The king of War - บทที่ 1903 เข้าไปยังไง
พลังเทพบู๊?
หยางเฉินนึกอัศจรรย์อยู่ในใจ เขารู้อยู่ มีบางตระกูลบู๊โบราณ ก็จะมีการสืบทอด ฟังในความหมายจากที่ตู้หมิงเหวี่ยนพูด พลังเทพบู๊น่าจะเป็นวิชาสืบทอดของสำนักบู๊
กับการที่ในสำนักบู๊นี้มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดมากมายขนาดนี้ บางทีอาจจะไปเกี่ยวข้องกับพลังเทพบู๊?
แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงการคาดเดาของหยางเฉิน
ตู้จ้งถึงกับขรึมลงไปในพลัน เป็นอยู่ในวงการบูโด มีหรือจะไม่อยากให้ตัวเองมีพลังฝีมือเก่งกาจมากยิ่งขึ้น?
ตัวเขาขณะนี้แค่เพียงอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลาย ส่วนตู้ป๋อพี่ชายในสายเลือด ระดับบูโดเพียงอีกก้าวเดียว ก็จะถึงแดนนภาแล้ว
แม้กระทั่งตู้หมิงเหวี่ยนหลานชายของเขาเอง เวลานี้ก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีพลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว
ถึงได้บอกว่า พรสวรรค์ด้านบูโดของตู้จ้ง ไม่ใช่ต่ำต้อยอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่มีความมุ่งมั่นในพลังเทพบู๊
“คุณอาสอง ผมก็รู้ จริง ๆ ตัวท่านเองก็รู้อยู่แก่ใจ เหตุการณ์ในปีนั้น คุณพ่อผมเองก็มีหน้าที่ แต่ก็จะไปโทษเขาไปทั้งหมดไม่ได้ แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม พวกเราก็คนครอบครัวเดียวกัน ผมหมิงเหวี่ยนมีความหวังอย่างมากที่สุดด้วยความจริงใจในการขอให้ท่านกลับมาสำนักบู๊”
เห็นตู้จ้งไม่พูดอะไร ตู้หมิงเหวี่ยนก็เอ่ยปากพูดต่อ แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจ
หยางเฉินก็เป็นคนนอกอยู่แล้ว ความรู้สึกก็มีให้ตะขิดตะขวงใจอยู่ คิดอยู่ว่าจากออกไปจะดีกว่า
พลันตู้จ้งก็เงยหน้ามองไปที่ตู้ป๋อ แววตาไม่มีรอยความเจ็บแค้น แต่เต็มไปด้วยอารมณ์สับสน
ตู้ป๋อก็มองไปที่ตู้จ้ง ไม่มีคำพูดอะไรออกมาเหมือนกัน
ผ่านไปครู่ใหญ่ ตู้ป๋อจึงถอนใจออกมายาว เอ่ยปากพูดว่า “ข้าก็รู้ว่าเจ้าแค้นข้าอยู่ ก็ไม่อยากไปขอให้เจ้าฝืนใจอยู่ช่วยข้า แต่ทว่า เจ้าก็เป็นคนของสำนักบู๊ ข้าหวังอยู่ว่า เจ้าจะไปที่ศาลบรรพชนสักครั้ง”
ตู้จ้งด้วยนัยน์ตาที่เหม่อลอย เขาส่ายหน้าในทันทีนั้น พูดว่า “ตามกฎกำหนดของตระกูล คนในตระกูล สามารถให้การใช้สิทธิ์การเข้าไปในศาลประจำตระกูล โอนให้กับคนนอกตระกูลได้ ข้อกำหนดนี้ยังมีอยู่มัง?”
ตู้ป๋อผงกหัว “นี่เป็นกฎบัญญัติของบรรพชนสำนักบู๊ จะตัดทิ้งไม่ได้แน่นอน”
ตู้จ้งจึงพูดไปว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอยกโอกาสนี้ ให้กับหยางเฉิน”
คำนี้พูดจบ ตู้ป๋อกับตู้หมิงเหวี่ยนต่างตะลึงงงกันขึ้นหน้า เหมือนกับว่าคิดไม่ถึง จะอะไรกันที่ตู้จ้งยกโอกาสหนึ่งเดียวที่สำคัญยิ่งในการเข้าไปในศาลบรรพชนให้กับหยางเฉิน
ความสำคัญในการเหยียบย่างเข้าไปในศาลบรรพชนสำนักบู๊ คนนอกอาจจะไม่รู้ แต่คนของสำนักบู๊ ต่างรู้กันชัดเจน
ในสำนักบู๊ ศาลประจำตระกูลทุกห้าปีถึงจะเปิดครั้งหนี่ง จะมีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์สำนักบู๊ เฉพาะกลุ่มที่มีพรสวรรค์บูโดที่ดีเด่น จึงจะมีคุณสมบัติย่างก้าวเข้าไป
ยังไม่เพียงแค่นี้ แต่ละกลุ่มที่จะเข้าไปในศาลบรรพชนสำนักบู๊ก็ยังมีการจำกัดจำนวน ให้เพียงแค่สามราย
ในจำนวนนี้ เจ้าสำนักมีสิทธิ์นำเสนอให้เข้าไปในศาลบรรพชนได้หนึ่งรายชื่อ อีกสองรายชื่อ จะต้องคัดเลือกมาจากกลุ่มผู้แช็งแกร่งที่มีพรสวรรค์บูโดที่เก่งกาจที่สุดในสำนักบู๊
ทุกคนในสำนักบู๊ ทั้งชาติก็มีเพียงครั้งเดียวที่จะมีโอกาสก้าวเข้าไปในศาลบรรพชน
และหลังจากได้เข้าไปในศาลบรรพชนแล้ว ก็จะมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดพลังเทพบู๊ หลังรับการถ่ายทอดมาแล้ว การฝึกฝนก็จะได้ผลเร็วขึ้นอย่างระเบิด
แน่นอนว่า ก็เป็นเพียงการหวัง ทั้งยังเป็นการหวังที่ดูเลือนรางมาก ประมาณว่าสักสิบปี ถึงจะได้เห็นมีผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดพลังเทพบู๊สักคนหนึ่ง
และตู้ป๋อ ก็คือหลังจากก้าวเข้าไปในศาลเจ้าแล้ว ได้รับการถ่ายทอดพลังเทพบู๊มา ส่วนตู้หมิงเหวี่ยนก็เช่นเดียวกัน
ทว่าคนในตระกูลที่ได้รับพลังเทพบู๊นั้น ระดับขั้นบูโดขั้นต่ำ อย่างน้อยก็แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด สำหรับระดับขีดสูงที่สุดนั้น ไม่มีใครรู้ได้ชัดเจน
เพราะว่านักบูโดที่ก้าวไปถึงแดนนภาที่ผ่านมามากมาย ทุกวันนี้ก็สูญหายไปหมด ส่วนนักบูโดเหล่านี้ไปกันสู่หนใด ไม่มีใครรู้ได้
ก็มีคนพูดกันว่า ด้วยเพราะนักบูโดแดนนภาจะไม่มีการย่างกรายเข้ามาในโลกสามัญตามอำเภอใจได้ และก็จะไม่สามารถก้าวก่ายการต่อสู้ของพวกนักบูโดในระดับต่ำกว่าแดนนภาได้ ฉะนั้นบรรดาเหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักบู๊ที่ก้าวขึ้นไปถึงแดนนภาแล้วจึงไม่มีปรากฏให้เห็น
หยางเฉินก็ไม่เข้าใจในความสำคัญของการสืบทอด พลังเทพบู๊ แต่ก็รู้อยู่ สำหรับตู้จ้งแล้ว การได้โอกาสย่างกรายเข้าไปในศาลบรรพชน จะต้องเป็นเรื่องที่มีคุณค่ามาก
เขาก็จึงได้รีบปฏิเสธไปว่า “ผู้เฒ่าตู้ ผมขอปฏิเสธนะ!”
เขารู้สึกขอบคุณตู้จ้งอย่างจริงใจมาก ตู้จ้งตั้งใจจะช่วยเขา ถึงขนาดยอมกลับเข้ามาที่สำนักบู๊ที่เขาทิ้งจากไปกว่าสิบปี ก็เพื่อช่วยเขาขอยาเม็ดเม็ดหนึ่งเพื่อไปช่วยชีวิตเขา
ตอนนี้ตู้จ้งยังจะเอาโอกาสที่แสนจะสูงค่านี้ยกให้เขา แล้วจะให้เขารับได้ยังไง?
ตู้จ้งมองไปที่หยางเฉิน พูดด้วยสีหน้าศรัทธาอย่างจริงใจว่า “ท่านหัวหน้า ข้าอายุมากเกินแล้ว ถึงจะให้เข้าไปในศาลบรรพชน ก็ไม่สามารถรู้แจ้งถึงพลังเทพบู๊ได้ ให้ข้าเข้าไป เท่ากับเป็นการเสียโอกาสไปให้สูญเปล่า”
“พรสวรรค์บูโดของท่านสูงส่งมาก ถ้าหากย่างก้าวเข้าไปในศาลบรรพชนได้ จะต้องได้รับการถ่ายทอดพลังเทพบู๊แน่นอน หากท่านได้รู้แจ้งถึงพลังเทพบู๊แล้ว การฝึกฝนย่อมต้องเร็วขึ้นได้อย่างมาก ถึงเวลานั้น ภายใต้แดนนภา ก็จะไม่มีใครสามารถทำอะไรท่านแล้ว”
หยางเฉินส่ายหน้าอย่างไม่มีลังเล พูดว่า “ผู้เฒ่าตู้ นี่เป็นโอกาสของท่าน ถึงอาจจะไม่สามารถรู้แจ้งได้ แต่ก็สมควรต้องให้ท่านก้าวเข้าไปในศาลบรรพชนสำนักบู๊”
นี่เป็นการปฏิบัติตนขั้นพื้นฐานของหยางเฉิน เขาก็คิดก้าวเปลี่ยนให้แข็งแกร่งขึ้น แต่ก็จะไม่แย่งชิงเอาโอกาสของผู้อื่น
จากตัวของตู้จ้งกับตู้หมิงเหวี่ยนจะเห็นได้ว่า พรสวรรค์บูโดของตู้จ้งนั้นไม่ด้อยเลย เพียงแต่อาจจะมีสาเหตุบางอย่าง ทำให้ตู้จ้งเกิดการซึมเศร้า จึงพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการฝึกวิชา
อาจจะว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับความบาดหมางกันระหว่างตู้ป๋อกับตู้จ้ง
ในขณะนั้นเองตู้ป๋อก็ได้มองไปที่หยางเฉิน เอ่ยปากพูดว่า “หยางเฉิน ข้าก็มีวิธีอยู่วิธีหนึ่ง ที่จะให้เจ้ากับตู้จ้งเข้าไปในศาลบรรพชนด้วยกันได้”
หยางเฉินก็รีบปฏิเสธไปว่า “ต้องขอบพระคุณในความหวังดีของท่านลุงอย่างสูง แต่ผมไม่ใช่คนของสำนักบู๊ อย่าเลยดีกว่านะครับ”
ตู้ป๋อบอกว่า “เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิเสธสิ ให้ข้าพูดให้จบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ว่าจะเข้าไปในศาลบรรพชนด้วยกันกับตู้จ้งหรือไม่”
หยางเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก รอฟังตู้ป๋ออธิบาย
ตู้ป๋อพูดต่อไปว่า “ตู้จ้งคิดจะยกโอกาสในการเข้าไปในศาลบรรพชนให้กับเจ้า ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่อยากเข้าไป ถึงแม้จะบอกว่าเขาเสียโอกาสในวัยที่ดีที่สุดในการเข้าไปในศาลบรรพชน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้สายเกินไปเลย”
“ถ้าหากว่าเขาสามารถได้รับการถ่ายทอดจากเทพบู๊ ความเร็วในการบรรลุของการฝึกวิชานั้นจะเร็วขึ้นอย่างเห็น ๆ กันวันต่อวันเลยทีเดียว แค่มากให้อีกห้าปี ระดับขั้นบูโดของเขา ก็จะขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด”
ได้ยินที่ตู้ป๋อพูด หยางเฉินมีส่วนไม่เชื่ออยู่ ดูจะเป็นการคุยเกินไป ภายในแค่ห้าปี ก็จะเปลี่ยนขั้นแดนบูโดให้ตู้จ้งได้ จากแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลาย ขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเลยหรือ?
พึงต้องรู้ว่า ตู้จ้งอายุมากแล้ว การฝึกวิชามีแต่จะยิ่งช้าลง
ตู้ป๋อพูดต่ออีก “อาจจะว่า เจ้ารู้สึกว่าข้าจะคุยเกินอยู่ แต่จากข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ที่ได้รับถ่ายทอดจากเทพบู๊ และรู้แจ้งถึงพลังเทพบู๊มานั้น หลังจากที่ได้รับการถ่ายทอดมาแล้ว ผลของการฝึกฝนจะไปได้อย่างรวดเร็วมากจริง ๆ”
“ตัวข้านั้นอายุสี่สิบแล้วถึงจะได้รับถ่ายทอดจากเทพบู๊ ตัวข้าตอนนั้น พลังฝีมือก็แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอดกระจอกกระจอก แต่แล้วก็ใช้เวลาสั้น ๆ แค่สามปี ขั้นแดนบูโดก็ก้าวไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด”
ได้ยินตู้ป๋อพูดแบบนี้ หยางเฉินจึงได้รู้ว่า ตู้ป๋อไม่ได้คุยเกินจริง หลังได้รับการถ่ายทอดจากเทพบู๊แล้ว เวลาในการฝึกวิชา จะเร่งรัดได้เร็วขึ้นมาก ๆ จริง ๆ
ในโลกสามัญ เขาก็ยังไม่เคยเห็นมีนักบูโดที่ทำเวลาในการฝึกฝนได้ผลเร็วขนาดนี้
หยางเฉินถามว่า “ต้องทำยังไง ถึงจะให้ผมเข้าไปในศาลบรรพชนพร้อมกับผู้เฒ่าตู้ได้?”