The king of War - บทที่ 1865 หยางเฉินไม่อยู่
หวยหลันผงกหัว แล้วมองไปที่เฝิงเจียหยีพูดว่า “เจียหยี ตัวเจ้าเองก็เป็นนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ ในเยี่ยนตูก็อยู่ในระดับยอดฝีมือบูโด เจ้าก็ต้องจัดเตรียมให้อยู่ในสภาพพร้อมรบทุกเวลา ข้ามีความห่วงว่าหลังจากรับพี่ใหญ่หยางกลับมาถึงแล้ว จะมีคู่แค้นของพื่ใหญ่หยางตามหามาถึงที่นี่”
เวลานี้ หวยหลันได้ใช้ความเป็นผู้นำของหล่อนออกมาเต็มที่ จัดการวางทุกเรื่องงานอย่างมีแบบแผน
อ้ายหลินก็รีบถามว่า “แล้วฉันหละ?”
หวยหลันยิ้มเล็กน้อย “พี่อ้าย พี่ดูแลเสี่ยวจิ้งอันให้ดี ก็เป็นการช่วยพวกเราทุกคนอย่างมากแล้ว”
เยี่ยนตู สำนักงานกลางสมาพันธ์บูโด
ที่นี่เป็นสำนักงานที่สมาพันธ์บูโดจัดตั้งไว้ หลังจากตู้จ้งจากไป ก็มอบงานทั้งหมดไว้ให้นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นกลางนายหนึ่ง มีชื่อว่าหนิงเทียนเหอ
ในห้องประชุมสำนักงานกลางสมาพันธ์บูโด หนิงเทียนเหอนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดหลายนาย นั่งอยู่สองข้าง
“ท่านรองหนิง พวกเราจำเป็นจริงหรือที่ต้องเฝ้าปกป้องหยางเฉิน และต้องเตรียมรองรับผลที่รับกันไม่ไหวด้วยหรือ?”
นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดนายหนึ่ง มองไปที่หนิงเทียนเหอแล้วถามไป
นักบูโดคนอื่น ๆ ต่างก็หันมองไปที่หนิงเทียนเหอ ท่าทีบ่งบอกถึงความข้องใจ
หนิงเทียนเหอกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ พูดเสียงลุ่มลึก “ทุกท่าน พวกท่านอย่าลืมนะ ใครกันที่เสี่ยงตายเข้าต่อสู้ จึงได้รักษาเกียรติภูมิของนักบูโดจิ่วโจวของพวกเราไว้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหยาง ทุกท่านยังจะมีโอกาสมานั่งกันอยู่ที่นี่ได้หรือ?”
นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดคนเมื่อกี้นี้ พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านรองหนิง ข้าเป็นคนพูดตรง ท่านก็อย่าได้โกรธ ข้าคิดว่า เรื่องที่นักบูโดประเทศซันมาท้าประลองยุทธนี้ เป็นเรื่องของนักบูโดจิ่วโจวทั้งหมด หยางเฉินก็เป็นหนึ่งในส่วนนักบูโดจิ่วโจว เขาย่อมต้องมีภาระในการปกป้องเกียรติภูมิของนักบูโดจิ่วโจวโดยหน้าที่อยู่แล้ว”
“แน่นอน ข้าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หยางเฉินนั้นเลอเลิศ เขาได้ทำการปกป้องเกียรติภูมิของนักบูโดจิ่วโจวไว้ได้ แต่ทว่า ในครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บมาสาหัสมาก ถึงแม้รักษาฟื้นขึ้นมาได้ เขาก็คงเป็นคนพิการ”
“กับการที่ให้ช่วยจนฟื้นมา แต่กลายเป็นคนพิการ ไม่สู้เราปล่อยวางทิ้งเรื่องการรักษา ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามชะตาลิขิต สำหรับนักบูโด หากแม้นต้องกลายเป็นคนพิการ จะต้องเป็นเรื่องที่เจ็บปวดไม่สู้ตายเสียดีกว่า ฉะนั้นการปล่อยละทิ้งการรักษา ก็เป็นการทำในสิ่งที่หวังดีเพื่อเขา”
“ท่านตู้จะไปเสาะหายาเม็ดคืนวิญญาณ ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทุ่มเทไปเป็นมูลค่าอีกเท่าไหร่ ข้าคิดว่า การช่วยให้หยางเฉินฟื้นมานั้น ด้วยการต้องทุ่มทุนมากมายขนาดนั้น เป็นเรื่องไม่คุ้มกันเลย”
ได้ยินคำพูดของเขา หนิงเทียนเหอสีหน้าเครียดลงไปในทันที
ตามติดมา อีกหนึ่งนักบูโด แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น เอ่ยปากพูดว่า “ท่านรองหนิง ข้าก็คิดว่า การทุ่มทุนมหาศาลเพื่อช่วยหยางเฉินนี้ ไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย”
“เขาเวลานี้กลายเป็นสภาพแบบนี้ไปแล้ว ถึงฟื้นขึ้นมาได้ แล้วเป็นยังไง?ก็เพียงคนพิการคนหนึ่งไม่ใช่หรือ?ข้าคิดว่า ถ้าหยางเฉินรู้ว่า หากเขาถูกช่วยให้ฟื้นขึ้นมาเป็นคนพิการ เชื่อว่าเขาก็จะไม่ยอมให้ช่วยเขาเป็นแน่มัง?”
“อย่าเพิ่งไปพูดถึงยาเม็ดคืนวิญญาณ ที่ท่านตู้ไปเสาะหา จะต้องทุ่มทุนมหาศาลขนาดไหน เอาเป็นว่าพลังฝีมือที่หยางเฉินสำแดงออกมาในครั้งนี้ก็ต้องถูกพวกนักบูโดประเทศซันมองเห็นเป็นหอกข้างแคร่อยู่แล้ว ไม่แน่ว่า ป่านนี้ประเทศซันคงจัดส่งนักบูโดชั้นสุดยอดฝีมือมาตามฆ่าหยางเฉินแล้ว”
“สมาพันธ์บูโดของพวกเราเพิ่งตั้งขึ้นมา เป็นที่แน่ชัดอยู่ว่าไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของนักบูโดระดับสุดยอดของประเทศซันได้เป็นแน่ ข้าคิดว่า การเอาหยางเฉินมาไว้ที่นี่ ก็เท่ากับเอาระเบิดเวลามาวางไว้”
แน่นอนว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่คนคัดค้านไปทั้งหมด ก็ยังมีฝ่ายต้องการปกป้องหยางเฉินอยู่
“ปัง!”
ผู้เฒ่าไว้เคราแพะท่านหนึ่ง ตบโต๊ะลุกยืนขึ้นมา พูดด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธว่า “พวกแกยังมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่มั่งไหม?การท้าประลองยุทธของพวกนักบูโดประเทศซันในครั้งนี้ พวกแกยังคิดเป็นจริงอยู่หรือ ว่าพวกมันเพียงแค่คิดจะประลองกับพวกเราเท่านั้น?”
“เป้าหมายแท้จริงของพวกมัน คือจิ่วโจวทั้งหมด พวกมันต้องการใช้โอกาสท้าประลองในครั้งนี้ มาอวดศักดาของพวกมัน แล้วชักนำนักบูโดจิ่วโจวเข้าร่วมอยู่กับพวกมัน ให้แผนร้ายของพวกมันได้บรรลุ อนาคตของจิ่วโจวก็ไม่มีใครจะช่วยอะไรได้อีก”
“คุณหยางไม่ลังเลคิดถึงเรื่องอื่นใด เข้าสู้ศึกอย่างไม่คิดชีวิต ลุยข้ามถิ่นฆ่าทิคาโนะ ทาเคชิ เขาคือความภาคภูมิใจของพวกเราชาวนักบูโดจิ่วโจว!พวกเราทำกันได้หรือที่พอต้องการใช้เขา ก็ยินดีรับเขาเข้ามาอยู่กับสมาพันธ์ยูโด แถมยกตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์ยูโดให้เขา แล้วทำไมตอนเวลาที่เขาต้องการพวกเรา พวกเรากลับจะทิ้งเขาไป?”
“ถ้าหากพวกเราจะทิ้งคุณหยางกันจริง ถ้าอย่างนั้นหลักการเบื้องต้นในการตั้งสมาพันธ์บูโด ก็ไม่มีคุณค่าในความหมายใด ๆ เลย”
นักบูโดสองนายที่คัดค้านการให้หยางเฉินอยู่ในสมาพันธ์บูโด ขรึมเงียบลงไปในทันที พวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่พอใจหยางเฉิน เพียงแต่ว่าถ้าให้ยืนในมุมมองของสมาพันธ์บูโด มีแต่ต้องปล่อยละหยางเฉินไป จึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่หากว่ายืนอยู่ในมุมมองของคุณธรรม ก็คือต้องให้หยางเฉินคงอยู่
หนิงเทียนเหอพูดขึ้นมาในเวลานั้น “สามวันก่อน ตอนที่พวกเรากำลังประลองยุทธกับพวกนักบูโดประเทศซัน ผู้เฒ่าตู้ก็บอกไว้แล้ว ใครผู้ใดทำคุณประโยชน์ได้มากที่สุด ใครผู้นั้นก็คือหัวหน้าสมาพันธ์บูโด อีกโดยเฉพาะก่อนที่ผู้เฒ่าตู้จะออกไป ได้กำชับเป็นพิเศษกับพวกเราแล้ว ต้องปกป้องคุณหยางให้ดี”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเราก็จะต้องปกป้องคุณหยางให้ดี ในช่วงก่อนที่ผู้เฒ่าจะกลับมา พวกเราจะต้องเพิ่มความระวังภัยให้มาก เพื่อป้องกันศัตรูตัวร้ายที่จะแอบเข้ามา ก่อเรื่องทำร้ายคุณหยาง”
“เอาละ การประชุมเป็นที่สิ้นสุด เลิกการประชุมได้!”
สองนักบูโดที่เสนอจะให้ปล่อยละหยางเฉินทิ้งเมื่อก่อนหน้านี้ ก็ไม่พูดถึงเรื่องจะให้ทิ้งหยางเฉินอีก
หลังจากทุกคนแยกย้ายกันออกไปแล้ว ในห้องประชุม คงเหลือหนิงเทียนเหออยู่คนเดียว ด้วยความกังวลที่เต็มบนใบหน้าของเขา ลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่าง มองทอดสายตาออกไปข้างนอกหน้าต่าง พูดอย่างกังวลว่า “ท่านตู้ ท่านต้องรีบกลับมาให้ได้นะ! ข้ากลัวว่าท่านจะกลับมาสายเกินไป จะเกิดเรื่องใหญ่เสียก่อน!”
ย้อนคิดไปเรื่องเมื่อตะกี้ แม้จะมีคนเสนอให้ทิ้งหยางเฉิน หนิงเทียนเหอถึงแม้คัดค้านไปอย่างหนักแน่น แต่ตัวเขาเองก็รู้ดี หยางเฉินตอนนี้ก็คือเผือกร้อนในมือ
หยางเฉินฆ่า ทิคาโนะ ทาเคชิตาย จะต้องไปทำให้สายตระกูลบูโดประเทศซันโกรธแน่นอน โดยเฉพาะตระกูลคามิชิโร ตระกูลอาโอคิกับตระกูลโยชิดะสามสายตระกูลบูโดนี้ เพราะสมาคมบูโดประเทศซัน เป็นการก่อตั้งโดยการร่วมมือกันของสามตระกูลสายบูโดนี้
และทิคาโนะ ทาเคชิก็คือสามสายตระกูลนี้ ร่วมกันเลือกขึ้นมาเอง
ตอนนี้ ทิคาโนะ ทาเคชิต้องตายไป การคิดจะหาคนมาเป็นนายกสมาคมบูโดประเทศซันโดยที่ไม่มีส่วนผูกพันธ์กับทั้งสามสายตระกูล น่ากลัวจะยาก
หยางเฉินฆ่าทิคาโนะ ทาเคชิตาย สามสายตระกูลบูโดประเทศซันนี้ มีหรือจะปล่อยหยางเฉินไปง่าย ๆ?
หลังจากหยางเฉินรับบาดเจ็บไปในเวลานี้ สลบหมดสติไม่ยอมตื่น ส่วนท่านตู้ก็ออกไปหายาเม็ดคืนวิญญาณมาให้หยางเฉิน ถ้าหากประเทศซันส่งมือฆ่าเข้ามา อาศัยกองกำลังที่พลังฝีมือยังไม่ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าพวกนี้ จะต้านรับไหวหรือ?
และในขณะนั้นเอง คนของสมาพันธ์บูโดนายหนึ่งเข้ามาในห้องประชุมอย่างเร่งรีบ
คนรับใช้คนนั้นพูดอย่างเร่งรีบว่า “ท่านรอง ข้างนอกมีนักบูโดสามนาย แนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนคุณหยาง จะมาขอพบคุณหยาง”
หนิงเทียนเหอขมวดคิ้วย่น นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง พูดว่า “บอกพวกเขาไป คุณหยางไม่ได้อยู่ที่สมาพันธ์บูโด”
“ขอรับ!”
คนรับใช้กำลังจะออกไป
หนิงเทียนเหอรีบเรียกให้หยุด เอ่ยปากพูดว่า “ก่อนที่ท่านตู้จะกลับมา ไม่ว่าใครจะมาขอพบคุณหยาง ให้บอกไปว่าคุณหยางไม่ได้อยู่ที่สมาพันธ์บูโด”
ช่วงเวลาสำคัญในขณะปัจจุบัน หนิงเทียนเหอไม่กล้าให้ใครรู้ข่าวหยางเฉินได้ คนรู้ยิ่งมาก หยางเฉินก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น