The king of War - บทที่ 1985 ฟันให้ฉันอีก
The king of War บทที่ 1985 ฟันให้ฉันอีก
ในสายตาซือคง ลี่เฉินเป็นเพียงนักบูโดโลกทั่วไปคนหนึ่ง ต่อให้วิถีบู๊ทะลุสู่แดนนภาแล้ว แต่ยังคงไม่เข้าตาเขาอยู่ดี
สีหน้าลี่เฉินดูแย่อย่างยิ่ง ท่าทีของซือคง ทำให้เขาไม่สบายเอามากๆ
“ไม่ว่าจะพูดยังไง คุณก็เป็นผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ ในเมื่อเป็นผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์ เดิมควรจะคุ้มครองนักบูโดโลกทั่วไป ตอนนี้เพื่อจัดการวิญญาณเทพมารแล้ว กลับอยากสละชีวิตลูกหลานคนหนึ่งของโลกทั่วไป อาจจะทำเกินไปหน่อยแล้วไหม?”
ลี่เฉินไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น จ้องซือคงไว้ พูดจาแบบไม่ต่ำต้อยและไม่โอหัง
เดิมทีซือคงคิดไม่ถึงว่า ลี่เฉินจะกล้าพูดจากับเขาขนาดนี้ สำหรับเขาแล้ว นี่คือการยั่วยุ
จึงปลดปล่อยเขตแดนอันยิ่งใหญ่ออกมาส่วนหนึ่ง ชั่วขณะนั้นทำให้ลี่เฉินตกอยู่ในเขตแดนของเขา
วินาทีนี้ ลี่เฉินรู้สึกเพียงว่าทั่วทั้งตัวถูกพลังอันน่าสะพรึงกลัวกดไว้ เหมือนจะกดร่างกายของเขาให้ระเบิดเลย
ลี่เฉินถูกยั่วโมโหถึงที่สุด ชั่วขณะหนึ่งปล่อยเขตแดนวิถีมารออกมาบ้าง นี่ถึงรู้สึกดีขึ้นหน่อย แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามีเพียงความสามารถของแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น ส่วนซือคง กลับเป็นแดนของแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด
ระหว่างทั้งสองคนห่างกันถึงสามแดนเล็กเต็มๆ แค่คาดการณ์ก็รู้แล้วว่า ความแตกต่างระหว่างสองคนนั้นมากแค่ไหน
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ลี่เฉินยังคงไม่กลัวสิ่งใด ใช้เขตแดนวิถีมารมาต่อต้านความกดดันที่มาจากซือคง
“อาจารย์!”
ดวงตาหม่าชาวแดงก่ำ มองอาจารย์ของตนเองที่เพื่อเขาแล้ว ต้องแบกรับความกดดันที่มาจากซือคงเอาไว้ เขารู้สึกเสียใจมากๆ
สีหน้าตู้ป๋อก็เคร่งขรึมถึงขีดสุดเช่นกัน มองซือคงที่สีหน้าอึมครึมอย่างยิ่งอยู่ ในใจแอบรู้สึกกังวลแทนลี่เฉิน
“นายอยากตายรึไง?”
เสียงที่เย็นชาถึงขั้นสุดเสียงหนึ่ง ทันใดนั้นดังมาจากในปากของซือคง
ลี่เฉินพึมพำอย่างเย็นชา “พันธมิตรพิทักษ์ฆ่านักบูโดโลกทั่วไปตามอำเภอใจได้เหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็จะอยู่เป็นเพื่อนจนถึงที่สุด!”
หลังจากเสียงพูดของเขาจบลง ออร่าบู๊ที่ยิ่งใหญ่ส่วนหนึ่ง ระเบิดออกจากในร่างกายลี่เฉิน
ว่าตามกฎเกณฑ์ของพันธมิตรพิทักษ์ ผู้แข็งแกร่งแดนนภาห้ามฝึกฝนอยู่โลกทั่วไป และห้ามลงมือที่โลกทั่วไปด้วย เพราะนั่นจะทำลายม่านพลังระหว่างโลกทั่วไปกับโลกบู๊โบราณ
ส่วนการแสดงออกของซือคง ทำให้ลี่เฉินสูญเสียความมั่นใจต่อพันธมิตรพิทักษ์ถึงที่สุดแล้ว
กลุ่มอิทธิพลแบบนี้ เดิมทีไม่คุ้มค่าไปเคารพนับถือ
“ในเมื่อนายวอนหาที่ตาย งั้นฉันจะทำให้สมหวัง!”
ซือคงพูดด้วยเสียงโมโห จากนั้นสายตาตกอยู่บนตัวของชิงเฟิงแล้ว พูดแบบเสียงเย็นชา “นายไปฆ่าเขาเลย!”
ชิงเฟิงก็อยากลงมือกับลี่เฉินมาตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแค่ไม่มีเหตุผล ปัจจุบันนี้ซือคงสั่งการ เขาจึงรีบรับปากทันที “ครับ!”
หยางเฉินทางนี้ มีซือคงนำทีมคนเหล่านี้ ทั้งยังมีการกำราบของค่ายกลสังหารวิญญาณซึ่งเพียงพอแล้ว
เห็นชิงเฟิงเดินมาทางตนเอง ลี่เฉินท่าทางไม่กลัว พูดด้วยเสียงเย็นชา “นี่คือพวกนายอยากลงมือก่อนนะ”
“พวกกระจอกบนโลกทั่วไป กล้าจองหองต่อหน้าพันธมิตรพิทักษ์? นี่คือโทษประหาร!”
ชิงเฟิงตะคอกใส่ เสียงดัง“ปัง”ทีหนึ่ง พื้นดินใต้เท้าแตกเป็นเสี่ยงโดยตรง ส่วนตัวของชิงเฟิงก็พุ่งมาด้านหน้าลี่เฉินแล้ว ตะโกนว่า “เอาหมัดฉันไปกินซะ!”
ลี่เฉินเตรียมต่อสู้ไว้พร้อมแต่แรก ขณะเดียวกันกับที่ชิงเฟิงเคลื่อนการโจมตีมาทางเขา ลี่เฉินระเบิดการโจมตีออกมาแล้ว ยกมือขึ้นชูหมัดหนึ่ง ควงออกไปยังชิงเฟิง
“ตึง!”
สองหมัดปะทะเข้าด้วยกัน ชั่วขณะนั้นระเบิดเสียงกระแทกแบบดังสนั่นออกมา
ร่างกายของลี่เฉินถอยหลังไปสิบกว่าก้าวโดยตรง จากนั้นถึงหยุดลง
ส่วนชิงเฟิง คาดไม่ถึงถอยหลังแค่เจ็ดก้าว
ภายใต้การโจมตีทีหนึ่ง ตัดสินได้ว่าใครแพ้ใครชนะ!
เพียงแค่ว่า ลี่เฉินอยู่เพียงแดนของแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น ส่วนชิงเฟิง กลับอยู่แดนของแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลาง พอมาถึงแดนนภา ความต่างของแดนเล็กไม่ว่าสักชั้นหนึ่ง ล้วนเป็นช่องว่างที่กว้างมาก
ลี่เฉินอยู่ภายใต้การระเบิดของหมัดนี้ กลับยังยืนตรงเอาไว้ได้ แม้กระทั่งยังโจมตีชิงเฟิงจนถอยไปได้เจ็ดก้าว ทำให้คนตื่นตกใจอย่างมากแล้ว
ในใจชิงเฟิงประหลาดใจมาก แขนที่เขาควงหมัดไปเมื่อสักครู่ กำลังสั่นเทาเล็กน้อย นี่เป็นเพียงคนของโลกทั่วไปที่เพิ่งเข้าสู่แดนนภาจริงเหรอ?
ลี่เฉินทำหน้าหยิ่งยโส จ้องชิงเฟิงแล้วพูดว่า “ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์ ก็แค่นี้เองเหรอ ถ้าพวกเราอยู่แดนเดียวกัน ฉันคงทำให้นายแพ้เหมือนหมา!”
“นายวอนหาที่ตาย!”
ชั่วขณะนั้นชิงเฟิงโมโหเดือดดาล พุ่งไปทางลี่เฉินอีกครั้ง
ลี่เฉินทำหน้าไม่กลัว ทั้งที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ ยังคงระเบิดสุดกำลังออกมาสู้
ตอนที่ลี่เฉินปะทะฝีมือกับชิงเฟิง ภายในค่ายกลสังหารวิญญาณหยางเฉินถูกผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์กลุ่มหนึ่งล้อมไว้ เดิมทีไม่มีทางฝ่าวงล้อมจากในค่ายกลออกมาได้
ทันใดนั้นหยางเฉินก้มหน้ามองอาการบาดเจ็บบนตัวแล้ว ในสายตาปรากฏแววตาความบ้าคลั่งขึ้นฉับพลัน กวาดสายตามองทุกคนของพันธมิตรพิทักษ์ พูดอย่างกัดฟันแน่น “พวกนายจะต้องชดใช้สำหรับวันนี้แน่! ฉันรับรอง!”
พอพูดจบลง เห็นเพียงหยางเฉินเงยหน้าทันใด ขณะเดียวกันยังอ้าแขนทั้งสองออก ในปากยังพึมพำคำพูดที่คนอื่นฟังไม่เข้าใจออกมาอีก
ทันใดนั้นเอง ออร่าบู๊บนตัวของเขาระเบิดออก ส่วนท้องฟ้าบนศีรษะของเขา ชั่วขณะหนึ่งเมฆดำหนาทึบ
“เขากำลังทำอะไร?”
ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์คนหนึ่ง มองหยางเฉินด้วยท่าทางตกใจ
สีหน้าของซือคงเคร่งขรึมถึงขีดสุดแล้ว พูดด้วยเสียงทุ้ม “ถ้าฉันเดาไม่ผิด เขาน่าจะกำลังใช้วิชาลับ มาพัฒนาความสามารถของตัวเอง”
“ร่างกายนี้ เพิ่งฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์มาเอง แบกรับความสามารถของแดนนภาขั้นสองชั้นต้นได้ ก็น่าเหลือเชื่อมากๆ แล้ว แค่มองก็จะพังทลายแล้ว
ซือคงบอกว่า “เทพมารน่าจะวางแผนอยากสละร่างกายนี้ทิ้งแล้ว”
“อะไรนะ?”
ทุกคนตกใจค้างสุดๆ กันหมด
ร่างกายที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ถึงแม้เป็นโลกบู๊โบราณ ล้วนไม่เคยเจอมาก่อน สำหรับเทพมารแล้ว ร่างกายร่างนี้ เป็นตัวแทนที่ดีที่สุด ถ้าเกิดสละทิ้ง กลัวว่าจะหาตัวแทนวิญญาณที่ดีกว่าได้ยากมาก
คาดไม่ถึงเทพมารอยากสละทิ้งแล้ว
“เทียบกับรักษาวิญญาณไว้ เทพมารยินยอมสละร่างกายนี้ทิ้ง นั่นปกติมาก!”
ซือคงพูดขึ้น ทันทีที่พูดจบ สีหน้าเขาเย็นเฉียบ เอ่ยอย่างเย็นชา “ฮึกเหิมกันให้เต็มที่เดี๋ยวนี้ เตรียมสู้สุดชีวิตเลย! ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดให้วิญญาณของเทพมารหลบหนีไปได้ รอตอนที่หาเจออีกครั้ง มีแต่จะทำให้พันธมิตรพิทักษ์ชดใช้แบบย่ำแย่กว่าเดิม”
เสียงพูดของซือคงเพิ่งจบ หยางเฉินก็ทำ“พิธี”วิชาลับสำเร็จแล้ว
เห็นเพียงทั่วตัวเขามีแต่เลือดสด ล้วนเป็นร่องรอยที่สยดสยอง ผิวหนังของเขา เหมือนกับใยแมงมุม แตกระแหงกระจายไปทั่ว
ภายใต้รอยแตกระแหง ยังมีไอมารสีดำซึมออกมาไม่ขาดสาย
ออร่าบู๊บนตัวของเขา ยิ่งใหญ่เกรียงไกรจนทำให้คนกลัว
“นี่เป็นพวกนายวอนหาที่ตายเอง! โทษคนอื่นไม่ได้!”
เสียงของหยางเฉินราวกับเสียงของเทพเจ้า ระเบิดอยู่ข้างหูของแต่ละคน
“เขาจะลงมือแล้ว เตรียมตัวให้พร้อม!”
ซือคงตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้นดึงดาบพกเล่มหนึ่งที่เอวออกมา นิ้วชี้กรีดไปบนคมดาบ บนตัวดาบ ล้วนเป็นแสงสีเลือดระยิบระยับ
“โครม!”
วินาทีต่อมา การโจมตีของหยางเฉินร่วงลง
ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์เก้าคน นอกจากซือคงแล้ว แปดคนอื่นๆ อยู่ภายใต้การโตมตีของหยางเฉิน ทั้งหมดกระอักเลือดสดออกมา
“ฟันให้ฉัน!”
ในเวลานี้เอง ซือคงตะโกนออกไป ดาบยาวตกลงไปยังหยางเฉินที่อยู่ในค่ายกลสังหารวิญญาณฉับพลัน
“ฉิ้ง!”
ภายในค่ายกล ทันใดนั้นหยางเฉินดึงมีดสีดำเล่มหนึ่งออกมา ก็คือมีดโลหิต ของอาถรรพ์สองเล่มปะทะเข้าด้วยกัน ส่งเสียงกระแทกที่เสียดแก้วหูออกมา
“ฟันอีก!”
ซือคงควงดาบยาวขึ้นอีกครั้งในทันใด ตกลงทางหยางเฉินอย่างแรงอีกครั้ง ฟันดาบลงครั้งนี้ ลักษณะพลังแกร่งกว่าครั้งเมื่อสักครู่นั้น
หยางเฉินที่อยู่ในค่ายกล บนใบหน้า ปรากฏแววความขึงขังออกมา เห็นชัดว่า การฟันดาบนี้ ยังไม่ตกลงมา ก็ทำให้เขารู้สึกถึงการคุกคามอันใหญ่หลวง
ภายในค่ายกลสังหารวิญญาณความสามารถของซือคงถูกพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย ในทางกลับกัน ความสามารถของหยางเฉิน กลับถูกกดขี่ไว้มาก
ถึงแม้ความสามารถของหยางเฉินจะได้รับการยกระดับขึ้นอีกครั้ง แต่อยากจะโจมตีฆ่าซือคงด้านในค่ายกลสังหารวิญญาณยังคงมีความยากเอามากๆ
บทที่ 1984 ใกล้พังทลายแล้ว
บทที่ 1986 กลับมาเดี๋ยวนี้