The king of War - บทที่ 1896 แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ
หลังจากหยางเฉินก้าวเข้าไปในสำนักบู๊ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ลึก ๆ ก็คอยสัมผัสดูพลังฝีมือผู้แข็งแกร่งในสำนักบู๊ ทำให้พบกับความน่าสะทกสะท้านมาก ที่นี่ ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์มีให้เห็นได้ทั่วไป
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้แข็งแกร่งหลายนายที่มีพลังบางกระแสที่น่าสะพรึงกลัวมาก แม้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถบ่งบอกถึงพลังฝีมือที่แท้จริงนั้นได้
“ท่านเจ้าสำนัก คุณหยางมาถึงแล้ว!”
ในไม่ช้านั้น ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นที่นำพาหยางเฉิน ก็ได้พาหยางเฉินมาถึงอาคารรูปแบบโบราณนั้น ยืนรายงานเข้าไปจากหน้าประตู
ภายในห้องแว่วเสียงคนวัยชราดังออกมา “เชิญคุณหยางเข้ามาสิ!”
“คุณหยาง เชิญ!”
ผู้นำพา ค่อย ๆ ผลักประตูห้องเปิดออก ผายมือในท่าเชื้อเชิญหยางเฉินอย่างนอบน้อม
รอจนหยางเฉินก้าวเข้าในห้องไปเรียบร้อยแล้ว ผู้นำพาจึงค่อย ๆ ปิดประตูอย่างเรียบร้อย แล้วค่อยเดินกลับออกไป
ภายในห้อง มีตู้ป๋อนั่งอยู่กับเก้าอี้หวาย ข้างตัวของเขา ยังมีชายวัยกลางคนอายุในราวห้าสิบบวกลบยืนอยู่อีกคน
ตั้งแต่นาทีแรกที่หยางเฉินก้าวเข้ามาในห้อง ตู้ป๋อกับตู้หมิงเหวี่ยนก็จ้องอยู่ที่หยางเฉิน แววตาของตู้หมิงเหวี่ยนยังดูออกท่าทีเย่อหยิ่งอยู่ การที่มีตู้จ้งให้ความสำคัญกับหยางเฉินมาก เขามีความรู้สึกยอมรับไม่ได้
คิดอยู่ถ้ามีโอกาส เขาใคร่จะต่อสู้กับหยางเฉินสักตั้ง ให้เห็นแพ้ชนะกัน
หยางเฉินมองไปที่ตู้ป๋อ ถามด้วยสีหน้าสงบเรียบ “แล้วตู้จ้งหละ?”
จากที่สัมผัสได้ในตัวของตู้ป๋อ หยางเฉินได้รับถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งมาก ความกดดันที่แข็งแกร่งอย่างมากนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่หยางเฉินเคยรับมาจากเจ้าเมืองหวยเฉิงไม่ใช่น้อย
เจ้าเมืองหวยเฉิงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่พลังกดดันที่แผ่กระจายออกมาจากผู้เฒ่าที่เผชิญหน้าด้วยอยู่นี้ จะหนักหน่วงยิ่งกว่าที่ได้รับจากเจ้าเมืองหวยเฉิงอีก นี่ก็พูดได้ว่า พลังฝีมือของผู้เฒ่าที่อยู่ข้างหน้านี้ ยังเหนือขึ้นไปกว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงอีก
หยางเฉินรู้อยู่ สำนักบู๊ไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลนักบู๊โบราณ หรือพูดได้ว่า ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังฝีมือที่เก่งกาจที่สุดของสำนักบู๊ ระดับขั้นบูโดจะไปไม่ถึงแดนนภา ฉะนั้นพลังฝีมือของผู้เฒ่าที่อยู่ข้างหน้าท่านนี้ ดูแล้วสูงกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดขึ้นไปอีก ก็คือต้องบอกว่า ผู้เฒ่าท่านนี้อยู่ระดับขั้นระหว่างแดนนภาขั้นต้นกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย พูดง่าย ๆ คือ กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่ง
ส่วนชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างตัวผู้เฒ่านั้น เวลามองไปที่หยางเฉิง บนใบหน้า จะเห็นถึงความก้าวร้าวรุนแรง ในแดนบูโดมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดแบบนี้ด้วย
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่อายุน้อยขนาดนี้ หยางเฉินก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
ตู้ป๋อใช้สีหน้าที่ราบเรียบพูดไปว่า “วางใจเถอะ ตู้จ้งอยู่ที่สำนักบู๊นี่สุขสบายเป็นอย่างดี”
คิ้วของหยางเฉินย่นเข้าเล็กน้อย เขาทำไมรู้สึกเหมือนว่า การที่สำนักบู๊ควบคุมตัวตู้จ้งไว้ที่นี่ สาเหตุนั้นมาจากตัวเขา?
ตู้ป๋อพูดขึ้นมาในตอนนี้ว่า “เจ้ารู้ไหม เพราะตู้จ้งตั้งใจหายาเม็ดที่เรียกว่ายาคืนชีพให้เจ้า ถึงขนาดยอมทิ้งพลังฝีมือที่ฝึกมาทั้งชีวิต?”
“คุณพูดยังไงนะ?”
สีหน้าหยางเฉินเปลี่ยนไปในทันที พูดอย่างเกรี้ยวกราด “ตู้จ้งอยู่ที่ไหนกันแน่?พวกคุณไปทำอะไรกับเขา?”
เขาจู่ ๆ ก็เกิดสังหรณ์ใจในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมา หรือจะว่า พลังฝีมือที่ตู้จ้งฝึกมา ถูกทำลายไปหมดสิ้น?
ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาจะไม่ปล่อยสำนักบู๊นี้เด็ดขาด
“บังอาจ!”
ตู้หมิงเหวี่ยนตวาดขึ้นมาด้วยความโมโห พูดไปด้วยความโกรธว่า “อย่าลืมถึงผลสุดท้ายที่เจ้ามาที่สำนักบู๊นี่ ในที่นี้ พวกเราจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าก็มีชีวิตอยู่ได้ พวกเราจะให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย!”
“ถ้ากล้าดีมาพูดกับพ่อข้าอย่างไร้มารยาทอีก ก็อย่าหาว่าพวกเราไม่มีมารยาทกับแกแล้ว!”
นัยน์ตาของหยางเฉินฉายประกายฆ่าออกไปทั้งสองข้าง หยีตามองไปที่ตู้หมิงเหวี่ยน แล้วกลับมองไปที่ตู้ป๋อ พูดเสียงหนาวเยือก “แล้วจะเอายังไง คุณถึงจะปล่อยตัวตู้จ้ง?”
เขาถึงแม้ใจคิดอยากจะลงมือในทันที แต่ก็รู้จักการชั่งตวงวัดดี ตัวตู้ป๋อนั้นยังไม่ทันได้ปล่อยกระแสพลังบูโดของตัวเขาเองเลย ก็ยังทำให้เกิดกระแสกดดันอย่างรุนแรงต่อหยางเฉิน
ถ้ามีการปะทะกัน หยางเฉินในมือของตู้ป๋อ ไม่มีเรื่องที่จะชนะได้แม้แต่น้อย
อีกอย่าง เขาเพิ่งต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ถึงแม้ในระหว่างทางที่มาสำนักบู๊ ก็ได้มีการฝึกฝนจนฟื้นฟูได้ถึงกว่าครึ่ง แต่ก็ยังอยู่ในสภาพบาดเจ็บ
อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งเลย ถึงจะให้เป็นตู้หมิงเหวี่ยนที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด หยางเฉินก็ไม่มีทางจะสู้ได้
เวลานี้ เรื่องของตู้จ้งก็ยังไม่รู้ชัดเจน หยางเฉินก็ได้แต่ข่มไฟโกรธไว้
ในแววตาของตู้หมิงเหวี่ยนพลุ่งพล่านด้วยความอยากต่อสู้ จ้องอย่างเอาเป็นเอาตายที่หยางเฉินพูดไปว่า “มาสู้กับข้า ถ้าแกเอาชนะข้าได้ พวกเราก็จะให้แกได้พบกับตู้จ้ง”
ตู้ป๋อขมวดคิ้ว ตะคอกไปเสียงเบา ๆ “หมิงเหวี่ยน!”
ตู้หมิงเหวี่ยนรีบพูดไปว่า “คุณพ่อ โปรดให้โอกาสลูกสู้กับเขาดู!”
ตู้ป๋อมองดูสายตาที่รุ่มร้อนของตู้หมิงเหวี่ยน ที่สุดก็ผงกหัว มองไปที่หยางเฉิน ดีดนิ้วในมือออกไป ขวดหยกใบหนึ่งปลิวเข้าไปหาหยางเฉิน
หยางเฉินคว้ารับไว้ ตู้ป๋อเอ่ยปากพูดว่า “นี้เป็นยาเม็ดชั้นสุดยอดในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บอย่างเร่งด่วน ตัวเจ้าเดิมนั้นก็บาดเจ็บสาหัสมา กินยาเม็ดนี้เข้าไป ถึงแม้จะไม่ถึงขนาดฟื้นคืนสภาพจากการบาดเจ็บได้ แต่อย่างน้อยก็บรรเทาอาการเจ็บปวดได้อย่างมากทีเดียว”
หยางเฉินเข้าใจได้ทันที ฝ่ายตรงข้ามต้องการให้ตัวเขา อยู่ในสภาวะปกติ เพื่อต่อสู้กับตู้หมิงเหวี่ยน
นี่กลับเป็นเรื่องที่เหนือไปจากการคาดคิดของหยางเฉิน เขาก็เคยรู้อยู่ ที่ภูเขามาร ราคายาเม็ดมีค่าคู่เมือง ตู้ป๋อกลับโยนยาเม็ดมาให้เขาเฉย
หยางเฉินไม่มีอาการลังเล หยิบเอายาเม็ดออกมา โยนเข้าปากกลืนลงไป
ตู้ป๋อรู้สึกตื่นตะลึงเล็กน้อย เหมือนไม่เชื่อสายตา หยางเฉินจะชัดเจนขนาดนี้ กินยาเข้าไปเฉย
ตู้ป๋อหยีตามองไปที่หยางเฉินถามไปว่า “เจ้าไม่กลัวหรือว่า นี่เป็นยาพิษ?”
หยางเฉินแค่นเสียงหัวเราะ “ตัวข้าเข้ามาถึงสำนักบู๊แล้ว ถ้าพวกคุณจะฆ่าข้า ข้ายังจะมีโอกาสรอดชีวิตออกไปได้อีกหรือ?”
คำพูดเดียว ทำเอาตู้ป๋ออึ้งไปทันที ใจที่พึงใจในหยางเฉินพอใจเพิ่มขึ้นไปอีก
ตู้ป๋อไม่เก็บอมคำชื่นชมของตัวเอง ผงกหัวพูดว่า “ใจถึงดี!”
คำชื่นชมของตู้ป๋อ ยิ่งทำให้ตู้หมิงเหวี่ยนไม่สบอารมณ์ สีหน้าเต็มไปด้วยความกระเหี้ยนกะหือ สองตาจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายที่หยางเฉินแล้วพูดไปว่า “ไอ้หนู แกเตรียมตัวดีหรือยัง?ถ้ายังไม่ไหว ข้าก็จะให้เวลาแกอีกหน่อย รอให้แกขึ้นมาถึงขั้นยอดก่อน แล้วค่อยมาสู้กัน”
หยางเฉินมองหน้าตู้หมิงเหวี่ยนด้วยสายตาชืด ๆ “รับมือกับคุณ พลังที่มีของข้าในขณะนี้เกินพอ!”
“แกมันรนหาที่ตาย!”
ตู้หมิงเหวี่ยนโกรธระเบิดขึ้นมาในทันที กลั้นอารมณ์โกรธไว้แล้วพูดว่า “แกมันอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ข้าก็จะกักพลังของข้าให้อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ข้าอยากจะรู้นัก แกมันจะเก่งกาจไปสักแค่ไหน”
ตู้ป๋อก็ไม่ได้ห้ามปราม
หยางเฉินแค่นหัวเราะ “เดี๋ยวเจ้าจะเสียใจ!”
หลังจากได้กินยาเม็ดที่ตู้ป๋อให้มาแล้ว หยางเฉินให้รู้สึกได้เลยว่าการบาดเจ็บของตัวเองบรรเทาลงได้ดีมาก พูดได้ว่า หลังจากกินยาเม็ดนี้แล้ว ส่วนที่บาดเจ็บได้หายแวบไป
ให้ถึงแม้เขาจะไม่สามารถสำแดงพลังฝีมือได้ถึงเต็มร้อย อย่างน้อยก็ต้องได้สักร้อยเอาแปดสิบขึ้นไป
อย่างน้อยการปะทะกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย จะมีความมั่นใจชนะได้อยู่มาก
ตู้หมิงเหวี่ยนถึงขนาดบอกว่าจะบังคับพลังตัวเองให้อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง นั่นมันหาเรื่องเจ็บตัวให้ตัวเองเสียแล้ว
“หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ลงมือเถอะ!”
ตู้หมิงเหวี่ยนตวาดเสียงลั่น ตามด้วยเสียง “ปัง” ขอของเขาขยับ พลันก็พุ่งเข้าใส่หยางเฉิน
หยางเฉินรู้สึกได้เลยว่า ตู้หมิงเหวี่ยนคงใช้พลังที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางจริง ๆ
เขายังคงยืนอยู่กับที่ ดูไม่ใส่ใจกับการจู่โจมของฝ่ายตรงข้ามเอาเสียเลย
ตู้หมิงเหวี่ยนเห็นดังนั้น พลันไฟโกรธยิ่งลุกแรง พูดอย่างเกรี้ยวกราดไปว่า “แกมันรนหาที่ตาย!”
ตามมาหลังจากคำพูดจบลง เขาก็ระเบิดเอาพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางออกมาถล่มใส่ไปทั้งหมด พุ่งหมัดใส่ไปที่หยางเฉินอย่างสุดโหด