The king of War - บทที่ 1899 กระเทือนอย่างหนัก
“ของอาถรรพ์!”
ขณะที่เห็นหยางเฉินชักเอามีดโลหิตออกมานั้น เหล่าผู้อาวุโสสำนักบู๊ ต่างมีสีหน้าตื่นผวาขึ้นมา
เดิมทีหยางเฉินไม่ได้คิดจะใช้มีดโลหิต แต่ในขณะนี้ ตู้จ้งอยู่ในอันตรายขั้นวิกฤติ เขาจึงไม่คิดอะไรให้มากมายอีกแล้ว จะต้องยืนหยัดรับมือกับการถล่มเต็มที่ของตู้หมิงเหวี่ยน ให้ถึงสิบนาทีให้ได้
ถ้ายืนหยัดได้ไม่ถึงสิบนาที่ ตู้จ้งก็จะต้องตาย
บนใบหน้าของตู้ป๋อ ก็เกิดความหนักใจเพิ่มขึ้น เป็นถึงเจ้าสำนักสำนักบู๊ เขาย่อมรู้ดีถึงพลังทำลายจากของอาถรรพ์เป็นอย่างดี
ถ้าหากหยางเฉินเกิดใช้ของอาถรรพ์ทำให้ตู้หมิงเหวี่ยนบาดเจ็บ ก็จะทำอันตรายตู้หมิงเหวี่ยน จากการบาดเจ็บนั้นอย่างสาหัส
ของอาถรรพ์ส่วนที่ทำให้คนหวาดหวั่นกันมาก ก็คือแผลบาดเจ็บจากของอาถรรพ์ จะฟื้นหายเป็นปกติได้ยากมาก
ต่อให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอด ก็หวาดกลัวในพวกของอาถรรพ์มาก
แต่ทว่า ที่ทำให้เหล่าบรรดาผู้อาวุโสสำนักบู๊เข้าใจไม่ได้ก็คือ หยางเฉินอยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง เขาสามารถควบคุมใช้ของอาถรรพ์ได้ด้วยหรือ?
พึงต้องรู้กันว่า โดยปกติทั่วไป จะมีก็แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด จึงจะควบคุมใช้งานของอาถรรพ์ได้ และก็มีน้อยมากที่จะมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดใช้ได้
“ท่านเจ้าสำนัก รีบสั่งให้หยุดการประลองกันในครั้งนี้เถอะ!หมิงเหวี่ยนเป็นอนาคตของสำนักบู๊ของเรานะ ถ้าเกิดพลาดท่ารับบาดเจ็บจากของอาถรรพ์เข้า จะเกิดเป็นบาดแผลที่หนักหนากับเขานะ กับพื้นฐานบูโดของเขา ก็จะถูกกระทบกระเทือนไปด้วย!”
“ใช่นะ ไม่ควรให้มีต่อ หมิงเหวี่ยนจะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด!”
……
บรรดาผู้แข็งแกร่งทรงคุณวุฒิที่ยืนอยู่ข้างหลังตู้ป๋อ ต่างคนก็เอ่ยปากพูดเตือน
ในแววตาของพวกเขา ล้วนมีแต่ความร้อนรน ในสำนักบู๊ ตู้หมิงเหวี่ยนเป็นว่าที่เจ้าสำนักสำนักบู๊ อีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะบูโดที่มีพรสวรรค์อย่างประหลาดพิสดาร
ในอนาคต ตู้หมิงเหวี่ยนมีหวังเป็นอย่างมาก ที่ต้องก้าวเข้าไปถึงแดนนภา
ว่ากันไปสำหรับกลุ่มอิทธิพลบูโดในโลกสามัญ หากสักวันมีคนมีพลังบูโดก้าวเข้าแดนนภา กลุ่มอิทธิพลนั้นย่อมเหมือนพุ่งทะยานทะลุฟ้าเลยทีเดียว
ดูจากสายตาตู้ป๋อเห็นมีความลังเลขึ้นมาหลายส่วน ใจเขาคิดอยากให้ตู้หมิงเหวี่ยนบีบเค้นให้หยางเฉินปล่อยสำแดงพลังฝีมือแท้ ๆ ที่มีออกมา แต่ก็ไม่ต้องการให้ตู้หมิงเหวี่ยนถูกทำร้ายจากของอาถรรพ์
ถึงตัวเขาเองก็เถอะ ก็หวาดกลัวกับการได้รับแผลจากของอาถรรพ์
ยิ่งอีกทั้ง เมื่อครู่นี้หยางเฉิงก็ยังได้สำแดงออกถึงพลังที่แท้จริงออกมาอย่างใหญ่มาก หลังจากเข้าคุมบังคับของอาถรรพ์ พลังก็จะระเบิดเพิ่มขึ้นอีก ต่อให้ตู้หมิงเหวี่ยนจะทำการต่อสู้อย่างเต็มที่ ก็ยังมีโอกาสรับบาดเจ็บเป็นแน่
กับอาวุธทั่วไปคงไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพียงอย่าให้แทงถูกจุดสำคัญ ก็ไม่ถึงตาย แต่อาวุธในมือหยางเฉิน มันเป็นของอาถรรพ์แท้จริง การบาดเจ็บที่เกิดกับนักบูโด จะยากมากในการรักษาให้หาย
ตู้หมิงเหวี่ยนดูเหมือนเข้าใจที่คุณพ่อของเขากังวล จึงเอ่ยปากพูดทันทีว่า “คุณพ่อ ปล่อยให้ข้าสู้กับเขาสักตั้งเถอะ!”
ตู้ป๋อมองตู้หมิงเหวี่ยนที่มีท่าทีจริงจัง ในที่สุดก็ผงกหัว “ได้!”
ตอนนี้ที่ตู้หมิงเหวี่ยนมองไปยังหยางเฉิน แววตาส่อความหนักใจอย่างที่ไม่เคยให้เห็น กดเสียงต่ำพูดว่า “เจ้าเก่งกาจมาก!ต่อให้ผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งก้าวเข้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งได้ขนาดเจ้า!”
หยางเฉินมองหน้าฝ่ายตรงข้ามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เอ่ยปากถามไปว่า “ตอนนี้ นับว่าเริ่มต้นเลยมั้ย?”
ตู้หมิงเหวี่ยนผงกหัว “นับ ต้องนับสิ!”
หยางเฉินจึงได้ลอบถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ขอเพียงให้ฝ่ายตรงข้ามยอมรับ ก็ใช้ได้ ถ้าไม่ต้องลงมือได้ เขาก็จะไม่ลงมือเป็นแน่
เขารู้อยู่ ถึงแม้ตัวเขาเองมีมีดโลหิตอยู่ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตู้หมิงเหวี่ยน ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่ต้องไปคิดเอาชนะแล้ว เพียงขอให้ยืนหยัดอยู่ได้สิบนาทีก็พอ
“หมิงเหวี่ยน ลงมือเลย!”
ตู้ป๋อร้อนใจอยากเค้นบังคับให้หยางเฉินสำแดงพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา ออกปากสั่งไป
ตู้หมิงเหวี่ยนผงกหัว พลังบูโดในตัวทะยานขึ้นถึงชั้นสุดยอดในพลัน บรรดาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักบู๊ ตื่นตาตื่นใจเต็มหน้า
“พลังบูโดในตัวของหมิงเหวี่ยนแข็งแกร่งสูงขึ้นไปอีกแล้ว ห่างขั้นแดนนภาอีกเพียงก้าวเดียว!”
“ไม่เสียทีที่เป็นอัจฉริยะบูโดประหลาดพิสดารที่เก่งกาจที่สุดของสำนักบู๊ของพวกเรา อายุเพียงแค่ห้าสิบกว่าเล็กน้อย ก็เก่งกาจมาได้ถึงขนาดนี้ ให้เวลาเขาอีกสิบปี ก็จะต้องเข้าถึงแดนนภาแล้ว!”
“ไม่แน่ว่าอาจไม่ต้องใช้ถึงสิบปี หมิงเหวี่ยนก็จะเข้าไปถึงแดนนภาได้!”
……
เหล่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างก็พูดกันอย่างตื่นใจ
“ปึง!”
ตู้หมิงเหวี่ยนกระทืบขาลงอย่างดุดัน พื้นแผ่นบลูสโตนใต้ขานั้นแตกออก ส่วนตัวของเขา ได้หายไปจากที่เดิม
ในแวบเดียวกับที่เขาขยับ หยางเฉินก็ขยับตัวในทันที และพุ่งเข้าใส่ตู้หมิงเหวี่ยนอย่างดุดัน
มีดโลหิตในมือดำเมื่อมทั้งด้าม กลิ่นอายในอันตรายกระแสหนึ่ง ระเบิดออกจากมีดโลหิต มุ่งเข้าหาตู้หมิงเหวี่ยนแล้ววาดฟันไปอย่างดุดัน
ตู้หมิงเหวี่ยนเพิ่งฟาดฝ่ามือออกไป ก็ได้เห็นมีดโลหิตในมือหยางเฉินวาดฟันเข้ามาหาตัวเขา สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างหนัก ขาย่ำลงไปที่พื้น ออกแรงถีบตัว ร่างกายก็ฉากถอยออกไปในพลัน
การเคลื่อนไหวทั้งหมด ไม่มีอาการยืดยาดแม้แต่น้อย ในขณะแวบเดียวที่เขาถอยออกไปนั้น มีดโลหิตวาดผ่านตัวเขาแทบจะแนบติดหน้าอก โดยกรีดเอาผ้าที่เสื้อขาดไป
ดีที่มีดโลหิตไม่ได้บาดถูกตัวเขาแต่อย่างใด
เหล่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักบู๊ ต่างหายใจเย็นเยือกเข้าไปเฮือกใหญ่
ตู้ป๋อก็แอบคลายหายใจที่กลั้นไว้ออก แต่ในช่วงที่เขาเพิ่งจะคลายลมหายใจออก ก็เห็นหยางเฉินกำมีดโลหิต กลับมุ่งพุ่งเข้าไปหาตู้หมิงเหวี่ยนอย่างตามติดเป็นอัตโนมัติ
ตู้หมิงเหวี่ยนถึงแม้พลังฝีมือเก่งกาจมาก แต่ภายใต้การโจมตีของหยางเฉินที่มีมีดโลหิตอยู่ในมือ ไม่มีจังหวะเหลือให้โต้กลับ ต้องถอยหลบไปเป็นทอด ๆ
สภาพนี้ทำให้ใจเขายิ่งพรั่นพรึงหนักเข้มข้นขี้น ถึงแม้เขาจะหลบการจู่โจมของหยางเฉินได้ทุกครั้ง แต่หยางเฉินสามารถใช้พลังฝีมือที่อยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง บีบให้เขาต้องถอยหลบขนาดนี้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเป็นอย่างยิ่ง
เหล่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักบู๊ แต่ละคนสีหน้าตื่นตระหนกเป็นกำลัง กลัวว่ามีดโลหิตในมือหยางเฉินจะไปทำร้ายตู้หมิงเหวี่ยน
หยางเฉินก็ไม่มีทีท่าจะออมมือแม้แต่น้อยนิด มีตโลหิตร่ายรำไปอย่างบ้าคลั่ง ตู้หมิงเหวี่ยนไม่กล้าเลยที่จะเข้าใกล้ ได้แต่คอยหลบ
“ท่านเจ้าสำนัก เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้มันมีที่มายังไงแน่ ทำไมแค่มีพลังฝีมือในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง สามารถคุมบังคับของอาถรรพ์ได้?”
“จุดที่ท่านตั้งประเด็นสนใจไว้ ไม่ใช่เป็นเพราะเขาไม่น่าจะด้วยอายุน้อยขนาดนี้ ก็มีพลังฝีมือถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง คุมบังคับของอาถรรพ์ได้ สามารถถล่มผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดจนต้องคอยถอยหลบหรือ?”
“ท่านเจ้าสำนัก รีบสั่งให้หยุดการประลองเถอะ เจ้าเด็กคนนี้พลังฝีมือเก่งกาจมาก อีกทั้งมีของอาถรรพ์เป็นอาวุธ มันอันตรายมากเลยนะ!”
เหล่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักบู๊ ยังคงร้องเตือนตู้ป๋อ
ตู้ป๋อเหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรเลย สองตาคงจ้องอยู่ที่สองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่
เวลาผ่านไปเป็นนาทีจากวินาที การต่อสู้ของหยางเฉินกับตู้หมิงเหวี่ยนยังดำเนินต่อเนื่อง ตู้หมิงเหวี่ยนไม่มีความรู้สึกดูถูกหยางเฉินเหลืออยู่อีกแล้ว แต่มองหยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งในฐานะระดับเดียวกัน
การต่อสู้ยิ่งดำเนินไป ใจสะท้านกลัวของตู้หมิงเหวี่ยนก็ยิ่งเข้มข้น เขารู้ว่า หากแม้ว่าหยางเฉินไม่ได้ใช้ของอาถรรพ์ พลังฝีมือต่อสู้สุดยอด ก็ได้ก้าวขึ้นไปถึงระดับผู้แข็งแกร่งเริ่มแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว
ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า สามารถข้ามขั้นในการต่อสู้ได้ถึงสองขั้น ถึงให้เป็นตระกูลบู๊โบราณ น่ากลัวก็คงไม่มีใครทำได้ อย่างน้อยก็ยังไม่เคยได้ยิน
ตู้หมิงเหวี่ยนเพิ่งจะหลุดจากสติ ประกายแดงเลือดสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่เขา เขารีบตั้งสติกลับ ขยับขา กำลังคิดจะถอย
ยอดฝีมือแลกกระบวนท่าปะทะกัน แพ้ชนะในชั่ววูบ ยิ่งสู้กับหยางเฉินที่ในมือมีของอาถรรพ์อยู่ด้วย
กว่าตู้หมิงเหวี่ยนเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา ทุกอย่างก็ช้าไปแล้ว มีดโลหิตในมือหยางเฉิน กำลังพุ่งแทงเข้าตรงหน้าอกของเขา ถ้าโดนเข้าไป บาดแผลที่ไม่ยอมหายง่าย ๆ จะทำให้ส่วนภายในของร่างกายเริ่มเน่าเละ ถึงเวลานั้น คิดจะมีชีวิตอยู่ได้ คงเป็นความหวังที่เลื่อนลอย
“หยุด!”
ตู้ป๋อหน้าเสียขึ้นมาในฉับพลัน ตวาดออกไปเสียงลั่น
เหล่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักบู๊ หน้าตื่นเซ่อไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ละคนหวาดหวั่นกันเต็มหน้า ถ้ามีดโลหิตในมือหยางเฉินแทงเข้าไปในหน้าอกของตู้หมิงเหวี่ยน สำหรับสำนักบู๊ จะเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏกันมาก่อนเลย