The king of War - บทที่ 2252 ฆาตกรรม
The king of War บทที่ 2252 ฆาตกรรม
ชั่ววินาทีนี้ หยางเฉินรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวที่จู่ ๆ ก็เข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปกะทันหัน เขายังไม่มีเวลาคิด ก็ได้เปิดใช้งานพลังสายเลือดทันที วิชาลับเชียนเสวียนก็ถูกเปิดใช้งานด้วย กระบี่โอรสสวรรค์ถูกปลดออกจากฝักทันควัน
ออร่าอันทรงพลังปะทุออกมาจากร่างของเขา
เขายกกระบี่โอรสสวรรค์แล้วเหวี่ยงมันไปในทิศทางของแรงต้นกำเนิดพลังนั้นโดยไม่ลังเล
เพียงแต่ว่าเมื่อเขาเหวี่ยงกระบี่นั้นออกไป ร่างของชายผมขาวก็พุ่งเข้ามาเหมือนกับวิญญาณ หลบกระบี่โอรสสวรรค์ของเขาไปได้อย่างง่ายดาย มันกระแทกลงพื้น
“บูม!”
น้ำเสียงดังสนั่น หยางเฉินรู้สึกเหมือนว่าอวัยวะภายในของเขาดูผิดที่ เลือดพ่นออกมาจากปาก ร่างของเขาปลิวไปไกลกว่าสิบเมตร ราวว่าวที่สายขาด ก่อนที่จะตกลงสู่พื้นอย่างแรง
“คุณหยาง!”
ม่อชิงซิวหน้าซีดด้วยความตกใจ เขารีบเข้าไปหาหยางเฉินทันที
ตอนนี้สีหน้าหยางเฉินดูซีดลง หน้าอกยุบลงไป เลือดยังคงไหลออกมาจากมุมปากของเขาไม่หยุด
“ท่านอาจารย์ ท่านมาแล้ว!”
เหอตงเฉิงและคนอื่น ๆ มองไปทางชายชราผมขาวแล้วพูดอย่างตื่นเต้น
ชายชราผมขาวไม่สนใจเหอตงเฉิงและคนอื่น ๆ สายตามองไปยังทิศทางของหยางเฉิน ทำเสียงประหลาดใจที่หยางเฉินกลับไม่ตาย
“ผู้อาวุโสรอง ท่านเกินไปหรือไม่?”
หลังจากที่ม่อชิงซิวตรวจดูอาการบาดเจ็บของหยางเฉินแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วพูดกับผู้อาวุโสรอง
มองออกได้ง่าย ๆ ว่าหากไม่ใช่เพราะร่างกายที่แข็งแกร่งของหยางเฉิน การโจมตีของผู้อาวุโสรองเมื่อกี้คงจะคร่าชีวิตหยางเฉินไปแล้ว
ผู้อาวุโสรองมีความสามารถอยู่ในแดนนภาขั้นหกชั้นยอด ขณะที่หยางเฉินเป็นเพียงชายหนุ่มที่มีพละกำลังเทียบได้กับแดนนภาขั้นห้าชั้นปลาย
ทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย แต่ผู้อาวุโสรองนั้นโหดเหี้ยมมาก
ผู้อาวุโสรองตะคอกอย่างเย็นชา สายตามองไปที่ม่อชิงซิวด้วยความไม่พอใจว่า “เจ้าหมอนี่ได้เขย่าจิตใจแห่งเต๋าของศิษย์สำนักเทียนไห่ของฉัน เขาควรถูกลงโทษ!”
ม่อชิงซิวเผชิญหน้ากับเขา กล่าวว่า “ผู้อาวุโสรอง ศิษย์ของท่านไม่เต็มใจยอมรับว่าพวกเขาอ่อนแอกว่าคุณหยาง ทำให้จิตใจแห่งเต๋าของตนสั่นคลอน ผู้อาวุโสรองจะตำหนิโทษเรื่องทั้งหมดนี้มาที่คุณหยางได้ยังไง?”
แววตาแห่งความเฉียบคมฉายวาบอยู่ในดวงตาของผู้อาวุโสรอง แต่เขาไม่กล้าทำอะไรม่อชิงซิว เพราะม่อชิงซิวเป็นศิษย์รักของ ท่านเจ้าสำนัก อีกอย่างพรสวรรค์ด้านบูโดของเขาก็ยอดเยี่ยม ท่านเจ้าสำนักให้ความสำคัญต่อม่อชิงซิวมาก
“ศิษย์น้องม่อ การที่อาจารย์ของข้าทำสิ่งนี้ลงไป แน่นอนว่าย่อมมีเหตุผล ในฐานะผู้น้อย เอ่ยย้อนอาจารย์ของเราเช่นนี้ ไม่เห็นท่านอาจารย์อยู่ในสายตาหรือยังไง?”
เหอตงเฉิงพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
ม่อชิงซิวมองเหอตงเฉิงด้วยสายตาเย็นชา เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หุบปากไปดีกว่า ถ้ายังกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก ข้าจะขอท้าทายเจ้าในการแข่งขันสำนักครั้งต่อไป!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกเปล่งออกมา สีหน้าของเหอตงเฉิงก็เปลี่ยนไปมาก เขารีบหุบปากอย่างรวดเร็ว
ในทุกปี สำนักเทียนไห่จะจัดการแข่งขันของสำนักขึ้น ในการแข่งขันรุ่นน้องมีสิทธิ์ที่จะท้าทายรุ่นพี่ของพวกเขา เหอตงเฉิงอาวุโสกว่าม่อชิงซิว และเข้ามาในสำนักก่อน ม่อชิงซิวนับว่าเป็นรุ่นน้องเขา
หากม่อชิงซิวเลือกที่จะท้าทายเหอตงเฉิงในการแข่งขันสำนัก หอตงเฉิงก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
และในการแข่งขันสำนักนี้ อนุญาตให้มีการบาดเจ็บล้มตายได้
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของม่อชิงซิว ถ้าเขาจริงจังขึ้นมาในการแข่งขันอันยิ่งใหญ่นี้ แม้เขาอาจจะไม่ฆ่าเหอตงเฉิง แต่เขาก็สามารถทำให้เหอตงเฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยอย่างง่ายดาย
หลังจากที่ม่อชิงซิวขู่เหอตงเฉิงแล้ว เขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสรอง พูดว่า “คุณหยางเป็นแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญจากผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุโสรองเจตนาฆ่าคุณหยางเนื่องจากความขัดแย้งเล็กน้อยระหว่างรุ่นน้องกันเอง ไม่เห็นผู้อาวุโสสามอยู่ในสายตาหรืออย่างไร?”
“บังอาจ!”
ผู้อาวุโสรองตะโกนด้วยความโกรธแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าหมอนี่กล้าทำให้จิตใจแห่งเต๋าของศิษย์ทั้งหลายของสำนักเทียนไห่สั่นคลอน สมควรถูกลงโทษ เจ้าในฐานะศิษย์อันเป็นที่รักของหัวหน้าสำนัก ไม่เพียงแต่จะไม่หยุดเขา กลับกล้าออกมาต่อล้อต่อเถียงกับผู้อาวุโสของสำนักในที่สาธารณะเพื่อเขา จะยอมรับผิดหรือไม่?”
ม่อชิงซิวเย้ยหยันว่า “ใส่ร้ายคนดีโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลงั้นเหรอ?”
พูดจบเขาก็ไม่สนใจผู้อาวุโสรองอีก กลับเดินมาหาหยางเฉิน หยิบยาออกมายื่นให้หยางเฉิน พูดว่า “คุณหยาง นี่คือยาฉางชิง
หลังจากกินเข้าไปแล้วสามารถช่วยให้คุณฟื้นตัวหายจากอาการบาดเจ็บได้โดยเร็ว”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็ตกใจ
“ม่อชิงซิว เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง? นี่คือยาอายุวัฒนะระดับสูงระดับห้าที่หัวหน้าสำนักประทานรางวัลแก่เจ้า มันสามารถช่วยเจ้าในช่วงเวลาคับขัน แต่เจ้าต้องการมอบให้คนนอกงั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสรองคำรามด้วยความโกรธทันที
“อะไรนะ? นี่กลายเป็นยาระดับห้าขั้นสูงที่ท่านเจ้าสำนักมอบให้ ม่อชิงซิวเจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? ยานี้สามารถเรียกราคาได้สูงเสียดฟ้าในการประมูลเชียวนะ แต่กลับเอามาให้คนนอกแบบนี้?”
“ว่ากันว่ายาฉางชิงมีผลในการฟื้นฟูนักบูโดแดนนภาขั้นห้า ม่อชิงซิวเองก็เป็นนักบูโดแดนนภาขั้นห้า สำหรับเขาแล้ว ยาเม็ดนี้มีค่ามาก”
“การที่ม่อชิงซิวมอบยานี้ให้กับคนภายนอก ไม่ต่างอะไรกับการสละชีวิตของเขาเองเลย”
ชั่วพริบตา ศิษย์ของสำนักเทียนไห่ต่างก็ตกตะลึง
แต่ม่อชิงซิวกลับทำใบหน้าสงบ เขามองไปทางหยางเฉินด้วยความกังวลลึก ๆ ในดวงตา
หลิวชิ่งก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าม่อชิงซิวที่เพิ่งพบหยางเฉินเพียงครั้งเดียวจะเต็มใจมอบยาล้ำค่าเช่นนี้ให้ได้
ใบหน้าอันสวยงามของม่อชิงจูก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในฐานะน้องสาวของม่อชิงซิว เธอรู้ดีว่ายาเม็ดนี้มีความสำคัญต่อม่อชิงซิวขนาดไหน
มีครั้งหนึ่งที่ม่อชิงซิวได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ไม่ได้กินยาเม็ดนี้ในช่วงเวลาวิกฤตของชีวิตความตาย แต่วันนี้เขาเต็มใจที่จะมอบยาเม็ดนี้ให้กับคนนอก
เห็นได้ว่าในใจม่อชิงซิว หยางเฉินสำคัญมากขนาดไหน
แน่นอนว่าหยางเฉินเคยได้ยินคุณค่าของยานี้จากคนอื่นมาก่อนแล้ว เขาจึงรู้สึกประหลาดใจและรู้สึกประทับใจในเวลาเดียวกัน
เขาคิดมาเสมอว่าคนในโลกบู๊โบราณเป็นสัตว์เลือดเย็น เขาไม่คิดว่าจะมีนักบู๊ที่กล้าหาญแบบม่อชิงซิวอยู่จริง
“คุณม่อ ยานี้ล้ำค่าเกินไปที่ผมจะรับไว้ ผมขอรับไว้ด้วยใจก็แล้วกันครับ”
หยางเฉินไม่ได้รับยาฉางชิงไป เขาพูดอย่างจริงจังว่า “อาการบาดเจ็บแค่นี้ฆ่าผมไม่ตายหรอก”
เขาไม่ได้เย่อหยิ่ง แต่เป็นแบบนั้นจริง ๆ
ผู้อาวุโสรองคิดฆ่าเขาก็จริง แต่ยังประเมินความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาต่ำเกินไป ตัวหยางเฉินเองก็ไม่คาดคิดว่าตนจะสามารถทนต่อแรงระเบิดขงแดนนภาขั้นหกชั้นยอดได้
“คุณหยาง อาการบาดเจ็บของคุณสาหัสมากนะครับ หากคุณไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ต่อให้รอดชีวิตไป ก็จะสร้างความเสียหายให้กับรากฐานทักษะของคุณอย่างไม่อาจรักษาได้”
ม่อชิงซิวพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ยาฉางชิงนี้ไม่ได้รักษาแค่อาการบาดเจ็บของคุณเท่านั้นนะ แต่ยังให้ประโยชน์ที่คาดไม่ถึงแก่คุณด้วย อย่ามาเกรงใจกันเลย รีบเอาไปซะ”
หยางเฉินส่ายหน้าและใช้ตำราเทพสงคราม พลังชีวิตอันทรงพลังปะทุขึ้นในร่างกายของเขาเพื่อซ่อมแซมอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
“หืม?”
ม่อชิงซิวรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของหยางเฉิน เขาประหลาดใจมาก
ตอนี้เขาเชื่อแล้วว่าหยางเฉินไม่ได้พูดเบ่ง แต่เขาไม่ต้องการยาฉางชิงนี้จริง ๆ
ในไม่ช้าเขาก็กังวลแทนหยางเฉินขึ้นมา ศิษย์ของสำนักเทียนไห่ไม่อยากยอมรับความแข็งแกร่งของหยางเฉิน ทำให้จิตใจแห่งเต๋าของพวกเขาสั่นคลอน ทั้งยังดึงดูดผู้อาวุโสรองให้สังหารเขา
หากผู้อาวุโสรองพบว่าหยางเฉินมีวิธีที่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วได้แบบนี้ เขาอาจจะไม่ปล่อยหยางเฉินไปแน่ เมื่อคิดถึงได้ดังนี้ดวงตาของม่อชิงซิวก็ดูแน่วแน่ เขาตัดสินใจอย่างกล้าหาญ