The king of War - บทที่ 2069 เล่ห์เหลี่ยมแผนร้าย
ขณะนั้น ภายในรถที่กำลังขับออกจากแดนเหนืออย่างรีบเร่ง
ฉีอิงเว่ยกับใบหน้าที่ชักกะตุกด้วยไฟแค้น กัดฟันขบกรามแน่น ความโกรธในใจ ดูเหมือนจะกระทุ้งตัวเขาให้ระเบิดแล้ว
ฉีอิงเสว่มองที่ฉีอิงเว่ยพูดด้วยสีหน้าห่วงใยว่า “พี่(ชาย) พี่อย่าได้เสียใจเลย ไอ้บัดซบนั่นมันก็ได้แต่อาศัยพลังของเทพมารมาสู้ ถึงได้ผยองกล้าแบบนี้ ถ้าหากไม่มีวิญญาณของเทพมารสิงอยู่ในตัวมัน มันก็แค่มดปลวกเท่านั้น”
“หุบปาก!”
ฉีอิงเว่ยตวาดใส่ ขบกรามพูดไปว่า “เธอคิดว่าจริงหรือที่เขาสามารถอาศัยใช้พลังเทพมารได้ จึงถล่มข้าแพ้ได้อย่างง่ายดาย?”
ฉีอิงเสว่ตกใจ “แล้วไม่ใช่หรือ?”
ฉีอิงเว่ยพูดด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “เขาใช้พลังแท้จริงของเขาถล่มข้าจนแพ้ ถ้าเขาอาศัยใช้พลังของเทพมาร พวกเราคงตายอยู่ในสำนักบู๊ไปแล้ว”
“ต้องรู้นะว่า เวลานี้ถึงแม้สถานะของเทพมารจะเป็นแค่สภาวะวิญญาณ แต่เขายังสามารถอาศัยร่างของหยางเฉิน ระเบิดเอาพลังฝีมือของผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นสุดยอดออกมาได้”
“หากว่าหยางเฉินสามารถอาศัยพลังของเทพมารมาสู้ได้จริง มีหรือจะปล่อยพวกเรามาง่าย ๆ?”
ฉีอิงเสว่จึงเข้าใจถึงความเป็นไปมายังไงจริง
นางจึงพูดออกมาด้วยความไม่อยากจะยอม “แล้วถ้างั้น พวกเราจะปล่อยเขาไปแบบนี้หรือ?”
“ปล่อยมัน?”
ฉีอิงเว่ยหัวเราะเสียงเยือก พูดว่า “การถูกหยามในวันนี้ มีหรือที่ข้าจะยอมเลิกรากันดี ๆ?”
ฉีอิงเสว่ร้อนใจขึ้นมาในพลัน รีบพูดขึ้นว่า “พี่(ชาย) แต่ไอ้บัดซบนั่นมันฝังตราประทับวิถีมารไว้ในสมองของพี่ไม่ใช่หรือ?ถ้าพวกเราจะไปแก้แค้น เขาคงต้องจุดระเบิดตราประทับวิถีมารเป็นแน่”
ฉีอิงเว่ยพูดเสียงหนาวเยือก “ถ้ามันตายไป ตราประทับวิถีมารก็จะหายไป ทว่า เธอเห็นข้าเป็นไอ้โง่จริง ๆ หรือไง ถึงจะได้ลงมือไปฆ่าพวกมันด้วยตัวเอง?”
ฉีอิงเสว่ก็ยังข้องใจ ถามไปว่า “พี่(ชาย) พี่มีแผนจัดการกับพวกมันอยู่แล้วหรือ?”
ฉีอิงเว่ยพูดว่า “ข้าสงสัยอยู่ว่า วิญญาณของเทพมารถ้าไม่ใช่ออกไปจากตัวหยางเฉินแล้ว ไม่ก็ ต้องมีเหตุอะไรบางอย่าง วิญญาณเทพของเทพมารอยู่ในสภาวะหลับใหล
พอพูดคำนี้ออกไป ฉีอิงเสว่ตื่นเต้นขึ้นมาเต็มหน้า “พี่(ชาย) จริง ๆ หรือ?”
ฉีอิงเว่ยพูดต่อไปว่า “ก็อย่างที่ข้าบอกไว้ตอนแรก ถ้าหากเขาสามารถใช้วิญญาณของเทพมารมาใช้ต่อสู้ได้อย่างใจต้องการ เชื่อได้ว่าเขาต้องไม่ปล่อยพวกเราอย่างแน่นอน”
“ในเมื่อเขายอมปล่อยพวกเรา ก็บ่งชัดได้ว่า เขาก็ยังเกรงตระกูลฉีที่อยู่เบื้องหลังของเรา ฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าฆ่าพวกเรา”
ฟังที่ฉีอิงเว่ยแจกแจงมา ฉีอิงเสว่จึงรู้สึกตาสว่างขึ้นมาในพลัน พูดอย่างตื่นใจว่า “พูดแบบนี้ นั่นก็ต้องหมายถึงว่า ไอ้เด็กน้อยคนนี้ เพียงแต่เขียนเสือให้วัวกลัว แท้ที่จริงเขาไม่ได้มีอิทธิพลหนุนหลังใหญ่โตอะไรเลยสิ?”
ฉีอิงเว่ยผงกหัว “ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมา บอกว่าเทพมารได้ใช้ร่างของหยางเฉินออกประกาศว่า สำหรับผู้แข็งแกร่งที่ต่ำกว่าแดนนภาขั้นสองชั้นยอดเท่านั้น ใครคิดจะประมือกับหยางเฉิน ลงมือได้เลย ขอเพียงผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่าแดนนภาขั้นสองชั้นยอดไม่ลงมือเป็นอันใช้ได้”
“คำพูดนี้ ฟังดูเหมือนกับว่าจะยืมมือผู้แข็งแกร่งโลกบู๊โบราณล่างมาเป็นคู่ซ้อมให้หยางเฉิน มาดูในตอนนี้ ไม่ใช่เป็นอย่างที่ว่าแล้ว แต่เป็นเพราะว่าวิญญาณของเทพมารอยู่ในสภาวะหลับใหล หรืออาจจะออกไปจากร่างของหยางเฉินแล้ว จึงได้ใช้วิธีนี้มาสยบบรรดาเหล่าผู้แข็งแกร่งโลกบู๊โบราณล่าง”
“พวกเราเพียงแต่แอบปล่อยข่าวนี้ออกไป ไม่ต้องให้ผู้แข็งแกร่งตระกูลฉีลงมือ ก็จะมีผู้แข็งแกร่งออกมาลงมือจัดการหยางเฉินเอง”
“ถึงเวลานั้น เธอคิดว่าตัวมันกับที่น้องสุดที่รักของมัน ยังจะมีชีวิตรอดได้หรือ?ขอเพียงไอ้บัดซบคนที่ฝังตราประทับวิถีมารใส่ข้าตายไปได้ ตราประทับวิถีมารในตัวข้าก็สูญสลายหายไปเอง”