The king of War - บทที่ 270 ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ
ตอนที่หันซวนได้ยินเสียงของหยางเฉินนั้น แววตาของเธอก็ดูเปลี่ยนไป อารมณ์ความรู้สึกเองก็เกิดการผันผวนขึ้นมา
คนชุดดำทั้งสี่นั้นมองดูหยางเฉินที่เดินไปหาพวกเขา จิตสังหารอันแรงกล้าก็ถูกส่งออกมาจากสายตาของทุกคน
คำพูดของหยางเฉินที่ว่า “ใครกล้าทำร้ายเธอ ฉันเอามันตายแน่” มันช่างเป็นคำพูดที่โอหังสิ้นดี
“นี่ไอ้หนู นี่แกกำลังข่มขู่พวกเราอย่างนั้นเหรอ?”
หัวหน้าของผู้แข็งแกร่งพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
ส่วนคนอื่นๆ ก็พากันทำหน้าเยาะเย้ยหยางเฉิน ในสายตาของพวกเขา หยางเฉินนั้นเป็นคนที่ได้ตายไปแล้ว
หยางเฉินเดินไปพูดไป “ปล่อยเธอซะ แล้วฉันจะปล่อยพวกแกไป!”
“ไอ้หนู โอหังนักนะ!”
หัวหน้าของผู้แข็งแกร่งยิ้มเยาะเย้ย พร้อมกับสีหน้าที่ดุร้าย “แกอยากให้เธอรอด แต่ฉันอยากให้เธอตายว่ะ!”
สิ้นเสียง เขาก็ไม่มีความลังเลใดๆ กระทืบเท้าไปที่หัวของหันซวนทันที
แววตาของหันซวนนั้นไม่มีความหวาดกลัวอยู่เลยแม้แต่น้อย แค่ในใจยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่านั้น
มีเพียงเวลาที่ใกล้ตายเท่านั้น เธอถึงได้รู้ตัวอย่างแจ่มแจ้ง ว่าตัวเองนั้นยังมีความอาลัยอาวอนกับโลกใบนี้อยู่
“ซิ่ว!”
และในตอนนั้นเอง หินเล็กๆ ก้อนหนึ่งถูกดีดออกจากมือของหยางเฉิน ราวกับดาวตกดวงน้อยๆ ในยามค่ำคืน มาพร้อมกับเสียงแหวกอากาศ พุ่งตรงไปยังหัวหน้าของผู้แข็งแกร่ง
“ตุบ!”
ในเวลาเดียวกัน เสียงที่ชวนให้อึดอัดก็ได้ดังขึ้น ก้อนหินนั้นได้ทะลุผ่านเข่าของหัวหน้าของผู้แข็งแกร่งไป
ความเจ็บปวดที่แสนสาหัส เกิดขึ้นที่หัวเข่า แล้วกระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าของผู้แข็งแกร่งล้มลงกับพื้นราวกับคนที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
“อ้า!”
ทันใดนั้น ส่วนลึกในลำคอของหัวหน้าของผู้แข็งแกร่งก็ได้ระเบิดเสียงคำรามที่เจ็บปวดออกมา กังวานอยู่ในค่ำคืนที่มืดมิด
ส่วนผู้แข็งแกร่งที่เหลืออีกสามคน พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน
ต่างก็จ้องมองหยางเฉินด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น พวกเขานั้นไม่รู้ตัวเลย จนเห็นว่าก้อนหินที่อยู่ในมือของหยางเฉินได้หายไปแล้ว พวกเขาถึงได้เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
หันซวนเบิ่งตาสวยๆ ของเธอกว้าง แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อกี้เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะตายแล้ว กับการปรากฏตัวของหยางเฉินนั้น เธอไม่ได้คาดหวังอะไรเลยสักนิด
จนในตอนนี้ ตอนที่ร่างกายของหัวหน้าของผู้แข็งแกร่งล้มลงกับพื้น เธอถึงได้รู้ตัวว่า ตัวเองนั้นถูกช่วยไว้แล้ว
“นะ นี่แกเป็นใครกันแน่?”
หัวหน้าของผู้แข็งแกร่งพูดพร้อมกัดฟันแน่น ความเจ็บปวดอันมากมาย ทำให้สีหน้าที่แสดงออกมานั้นบูดเบี้ยวไปหมดน้ำเสียงก็สั่นเครือ และเหงื่อเย็นก็เปียกชุ่มไปทั้งตัวแล้ว
เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง ถึงหัวเข่าจะถูกเจาะเป็นรู ถึงความเจ็บปวดมากมายที่ถาโถมเข้ามา แต่เขาก็แค่คำรามออกมาแค่ไม่กี่ครั้ง และไม่ปล่อยให้ตัวเองนั้นส่งเสียงโอดครวญออกมาเลยแม้แต่น้อย
หยางเฉินได้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย องค์กรการที่สามารถฝึกฝนผู้แข็งแกร่งออกมาได้แบบนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ดูแล้ว ปัญหาที่หันซวนพบเจอนั้นต้องใหญ่มากแน่ๆ
แต่เธอเป็นผู้สอบทอดของอิงเลียแห้งชายแดนเหนือ ต่อให้เธอต้องพบเจอกับอำนาจที่ใหญ่ล้นฟ้า หยางเฉินก็ต้องเข้ามาช่วยเธอแน่นอน
“ฉันเป็นใคร มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกแก แต่ฉันขอบอกไว้เลย ว่าถ้าพวกแกยังไม่ไสหัวไปอีก พวกแกก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว!” หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“กล้ามาทำร้ายคนของสมาคมบูโดของเรา แกมันก็แค่กำลังขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองเท่านั้น!”
ความเจ็บปวดที่ส่งมาจากหัวเข่า ทำให้หัวหน้าขอผู้แข็งแกร่งแทบจะกัดฟันพูดออกมาแล้ว
“สมาคมบูโดอย่างนั้นเหรอ?”
หยางเฉินได้ขมวดคิ้วอย่างแรง
องค์กรนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยิน ก่อนหน้านี้ที่เมืองโจวเฉิง นักฆ่าที่ลอบสังหารเฉินอิงจวิ้น ก็คือคนของสมาคมบูโดนี่แหละ
ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้เจอคนของพวกมันในเมืองเจียงโจวแบบนี้
“ผู้หญิงคนนี้คือผู้ทรยศของสมาคมบูโดการที่เราฆ่าเธอ มันก็เป็นคำสั่งจากเบื้องบน!”
ผู้แข็งแกร่งอีกคน พูดด้วยท่าทางที่ทรงอำนาจว่า “ถ้ารู้จักเจียมตัวก็รีบไสหัวไปซะ! สมาคมบูโดไม่ใช่องค์กรที่แกจะมีเรื่องด้วยได้!”
“ดูแล้ว พวกแกก็ยังฟังที่ฉันพูดไม่เข้าใจอยู่ดีสินะ!”
หยางเฉินส่ายหน้า “ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่ากระดูกของพวกแกนั้น มันแข็งขนาดไหนกัน!”
“สามหาวสิ้นดี!”
คนคนนั้นขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ แล้วโบกมือใหญ่ๆ ของตัวเอง “พวกเราบุกเข้าไปพร้อมกัน แก้แค้นให้พี่ใหญ่! ระวังอาวุธลับของมันด้วยล่ะ!”
เห็นได้ชัด ว่าการที่หยางเฉินดีดหินใส่พวกมันนั้น ถูกมองว่าเป็นการใช้อาวุธลับไปแล้ว
แต่ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว มีเพียงแค่แสงสว่างจากไปที่สลัวๆ พวกเขาเห็นไม่ชัดเจนว่าหยางเฉินนั้นลงมือยังไง มันจึงเป็นเรื่องธรรมดา
สามผู้ยิ่งใหญ่แห่งสมาคมบูโด พุ่งเข้าใส่หยางเฉินพร้อมกัน
แต่หยางเฉินก็ไม่ได้เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ราวกับก้าวเดินอยู่ในลานบ้าน เดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
เกิดความร้อนรนขึ้นในแววตาของหันซวน เธออยากเข้าไปช่วยหยางเฉิน แต่เธอนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อนแล้วเมื่อกี้ก็มาถูกรุมทำร้ายอีก จนแผลมันฉีกขาดไปแล้ว เจ็บหนักยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้เธอจึงไม่มีแรงมากพอที่จะทำการต่อสู้อีกแล้ว
“คุณรีบไปซะ!”
จู่ๆ หันซวนก็ตะโกนออกมา
ถึงเธอจะไม่รู้ว่าปู่ของตัวเองกับหยางเฉินนันเป็นอะไรกัน แต่จากคำพูดของหยางเฉินนั้นเธอก็สามารถรับรู้ได้ว่า หยางเฉินนั้นเคารพในตัวปู่ของเธอมาก
ถ้าเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้หยางเฉินต้องตาย เธอก็ไม่มีทางยกโทษให้ตัวเองเด็ดขาด
แต่วินาทีที่ตะโกนออกไป เธอก็ต้องเบิ่งตาโตทันที
เธอเห็นหยางเฉินนั้นขยับตัวเล็กน้อยด้วยความเร็ว จากนั้น สมาชิกสามคนของสมาคมบูโดนั้นต่างก็กระเด็นออกไปหลายสิบเมตรราวกับถูกรถบรรทุกที่หนักหลายตันชนเข้า
พร้อมๆกับเสียงกระดูกที่แตกหัก
หลังจากที่สามคนนั้นล้มลงกับพื้น พวกเขาก็แน่นิ่งไปทันที ดูไม่ออกว่าเป็นหรือตาย
ทุกอย่างที่ว่ามานี้ เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเท่านั้น
หันซวนรู้สึกราวกับฝันไป เดิมทีเธอเองก็เป็นสมาชิกของสมาคมบูโดเหมือนกัน กับความแข็งแกร่งของสี่คนนี้ เธอรู้ดีอย่างมาก
แต่ตอนนี้ กลับดูอ่อนแอแบบนี้
รูม่านตาของหัวหน้าของผู้แข็งแกร่งนั้นหดเล็กลงทันที สองตาจ้องเขม็งไปที่หยางเฉิน ราวกับลืมความเจ็บปวดที่หัวเข่าของตัวเองถูกเจาะทะลุไปแล้ว
ต่อให้อยู่ในสมาคมบูโด เขาก็ไม่เคยเห็นใครที่มีฝีมือน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน
บางที อาจจะมีแค่ระดับท่านผู้นำเท่านั้นละมั้งถึงจะมีความสามารถในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้?
“ฉันได้เสนอทางรอดให้พวกแกแล้ว ทำไมถึงไม่เอา?”
สายตาของหยางเฉินค่อยๆ ขยับ จนมาหยุดอยู่ที่หัวหน้าของผู้แข็งแกร่ง
“ฉัน ฉัน ฉันจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลย!”
หัวหน้าของผู้แข็งแกร่งตกใจจนตัวสั่น แม้แต่ตอนพูดก็ยังติดอ่างขึ้นมาแล้ว
ทันทีที่พูดจบ เขาก็รีบลุกขึ้น แล้วเดินกระเผลกๆ ออกไป
“คิดจะไปสินะ?”
หยางเฉินจ้องมองผ่านหลังของหัวหน้าของผู้แข็งแกร่ง แล้วขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “มันสายไปแล้ว!”
สายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน มาพร้อมกับความหนาวเย็นสายหนึ่ง
สีหน้าของหันซวนนั้นซีดเผือด เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าคนคนหนึ่ง จะเก่งกาจได้ขนาดนี้
สมาชิกสี่คนของสมาคมบูโด แทบจะตายไปในพริบตาเลย!
“พวกเขาเป็นสมาชิกของสมาคมบูโด ถ้าคุณฆ่าพวกเขา มันก็จะสร้างปัญหาให้คุณอย่างมากเลย!”
หันซวนกัดฟันแน่น แววตานั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน
“มันก็จริงที่อาจเจอปัญหาบ้าง แล้วมันจะทำไมเหรอ?”
หยางเฉินขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ถ้าพวกมันอยากที่จะรนหาที่ตาย ผมก็ไม่ขัดดข้องที่จะกระทืบสมาคมบูโดให้จมดิน!”
ตุบ!
หับนซวนรู้สึกได้แค่มีเสียงดังสนั่นเกิดขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความช็อก
กระทืบสมาคมบูโดให้จมดิน!
ถึงคำพูดนี้ฟังแล้วจะดูบ้าบิ่นอย่างถึงที่สุด
แต่หันซวนกลับไม่รู้สึกว่ามันบ้าบิ่นเลยสักนิด
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถสังหารสมาชิกสี่คนของสมาคมบูโดได้อย่างง่ายดาย เป็นคนที่บ้าบิ่นจริงๆ เหรอ?
หยางเฉินไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของหันซวน เขาหันหลังแล้วเดินกลับไปยังรถPhaetonคันดำของเขา จากนั้นก็หยิบมีดเล่มใหญ่ออกมาเล่มหนึ่ง แล้วโยนมันออกไป
“แคร็ง!”
มีดเล่มใหญ่นั้นลอยไปที่ใต้เท้าของหันซวนจนมีดนั้นเสียบลึกเข้าไปในพื้น!
“มีดทรราช ผมคืนให้คุณ!”
หยางเฉินจ้องมองหันซวนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ถ้าให้ผมรู้ว่าคุณยังไปทำเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงของมีดทรราชอีก ต่อให้เป็นหลานสาวของเขา ผมก็ไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ แน่นอน!”