The king of War - บทที่ 234 รสชาติลิปสติก
“โอ๊ะ ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมคนสวยถึงมาอยู่ข้างนอกคนเดียวล่ะ?”
เจิ้งเหม่ยหลิงพึ่งพูดจบ ชายหนุ่มท่าทางอันธพาลหลายคนล้อมรอบหล่อนเอาไว้ตรงกลางโดยฉับพลัน
“พวกแกอยากเอาอะไร?”
เจิ้งเหม่ยหลิงเห็นสถานการณ์แล้ว ชั่วขณะนั้นตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน หน้าตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เธอถามว่าพวกฉันอยากเอาอะไร?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งยิ้มกริ่มถามไป คำว่า“เอา”ยังจงใจใช้เสียงเน้นหนักด้วย
เจิ้งเหม่ยหลิงได้กลิ่นเหล้าที่เข้มข้นจากบนตัวของหลายคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกขี้เหล้าที่พึ่งดื่มกันหนักออกมาจากโรงแรม
“คนสวย ในเมื่อมาคนเดียว งั้นไปเที่ยวกับพวกเราเถอะ!”
คนคนหนึ่งกำลังพูด พร้อมทั้งคว้าแขนของหล่อนเอาไว้แล้ว
ส่วนแขนอีกข้างของหล่อนก็ถูกอีกคนคว้าไว้
หลายคนบังคับลากตัวหล่อนขึ้นไปบนรถจี๊ปThe Herdsmanสีดำคันหนึ่ง จากนั้นขับรถออกไป
ระหว่างทางเจิ้งเหม่ยหลิงพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ร้องตะโกนเสียงดัง แต่ว่าไม่มีประโยชน์สักนิดเดียว
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ใต้สะพานข้ามถนนในย่านชานเมือง บริเวณลานจอดรถร้างแห่งหนึ่ง
บนตัวเจิ้งเหม่ยหลิงไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นเดียว นอนบนพื้นหนาวเหน็บ บนเนื้อตัวยังมีรอยช้ำวงใหญ่
หางตาของหล่อนมีน้ำตาไหลออกมาสองสาย ชายหนุ่มห้าคนเมื่อสักครู่นี้ บีบบังคับพาหล่อนมายังที่แห่งนี้ และฝืนใจให้ทำเรื่องบางอย่างออกมา
ฉากที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ เสมือนเป็นฝันร้าย
ในสายตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่เย็นยะเยือก
“หยางเฉิน ฉินซี โทษพวกแก ฉันจะทำให้พวกแกได้ชดใช้อย่างทุกข์ทรมานแน่!” ทันใดนั้นหล่อนพูดแบบหน้าตาดุร้าย
หลังจากพูดจบ หล่อนลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เดินขากะเผลกทีละก้าวออกไป
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินขับรถพาฉินซีมาส่งที่ตระกูลโจว
“ที่รัก!”
หยางเฉินกำลังเตรียมจะกลับไป ทว่าฉินซีกลับเรียกเอาไว้กะทันหัน
พอหยางเฉินหันหน้ามา ฉินซีก็กระโจนเข้ามาในอ้อมอกของเขาแล้ว จากนั้นจูบที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง
รอตอนที่หยางเฉินได้สติกลับมา ฉินซีก็วิ่งเขินอายออกไปเรียบร้อย
หน้าตาหยางเฉินเต็มไปด้วยอาการตกตะลึง นี่คือตนเองถูกฉินซีขโมยจูบแล้ว?
“หึๆ!”
เขาหัวเราะแบบได้ใจ เลียริมฝีปากไป ท่าทางขบคิด ทันใดนั้นตะโกนถามภาพเบื้องหลังของฉินซีที่เดินออกไปว่า “ที่รัก คุณใช้ลิปสติกยี่ห้ออะไร?”
“หา?”
ชั่วขณะหนึ่งฉินซีไม่ได้ตอบสนองกลับมา
จากนั้นได้ยินหยางเฉินพูดอีกว่า “รสชาติของลิปสติกไม่เลวเลย!”
ฉินซีที่กำลังวิ่งอยู่ เท้าถึงกับซวนเซ เกือบสะดุดล้ม ใบหน้าเต็มไปด้วยอาการเขินจนโมโห วิ่งออกไปโดยไม่หันหน้ากลับมา
จนกระทั่งมองเห็นฉินซีเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลโจว หยางเฉินถึงหมุนตัวกลับไป
ระหว่างทางที่กลับโรงแรม หยางเฉินฮัมเพลงมาตลอดทาง อารมณ์ดีเอามากๆ
ถึงแม้ว่าจะเจอเรื่องราวที่ทำให้คนรู้สึกหงุดหงิดใจบางอย่าง แต่ว่าผลสุดท้ายอย่างไรก็ยังเจอเรื่องดี
เที่ยวเล่นเป็นเพื่อนฉินซีมาทั้งบ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
เรื่องราวที่เกิดในร้านอาหารเมื่อสักครู่ และบวกกับความสัมพันธ์ของสองคนที่ลึกซึ้งขึ้น
แม้กระทั่งก่อนที่จะออกมา ฉินซียังเข้ามาจูบตนเองก่อนเองด้วย
หยางเฉินรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าชีวิตช่างงดงามอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้
รถอาวดี้A8สีดำแล่นอย่างรวดเร็วมาตลอดทาง กำลังมุ่งตรงไปยังโรงแรม
ยังไม่ทันถึงโรงแรม ก็ได้รับโทรศัพท์จากซูซาน
“หยางเฉิน คุณกลับโรงแรมแล้วหรือยัง?”
เสียงของซูซานลอยออกมาจากลำโพง
“ใกล้ถึงแล้ว มีอะไรเหรอ?” หยางเฉินถาม
ในน้ำเสียงของซูซานมีการอ้อนวอนระดับหนึ่ง “คุณมาที่ภูเขาห้าธาตุ ช่วยฉันสักเรื่องก่อนได้มั้ย?”
“คุณเจอปัญหาอะไรแล้วหรือเปล่า?” หยางเฉินขมวดคิ้วถาม
จากในลำโพง เขาได้ยินเสียงเครื่องยนต์คำรามมากมาย โดยรอบเหมือนว่ามีรถแข่งอยู่มาก
ซูซานตอบว่า “เฉินอิงจวิ้นที่หมั้นหมายกับฉัน คุณน่าจะยังจำได้ใช่มั้ย? เขาบอกว่าจะตกลงกับฉันให้เรียบร้อย เลยชวนฉันมาที่ภูเขาห้าธาตุ ฉันคนเดียวรู้สึกกลัวอยู่บ้าง ที่เมืองโจวเฉิงก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นด้วย เลยทำได้เพียงโทรหาคุณ”
หยางเฉินทำหน้าประหลาดใจ หรือว่าเป็นเฉินอิงจวิ้นไปหาเรื่องวุ่นวายกับซูซานอีก?
เมื่อสักครู่เขาพึ่งจัดการพี่ชายของเฉินอิงจวิ้นเสร็จ ตอนนี้น้องชายก็อยากออกหน้าอีกคน?
“ส่งที่อยู่มาให้ผม ผมจะเข้าไปตอนนี้!”
หยางเฉินพูดเสียงทุ้ม
การสารภาพรักที่วานด้าพลาซ่าในคืนนี้ คือซูซานเป็นคนช่วยเหลือเตรียมการ
ตอนนี้ซูซานเจอเรื่องเดือดร้อน เขาย่อมไม่สามารถถอยหลบได้เป็นธรรมดา
ไม่นานซูซานก็ส่งที่อยู่มาให้
เพียงแค่สิบนาที หยางเฉินมาถึงที่ภูเขาห้าธาตุแล้ว
และเวลานี้ ทั้งด้านล่างภูเขาล้วนมีรถหรูสารพัดแบบ เสียงเครื่องยนต์ดังคำรามไปทั่วทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืน
“หยางเฉิน!”
มองเห็นหยางเฉิน ซูซานหน้าตาตื่นเต้น รีบเข้ามาทันที
หยางเฉินยังไม่ทันได้ทักทายกับเธอ ซูซานก็ควงแขนของหยางเฉินเอาไว้แล้ว
เวลานี้ โดยรอบยังมีผู้คนมากมาย
จากรถแข่งแต่ละคันที่ราคาหลายล้านไปจนถึงหลายสิบล้านนั้น สามารถทายได้ว่าสถานะของคนเหล่านี้ต้องไม่ธรรมดาแน่
ในบรรดาคนเหล่านี้ หยางเฉินยังมองเห็นภาพคนที่คุ้นเคยสองคน
คนหนึ่งคือเฉินอิงจวิ้น ส่วนอีกคนหนึ่งคือหยวนเซ่า
เฉินอิงจวิ้นนั้นพึ่งเจอมาเมื่อช่วงเช้า ส่วนหยวนเซ่าเขายังพอมีภาพจำอยู่บ้าง
ครั้งก่อนที่เมืองเจียงโจว พวกเขามาด้วยกัน เหมือนยังมีอีกคนหนึ่งที่ชื่อหยวนมู่ เพียงแต่วันนี้ไม่ได้ปรากฏตัวด้วย
“หยางเฉิน!”
มองเห็นท่าทางของซูซานที่สนิทสนม ควงแขนของหยางเฉินเอาไว้ หน้าเฉินอิงจวิ้นเต็มไปด้วยความโมโห
คนโดยรอบต่างทำหน้าตาตกใจ เห็นได้ชัดว่าคนในเหตุการณ์ โดยพื้นฐานล้วนรู้ถึงความเกี่ยวข้องของเฉินอิงจวิ้นและซูซานเป็นอย่างดี
แต่ว่าตอนนี้ ซูซานกลับควงผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินมา
นี่เป็นการหักหน้าเฉินอิงจวิ้นอย่างแรง
“ไอ้หนุ่มนี้เป็นใครกัน? นึกไม่ถึงกล้าแย่งผู้หญิงของคุณชายจวิ้น!”
“น่าจะไม่ใช่คุณชายตระกูลร่ำรวยอะไร ไม่อย่างนั้นคงไม่ขับรถอาวดี้A8คันหนึ่งหรอก”
“ที่เมืองโจวเฉิง กล้ายั่วยุคุณชายจวิ้น ไม่รู้จักที่ตายเสียจริง”
……
คนโดยรอบต่างถกเถียงกัน แต่คนส่วนมากล้วนมีท่าทางรอดูเรื่องสนุกกันหมด
“ซูซาน เธอรู้หรือเปล่าว่าทำอะไรอยู่?”
เฉินอิงจวิ้นกัดฟันแน่นจ้องซูซานแล้วพูดแบบโมโห
ตระกูลเฉินแห่งเมืองโจวเฉิง และตระกูลซูแห่งเมืองเจียงโจว เรื่องที่จะเกี่ยวดองกัน โดยทั่วไปคนในเหตุการณ์ล้วนรู้กันทั้งสิ้น
เฉินอิงจวิ้นมีความรู้สึกเหมือนกำลังถูกสวมเขาให้
“เฉินอิงจวิ้น เมื่อกี้เป็นนายที่พูดเอง ถ้าฉันพาคนมาเอาชนะนายได้ จะไม่พัวพันกับฉันอีกยังไง? ตอนนี้ฉันพาคนมาแล้ว นายจะไม่ยอมรับเหรอ?”
ซูซานพูดจาเย็นชา ถึงแม้ไม่มีความหมายอยากให้หยางเฉินแสร้งเป็นแฟนเธอ แต่ท่าทางที่กอดแขนหยางเฉินแนบแน่น ก็แสดงความหมายทุกอย่างชัดเจน
จนถึงตอนนี้ หยางเฉินถึงพอปะติดปะต่อเบาะแสเรื่องราวบางส่วนได้
ประมาณว่าเขาครุ่นคิดพิจารณาสักครู่
น่าจะเป็นเฉินอิงจวิ้นยังตามตอแยซูซานอยู่ แสร้งบอกว่าถ้าซูซานสามารถหาคนมาเอาชนะเขาได้ ต่อไปจะไม่มาพัวพันอีก
เพียงแต่อยากแข่งอะไร?
แข่งรถเหรอ?
ด้านข้างของแต่ละคนต่างมีรถแข่งที่ราคาแพงหูฉี่คันหนึ่ง ที่นี่เป็นล่างภูเขาห้าธาตุ ด้านหน้าเป็นถนนที่ตรงแน่วเส้นหนึ่ง มุ่งไปยังข้างหน้า ซึ่งคือถนนล้อมรอบภูเขา
สองข้างทางของถนนล้อมรอบภูเขา คาดไม่ถึงยังมีไฟข้างทาง
ตรงนี้เป็นสถานที่แข่งรถชั้นดีจริงๆ
เพียงแต่หยางเฉินมักรู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ปกติ
“เชี้ย! ไอ้บ้านนอกมาจากที่ไหน? ถึงกล้ามาแย่งผู้หญิงกับคุณชายจวิ้น? ถ้าไม่อยากตาย รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”
เวลานี้ ผู้ชายกล้ามโตรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ขยับมาอยู่ข้างกายของเฉินอิงจวิ้น พูดด้วยหน้าตาข่มขู่
หลังจากที่เดินตามเขาเข้ามา ก็มีหลายคนตามมาติดๆ เข้ามาล้อมหยางเฉินไว้แล้ว
แววตาลึกของเฉินอิงจวิ้น เผยความดุเดือดเผ็ดร้อนนิดๆ แวบผ่านไป