The king of War - บทที่ 1897 ไปถึงขั้นไหน
เพียงช่วงสะเก็ดตะบันไฟ หยางเฉินยื่นมือขวาออกไปในฉับพลัน ฟาดฝ่ามือไปข้างหน้า
“ปึง!”
ติดตามอย่างกระชั้นชิด เสียงทุ้มหนักของวัตถุกระแทกใส่กันดังขึ้น กำปั้นของตู้หมิงเหวี่ยน อัดเข้าใส่ฝ่ามือขวาของหยางเฉิน
กระแสพลังที่น่าสะพรึงกลัว แผ่กระจายออกไปรอบทิศ
ฝ่ายตู้ป๋อก็ยกมือวาดสะบัดออกไป พลังที่อ่อนนุ่มกระแสหนึ่งม้วนกระจายไปทั่วห้อง พลังที่ระเบิดออกมาจากกำปั้นปะทะฝ่ามือระหว่างหยางเฉินกับตู้หมิงเหวี่ยน ก็สลายหายมลายสิ้นในทันที เป็นการทำเพื่อให้สิ่งของเครื่องใช้ในห้องนั้นไม่เกิดการเสียหาย
ตู้หมิงเหวี่ยนตาลุกโต มองหยางเฉินด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ เขารู้อยู่ว่าระดับบูโดของหยางเฉินอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ฉะนั้นเขาจึงควบคุมพลังบูโดของตัวเองให้อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง
แต่ทว่า เขาทำยังไงก็คิดไม่ถึงว่า การถล่มใส่ไปอย่างเต็มกำลังของเขา กลับถูกหยางเฉินรับได้อย่างหน้าตาเฉย ถึงขนาดตัวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีเซถอยแม้สักครึ่งเซ็นต์
ต้องรู้ว่า ถึงแม้เขาจะคุมพลังบูโดให้อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง แต่ตัวเขาเองนั้นมีพื้นฐานแท้จริงที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ขั้นแดนบูโดควบคุมได้ แต่พละกำลังในตัวนั้นควบคุมไม่ได้
นักบูโดระดับสูง ย่อมจะมีพละกำลังที่กดดันนักบูโดที่ระดับต่ำกว่าได้ ว่ากันตามหลักแล้ว หยางเฉินถึงยังไงก็ไม่สามารถยืนนิ่งอยู่กับที่ รับการถล่มอย่างเต็มที่จากเขาได้
แต่หยางเฉินทำได้ให้เห็น ๆ
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าสงบเรียบ “คิดจะใช้พลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางในการเอาชนะข้า ยังห่างไกลมาก”
เสียงพูดจบลง กระแสพลังที่บ้าคลั่ง ทะลักออกมาจากฝ่ามือขวาของเขา
ตู้หมิงเหวี่ยนยังไม่ทันได้ตั้งสติกลับ ก็รู้สึกเกิดมีพลังที่หนักหน่วงกระแสหนึ่ง ทะลักออกมาจากฝ่ามือของหยางเฉิน กระแสพลังนั้นส่งผ่านเข้าจากกำปั้นของเขา มุ่งไปตามแขน จนกระทั่งเข้าไปทั่วทั้งตัว
“ปึง!”
เสียงทุ้มหนักของวัตถุกระแทกใส่กันดังขึ้น ตู้หมิงเหวี่ยนถูกพลังแรงนี้กระแทกเซไปเจ็ดแปดก้าว กว่าจะหยุดลงได้
ขณะนั้นเอง แววตาเหยียดประมาทคนของตู้หมิงเหวี่ยนหายไปสิ้น คงเหลือให้เห็นแต่ความหวาดผวา
ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนขณะนี้ หยางเฉินยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีขยับ แต่กลับเป็นฝ่ายตีโต้จนตู้หมิงเหวี่ยนเซถอย นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปไม่ได้เลย
ตู้ป๋อก็ยังสงสัยขึ้นเต็มหน้า เขารู้อยู่ว่าหยางเฉินเก่งกาจมาก แต่ก็รู้ดีถึงพลังฝีมือของลูกตัวเองว่าแข็งแกร่งขนาดไหน แต่แล้ว ตู้หมิงเหวี่ยน แพ้ด้วยฝีมือของหยางเฉินไปได้
หยางเฉินพูดเนือย ๆ ไปว่า “ยังจะต่ออีกมั้ย?”
ตู้หมิงเหวี่ยนบดกัดกรามแน่น สองตาจ้องหยางเฉินอย่างเอาเป็นเอาตายพูดไปว่า “ทำให้ข้าดูทุเรศได้ขนาดนี้ ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าเพราะข้าประมาทในตัวเจ้าเกินไป ถ้าข้าอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าจริง ข้าสู้แกไม่ได้เลยเด็ดขาด”
หยางเฉินก็รู้สึกประหลาดใจอยู่ ไม่คิดว่าชายวัยกลางคนที่หยิ่งยโสข้างหน้านี้ กลับพูดออกมาได้แบบนี้
“เอาละทีนี้ ข้าจะควบคุมพลังฝีมือข้าให้อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายมาสู้กับเจ้าสักตั้ง”
เสียงพูดตู้หมิงเหวี่ยนจบลง พลังบูโดในตัวเขาระเบิดขึ้นมาอีก ชั่วแวบเดียวนั้นก็ขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย
ตู้ป๋อก็ไม่ได้ห้ามปราม ยังคงนั่งอยู่กับเก้าอี้หวายอย่างสงบเงียบ เหมือนก็อยากชม ดูพลังฝีมือการต่อสู้ของหยางเฉิน ว่าจะเก่งกาจไปถึงขนาดไหน
สัมผัสถึงพลังฝีมือของตู้หมิงเหวี่ยนแล้ว หยางเฉินจริงจังขึ้นมา สายเลือดคลั่งได้ถูกกระตุ้นขึ้นมาในวงกว้างอย่างฉับพลัน สองตาของเขาถูกคลุมขึ้นมาด้วยม่านชั้นสีแดงเลือดในทันทีนั้น
ร่างกายของเขาก็บาดเจ็บสาหัสมาแต่เดิม เวลานี้ก็ฝืนระเบิดพลังของเขาออกมาได้สักร้อยละแปดสิบ
ถึงยังไงก็ตาม เขาก็ยังไม่เสกเอามีดโลหิตออกมา นี้เป็นไม้ตายของเขา ถ้าไม่ถึงขนาดขีดเป็นขีดตายกันแล้ว เขาจะไม่เอามีดโลหิตออกมาใช้ง่าย ๆ
การเล่นกับของอาถรรพ์ ทุกครั้งที่เอามาใช้ จะมีการทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างรุนแรง ถึงแม้เวลานี้มีดโลหิตถูกปลอกทองคำสลายพลังแว้งกัดลงไปในส่วนที่ใหญ่มากแล้ว แต่ในการที่หยางเฉินเอาออกมาใช้ หยางเฉินก็ยังคงต้องถูกอาถรรพ์แว้งกัด เพียงแต่พลังแว้งกัดได้ลดเบาลงจากแต่ก่อนมากแล้ว
ไม่ได้ใช้มีดโลหิต แต่หยางเฉินก็ได้กระตุ้นเอาพลังปกป้องขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ
พลังปกป้องก็เหมือนเป็นเกราะป้องกันตัวที่ไร้รูป ทุกครั้งเวลาที่เขาถูกจู่โจม ก็จะลดการถูกทำร้ายลงได้ระดับหนึ่ง ประเด็นสำคัญคือ คู่ต่อสู้จะไม่มีทางรู้ว่า เขามีการใช้พลังปกป้อง
ยังมีประเด็นสำคัญอีกอย่าง หลังจากกระตุ้นพลังปกป้องออกมาใช้แล้ว ก็เหมือนสกิลติดตัวที่เล่นกันในเกม ต้องถึงเวลามีการถูกโจมตี จึงจะถูกกระตุ้นออกมา
พูดง่าย ๆ หลังจากที่หยางเฉินกระตุ้นพลังปกป้องออกมาแล้ว จะไม่มีการทำให้พลังในตัวสูญเสียอย่างสิ้นเปลืองจากพลังแห่งธาตุนี้ จะต้องมีการโจมตีเข้ามาใส่ตัวเขา พลังปกป้องก็จะทำการปกป้องให้ตัวเขา ในตอนนั้นจึงจะมีการใช้ในแบบสิ้นเปลืองพลังในตัวของเขา
ไม่เหมือนกับพลังธาตุน้ำที่หยางเฉินได้รับรู้มาแล้วนั้น แค่พอได้ใช้พลังธาตุน้ำ ก็จะมีการสิ้นเปลืองชี่ทิพย์ในตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นว่าการยืมพลังธาตุน้ำมา สร้างเป็นห่าฝนมีดโจมตี โดยพลังของเขาในขณะนี้ อย่างมากทำได้สามครั้ง พลังชี่ทิพย์ในตัวเขาก็จะหมดไปเกลี้ยง
ในขณะที่หยางเฉินกำลังกระตุ้นพลังปกป้องอยู่ ตู้ป๋อที่นั่งอยู่กับเก้าอี้หวายมาตลอด ขมวดคิ้วอย่างไม่เป็นที่สังเกต เขาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงมีพลังลึกลับที่ใหญ่มาก ทะลักออกมาจากตัวของหยางเฉินในทันใดนั้น
แต่ก็แค่ชั่วแวบเดียว พลังนั้นก็สลายหายไปจนหมดเกลี้ยง ให้แม้แต่ตัวเขาเองยังสัมผัสไม่ได้เลย
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่ชัด แต่ที่เขาก็แน่ใจได้อย่างเด็ดขาดคือ ตัวหยางเฉินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ๆ
ทันใดนั้นตู้หมิงเหวี่ยนก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันดัง “เตรียมรับมือกับการโจมตีของข้าเถอะ!”
แต่ในชั่วแวบเดียวหลังจากคำพูดของเขาจบลง หยางเฉินก็หายไปจากที่ยืนอยู่เดิม ปรากฏตัวขึ้นที่ตรงข้างหน้าของเขา เงื้อหมัดขึ้น พุ่งเข้าใส่ตู้หมิงเหวี่ยนอย่างดุดัน
ตู้หมิงเหวี่ยนสดุ้งตกใจเต็มที่ ไม่ได้คิดถึงเลยว่า หยางเฉินจะใช้ความเร็วได้ถึงขนาดนี้ เขาแค่เวลาที่จะมีปฏิกิริยาโต้กลับยังไม่มี หยางเฉินก็ถล่มเข้ามาถึงข้างหน้าเขาแล้ว
ช่วงแค่สะเก็ดไฟจากตะไลเพลิง ตู้หมิงเหวี่ยนจะต้านรับก็ไม่มีทางจะทันแล้ว เห็นกำปั้นของหยางเฉินพุ่งใกล้มาถึงทุกที เขารีบประสานแขนทั้งสองไว้ที่หน้าอก
“ปึง!”
ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด เสียงทุ้มหนักของวัตถุกระทบใส่กันดังขึ้น กำปั้นของหยางเฉิน ชกเต็มแรงลงไปใส่แขนที่ประสานกันตรงหน้าอกของตู้หมิงเหวี่ยน
“ตึง ตึง ตึง!”
ภายใต้พละกำลังที่ยิ่งใหญ่นี้ ตู้หมิงเหวี่ยนถึงกับถอยหลังไปเจ็ดก้าวถึงหยุดลงได้
และในเวลานั้น หยางเฉินก็จู่โจมเข้ามาอีกครั้ง มุ่งถล่มซ้ำลงไป
“ปึง!”
มาคราวนี้ ตู้หมิงเหวี่ยนที่เพิ่งจะได้หยุดก้าวถอย แทบจะเพิ่งมีปฏิกิริยากับผลการรับรู้ว่าหยุดตรงจุดนั้น ยังไม่ทันได้ตั้งสติ ขาของหยางเฉินก็ถีบเข้าใส่หน้าอกเขาแล้ว ตัวของตู้หมิงเหวี่ยนกระเด็นลอยต่อออกไปอีก
ตู้ป๋อส่อความรู้สึกฉงนขึ้นมาในแววตา ในขณะที่ตู้หมิงเหวี่ยนเพิ่มขยายพลังขึ้นมา หยางเฉินก็ขยายเพิ่มพลังขึ้นมาได้เหมือนกันด้วย
ตัวตู้ป๋อเองเป็นพ่อของตู้หมิงเหวี่ยน รู้ชัดเจนเป็นอย่างดีว่า ลูกของตัวเองเก่งกาจขนาดไหน เคยที่ยังมีพลังฝีมือแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายนั้น ก็ได้สู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเป็นผลเสมอกันมาแล้ว
ผู้ที่พลังฝีมือเข้ามาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าแล้ว การจะไปเอาชนะศัตรูข้ามรุ่นนั้น ยากมากสุด ๆ ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงว่าระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย จะไปสู้กับผู้แข็งแกร่งขั้นเก้าชั้นยอดให้เสมอกันได้
แต่ ณ ปัจจุบันขณะนี้ หยางเฉินด้วยพลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง กลับรุกไล่กดดันตู้หมิงเหวี่ยนที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด นั่นไม่ใช่บอกได้แล้วหรือว่า ด้วยพลังฝีมือหยางเฉินที่เห็นกันขณะนี้ เขาสามารถสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ได้ผลกันมาที่เสมอกัน?
งั้นถ้าหยางเฉินมีระดับขั้นบูโดก้าวไปถึงแดนเหนือมนุษย์ชั้นปลายแล้วหละ?
ถ้าไปถึงตรงจุดนั้นจริง พลังฝีมือของหยางเฉิน จะเก่งกาจไปถึงขั้นไหน?