The king of War - บทที่ 2238 หยางเฉินจากไป
The king of War บทที่ 2238 หยางเฉินจากไป
ในขณะตอนที่หลิวชิ่งกำลังติดต่อกับผู้อาวุโสของสำนัก หยางเฉินมาถึงที่กองยุทธการจงโจวทางด้านนี้แล้ว
“หยางเฉิน นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ทันทีที่เพิ่งเดินเข้ามา เซี่ยเหอก็เดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
หยางเฉินยิ้มบางๆ: “วางใจได้ ผมไม่เป็นไร!”
เมิ่งชิงหลันก้าวเดินไปข้างหน้า ยื่นกำปั้นออกไป ทุบเข้าไปที่บนแผ่นอกของหยางเฉินเบาๆทีหนึ่ง: “หยางเฉิน นายปิดซ่อนเอาไว้ซะมิดชิดเชียว คาดไม่ถึงว่าแม้แต่ตู้อวี้ซานหัวหน้าสมาคมพันธมิตรพิทักษ์ ตอนนี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาย”
หยางเฉินยิ้ม: “เมื่อก่อนชี่ทิพย์ของโลกมนุษย์บางเบา แดนบูโดของพวกเราต่างก็โดนจำกัดทั้งนั้น ตอนนี้โลกบู๊โบราณล่างได้ผสานเข้ากับโลกมนุษย์แล้ว โลกบู๊โบราณกลางเองก็ค่อยๆกำลังผสานเข้ากับโลกมนุษย์ด้วยเช่นกัน โลกใหม่ต่อจากนี้ ระดับความเข้มข้นของชี่ทิพย์จะพุ่งสูงขึ้นจนถึงระดับที่ยากจะจินตนาการ”
“พวกบูโดอัจฉริยะที่เดิมทีก็อยู่ที่โลกมนุษย์อย่างเช่นนาย จะนำพาช่วงเวลาที่พละกำลังพุ่งสูงขึ้นมา สู้ไปด้วยกันเถอะ!”
เมิ่งชิงหลันกลอกตา กล่าวด้วยความจำปัญญา: “ต่อให้ความเข้มข้นของชี่ทิพย์จะสูงอีกสักแค่ไหน ชั่วชีวิตนี้ของฉันเกรงว่าจะไล่ตามนายไม่ทันแล้วละ”
“ตู้อวี้ซานแห่งแดนนภาขั้นสี่ชั้นต้น ยังห่างไกลจากการเป็นคู่ต่อสู้นายเลย! ฉันจึงกำลังคิดว่า แท้ที่จริงแล้วตอนนี้นายจะมีแข็งแกร่งมากขนาดไหน?”
หยางเฉินยิ้ม: “พูดตามความจริง ก็แม้แต่ตัวผมเองก็ไม่ชัดเจน”
เมิ่งชิงหลันค้อนหยางเฉินทีหนึ่ง: “นายมันขี้อวด!”
ทั้งสองคนเคยเข้าสนามรบด้วยกัน แต่ละคนยังเคยเป็นเทพสงครามบัญชาการของกองยุทธการใหญ่ เดิมทีความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ค่อนข้างดี
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนในตอนนี้พละกำลังจะต่างกันเป็นอย่างมาก แต่เมิ่งชิงหลันก็ไม่ได้ริษยาเลยสักนิด เพียงแค่ดีใจแทนหยางเฉินเท่านั้น
“ผู้อาวุโสสี่!”
เย่จางกั๋วถึงได้มีโอกาสพูดคุยกับหยางเฉิน รีบก้าวมาข้างหน้า กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น: “โลกมนุษย์มีผู้อาวุโสสี่ เป็นบุญของจิ่วโจวจริงๆ!”
หยางเฉินใบหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญา เย่จางกั๋วเรียนรู้ที่จะประจบสอพลอตั้งแต่เมื่อไหร่?
หยางเฉินรีบเอ่ยปากพูดทันที: “ผู้บัญชาการเย่ ผมจะไปที่โลกบู๊โบราณกลางสักหน่อย รบกวนคุณรายงานสมาคมผู้อาวุโสให้หน่อยครับ”
เมื่อครู่นี้จอนที่เขาคุยกับหลิวชิ่ง อยู่ไกลจากเย่จางกั๋วพวกเขามาก พวกเขาไม่รู้อะไรทั้งนั้นเลยสักนิด
ตอนนี้ทันทีที่ได้ยินว่าหยางเฉินจะไปโลกบู๊โบราณกลาง หลายคนล้วนหน้าถอดสี
“ฉันไปเป็นเพื่อนนาย!”
เซี่ยเหอไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง: “ตอนนี้พละกำลังของฉันไม่ใช่ธรรมดา ที่โลกบู๊โบราณกลาง ก็สามารถช่วยนายได้”
เซี่ยเหอในตอนนี้ ไม่เพียงปลุกพรสวรรค์ด้านบูโดเท่านั้น ยังได้รับมรดกวิถีบู๊ของเซี่ยยิงสงพ่อผู้ให้กำเนิดของเธออีกด้วย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในร่างบูโดลิขิตสวรรค์ของร่างบูโดทั้งสิบอีกด้วย พละกำลังยิ่งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อทอดสายตามองไปโลกมนุษย์ในอดีต นอกจากหยางเฉินแล้ว ก็นับว่าเธอเป็นแข็งแกร่งที่สุด
แม้กระทั่งหม่าชาวที่ได้รับมรดกเทพมาร ก็ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยเหอ
หยางเฉินส่ายหน้า: “ผมจะต้องไปทำเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญมากเรื่องหนึ่ง พาคุณไปด้วย ในทางกลับกันจะเป็นภาระซะเปล่าๆ!”
ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะไม่ถนอมน้ำใจเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าก็เป็นเพราะกำลังใช้ท่าทีแข็งกร้าวแบบนี้มาขัดขวางเซี่ยเหอ
ทุกที่ของโลกบู๊โบราณกลางล้วนเต็มไปด้วยนักบูโดแดนนภาขั้นสี่ ถึงแม้พละกำลังของเซี่ยเหอจะไม่ธรรมดา แต่ว่าที่โลกบู๊โบราณกลาง ทำได้แค่ต่อให้เป็นบูโดอัจฉริยะ แต่เทียบกับผู้แข็งแกร่งแห่งวิถีบู๊ไม่ติด
ที่โลกบู๊โบราณกลาง พละกำลังไม่ถึงแดนนภาขั้นหก ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกว่าผู้แข็งแกร่งเลยสักนิด
ไม่เพียงเธอไม่มีคุณสมบัติที่จะถูกเรียกว่าผู้แข็งแกร่งเท่านั้น แม้แต่หยางเฉินก็ไม่มีคุณสมบัติ
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ถนอมน้ำใจแม้แต่น้อยของหยางเฉิน ดวงตาทั้งสองข้างของเซี่ยเหอแดงก่ำ กัดริมฝีปากสีแดงเอาไว้แน่น
เดิมทีเธอคิดว่าตอนนี้ตนเองมีคุณสมบัติพอที่จะช่วยเหลือหยางเฉินแล้ว แต่กลับพบว่าหยางเฉินเติบโตเร็วกว่า ตนเองติดสอยห้อยตามหยางเฉิน กลับกลายเป็นตัวภาระ
เธอแอบสาบานภายในใจ จะต้องยิ่งขยันบำเพ็ญเพียรให้มากกว่าเดิม พยายามเพื่อสักวันหนึ่ง จะมีคุณสมบัติพอที่จะช่วยเหลือหยางเฉิน
“หยางเฉิน นายบ้าไปแล้วเหรอ?”
เมิ่งชิงหลันใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ กล่าวด้วยความโมโหทันที: “นายรู้ว่าสถานะของตัวเองคืออะไรไหม? นายเป็นผู้อาวุโสสี่ผู้สง่าผ่าเผยของโลกมนุษย์แห่งจิ่วโจว ยังไงก็ต้องมีความรู้ผิดชอบชั่วดีบ้าง โลกมนุษย์ควรจะทำอย่างไร?”
“ไม่มีนาย ยังมีใครที่จะสามารถยับยั้งผู้แข็งแกร่งที่มาจากโลกบู๊โบราณได้อีก?”
“หรือว่านายจะเสี่ยงอันตรายด้วยตัวเอง ทอดทิ้งชาวบ้านหลายร้อยล้านคนของโลกมนุษย์อย่างไม่สนใจไยดีอย่างงั้นเหรอ?”
หยางเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบที่ตนเองจะพูดตราหน้ารุนแรงขนาดนี้
“ผมรู้ตัวเองดี! โลกบู๊โบราณกลาง ผมมีเหตุผลที่จำเป็นต้องไป!”
หยางเฉินใบหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แล้วก็กล่าวขึ้นมาอีก: “นอกจากนี้แล้ว ที่ผมไปโลกบู๊โบราณกลาง ก็เพื่อคนธรรมดาของโลกมนุษย์”
เขาจะไปที่สำนักเทียนไห่ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องความร่วมมือกับท่านอาจารย์ของหลิวชิ่ง
ขอเพียงแค่สำนักเทียนไห่รับปากเงื่อนไขสามข้อนั้นที่หยางเฉินเสนอแนะ การเดินทางไปโลกบู๊โบราณกลางครั้งนี้ ก็นับว่าประสบความสำเร็จ
ถ้าหากเป็นไปได้ เขายังคิดที่จะตามหาสุดยอดกองกำลังมากยิ่งขึ้น เพื่อไปพูดคุยเรื่องการร่วมมือ
เมื่อเห็นว่าหยางเฉินโมโหแล้ว เมิ่งชิงหลันก็หุบปากลง ใบหน้ามีความน้อยใจเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้เป็นเพราะเธออารมณ์ร้อนถึงได้พูดคำพูดพวกนั้น ไม่ได้อยากจะบีบบังคับเรียกร้องจริงๆ
อย่างไรก็ตามสถานะของหยางเฉินเมื่ออยู่ที่นั่น ถ้าหากไม่มีการคุ้มกันหยางเฉิน คนธรรมดาของโลกมนุษย์จะต้องมีชีวิตอย่างน่าเวทนามาก
ในเวลานี้เอง เย่จางกั๋วเองก็กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกงัวล: “ผู้อาวุโสสี่ ถ้าหากท่านจำเป็นต้องไปจริงๆ ก็พาผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งไปด้วยเถอะ! โลกมนุษย์สำหรับท่านแล้ว ก็คือความเชื่อใจ ถ้าหากท่านเกิดเรื่อง ความเชื่อใจของประชาชนนับร้อยล้านก็จะพังทลายเช่นกัน”
หยางเฉินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าผลกระทบของตนเองในตอนนี้จะมาจนถึงระดับนี้แล้ว
แต่ว่าเขาเองก็สามารถเข้าใจได้ หลังจากที่ม่านพลังของโลกบู๊โบราณล่างแตกออก ผู้แข็งแกร่งที่พละกำลังไกลเกินกว่านักบูโดของโลกมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏตัวที่โลกมนุษย์ เป็นเขาที่ออกไปต่อสู้อย่างห้าวหาญ ยับยั้งนักบูโดของโลกบู๊โบราณล่างอย่างห้าวหาญ ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดทำกฎระเบียบใหม่ที่มุ่งคุ้มครองคนธรรมดา ถึงได้รักษาความสงบสุขของโลกใหม่ได้
ตอนนี้ม่านพลังของโลกบู๊โบราณกลางก็กำลังอยู่ในระหว่างการสูญหาย เกรงว่าจะเป็นเวลาอีกไม่นานแล้ว นักบูโดของโลกบู๊โบราณกลางก็จะเหยียบเข้าสู่โลกมนุษย์จำนวนมหาศาล
ครั้งนี้ หยางเฉินจะสามารถยับยั้งผู้แข็งแกร่งเหล่านี้เอาไว้ได้หรือไม่ ภายในใจของเขาไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ตนเองจะต้องพยายามเพื่อเป้าหมายนี้
“ผู้บัญชาการเย่ ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณ แต่ผมไม่สามารถพาผู้ใดไปด้วยได้จริงๆ ด้วยพละกำลังของผมในตอนนี้ แม้เข้าสู่โลกบู๊โบราณกลาง ก็มีกำลังปกป้องตนเอง ถ้าหากพาคนไป ในทางกลับกันจะกลายเป็นภาระของผม”
หยางเฉินส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็กล่าวอย่างเด็ดขาด: “เอาละ เอาตามนี้ก็แล้วกัน ทุกคนวางใจได้แล้ว! อีกอย่าง ที่ผมจะไปคือสำนักเทียนไห่ระดับสุดยอดของโลกบู๊โบราณกลาง ที่ไปเพราะต้องพูดคุยเรื่องความร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาไม่มีทางทำอะไรผม”
เมื่อเห็นเขาพูดแบบนี้ ทุกคนก็ไม่ได้ขัดขวางอีกต่อไป
“ลาก่อน!”
สายตาสุดท้ายของหยางเฉินกวาดมองทุกคนแวบหนึ่ง จากนั้นก็กลับหลังหัน เดินไปทางนักบูโดของสำนักเทียนไห่ทางนั้น
มองดูหยางเฉินกลับหลังหันเดินจากไป คนของโลกมนุษย์ ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความกังวล
พวกเขาไม่รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ของหยางเฉินจะปลอดภัยหรือไม่ ทำได้แค่เพียงภาวนาอยู่ภายในใจเงียบๆ
“คุณหยาง ตอนนี้พวกเรากำลังจะออกเดินทางมุ่งหน้าไปสู่โลกบู๊โบราณกลาง?”
เมื่อเห็นว่าหยางเฉินเดินเข้ามาแล้ว หลิวชิ่งเป็นฝ่ายเดินเข้าใกล้ เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินพยักหน้า: “พวกเราไปกันเถอะ!”
ตอนนี้ภรรยายังอยู่ที่สำนักเหอฮวน ตอนนี้เขาแทบอยากไปที่สำนักเหอฮวนเสียตอนนี้
ในไม่ช้า คนกลุ่มหนึ่งก็เดินทางออกจากโลกมนุษย์