The king of War - บทที่ 1990 รับมืออย่างไร
The king of War บทที่ 1990 รับมืออย่างไร
ม่านพลังระหว่างโลกบู๊โบราณและโลกทั่วไป เดิมถูกฉีกออกเป็นร่องหนึ่งแล้ว หยางเฉินโยนปืนเทพบู๊ออกมาโดยตรง ระเบิดลักษณะพลังยิ่งใหญ่ดุจฟ้าถล่มดินทลาย พุ่งตรงไปที่รอยแยกม่านพลัง
ชั่วขณะนั้นสีหน้าซือคงเปลี่ยนไปอย่างมาก ตวาดใส่ “แกกล้า!”
เพียงแค่ ทุกอย่างล้วนสายไปเสียแล้ว ปืนเทพบู๊ทะลุผ่านท้องฟ้าไปเรียบร้อย แทรกกลางรอยแยกม่านพลังอย่างแม่นยำมาก
“ตูม!”
พลังอันโหดร้าย มีศูนย์กลางจากปืนเทพบู๊ โหมพัดไปทั่วทุกสารทิศ
ปืนอันนี้ เหมือนทำให้ชี่ทิพย์อันยิ่งใหญ่ระเบิดแล้ว พลังที่ยิ่งใหญ่ ฉีกรอยแยกม่านพลังกว้างกว่าเดิมโดยตรง
แต่ทว่านี่ยังไม่สิ้นสุด หยางเฉินถือโอกาสโบกมือ ปืนเทพบู๊กลับมาในมือของเขาอีกครั้ง
“พังให้ฉัน!”
เขาตะโกนเสียงดัง ปืนเทพบู๊ทะลุผ่านท้องฟ้าอีกครั้ง โจมตีเข้าเป้ารอยแยกม่านพลังอีกครั้งหนึ่ง
“รีบหยุดเขาไว้! ไม่อย่างนั้นรอยแยกม่านพลังจะยิ่งกว้างขึ้น!”
สีหน้าซือคงเปลี่ยนไปมาก ตะโกนเสียงดัง ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์กลุ่มหนึ่ง ต่างโจมตีไปยังหยางเฉินกันหมด
เพียงแต่ ตอนที่ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์ยังอยู่ในสภาพสูงสุด แม้จะพึ่งพาค่ายกลสังหารวิญญาณก็ยังทำอะไรหยางเฉินไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์ล้วนได้รับบาดเจ็บหนักแล้ว จะสามารถขวางหยางเฉินที่ระเบิดพลังอยู่ได้อย่างไร?
“ไสหัวไป!”
หยางเฉินตวาดใส่ทีหนึ่ง
ปืนเทพบู๊ร่วงลงจากท้องฟ้าอีกครั้ง
“ปัง!”
เสียงดังสนั่น ฟ้าถล่มดินทลาย
ชั่วขณะที่ปืนเทพบู๊ตกลงพื้น ระเบิดพลังอันโหดเหี้ยมส่วนหนึ่งออกมา โจมตีไปยังทั่วสารทิศโดยตรง
“ตึงๆๆ!”
เห็นเพียงกลุ่มผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์ กระเด็นออกไปตามๆ กัน
เพียงแค่ซือคงคนเดียวที่ไม่ได้โดนโจมตีจนถอยไป ยิ่งกว่านั้นยังมีกำลังต่อสู้
พอหยางเฉินขยับเท้า ก็ปรากฏตัวด้านหน้าซือคงทันที ยกหมัดหนึ่งขึ้นมา แล้วโจมตีลงไปอย่างแรง
ซือคงตวาดใส่ทีหนึ่ง ตบฝ่ามือลงทางหยางเฉิน
“ปึง!”
วินาทีต่อมา หมัดกับฝ่ามือปะทะเข้าด้วยกัน ระเบิดเสียงกระแทกแบบหนักอึ้งออกมา ทั้งสองต่างถอยหลังไป
หยางเฉินถอยหลังไปสามก้าว ส่วนซือคง ก็ถอยหลังไปเจ็ดก้าวเต็มๆ ถึงหยุดลง
ซือคงที่เดิมทียังมีความสามารถเหนือกว่าหยางเฉิน เวลานี้คาดไม่ถึงแพ้อยู่ในมือของหยางเฉินแล้ว
หยางเฉินจ้องซือคงด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า “ไสหัวกลับไปโลกบู๊โบราณ วันนี้จะไว้ชีวิตนายสักครั้ง วันหลังกล้ามายั่วยุอีก ตายสถานเดียว!”
“อ่า!”
ซือคงร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราด พ่นเลือดออกมาทันใด คาดไม่ถึงโมโหจนกระอักเลือดแล้ว
เขาจ้องหยางเฉินด้วยท่าทางเคียดแค้น พูดแบบกัดฟันแน่น “กล้ายั่วยุพันธมิตรพิทักษ์ ไม่ว่าแกมีเบื้องหลังแบบไหน ล้วนตายแน่!”
ในสายตาหยางเฉินปรากฏความคิดอยากฆ่าอันดุเดือดขึ้นฉับพลัน แต่ยังไม่ได้ลงมือสังหาร
ที่โลกบู๊โบราณ พันธมิตรพิทักษ์เป็นกลุ่มอิทธิพลชั้นนำแห่งหนึ่ง ยังพอสามารถผิดใจได้ แต่ถ้าเกิดฆ่าคนของพันธมิตรพิทักษ์แล้ว งั้นลักษณะจะต่างออกไปแล้ว
เวลานี้ ชี่ทิพย์ปริมาณมาก กำลังไหลสู่โลกทั่วไปอย่างบ้าคลั่ง ผ่านทางรอยแยกระหว่างโลกบู๊โบราณกับโลกทั่วไป
ทั่วทั้งโลก ชี่ทิพย์ของสำนักมารเข้มข้นมากที่สุด นี่สำหรับสำนักมารแล้ว ย่อมมีผลดีมหาศาล
ตั้งแต่รอยแยกสองโลกเริ่มต้นปรากฏขึ้นจนถึงตอนนี้ สำนักมารก็มีนักบูโดมากมายทะลุแดนบูโดแล้ว
แค่คาดการณ์ก็รู้ว่า หลังจากครอบครองม่านพลังอันนี้ ความสามารถของสำนักมาร จะเพิ่มสูงมาก
ไม่เพียงสำนักมาร นักบูโดทั้งภูเขามาร ล้วนจะเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนเป็นหลายเท่า เพราะชี่ทิพย์เปลี่ยนมาเข้มข้นอย่างกะทันหัน
ผู้แข็งแกร่งโลกทั่วไปกลุ่มหนึ่ง มองกันจนตาค้างไปตั้งแต่แรกแล้ว ความยิ่งใหญ่ของหยางเฉิน ทำให้พวกเขาตื่นตกใจมาก และเฝ้าปรารถนามาก
ซือคงจ้องหยางเฉินอย่างโหดร้าย จากนั้นพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “พวกเรายังจะได้เจอกันอีกแน่!”
พูดจบ เขาหมุนตัวออกไปอย่างโมโหเดือดดาล
ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์กลุ่มหนึ่ง ก็รีบตามซือคงออกไปด้วยกัน
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
และในเวลานี้ หยางเฉินตะโกนขึ้นทันใด
“คุณหยาง เรื่องก่อนหน้านี้เข้าใจผิดทั้งนั้น พวกเราไม่รู้ว่าคุณหยางอยู่ที่นี่ด้วย ถ้ารู้ละก็ ต่อให้พวกเราใจกล้าบ้าบิ่นแค่ไหน พวกเราก็ไม่กล้าล่วงเกินคุณหยางหรอกครับ!”
เจียงหยวนหลงพูดแบบหน้าหวาดวิตกเต็มที่
ก่อนหน้านี้เขาโดนเทพมารยืมร่างกายของหยางเฉินมาโจมตี
ถึงแม้วิญญาณของเทพมารจะสงบลงแล้ว แต่ว่าความสามารถที่หยางเฉินแสดงออกมา ยังคงไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถรับมือได้ ได้เพียงวอนขอความเมตตา
ผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงคนอื่นๆ ต่างอ้อนวอนกันหมด ขอร้องหยางเฉินให้ปล่อยพวกเขาไปสักครั้ง
“โทษอาจไม่ถึงตาย แต่ต้องทุกข์ทรมานแน่!”
หยางเฉินพูดแบบเย็นชา
เสียงพูดจบลง ภาพเงาของเขาหายไปจากที่เดิมแล้ว
“ตึง!”
ตอนที่ปรากฏตัวอีกที ก็มาอยู่ด้านหน้าเจียงหยวนหลง ทุกคนยังไม่ทันตอบสนองกลับมา ก็มองเห็นเจียงหยวนหลงล้มอยู่ที่พื้นเรียบร้อย ทั่วตัวมีแต่เลือดสด
เจียงหยวนหลงล้มลงบนพื้น หน้าเต็มไปด้วยความหมดหวัง “เสื่อมแล้ว! วิถีบู๊ของฉันเสื่อมแล้ว!”
จนกระทั่งวินาทีนี้ ทุกคนถึงเข้าใจคำพูดเมื่อสักครู่ของหยางเฉินว่าหมายถึงอะไร คาดไม่ถึงทำลายวิถีบู๊ของเจียงหยวนหลงเสื่อมลงโดยตรง
“ไปให้พ้น!”
หยางเฉินตวาดใส่
ผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงกลุ่มหนึ่ง ยังกล้ามัวพูดไร้สาระอยู่ที่ไหน รีบยกเจียงหยวนหลงออกไปทันที
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ ยังโดนหยางเฉินอาศัยกำลังของตนเองคนเดียวสั่นสะเทือนจนถอยไป นับประสาอะไรกับคนของตระกูลเจียงอย่างพวกเขา
“เฮือก!”
พันธมิตรพิทักษ์และผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงเพิ่งออกไป หยางเฉินพ่นเลือดออกทันใด กลิ่นอายวิถีบู๊บนตัวลดฮวบฉับพลัน
พอลี่เฉินขยับเท้า ก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าหยางเฉินแล้ว ประคองหยางเฉินไว้
“นายเป็นยังไงบ้าง?”
ลี่เฉินถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม
หยางเฉินตอบด้วยเสียงต่ำ “รบกวนท่านผู้อาวุโสพาผมไปที่หอเก็บหนังสือก่อนครับ!”
ลี่เฉินเข้าใจความหมายของหยางเฉินแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลง พาหยางเฉินไปในห้องลับใต้ดินของหอเก็บหนังสือแล้ว
หยางเฉินในเวลานี้ อาการบาดเจ็บสาหัสอย่างยิ่ง ราวกับคนพิการคนหนึ่ง
เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นอาถรรพ์ พยายามดูดซับชี่ทิพย์เข้มข้นที่สายมังกรปลดปล่อยออกมาช่วยตนเองฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ กลับพบว่า อาการบาดเจ็บของตนเองสาหัสเหลือเกิน เดิมทีไม่ทีทางดูดชี่ทิพย์เข้าสู่ในร่างกายได้
“สรุปเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ลี่เฉินมองหยางเฉินที่แม้แต่ฝึกฝนก็ยังทำไม่ได้ ถามแบบท่าทางกังวลใจ
หยางเฉินหัวเราะอย่างขมขื่น เอ่ยปากตอบว่า “ท่านผู้อาวุโสคงไม่คิดหรอกมั้งว่า ผมจะครอบครองความสามารถเทียบเท่าแดนนภาขั้นสองชั้นต้นได้จริงๆ?”
ลี่เฉินพูดแบบตกใจ “หรือว่าไม่ใช่?”
หยางเฉินถึงพูดตามตรงว่า “วิญญาณของเทพมารยังอยู่ในร่างกายผม ก่อนหน้านี้ถูกผมบังคับระงับไว้ แต่ถ้าจัดการผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ ยังต้องอาศัยความสามารถของเขา เดิมทีผมไม่มีทางทำได้ เทพมารเอาพลังให้ผมยืม ผมถึงโจมตีซือคงพ่ายแพ้ไปได้ครับ”
“เพียงแค่ ศึกครั้งนี้สร้างอาการบาดเจ็บต่อร่างกายของผมเยอะมาก อยากจะฟื้นฟู กลัวว่าจะยากมากครับ”
“เหตุผลที่ผมให้ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์กลับไป หนึ่งคือกังวลว่าฆ่าคนของพวกเขาแล้ว จะโดนพันธมิตรพิทักษ์ตามฆ่าไม่เลิก สองคือความสามารถการแบกรับของร่างกายผมถึงขั้นสุดแล้ว ถ้าปะทะฝีมือต่อไป เดิมทีจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือคงครับ”
จนกระทั่งวินาทีนี้ ลี่เฉินถึงเข้าใจกระจ่าง ที่แท้เป็นเทพมารให้หยางเฉินยืมพลังแล้ว มิน่าหยางเฉินใช้แค่ความสามารถที่เนื้อหนังฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์มา ก็บดขยี้ซือคงที่อยู่แดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอดได้
ลี่เฉินถามด้วยหน้าตาเคร่งขรึม “วิญญาณของเทพมารยังอยู่ในร่างกายของนาย? มีวิธีให้เขาออกไปไหม?”
หยางเฉินส่ายหน้าอย่างขมขื่น “ก่อนหน้านี้อยู่ในค่ายกลสังหารวิญญาณวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บหนักมากแล้ว เพราะเหตุนี้ ผมถึงควบคุมร่างกายของตัวเองได้ใหม่ครับ”
“ถึงแม้ผมจะไม่มีวิธีทำให้เขาออกไป แต่ในช่วงเวลาระยะหนึ่งต่อจากนี้ ผมยังคงสามารถกำราบวิญญาณของเทพมารได้อยู่”
ลี่เฉินถึงวางใจนิดหนึ่ง แต่ยังคงดูตึงเครียดเต็มหน้า มองหยางเฉินแล้วพูดว่า “พันธมิตรพิทักษ์จะไม่ปล่อยนายไปง่ายๆ เด็ดขาด ตอนนี้อาการบาดเจ็บของร่างกายนายหนักเกินไป ไม่มีทางฝึกฝน ถ้าพันธมิตรพิทักษ์มาอีก นายจะรับมือยังไง?”