้ว ความคิดเรื่องอยากเป็นหัวหน้านั้นหมดสนิท
ตอนนี้ เขาจริงใจเต็มที่ในการอยากให้หยางเฉินมารับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด
ติงเหวินจัวพูดด้วยเสียงอันดัง “คุณหยาง ในกลุ่มพวกเราทุกคนนี้ นอกจากคุณ ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโดได้ ท่านก็ได้โปรดรับปากพวกเราเถอะ!”
หลาย ๆ คนที่เห็นพฤติกรรมของติงเหวินจัวแล้ว รู้สึกเสียความรู้สึกอย่างออกนอกหน้า
ก่อนหน้านี้ ติงเหวินจัวพูดก็เอาแต่อิงไป๋หลี่ฉางคง วางกล้ามทำโอหังอย่างมาก อีกทั้งยังยุให้ไป๋หลี่ฉางคงหักแขนขาหยางเฉินทิ้ง ให้หยางเฉินอยู่กับความรู้สึกอยู่ไม่สู้ตายดีกว่า
หยางเฉินกวาดตามองไปที่ทุกคน พูดขึ้นมาในทันใดนั้นว่า “ข้ารู้สึกขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้เกียรติแก่ข้าเป็นอย่างมาก แต่ว่า การที่จะให้ข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดนั้น ไม่เหมาะสม”
พอพูดออกไปแบบนี้ ทั้งบริเวณส่งเสียงกันฮือฮา!
“คุณหยาง ตัวท่านเองก็เป็นถึงคิงแห่งเยี่ยนตู พลังฝีมือก็สูงส่ง ตำแหน่งหัวหน้านี้ ถ้าท่านว่าท่านไม่เหมาะสม แล้วจะมีใครเหมาะสมได้อีก?”
“ใช่เลย หลังจากเห็นความเก่งกาจของท่านแล้ว ในกลุ่มพวกเรานี้ ยังมีใครกล้าบอกว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอที่จะมารับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดอีก?”
“คุณหยาง ท่านกรุณาอย่าได้บ่ายเบี่ยงเลย ให้ท่านดำรงในตำแหน่งนี้ พวกเรายอมรับกันทุกคน!”
……
ฝูงคนต่างเอ่ยปากออกเสียงขอร้องกันระงม
หยางเฉินกลับส่ายหน้า เอ่ยปากพูดว่า “ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่ให้เกียรติ!แต่จริง ๆ แล้ว ตำแหน่งหัวหน้านี้ ข้าไม่เหมาะสมแน่ ข้าอยากจะนำเสนอนะ ให้ คุณตู้มารับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด”
ตู้จ้งนี้เมื่อตัดไป๋หลี่ฉางคงออกไป ก็คือผู้ที่มีพลังฝีมือที่สูงส่งที่สุด ระดับในวงการบูโดก็ไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดแล้ว จัดลำดับในโลกสามัญทั่วไปก็ถือได้ว่าสุดยอดของที่มีแล้ว
หยางเฉินเวลานี้มีภาระที่ต้องทำก็มาก ไม่มีอารมณ์พอที่จะมาเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโดได้ เพราะถ้าจะเป็นจริง ๆ เขาก็จะต้องมีความรับผิดชอบให้ได้กับภารกิจที่ต้องทำ
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่หยางเฉินต้องกังวลอีกประเด็นหนึ่ง คือตัวเขาในปัจจุบันได้กระทบกระทั่งคนจนกลายเป็นศัตรูขึ้นมามากมายการมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโด กลัวว่าจะพัวพันพาให้เดือดร้อนไปถึงสมาพันธ์บูโดด้วย
ตู้จ้งพอได้ยินหยางเฉินเสนอให้เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าแล้ว ใจสะดุ้งกลัวขึ้นมาในพลัน รีบพูดออกไปว่า “คุณหยาง อยู่ต่อหน้าท่าน ข้าก็เพียงมดปลวกตัวน้อย ๆ ข้าไม่มีทางจะรับตำแหน่งหัวหน้านี้ได้”
หยางเฉินก็พูดขึ้นว่า “ขอคุยอย่างไม่มีการปิดบัง ข้ายังมีภารกิจต้องทำอีกมากมาย ไม่พูดถึงว่าจะไม่มีเวลามาประจำอยู่กับสมาพันธ์บูโด เอาเพียงแค่เรื่องวันนี้ที่ฆ่าไป๋หลี่ฉางคง บ้านตระกูลไป๋หลี่ต้องไม่ปล่อยข้าเป็นแน่”
“ถ้าข้ารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโด พวกท่านคิดดู บ้านตระกูลไป๋หลี่จะปล่อยสมาพันธ์บูโดไปง่าย ๆ หรือ?”
“และจริง ๆ แล้ว คนที่ข้าไปกระทบกระทั่งไว้ ไม่ใช่มีแค่เพียงบ้านตระกูลไป๋หลี่ และยังมีศัตรูบางส่วน ที่ล้วนแต่เก่งกาจมาก การมารับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด มีแต่จะนำมาซึ่งเภทภัยให้กับสมาพันธ์บูโด”
หยางเฉินพูดชัดเจนด้วยความจริงใจ พอได้ฟังสิ่งที่เขาพูดแล้ว ทุกคนพากันขรึมเงียบ
แววตาตู้จ้งทอประกายจ้า เหมือนมีการตัดสินใจในทันที เอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหยาง ท่านพูดแบบนี้ จะเป็นการมองพี่น้องในสมาพันธ์บูโดไม่ขึ้นเลยมั้ย?”
“พลังฝีมือของผู้แข็งแกร่งในสมาพันธ์บูโดแม้จะมีไม่เท่าไหร่ แต่พวกเราก็ไม่ใช่ขนาดเศษสวะ ไป๋หลี่ฉางคงที่ต้องถูกฆ่า ก็เพราะหาเรื่องใส่ตัวเอง ถ้าหากข้ามีฝีมือพอ ข้าก็อยากจะฆ่าเขา”
“สมาพันธ์บูโดเพิ่งเริ่มตั้งขึ้นมา เป็นช่วงเวลาที่กำลังต้องการผู้แข็งแกร่งระดับพิเศษอย่างท่าน ถึงแม้วันจากหลังนี้สมาพันธ์บูโดจะถูกบ้านตระกูลไป๋หลี่จ้องเป็นเป้า พวกเราคนสมาพันธ์บูโดก็ไม่มีกลัว!”
สีหน้าตู้จ้งใช้พูดอย่างจริงจัง ไม่ใช่ท่าทีของการพูดแสแสร้ง
มีคำพูดของเขานี้เป็นบทนำ ทั่วทั้งบริเวณก็เกิดสภาวะคึกคักขึ้นมา ต่างคนต่างเอ่ยปากพูด
“คุณตู้พูดถูก พวกเราคนสมาพันธ์บูโดไม่ใช่เศษสวะ ไม่ใช่ว่าคิดอยากใหญ่ขึ้น แต่ยังกลัวที่จะต้องกระทบกระทั่งกับผู้แข็งแกร่งตระกูลบู๊โบราณ คุณหยาง พวกเราจะรู้จักแต่ท่านผู้เป็นหัวหน้าคนนี้เท่านั้น”
“ใช่ พี่น้องสมาพันธ์บูโดทั้งหลายนี้ ไม่มีที่เป็นเศษสวะแม้แต่คนเดียว พวกเราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น คุณหยางวางใจได้ ต่อให้หลังจากนี้ศัตรูคู่แค้นของท่านจะจ้องมาที่สมาพันธ์บูโด พวกเราก็ไม่กลัว และก็ไม่มีคำว่าเสียใจ”
“คุณหยาง ขอท่านได้โปรดรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดนี้ด้วย!”
“คุณหยาง ขอท่านได้โปรดรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโดนี้ด้วย!”
……
ในช่วงเวลานั้น เหล่าคนทั้งหลายต่างเอ่ยปากพูด แต่ละคนมีแต่ความตื่นเต้นเต็มสีหน้า ไม่มีใครมีวี่แววหวั่นไหว
หยางเฉินก็ให้รู้สึกประทับใจขึ้นมาในทันที จิตใจให้รู้สึกอบอุ่น
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานี้เขายังกังวลว่าตัวเองจะไปเป็นภาระถ่วงให้กับสมาพันธ์บูโด แต่คิดไม่ถึงว่า พี่น้องทุกคนในสมาพันธ์บูโดไม่มีใครเลยที่จะไปกังวลในเรื่องว่าตัวเขานี้ จะเป็นตัวนำเอาภัยพิบัติมาให้สมาพันธ์บูโด
“ได้เลย!”
หยางเฉินพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ทุกท่านก็ได้พูดเรื่องทั้งหมดมากันขนาดนี้แล้ว ถ้าข้ายังจะบ่ายเบี่ยง ก็จะเป็นการไม่รู้กาละเทศะแล้ว”
“ข้าหยางเฉิน ยินดีรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด ตั้งแต่นี้จะเดินคู่เคียงกับพี่น้องสมาพันธ์บูโดด้วยกัน”
ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ทุกคนต่างมีสีหน้าตื้นตัน
“ท่านหัวหน้า!”
“ท่านหัวหน้า!”
……
ภายในโถงจัดเลี้ยงที่ใหญ่โต คนที่อยู่ทั้งหมดโห่ร้องกันด้วยเสียงอันดัง อารมณ์อยู่ที่ความฮึกเหิม
ภายในกลุ่มคน มีติงเหวินจัวที่สีหน้าดูไม่จืด ถึงแม้เขาจะเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาพูด ในเรื่องขอให้หยางเฉินรับตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์บูโด แต่เขากลับยังกังวลอยู่ว่าหยางเฉินจะมาคิดบัญชีกับเขา ก็เพราะจะเอาใจหยางเฉิน จึงได้ทำเป็นออกหน้าเสนอให้หยางเฉินรับตำแหน่งในสมาพันธ์บูโด
นอกจากนี้แล้ว เขายังมีนัยส่วนตัวแอบแฝงอยู่
เขารู้ดีว่า ทั่วทั้งภายในบริเวณนี้มีผู้แข็งแกร่งมากหลาย ล้วนแต่คิดหวังเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโด หากแม้นเขาเสนอให้หยางเฉินมารับตำแหน่งนี้ แน่นอนว่าต้องมีคนคัดค้าน แต่ทุกอย่างทำให้เขาต้องผิดหวัง ขนาดแม้แต่ตู้จ้ง ก็ยังไม่มีความคิดที่จะแย่งตำแหน่งหัวหน้านี้กับหยางเฉินเลย
ตอนนี้ หยางเฉินตอบรับเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโดแล้ว เขาจะทำยังไงต่อไป?
และมาในเวลานี้เอง จู่ ๆ ตู้จ้งก็หันมองมาที่ติงเหวินจัว แล้วก็มองกลับไปที่หยางเฉินพูดว่า “ท่านหัวหน้า ข้าขอเสนอว่า สั่งการให้ไล่เจ้าติงเหวินจัวออกจากสมาพันธ์บูโด!”
“มันเป็นคนในห้าตระกูลตอนเหนือ เบื้องหลังของตระกูลติง ก็คือบ้านตระกูลไป๋หลี่ ถ้าขืนปล่อยให้มันอยู่ในสมาพันธ์บูโดต่อไป รังแต่จะกลายเป็นระเบิดเวลาที่วางไว้ในสมาพันธ์บูโด จะพามหันตภัยสู่สมาพันธ์บูโดได้ทุกเวลา”
เสียงพูดตู้จ้งเพิ่งจบ ทันทีก็มีคนพูดขึ้นมา “ใช่เลย คนตระกูลติง จะต้องให้ไสหัวออกไปจากสมาพันธ์บูโด!ไอ้บัดซบติงเหวินจัว ข้าหมั่นไส้มันมานานแล้ว อาศัยมีพวกตระกูลบู๊โบราณเป็นแบ๊คให้อยู่ เลยทำซ่าไปทั่ว อย่าว่าแต่แค่ไล่มันออกจากสมาพันธ์บูโดเลย ถึงจะให้ฆ่ามันทิ้ง ก็สมควรอยู่”
“ติงเหวินจัว ไสหัวออกไปจากสมาพันธ์บูโด!”
“ติงเหวินจัว ไสหัวออกไปจากสมาพันธ์บูโด!”
ในชั่วเวลานั้นเอง ติงเหวินจัวกลายเป็นเป้ารับความโกรธของทุกคน ฝูงคนต่างระดมด่าทอต่อว่าด้วยความโกรธแค้น
ติงเหวินจัวตื่นลนลานขึ้นมาทันที เกิดเสียงดัง “ผลุบ” คุกเข่าลงแทบเท้าหยางเฉิน พูดด้วยสีหน้าตื่นกลัว “ท่านหัวหน้า ท่านได้โปรดอย่าโกรธเลย!ข้าก็ถูกบ้านตระกูลไป๋หลี่บีบบังคับ ทุกอย่างที่ทำไปไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย!”
“ขอท่านหัวหน้าได้โปรดให้ข้าอยู่ในสมาพันธ์บูโดด้วยเถอะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างเด็ดขาด!”
หยางเฉินหยีตาทั้งคู่ลงเล็กน้อย จ้องไปที่ติงเหวินจัวพูดว่า “แกคิดอยากอยู่ในสมาพันธ์บูโดเลยหรือ?”
สมาพันธ์บูโดผงกหัวหงึก ๆ “คิดครับ!”
หยางเฉินพูดว่า “ได้ ในเมื่อแกอยากอยู่ในสมาพันธ์บูโด งั้นข้าก็จะให้โอกาสแก”
พอพูดคำนี้ออกไป ติงเหวินจัวให้รู้สึกตื้นตันสุด ๆ รีบพูดออกมาว่า“ขอบคุณท่านหัวหน้า!ขอบคุณท่านหัวหน้า!”
หยางเฉินยิ้มยียวนพูดไปว่า “แกอย่าเพิ่งรีบขอบใจข้า ฟังให้รู้เรื่องโอกาสที่ข้าให้แกก่อน แล้วค่อยตัดสินใจที่จะขอบใจข้า”
ติงเหวินจัวเริ่มรู้สึกเห็นลางไม่ดีขึ้นมาในฉับพลัน แต่ก็ยังพูดไปว่า “ท่านหัวหน้า ท่านว่ามา!”