The king of War - บทที่ 2092 การตื่นตัวของโลกมนุษย์
ในบรรดานักบูโดหลายสิบคนจากโลกบู๊โบราณล่าง พวกเขาส่วนมากมีอยู่ในแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แน่นอนว่าย่อมมีแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางอยู่ด้วย
แม้ว่า เมิ่งชิงหลัน จะอยู่เพียงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แต่เธอก็ไม่มีความกลัวบนใบหน้าเลยสักนิดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งแดนนภามากมาย อีกทั้งเธอกลับเกิดจิตสงครามอันรุนแรงขึ้นมา
ผู้นำคือนักบูโดที่มีความแข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าสามารถจัดการ เมิ่งชิงหลัน ได้ แต่กลับไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเขาเห็นรูปลักษณ์ที่ดูถูกเหยียดหยามของ เมิ่งชิงหลัน เขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ
“ถ้าไม่อยากตายก็นั่งลงซะ!”
ในเวลานั้นเอง เสียงคำรามด้วยความโกรธก็ดังก้องไปทั่วห้องประชุม
ดวงตาของ เย่จางกั๋ว เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง เขากวาดตามองนักบูโดของโลกบู๊โบราณล่างพวกนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าพวกนายกล้าแตะต้องฉัน ฉันรับประกันว่าพรุ่งนี้พวกนายจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์อีก ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองดูได้!”
บนตัวของเย่จางกั๋ว ยังแผ่ลมปราณแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นออกมาเช่นกัน
เขาเป็นเหมือน เมิ่งชิงหลัน แต่เดิมล้วนมีความแข็งแกร่งขั้นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แดนบูโดแต่เดิมก็ใกล้เคียงกับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นอย่างยิ่งแต่ถูกจำกัดด้วยชี่ทิพย์ที่มีความเข้มข้นต่ำในโลกมนุษย์ ไม่นานหลังจากที่ม่านพลังถูกทำลาย พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์ได้อย่างง่ายดายและเข้าสู่แดนนภา
แม้ว่าจะอยู่เพียงระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แต่ประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเขานั้นเหนือกว่าแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นไปมาก
นักบูโดที่สามารถบำเพ็ญเพียรไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดในโลกมนุษย์ได้ก่อนที่ม่านพลังจะถูกทำลาย มีใครบ้างที่ไม่ใช่ผู้มีพรสวรรค์ด้านบูโด?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมิ่งชิงหลัน ซึ่งมีอายุเพียง 30 ปีได้ครอบครองความแข็งแกร่งระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว
ความโอหังของ เมิ่งชิงหลัน และความแข็งแกร่งของ เย่จางกั๋ว ทำให้ความโกรธภายในใจของนักบูโดโลกบู๊โบราณล่างแต่ละคนลดลงไปอย่างรวดเร็ว
นักบูโดโลกบู๊โบราณล่างอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน พวกเขาเพิ่งได้สติว่า เมื่อครู่พวกเขาเกิดความคิดที่จะสังหารผู้บัญชาการของกองยุทธการเขตจงโจวและผู้พิทักษ์ชายแดนตะวันตกของจิ่วโจวในอดีต
แม้ว่าความแข็งแกร่งของนักบูโดในโลกมนุษย์จะมีไม่มาก แต่ก็ยังมีพวกสมาคมผู้อาวุโสในโลกมนุษย์ สมาคมผู้อาวุโสเองก็ยังควบคุมกองยุทธการอยู่ด้วย ส่วนกองยุทธการ ก็มีอาวุธรบขั้นสูงมากมาย หากกองยุทธการต้องการที่จะแตกหักกับกองกำลังโลกบู๊โบราณล่างก็สามารถใช้อาวุธรบโจมตีโลกบู๊โบราณล่างได้โดยตรง โลกบู๊โบราณล่างไหนเลยจะต้านทานได้?
“ฮึ่ม!”
เมื่อเห็นว่านักบูโดโลกบู๊โบราณล่างค่อยๆ กลับไปนั่งที่ เมิ่งชิงหลันก็ไม่ได้เก็บสีหน้าที่ดูถูกคนเหล่านี้และเยาะเย้ย “พวกกลุ่มขยะหลงตัวเอง หากพวกนายเกิดในโลกมนุษย์ อย่าว่าแต่แดนนภาเลย แม้กระทั่งพลังแดนเหนือมนุษย์ก็ยังไม่มี”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นักบูโดทุกคนในโลกบู๊โบราณล่างต่างก็โกรธ แต่กลับไม่กล้าเอ่ยอะไร
ส่วน เมิ่งชิงหลัน กลับไม่ได้โมโหอะไรเพราะนี่คือความจริง
ความเข้มข้นของชี่ทิพย์ของโลกบู๊โบราณล่างนั้นสูงกว่าของโลกมนุษย์อยู่มาก คนวัยกลางคนหรือวัยชราที่บำเพ็ญเพียรในโลกบู๊โบราณล่างจนถึงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นถือเป็นพรสวรรค์ธรรมดาๆ และถึงขั้นอ่อนแอเกินไปด้วยซ้ำ
ตัวอย่างเช่นในโลกมนุษย์ปัจจุบัน หลังจากม่านพลังถูกทำลาย นักบูโดจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดอันโดดเด่น สามารถใช้เวลาแค่ครึ่งเดือนในการฝ่าแดนได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และมีผู้แข็งแกร่งแดนนภาแล้วไม่น้อย
ตามยังมีแนวโน้มแยยนี้ ในอีกไม่กี่ปีโลกมนุษย์ก็จะมีนักบูโดแดนนภาขั้นสาม
เมื่อเห็นว่านักบูโดของโลกบู๊โบราณล่างต่างเหี่ยวเฉา เมิ่งชิงหลัน จึงเลิกถือสาพวกเขาและกล่าวว่า “หลังจากการประชุม กองกำลังนักบูโดจะรับสมัครคน กองยุทธการจะประกาศออกไป ในขณะเดียวกันก็จะเปิดเผยเรื่องข้อกำหนดและวิธีการลงทะเบียนด้วย ถึงตอนนี้ทุกท่านให้ความใส่ใจกับมันก็พอ”
หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่นักบูโดของโลกบู๊โบราณล่างเหล่านั้นอีกครั้งแล้วพูดอย่างเย็นชา “อ้อใช่ ตอนนี้สามารถเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดสำหรับการรับสมัครกองกำลังนักบูโดให้ทุกท่านทราบได้เลย นั่นคือกองกำลังนักบูโดจะไม่รับนักบูโดจากโลกบู๊โบราณล่างเด็ดขาด”
บูม!
ทันทีที่พูดออกไป นักบูโดหลายคนที่อยู่ในโลกบู๊โบราณล่างก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
แม้ว่าพวกเขาจะเดาได้นานแล้วว่ากองกำลังนักบูโดจะไม่รับคนของโลกบู๊โบราณล่าง แต่การที่เมิ่งชิงหลันกล่าวในการประชุมที่สำคัญแบบนี้ เห็นได้ว่าเป็นการดูถูกพวกเขา
“เมิ่งชิงหลัน ทำเกินไปแล้ว!”
ผู้นำของโลกบู๊โบราณล่างกัดฟันของเขาและพูดด้วยความโกรธ “ตอนนี้โลกมนุษย์และโลกบู๊โบราณล่างได้รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้มันเป็นโลกใหม่ อาศัยอะไรกองกำลังนักบูโดถึงไม่รับนักบูโดจากโลกบู๊โบราณล่าง? เธอต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับพวกเรา!”
“คำอธิบาย?”
เมิ่งชิงหลัน เยาะเย้ยแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “การที่จิ่วโจวพัฒนามาเป็นประเทศที่มีอำนาจในปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่เป็นความเฟื่องฟูที่มาจากความพยายามของคนรุ่นก่อนๆ ในโลกมนุษย์ของจิ่วโจว ในร้อยปีที่ผ่านมา จิ่วโจวประสบกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่หลากหลายครั้ง พวกนายโลกบู๊โบราณล่างเคยยื่นมือเข้ามาช่วยไหม?”
“ตอนนี้ในยุคที่จิ่วโจวเฟื่องฟู พวกนายคนโลกบู๊โบราณล่าง สมควรได้ครอบครองมันรึเปล่า?”
“สมาคมผู้อาวุโสอนุญาตให้กองกำลังของโลกบู๊โบราณล่างเข้าสู่โลกมนุษย์ นี่ถือเป็นบุญคุณต่อโลกบู๊โบราณล่างองพวกนายอย่างมากแล้ว แล้วพวกนายจะมาคิดเพลิดเพลินไปกับความเจริญรุ่งเรืองที่คนโลกมนุษย์แลกมาด้วยแรงกายแรงใจได้อย่างไร?”
“อาศัยอะไร?”
เมิ่งชิงหลันยังคงถามต่อไป ทุกครั้งที่เธอถาม ออร่าของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นไปอีก หลังจากซักถามอยู่หลายครั้ง ร่างของเธอก็เต็มไปด้วยจิตสงครามและจิตสังหาร ก่อนจะกวาดสายตามองกลุ่มนักบูโดในโลกบู๊โบราณล่างพวกนั้นทีละคน
นักบูโดโลกบู๊โบราณล่างทุกคนที่สบตากับเธอ ต่างก็ต้องหลบสายตาไม่กล้ามองเธอ
“แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ!”
ฉากนั้นทั้งงานก็ดังก้องด้วยเสียงปรบมืออย่างดุเดือดในทันที
ผู้คนในโลกมนุษย์ต่างพูดกันอย่างตื่นเต้นว่า “หัวหน้าเมิ่งพูดถูก! นี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่คนในโลกมนุษย์ไม่รู้กี่รุ่นก่อนหน้านี้ได้แลกเลือดเนื้อและความพยายามของพวกเขามา การอนุญาตให้พวกนายเข้าสู่โลกมนุษย์ ถือเป็นความเมตตาครั้งใหญ่แล้ว แต่พวกนายกลับยังกล้าจะโลภในของของคนอื่น คุณสมควรได้รับหรือไม่?”
“ตั้งแต่ม่านพลังทลายลง นักบูโดโลกบู๊โบราณล่างก็เข้าสู่จิ่วโจวอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา พวกนายที่อ้างว่าตนเองเป็นนักบูโดที่เก่งกาจจากโลกบู๊โบราณล่าง ได้ใช้กำลังปราบปรามกองกำลังหลักในโลกมนุษย์ของพวกเรา พวกนายทำเรื่องชั่วช้าไปมากขนาดไหนแล้ว? คิดว่าพวกเราชาวมนุษย์รังแกกันได้ง่ายๆ งั้นหรือไง?
“พวกขยะจากโลกบู๊โบราณล่าง นับจากวันนี้ไป จะมีกองยุทธการและกองกำลังนักบูโดปกป้องพวกเรา เราจะติดตามกองยุทธการและกองกำลังนักบูโดเพื่อปกป้องยุคสมัยอันรุ่งเรืองที่แลกเปลี่ยนมาจากความเหนื่อยจากของหลายชั่วอายุคน ไม่มีทางให้พวกสวะโลกบู๊โบราณล่างอย่างพวกนายได้ครอบครองมันแน่!”
“พวกขยะจากโลกบู๊โบราณล่าง ออกไป!”
“พวกขยะจากโลกบู๊โบราณล่าง ออกไป!”
……
ชั่วครู่หนึ่ง ในห้องประชุมขนาดใหญ่ ผู้คนต่างตะโกนขึ้นมา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ในขณะนี้ ผู้ที่ถูกรังแกมาเป็นเวลาครึ่งเดือนครึ่งเดือนได้หาผู้สนับสนุนของพวกเขาเจอแล้ว และพวกเขาก็ตื่นตัวขึ้นเช่นกัน
นักบูโดในโลกบู๊โบราณล่างแต่ละคนล้วนมีสีหน้าดูไม่ได้สุดขีด หากพวกเขาต้องการจะลงมือ ต่อให้มี เมิ่งชิงหลัน และ เย่จางกั๋ว ลงมือต่อสู้ และพวกเขาสามารถฆ่าคนพวกนี้ได้ แต่พวกเขาไม่กล้า
จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาถึงตระหนักได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักบูโดในโลกบู๊โบราณล่างที่จะเป็นอิสระในโลกมนุษย์