The king of War - บทที่ 2129 ตระกูลเหอยินยอม
The king of War บทที่ 2129 ตระกูลเหอยินยอม
ตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งจงโจว ตระกูลเหอ
ภายในห้องรับร้องที่กว้งใหญ่ เหอหยวนหงนั่งอยู่ตรงที่นั่งประธาน สองพ่อลูกเฉินไห่โจวกับเฉินหยางนั่งอยู่ตำแหน่งแขก นอกจากนั้นยังมีเหล่าระดับสูงของตระกูลเหอก็อยู่ด้วย
“การที่ตระกูลเฉินยอมเกี่ยวดองกับตระกูเหอนั้น ถือเป็นเกียรติของตระกูลเหออย่างยิ่งเลยครับ!”
เหอหยวนหงพูดไปหัวเราะไป ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม บ่งบอกว่าพอใจกับการที่ตระกูลเฉินมาพูดเรื่องเกี่ยวดองถึงบ้านแบบนี้
คนอื่นๆ ของตระกูลเหอต่างก็ทำหน้ายิ้มแย้มเหมือนกัน
การเป็นตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจวนั้น พวกเขาต่างรู้ดีว่า ตระกูลบู๊โบราณเฉินมีความหมายว่าอะไร
เมื่อก่อน โลกบู๊โบราณล่างนั้นเป็นดินแดนในฝันของเหล่านักบู๊มาโดยตลอด มีเพียงคนที่บรรลุถึงแดนนภาแล้วเท่านั้น ถึงสามารถเข้าไปในโลกบู๊โบราณล่างได้
ตอนนี้ หนึ่งในสายเลือดโดยตรงของตระกูลบู๊โบราณกลับมาคุยเรื่องเกี่ยวดองด้วยตนเองสำหรับตระกูลเหอแล้ว นี่จึงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
ทุกคนในตระกูลเหอ ต่างรู้สึกเหมือนมีโชคหล่นใส่หัว
กับการตอบสนองของตระกูลเหอ สองพ่อลูกเฉินไห่โจวกับเฉินหยางก็พอใจมากเหมือนกัน
เฉินไห่โจวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้โลกมนุษย์กับโลกบู๊โบราณได้หลอมรวกันอย่างสมบูรณ์แล้วทุกคนต่างเป็นคนของโลกใหม่ผมเชื่อว่า ภายใต้การสนับสนุนของตระกูลเฉิน ตระกูลเหอไม่เพียงจะได้เป็นตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจว แต่ยังจะได้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดใจจิ่วโจวด้วย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหอหยวนหงพูดพร้อมหัวเราะว่า “ขอบคุณสำหรับคำอวยพร!”
ถึงในใจเหอหยวนหงจะกำลังดีใจ แต่เขาก็รู้ดีว่า อยู่ดีๆ ตระกูลเฉินไม่มีทางมาพูดเรื่องเกี่ยวดองถึงที่หรอก จึงได้พูดไปว่า“คุณเฉิน เมื่อกี้ผมได้ทำตามคำขอร้องของคุณโดยการลงมือกับตระกูลกู้แล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ภายในสามวัน ตระกูลกู้ต้องหายไปจากจงโจวอย่างแน่นอนครับ”
เฉินไห่โจวพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ตระกูลเหอออกโรงเองแบบนี้ การที่ตระกูลกู้จะหายไปมันก็อยู่ที่เวลาเท่านั้น”
พูดจบ เขาก็หันมองไปที่ลูกชาย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือลูกชายของผมเฉินหยาง และเป็นคนที่จะทำการเกี่ยวดองกับตระกูลเหอขอพวกคุณ เจ้าบ้านเหอเรียกหญิงสาวของตระกูลเหอที่จะทำการดูตัวทั้งหมดออกมาได้แล้ว ลูกชายผมจะได้เลือกดู”
“ครับ!”
เหล่าระดับสูงของตระกูลกู้ ต่างติดต่อหญิงสาวที่จะมาดูตัวที่อยู่ในเส้นสายของตัวเอง
ใครๆ ต่างก็รู้ นี่เป็นโอกาสขอพวกเขา ถ้าหญิงสาวในเส้นสายของพวกเขาถูกเฉินหยางเลือก เส้นสายของพวกเขาที่อยู่ในตระกูลเหอก็จะมีตำแหน่งที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง หญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานของตระกูลเหอก็มากันครบแล้ว
หญิงสาวทุกคนต่างตัวกันมาแล้ว แต่ด้วยความที่เวลามีจำกัด พวดเธอจึงแต่งตัวได้ไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่ก็สามารถทำให้ด้านที่สวยที่สุดของพวกเธอถูกแสดงออกมาแล้ว
เหอหยวนหงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายเฉิน หญิงสาวที่ยังไม่เคยแต่งงานของตระกูลเหอต่างมากันครบแล้ว คุณลองเลือดดูว่ามีคนที่ถูกใจบ้างมั้ย?”
เฉินหยางยิ้มออกมาที่มุมปาก สายตามองผ่านหญิงสาวทุกคนของตระกูลเหอ แต่เฉินหยางเห็นผู้หญิงมาเยอะ จึงไม่ค่อยให้ความสนใจกับหญิงสาวของตระกูลเหอพวกนี้เท่าไหร่
พอเห็นเขาเอาแต่ส่ายหน้า คนของตระกูลเหอต่างพากันตื่นเต้น เหอหยวนหงก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
เขารู้ดีว่า มีเพียงเฉินหยางถูกใจผู้หญิงของตระกูลเหอเข้าเท่านั้น ตระกูลเหอถึงมีสิทธิ์เกี่ยวดองกับตระกูลเฉิน ไม่อย่างนั้น ทุกอย่างมันก็สูญเปล่า
ในตอนที่คนของตระกูลเหอกำลังกระวนกระวายใจอยู่นั้นเอง ในที่สุดใบหน้าของเฉินหยางก็มีรอยยิ้มปรากฏออกมา ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นมาชี้ไปที่หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบคนหนึ่ง แล้วพูดไปว่า “เธอออกมานี่!”
พอได้ยินอย่างนั้น เหอหยวนหงก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที หัวเราะแล้วพูดไปว่า “เหอเสว่ การที่คุณชายเฉินถูกใจเจ้า มันเป็นสาวนาที่บรรพบุรุษของตระกูลเหอสั่งสมมานับพันปีเลยนะ!”
เหอเสว่ทำหน้าตื่นเต้น การที่ถูกใจเฉินหยางมันทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก
คนในเส้นสายของเหอเสว่ต่างทำหน้ายิ้มแย้ม
แต่ในตอนที่ทุกคนคิดว่าการเลือกของเฉินหยางได้สิ้นสุดลงแล้ว เฉินหยางกลับเริ่มเลือกคนต่ออีกครั้ง
ในตอนที่เฉินหยางเดินถึงตรงหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง สายตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ยิ้มออกมาที่มุมปาก ยกมือชี้ไปที่เธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เธอด้วย ออกมา!”
หญิงสาวหน้าซีดขึ้นมาทันที เพื่อไม่ให้ถูกเลือก ก่อนหน้านี้เธอได้แต่งหน้าให้ตัวเองดูขี้เหร่ขึ้น แต่นึกไม่ถึงว่ายังจะถูกเฉินหยางเลือกอีก
พอเห็นหญิงสาวยังไม่ได้เดินออกมา เหอหยวนหงก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างไม่ชอบใจว่า “เหออี้ นี่แกกำลังทำอะไรอยู่? คุณชายเฉินถูกใจแกแล้ว ยังไม่รีบออกมาอีก?”
หญิงสาวคนนี้ก็คือเซี่ยเหอ หลังกลับตระกูลเหอ ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเหออี้
เซี่ยเหอกัดริมฝีปาก แล้วพูดกับเฉินหยางไปว่า “ในหมู่วัยรุ่นของตระกูลเหอ ฉันอายุค่อนไปทางมากเกือบสามสิบแล้ว หน้าก็ขี้เหร่ไม่ได้มีอะไรที่เหมาะสมกับคุณชายเฉินเลยค่ะ คุณชายเลือกคนอื่นดีกว่า!”
เฉินหยางเลิกคิ้วขึ้น การเป็นนักบูโดคนหนึ่ง ทำไมเขาจะมองไม่ออกว่าเซี่ยเหอจงใจแต่งให้ตัวเองดูขี้เหร่?
เขาคำอย่างไม่ชอบใจออกมาทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดไปว่า “ทำไม? เธอไม่ยินยอมอย่างนั้นเหรอ?”
เซี่ยเหอรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่ไม่ยอม แต่ฉันรู้ดีว่าตัวเองต้อยต่ำ ต่อให้อยู่ในตระกูลเหอ ฉันก็เป็นแค่ลูกนอกสมรสที่เพิ่งถูกรับกลับมาเท่านั้น จึงไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะแต่งงานกับคุณได้”
เหอยวนหงโกรธจนแทบเป็นลม แล้วตะคอกไปว่า “หุบปาก!”
หลังตะคอกใส่เซี่ยเหอ เหอหยวนหงก็รีบหันมาพูดกับเฉินหยางว่า “คุณชายเฉิน นี่คือเหออี้หลานสาวของผม ความจริงเธอนี่แหละหญิงสาวสวยที่สุดในตระกูลเหอ ในเมื่อคุณชายเฉินถูกใจ งั้นก็ให้เธอแต่งงานกับคุณเลย”
เฉินหยางยังไม่ทันได้ตอบ เฉินไห่โจวขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นแค่หญิงสาวของโลกมนุษย์ ยังไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาแต่งงานกับลูกชายฉัน ที่ลูกชายฉันเลือกมันคือเมียเก็บ”
“ว่ายังไงนะ?”
“เกี่ยวดองที่พวกเขาพูดถึง ไม่ใช่สองคนผัวเมีย แต่คือการให้หญิงสาวของตระกูลเรา ไปเป็นเมียเก็บที่ตระกูลเฉินรึ?”
“การที่พวกเขาทำแบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ? ตระกูลเหอของเราเป็นถึงเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจว หญิงสาวของตระกูลเหอ จะไปเป็นเมียเก็บของคนอื่นได้ยังไง?”
……
ทันใดนั้น คนของตระกูลเหอต่างพากันวิจารณ์ รู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องนี้มาก
เหอหยวนหงช็อกไปทันที ตอนแรกเขาคิดว่าเฉินหยางจะเลือกภรรยา แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นการเลือกเมียเก็บ ในโลกมนุษย์ มันไม่มีคำว่าเมียเก็บหรอกนะ
“แน่นอนว่า ถ้าเจ้าบ้านเหอคิดว่าการให้หญิงสาวของตระกูลเหอมาเป็นเมียเก็บของลูกชายผมมันเป็นเรื่องที่น่าอาย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ผมคิดว่า ตระกูลอื่นๆ ในจงโจว ก็ยังยินดีที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลเฉินของเรา”
เฉินไห่โจวมองดูเหอหยวนหงที่ไม่พูดไม่จา จึงได้พูดไปอย่างกะทันหัน
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น แล้วพูดกับเฉินหยางว่า “เฉินหยาง เราไปกันเถอะ!”
เฉินหยางพยักหน้า เตรียมจะออกไปกับ เฉินไห่โจว
เซี่ยเหอที่เพิ่งถูกเฉินหยางเลือก ก็แอบรู้สึกโล่งอก ขอแค่คนของตระกูลเฉินจากไป เธอก็ปลอดภัยแล้ว
แต่หังจากที่คนของตระกูลเฉินหันหลังแล้วเดินจากไปได้ไม่ไหล เหอหยวนหงก็รับพูดออกมาว่า “รอเดี๋ยว!”
เฉินไห่โจวกับเฉินหยางหยุดเดิน ทั้งสองหันมองเหอหยวนหงด้วยสีหน้าที่จะยิ้มไม่ยิ้ม เฉินไห่โจวถามไปว่า “เจ้าบ้านเหอมีธุระอะไรมั้ย?”
เหอหยวนหงหัวเราะชอบใจออกมา เดินมาข้างหน้า จับแขนของเฉินไห่โจวแล้วพูดไปว่า “การที่ได้เป็นเมียเก็บของคุณชายเฉิน ถือเป็นวาสนาที่สะสมมาแปดชาติของพวกเธอ แล้วทำไมพวกเราถึงต้องปฏิเสธด้วย?”
“อย่าว่าแต่คุณชายเฉินเลอกแค่สองคนเลย ต่อให้เลือกหญิงสาวทุกคนของตระกูลเหอที่อยู่ที่นี่ พวกเราก็ยินดี”