The king of War - บทที่ 2130 คุณปู่ผู้ชั่วช้า
The king of War บทที่ 2130 คุณปู่ผู้ชั่วช้า
คำพูดของเหอหยวนหงทำเอาทุกคนถึงกับอึ้ง ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้
ถ้าตระกูลเฉินต้องการมาเกี่ยวดองกับตระกูลเหอจริงๆ ตระกูลฉินก็มีสิทธิ์เลือกหญิงสาวคนหนึ่งที่จะแต่งงานด้วยได้อย่างเต็มที่แต่ว่าตอนนี้ ตระกูลเฉินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการรับเมียเก็บ
ยังไงตระกูลเหอก็เป็นตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจว หญิงสาวของตระกูลเหอตกต่ำจนต้องไปเป็นเมียเก็บของคนอื่นตั้วแต่เมื่อไหร่?
“คุณปู่คะ!”
เซี่ยเหอสีหน้าซีดเซียว ถึงกับเข่าอ่อน ถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้ามีแต่ความไม่อยากจะเชื่อ
“ฮ่าฮ่า!”
เฉินไห่โจวกับเฉินหยางที่กำลังจะจากไป พอได้ยินคำพูดของเหอหยวนหง ก็หยุดเดิน สองพ่อลูกหันกลับมา เฉินไห่โจวจ้องมองเหอหยวนหง แล้วหัวเราะออกมา “สมแล้วที่เป็นตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจว เป็นคนที่ใจเด็ดจริงๆ!”
เฉินหยางจ้องมองเซี่ยเหอด้วยสายตาที่เร่าร้อน เมื่อกี้ตอนที่เฉินไห่โจวพาเขาไป เขายังรู้สึกผิดหวังมากนึกไม่ถึงว่าในช่วงเวลาสำคัญเหอหยวนหงจะยอมรับข้อเสนอ
เหอหยวนหงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตระกูลเฉินเป็นถึงตระกูลระดับสูงที่มาจากโลกบู๊โบราณล่าง ตระกูลเหอของเรา เป็นแค่ตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจวเท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลเฉินตระกูลเหอก็ไม่ใช่อะไรเลย ถ้ามีโอกาสได้เกี่ยวดองกับตระกูลเฉิน มันก็ถือเป็นเกียรติของตระกูลเหออย่างยิ่งเลยครับ”
เฉินไห่โจวแสดงแววตาที่พึงพอใจออกมา แล้วพูดกับเหอหยวนหงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “เจ้าบ้านเหอ คุณนี่ไม่เลวเลย ผมขอประกาศแทนตระกูลเฉินว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลเหอเป็นเพื่อนกับตระกูลเฉินของเรา!”
พูดจบ เขาก็โบกมือ “มอบสินสอด!”
เมื่อสิ้นเสียงของเขา รังสีของผู้แข็งแกร่งหลายคน ได้เข้ามาพร้อมกับสิ่งของหลายชิ้นในโลกบู๊โบราณ
“หินอาถรรพ์ระดับล่าง หนึ่งล้านเม็ด!”
“ยาระดับสูงขั้นหนึ่งสิบเม็ด! ยาระดับเริ่มต้นขั้นสองสองเม็ด!”
“ของอาถรรพ์ระดับล่างสามชิ้น!”
……
พอเห็นสินสอดที่ตระกูลเฉินยกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เหอหยวนหงก็ยิ้มจนแก้มปริ
คนอื่นๆ ของตระกูลเหอก็ทำหน้าตื่นเต้นเหมือนกัน
“พระเจ้า! นี่นะเหรอบารมีของตระกูลระดับสูงของโลกบู๊โบราณ?”
“ผมได้ยินมาว่า หินอาถรรพ์ระดับล่างร้อยเม็ดก็ทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายเป็นนักบูโดได้แล้ว ในโลกมนุษย์ มูลค่าของหินอาถรรพ์ระดับล่างหนึ่งเม็ด ราคาพุ่งสูงถึงหนึ่งพันแล้ว ถ้าอย่างนั้น หินอาถรรพ์หนึ่งล้านเม็ด ไม่เท่ากับพันล้านของโลกมนุษย์แล้วเหรอ?”
“นับประสาอะไรกับของแค่นี้? นี่คุณไม่ได้ยินรึไง ยังมียาระดับสูงขั้นหนึ่งสิบเม็ด ยาระดับล่างขั้นสองอีกสองเม็ด? ในโลกมนุษย์ ยาระดับสูงขั้นหนึ่งหนึ่งเม็ดราคาถูกปั่นไปถึงร้อยล้าน ส่วนยาระดับล่างขั้นสอง ราคาก็พุ่งไปเป็นพันล้านแล้ว! ยาที่ตระกูลเฉินให้กับเรา มูลค่าสูงถึงสามพันล้านเลยนะ!”
“ประเด็นคือ ยังมีของอาถรรพ์อีกตั้งสามชิ้น ว่ากันว่ามีเพียงในงานประมูลระดับสูงเท่านั้นถึงจะเอามาเป็นสินค้าตัวหลัก หลายวันก่อนที่งานประมูลระดับสูงของจงโจว มีของอาถรรพ์ชิ้นหนึ่งถูกประมูลไปในราคาสองพันล้าน! ของอาถรรพ์สามชิ้น ก็เท่ากับหกพันล้าน!”
“หรือก็คือ สินสอดที่ตระกูลเฉินให้มา มูลค่าสูงถึงหนื่งหมื่นล้าน! แต่ประเด็นคือ เป็นของมีราคาที่ใช่ว่าจะหาซื้อกันได้ง่ายๆ”
“การที่ได้ของล้ำค่าจากโลกบู๊โบราณมามากขนาดนี้ อนาคตตระกูลเหอของเรา ก็มีแต่แสงสว่าง!”
……
หลังคนของตระกูลเหอได้รู้ว่าสินสอดของตระกูลเฉินเอามามีอะไรบ้าง ต่างพากันทำหน้าตื่นเต้นขึ้นมาทันที จ้องมองสินสอดที่ตระกูลเฉินเอามาด้วยสายตาที่เร่าร้อน
สองพ่อลูกเฉินไห่โจวกับเฉินหยาง มองดูคนตระกูลเหอที่ตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด ส่วนลึกในตาของทั้งสองเต็มเปี่ยมไปด้วยความดูถูกอันมากล้น
ของที่พวกเขาเอามาให้ สำหรับคนในโลกมนุษย์มันคือของล้ำค่า แต่กับตระกูลระดับสูงในโลกบู๊โบราณอย่างพวกเขา มันก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้น
ต่อให้เป็นหินอาถรรพ์หนึ่งล้านเม็ด มันก็ไม่เท่าไหร่
กับขยะแบบนี้ กลับถูกตระกูลเหอมองเป็นของที่แสนล้ำค่า
เฉินไห่โจวจ้องมองเหอหยวนหงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แล้วพูดไปว่า “เจ้าบ้านเหอ พอใจกับสินสอดที่ตระกูลเฉินของเราเอามามั้ย? ถ้าไม่พอใจ ผมจะให้คนส่งของที่ดีกว่านี้มา”
เหอหยวนหงรีบพยักหน้า แล้วพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “สินสอดที่เจ้าบ้าตระกูลเฉินเอามาให้สำหรับตระกูลเหอของเราแล้ว มันคือของล้ำค่าทั้งนั้น! มันมากพอแล้วครับ แล้วตระกูลเหอของเราจะกล้าไม่รู้จักพอได้ยังไง?”
เฉินไห่โจวพูดไปยิ้มไป “เจ้าบ้านเหอพอใจก็ดีแล้ว!”
จากนั้น สายตาของเหอหยวนหงก็มองไปที่เซี่ยเหอ แล้วพูดไปว่า “เสี่ยวอี้ ยังไม่รีบไปหาคุณชายเฉินอีก?”
เซี่ยเหอดวงตาแดงก่ำ สีหน้าลำบากใจ พูดพร้อมกัดฟันว่า “คุณปู่ ฉันไม่อยากแต่งเข้าบ้านตระกูลเฉิน!”
“นังสารเลว! นี่แกพูดอะไรออกมา?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหอหยวนหงเกร็งไปทันที สีหน้ามีแต่ความโมโหจ้องมองเซี่ยเหอแล้วตะคอกใส่
เซี่ยเหอมองดูคุณปู่ที่โมโหสุดขีด ด้วยความรู้สึกที่เศร้าใจ เธอรู้ดี คำสั่งที่เหอหยวนหงพูดออกมาแล้ว จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้อีก
หรือก็คือ ยังไงวันนี้เธอก็ต้องไปกับเฉินหยาง
แต่ว่า ให้เธอไปเป็นเมียเก็บขอคนที่เธอไม่ได้ชอบ เธอจะไปทำใจยอมรับได้ยังไง?
เซี่ยเหอพูดด้วยสีหน้าที่แน่วแน่ว่า “คุณปู่คะ ต่อให้หนูตาย ก็ไม่มีทางไปเป็นเมียเก็บของใครเด็ดขาด!”
เหอหยวนหงทำหน้าเคร่งขรึม อดกลั้นความโกรธเอาไว้ จ้องเขม็งไปที่เซี่ยเหอ
เฉินไห่โจวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “เจ้าบ้านเหอ ดูท่าหญิงสาวของตระกูลเหอ จะไม่เต็มใจแต่งเข้าไปเป็นเมียเก็บในตระกูลเฉินนะ!”
หนังตาของเหอหยวนหงกระตุกไปทีหนึ่ง แล้วรีบพูดไปว่า “คุณเฉินใจเย็นๆ ก่อน! ผู้หญิงที่คุณชายเฉินต้องตา ไม่ว่าเป็นใครก็ตามยังไงก็ต้องกลายเป็นเมียเก็บของเขาแน่นอน!”
พูดจบ เขาก็หันมองเซี่ยเหอที่กำลังแน่วแน่และแข็งกร้าว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เซี่ยเหอ แกรู้มั้ย การขัดคำสั่งของฉันจะมีจุดจบยังไง?”
เซี่ยเหอพูดพร้อมดวงตาที่แดงก่ำว่า “การที่ปู่รับหนูกลับบ้าน ยังไม่ยอมให้ฉันติดต่อกับเพศตรงข้ามคนไหน ก็เพื่อเอาหนูยกให้ตระกูลบู๊โบราณโบราณเพื่อแลกกับผลประโยชน์ใช่มั้ย?”
เหอหยวนหงตะโกนพร้อมกัดฟันว่า “เซี่ยเหอ!”
น้ำตาของเซี่ยเหอไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ แล้วพูดเสียงสะอื้นว่า “ในเมื่อคุณปู่ไม่ได้อยากรับฉันกลับมาอยู่บ้านจากใจจริงถ้าอย่างนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หนูกับตระกูลเหอเป็นอันขาดกัน!”
“ฝันไปเถอะ!”
เหอหยวนหงจ้องมองเซี่ยเหอด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว “ในเมื่อในตัวแกมีเลือดของตระกูลเหอไหลเวียนอยู่ ถ้าอย่างนั้นชีวิตนี้ยังไงก็เป็นคนของตระกูลเหอ! ฉันที่เป็นเจ้าบ้าน มีสิทธิ์กำหนดการแต่งงานของแก”
“วันนี้ แกจำเป็นต้องไปกับ คุณชายเฉิน ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันใจดำ อย่าลืมล่ะว่า แม่ของแกยังอยู่ในตระกูลเหอ”
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกมา สีหน้าของเซี่ยเหอก็เปลี่ยนไปทันที เธอเข้าใจความหมายของเหอหยวนหงดี เขากำลังใช้แม่ของเธอมาข่มขู่เธอ
เซี่ยเหอจ้องมองเหอหยวนหงด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น แล้วพูดไปว่า “แม่ของหนูไม่เกี่ยว ปู่อย่าทำร้ายแม่นะ!”
“หึ!”
เหอหยวนหงพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เอาตัวมานี่!”
ไม่นาน หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่ผมหงอกขึ้นตรงจอนถูกคนของตระกูลเหอพาตัวมา
“แม่คะ!”
พอเซี่ยเหอเห็นลู่เหวินจิ้นผู้เป็นแม่ ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที จึงตะโกนแล้วรีบพุ่งตัวออกไป
แต่ว่า เซี่ยเหอยังไม่ทันได้พุ่งออกไป ก็ถูกคนของตระกูลเหอขวางเอาไว้แล้ว
“เสี่ยวเหอ!”
พอลู่เหวินจิ้นเห็นเซี่ยเหอถูกขวาง ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที จ้องมองเหอหยวนหงด้วยสายตาที่เดือดดาลแล้ววพูดไปว่า “มีอะไรก็มาลงที่ฉันอย่าไปทำร้ายลูกสาวของฉัน!”
เหอหยวนหงพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ฉันช่วยหางานมงคลให้ลูกสาวเธองานหนึ่ง ขอแค่เธอามารถเกลี้ยกล่อมเซี่ยเหอให้ยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้ ฉันไม่เพียงไม่ทำร้ายเซี่ยเหอ แต่ยังจะคืนอิสรภาพให้เธอด้วย!”