The king of War - บทที่ 1934 ต้านรับสามกระบวนท่า
เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของลี่เฉินได้ ในเมื่อเป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว ก็ต้องเลือกเป็นการยอมรับ
สำนักมาร ที่ห้องโถงใหญ่ภายในอาคารหรูหราสไตล์จีนโบราณ
ลี่เฉินมองมารแดงที่ยืนอย่างพินอบพิเทาอยู่ที่เบื้องหน้าเขา เอ่ยปากถามในทันทีนั้นว่า “มารแดง กับการที่ข้าให้หม่าชาวมาสืบทอดตำแหน่งทายาทมาร เจ้ามีความเห็นว่ายังไง?”
มารแดงส่ายหน้า พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “ท่านอาจารย์ทำเพื่ออนาคตของสำนักมาร ความอัจฉริยะทางบูโดของหม่าชาวสูงมาก อายุเพียงยี่สิบเจ็ด ก็มีพลังฝีมือถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นยอดแล้ว”
“แน่นอน นี้ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำคัญอยู่ที่ หม่าชาวมีลูกแก้วดูดเลือดสุดวิเศษของตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ การฝึกพลังวิชาสายมาร จะเป็นตัวช่วยทำให้พลังฝีมือบูโดของเขาผสานเข้ากันกับพลังวิชาสายมารได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการทำให้พรสวรรค์บูโดของเขาสำแดงออกได้เก่งกาจยิ่งขึ้น”
“ด้วยพรสวรรค์บูโดของหม่าชาว ภายในอายุสี่สิบ เป็นไปได้อย่างสูงว่าจะก้าวบรรลุสู่แดนนภาได้”
มารแดงไม่เก็บอมการแสดงความชื่นชมหม่าชาว โดยไม่ได้มีการแสแสร้งใด ๆ เป็นการชื่นชมอย่างจริงใจสุด ๆ
สีหน้าลี่เฉินอิ่มเอิบด้วยความปรีดา ผงกหัวแล้วพูดไปว่า “เจ้าพูดถูกต้อง ความอัจฉริยะทางบูโดของเขาสูงมาก อีกยังมีลูกแก้วดูดเลือดอยู่กับตัว ความจริงแล้ว ลูกแก้วดูดเลือดไม่ใช่ของวิเศษของบ้านตระกูลไป๋หลี่ เดิมแท้แล้วเป็นของวิเศษประจำตระกูลมาร เพียงแต่เคยถูกบรรพชนของบ้านตระกูลไป๋หลี่ครอบครองไปจึงกลายเป็นที่เข้าใจว่าเป็นของสุดวิเศษประจำบ้านตระกูลไป๋หลี่”
“สำหรับหม่าชาวที่มีสายเลือดตระกูลไป๋หลี่อยู่ เมื่อได้ฝึกฝนพลังวิชาสายมาร ก็ยิ่งจะเข้ากันกับลูกแก้วดูดเลือด ระเบิดเอาอานุภาพที่แท้จริงของลูกแก้วดูดเลือดออกมา”
“แต่ว่า เหตุผลที่แท้จริงของข้า ในการตัดสินใจให้เขามาสืบทอดเป็นทายาทมาร เพราะหยางเฉิน หยางเฉินเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของหม่าชาว พรสวรรค์บูโดของเขายิ่งสูงน่ากลัว ถึงเวลานี้ยังแค่เพิ่งก้าวเข้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย แต่กลับมีพลังฝีมือจริงที่ชั้นสุดยอดแค่รองจากแดนนภาแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเปล่งเขตแดนวิถีมารออกมาได้ คนประเภทนี้ ต้องมีที่มาไม่ธรรมดา เอาสำนักมารไปผูกไว้อยู่กับเขา สำหรับสำนักมารแล้ว ร้อยทั้งร้อยมีแต่ประโยชน์อย่างไม่มีที่ต้องเสีย”
มารแดงผงกหัว คิดไปถึงตอนที่ตัวเองได้อาศัยเขตแดนวิถีมารที่หยางเฉินปล่อยกระจายออกไปใช้ต่อสู้กับอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงได้อย่างดุเดือด ก็พูดด้วยรู้สึกยอมรับนับถืออย่างยิ่งว่า “เด็กคนนี้เก่งกาจพิสดารเอามาก ๆ น่ากลัวรองจากกลุ่มนักบู๊โบราณ คงจะไม่มีใครเทียบกับเขาได้ คงมีแต่กลุ่มนักบู๊โบราณระดับกลางและระดับบน จึงจะหาที่เก่งกาจขั้นพิสดารระดับนี้ได้
ลี่เฉินผงกหัว พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “สำนักมารในทุกวันนี้ มีศัตรูมากมาย หลาย ๆ คนจ้องมาที่สำนักมาร และขั้นแดนบูโดของข้าเองก็ทะลุเข้าถึงแดนนภาแล้ว วันนี้ที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงมาสำนักมารเรา ความจริงก็คือจะมาสืบดูสถานะของข้า น่ากลัวคงไม่นานนี้แล้วแหละ เรื่องการทะลุถึงแดนนภาของข้าคงต้องถูกเปิดเผย ถึงเวลานั้นก็ต้องไปจากสำนักมารจริง ๆ แล้ว”
“เมื่อถึงวันที่ข้าต้องไปจากสำนักมาร อาศัยเจ้าคนเดียว ไม่มีทางจะต้านรับพวกสุดยอดอิทธิพลอื่น ๆ ได้ นอกจากจะหาแนวร่วมพันธมิตรที่เหมาะสม จึงจะทำให้สำนักมารมีที่ยืนอยู่ได้ในภูเขามารนี้ต่อไป”
“และหยางเฉิน ก็คือแนวร่วมพันธมิตรที่เหมาะสมที่สุด แต่คนระดับนี้ จะให้เขาสมัครเข้ามาอยู่กับสำนักมาร ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด และเขาก็ไม่มีทางยอมเข้าด้วย แต่หม่าชาวพี่น้องของเขาคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว อัจฉริยะบูโดของเขาก็โดดเด่น ให้เขามารับสืบทอดเป็นทายาทมาร ดูจะเหมาะสมที่สุดแล้ว”
มารแดงเข้าใจดีในความหมายของลี่เฉิน ผงกหัวเล็กน้อย พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านอาจารย์ ข้าเข้าใจดี!ท่านโปรดได้วางใจ ถึงท่านไปอยู่โลกบู๊โบราณ ข้าก็จะอยู่ช่วยหม่าชาวอย่างสุดความสามารถ ร่วมกันปกป้องสำนักมาร”
ลี่เฉินปลื้มใจเต็มใบหน้า เขารู้ดี ถึงแม้เขาไม่ได้พูดมาแบบนี้ หลังจากที่เขาจากไป มารแดงก็จะไม่ทรยศต่อสำนักมาร
ในทันทีนั้นเขาก็หยิบเอาขวดหยกขาวสุดวิจิตรใบหนึ่ง ยื่นส่งให้มารแดง
พอมารแดงเห็นขวดหยกขาวใบนี้เข้า สีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน เสียงดัง “ผลุบ” ตัวของเขาคุกเข่าลงแทบเท้าลี่เฉิน พูดขึ้นมาอย่างร้อนรน “ท่านอาจารย์ นี่ท่านทำอะไรหรือ?”
ลี่เฉินมองมารแดงด้วยความเอ็นดู บนใบหน้าเต็มอิ่มด้วยยิ้มที่อบอุ่น เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ยาเม็ดทะลายกรรมวิบัติเม็ดนี้ เดิมข้าจะเอาไว้ใช้เอง จะใช้ในตอนที่กำลังจะทะลวงเข้าแดนนภา สุดท้ายข้านี้ดวงแข็ง ตอนที่เข้าถึงขั้นกรรมวิบัติ ก็สู้ทนแบกรับไหวได้ ฉะนั้นจึงไม่ได้ใช้ถูกยาเม็ดทะลายกรรมวิบัติเม็ดนี้”
“เวลานี้ เจ้าก็กำลังก้าวเข้ามาจุดนี้แล้ว ห่างจากช่วงที่ต้องทะลวงแดนก็ไม่นานแล้ว ยาเม็ดทะลายกรรมวิบัติเม็ดนี้ ก็มอบให้เจ้าไว้ รอถึงช่วงที่เจ้ากำลังทะลวงแดน หากทนแบกรับไม่ไหว ก็ให้กินยาเม็ดนี้เข้าไปเลย”
ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นในตอนที่จะทะลวงแดนนั้น ในโลกภูมินั้นจะมีกรรมวิบัติลิขิตสวรรค์เกิดขึ้น ความหนักหน่วงของกรรมวิบัตินั้น มีแต่ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดที่อยู่ใต้แดนนภาเท่านั้น ที่จะทานรับไว้ได้ แต่หากผู้ที่ทำการทะลวงมีขาดพร่องอะไรไปเพียงนิดเดียว ก็ไม่สามารถจะรับกรรมวิบัติลิขิตสวรรค์นั้นได้
ส่วนยาเม็ดทะลายกรรมวิบัตินั้น ก็จะทำให้เนื้อตัวของผู้ลุยทะลวงยิ่งแกร่งขึ้น และก็จะผ่านกรรมวิบัติลิขิตสวรรค์นั้นไปได้โดยสะดวก
ยาเม็ดทะลายกรรมวิบัตินี้ เป็นยาเม็ดทะลายกรรมวิบัติเพียงเม็ดเดียวที่มีอยู่ของสำนักมาร เพื่อให้ได้มาซึ่งยาเม็ดนี้ ลี่เฉินต้องทุ่มตัวเข้าเสี่ยงเต็มที่ ถึงขนาดแทบจะเอาชีวิตไม่รอด
และยาเม็ดทะลายกรรมวิบัตินี้ ก็ไม่ใช่แต่เพียงใช้กับการทะลุฝ่าขึ้นแดนนภาเท่านั้น แม้ให้ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น หลังจากได้กินยาเม็ดทะลายกรรมวิบัตินี้เข้าไป ระดับขั้นบูโดก็จะก้าวทะลุขึ้นไปอีกขั้นเล็ก ๆ ได้
มารแดงรู้อยู่แก่ใจในความแค้นอันใหญ่หลวงที่ฝังใจลี่เฉินอยู่ กำลังมีความจำเป็นต้องเสริมเพิ่มพลังฝีมือตัวเองอยู่ แต่กลับเอายาเม็ดทะลายกรรมวิบัติที่เขาแลกมาด้วยชีวิต มอบมาให้กับเขา
มองมารแดงที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ลี่เฉินยิ้มน้อย ๆ ยื่นมือออกไปประคองมารแดงลุกขึ้น “หลายปีมานี้ เจ้าทุ่มเทกำลังกายใจให้สำนักมารมากมาย ข้าก็เห็นอยู่กับตา เดิมทีเดียว ทายาทมารแห่งสำนักมาร ควรจะต้องให้เจ้าเป็นผู้รับสืบทอด แต่เพื่อทำให้สำนักมารได้เชื่อมต่อสัมพันธ์กับคนหนุ่มที่มีพลังแฝงสูง ข้าจึงจำเป็นต้องเอาสิ่งที่ควรเป็นของเจ้า ส่งผ่านไปให้คนอื่น”
“ยาเม็ดทะลายกรรมวิบัติเม็ดนี้ เจ้าเก็บไว้เถอะ ถือว่าเป็นการขอขมากับเจ้า เจ้าจงตั้งใจฝึกฝนพลังวิชาให้ดี เร่งให้ได้ก้าวสู่แดนนภาในเร็ววัน ข้าจะไปรอเจ้าอยู่ที่โลกบู๊โบราณ!”
มารแดงสะเทือนใจอย่างออกหน้า สองตาแดงก่ำมองไปที่ลี่เฉิน เขานั้นได้ถูกลี่เฉินเลี้ยงจนโตมาตั้งแต่ยังเล็ก ในความฝังใจของเขา ลี่เฉินก็คือพ่อของเขา
ถึงแม้ลี่เฉินได้มีการประกาศออกมา ที่จะยกตำแหน่งทายาทมารให้แก่หม่าชาว เขาก็มีรู้สึกไม่ค่อยยินยอมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะหาทางทำให้ลี่เฉินเปลี่ยนความคิด
เพราะเขาเข้าใจอย่างดี ลี่เฉินหากถ้าตัดสินไปแบบนี้แล้ว ย่อมต้องมีเหตุผลของเขา
มาจนถึงขณะนี้ ลี่เฉินได้เอายาเม็ดทะลายกรรมวิบัติที่เขาแลกมาด้วยชีวิต ยกมาให้เขา เขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์เขาได้อีก
“เก็บขึ้นสิ!”
ลี่เฉินมองไปที่มารแดงด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน พูดย้ำไป
คราวนี้ มารแดงไม่สามารถปฏิเสธอีก เขารับขวดหยกนั้นมาด้วยสองมือ ตาแดง ๆ พูดไปว่า “ท่านอาจารย์โปรดได้วางใจ ข้าจะขยันตั้งใจฝึกฝน เร่งเวลาให้ได้ไปพบกับท่านที่โลกบู๊โบราณในเร็ววัน!ความแค้นที่ใหญ่หลวงของท่าน ข้าจะไปแก้แค้นพร้อมกับท่าน!ท่านอาจารย์โปรดได้รอข้าด้วย!”
ลี่เฉินให้รู้สึกปลาบปลื้มเต็มใบหน้า ผงกหัวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ได้ ข้าจะรอเจ้า!”
พูดจบ ลี่เฉินก็ลุกยืนขึ้น เอ่ยปากพูดว่า “ได้เวลาอันสมควรแล้ว พวกเราไปทำพิธีมอบตำแหน่งทายาทมารให้กับศิษย์ผู้น้องของเจ้ากัน”
“ได้ครับ!”
มารแดงรีบตอบรับทันที เดินจากออกไปพร้อมกับลี่เฉิน
ในขณะนั้น ภายในห้องโถงประชุมใหญ่สำนักมาร เหล่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักมาร ต่างมากันพร้อมแล้ว
สีหน้าทุกคนยังอยู่ในความรู้สึกไม่อยากยอม หลายคนยังถกปัญหากันด้วยเสียงอันดัง แสดงออกถึงความไม่พอใจในคำสั่งกิจกรรมในครั้งนี้
ในขณะนั้นเอง มีผู้แข็งแกร่งที่มีพลังปราณที่น่ากลัวแผ่กระจายทั่วทั้งตัวนายหนึ่ง เดินเข้ามาจากข้างนอกกับคราบเลือดเต็มตัว พอเดินเข้าถึงภายในโถง ก็ได้ตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า “เจ้าเด็กรุ่นหลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นยอด จะมีคุณสมบัติอะไรกันที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งทายาทของสำนักมาร?ข้าเกาสงไม่ยอมรับ!หากจะให้ข้ายอมรับ ก็ได้ มาต่อสู้กับข้า หากต้านรับฝีมือข้าได้สามกระบวนท่า ข้าก็จะยอมรับนับถือเขาเป็นทายาทมาร!”
เกาสง หนึ่งในสี่ขุนพลมารแห่งสำนักมาร พลังฝีมือที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ถึงแม้ยังก้าวไม่ถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แต่เคยสังหารผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นมาแล้ว
เกาสงจึงดังขึ้นมาในศึกครั้งเดียวนั้น กลายเป็นหนึ่งในสิบผู้แข็งแกร่งแห่งภูเขามาร และเป็นผู้แข็งแกร่งหนึ่งเดียวที่ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น