The king of War - บทที่ 289 เก็บนายไว้มีประโยชน์อะไร
เว่ยเสียงรู้สึกแต่ว่าการหายใจของตัวเองได้ถูกบีบ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยว่าสีหน้าก็ได้แดงอย่างรวดเร็ว ร่างที่อ้วน ก็ได้ดิ้นรนสุดชีวิต
แต่ว่าเขาได้พยายามดิ้นสุดชีวิตแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะดิ้นหลุดออกจากมือหยางเฉิน
เห็นว่าแรงที่เว่ยเสียงใช้ดิ้นรนยิ่งอยู่ยิ่งน้อยแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าต้องตายจริงๆ แน่
“ตุ้บ!”
ในที่สุดหยางเฉินก็ได้วางมือ ก็ได้โยนออกไป ไอ่อ้วนน้ำหนักร้อยกว่าโล ก็ได้กระแทกไปที่พื้นอย่างแรง
พวกบอดี้การ์ดรอบๆ ที่ถูกหยางเฉินล้มไปนั้น เห็นเหตุการณ์นี้เข้า ใจของแต่ละคนก็ได้กระตุกอย่างแรงไปที
เว่ยเสียงที่หนักกว่าร้อยกว่าโล อยู่ในมือของหยางเฉิน กลับเหมือนไก่ตัวเล็ก ใช้มือข้างเดียวยก บอกจะโยนก็ได้โยน
นี่แม่งเป็นแรงของคนเหรอว่ะ?
ถึงว่าทีเดียวก็ได้ต่อยพวกเขาล้มลง!
เว่ยเสียงถูกโยนกระแทกไปบนพื้น ถึงแม้เจ็บมาก แต่กับมีความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่ สูดหายใจเข้าไปอย่างหนัก
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่แกจะได้มีชีวิตรอด!”
“บอกฉัน บอกเรื่องที่ฉันอยากรู้ทั้งหมด!”
“ไม่งั้น ตาย!”
หยางเฉินพูดจบ ก็ได้อยู่ที่ข้างหัวเขา เหยียบพื้นไปอย่างแรง
“ตุ้บ!”
เสียงดังขึ้น หยางเฉินได้เหยียบพื้นหินอ่อน ก็ได้แตกเป็นรอยราวทันที
เว่ยเสียงรู้สึกว่าหูนั้นจะหนวกอยู่แล้ว ก็ได้มองพื้นหินอ่อนก็ได้แตกละเอียดไปอย่างอึ้งๆ
เขาก็ได้กลืนน้ำลายอย่างลำบาก ตัวเองยังมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเหรอ?
“ถ้าเกิดมึงคิดว่า หัวของตัวเองแข็งกว่าหินนี้ละก็ สามารถที่จะปฏิเสธได้!” หยางเฉินก็ได้พูดอย่างเยือกเย็น
“ผมพูด! ผมพูด! เป็นคุณชายเมิ่ง! เป็นคนของคุณชายเมิ่ง ที่พาตัวโจวยู่ชุ่ยไป!”
เว่ยเสียงก็ได้รีบตะโกนออกมา
ในใจของเขากลัวเอามากๆ ถ้าเกิดไม่พูด ตอนนี้หยางเฉินก็สามารถที่จะเอาชีวิตตนได้ แต่ว่าถ้าเกิดพูดแล้ว พอเมิ่งฮุยรู้เข้า ก็ไม่มีทางปล่อยเขา
ในบรรยากาศที่กดดันของหยางเฉิน เขาไม่มีทางให้เลือก
ได้คำตอบแล้ว สีหน้าของหยางเฉินก็ได้เครียดจนถึงขีดสุด เกี่ยวข้องกับตระกูลเมิ่งจริงๆ ด้วย
แต่เขาเข้าใจดี เบื้องหลังตระกูลเมิ่ง ก็เป็นตระกูลอวี๋เหวิน
คิดถึงตรงนี้ หยางเฉินก็ได้เข้าใจเลยทันที
ผู้นำของตระกูลอวี๋เหวิน ถึงแม้อยากที่จะให้ตัวเองกลับเข้าตระกูล ไปสานต่อตำแหน่งผู้นำ แต่ว่าในตระกูล ไม่ได้มีผู้นำเพียงคนเดียว
ยังมีสายเลือดอื่นอยู่ ร่วมกระทั่งเยี่ยนเฉินกรุ๊ป บอกว่าคืนให้ตัวเอง แต่ว่าก็ยังมีบางส่วนที่ได้อยู่ในการควบคุมของสายเลือดหลักของตระกูลอวี๋เหวิน
“เพื่อที่จะให้กูไม่มีอะไรเลย พวกมึงนี่มันลงทุนจังนะ!”
ตาหยางเฉินได้หรี่เล็กน้อย ราวกันมีเจตนาฆ่าสองสายส่องมา
“เมื่อคืน โจวยู่ชุ่ยถูกมึงแย่งตัวไปใช่ไหม?” หยางเฉินก็ได้ถามต่อ
เว่ยเสียงไม่กล้าปิดบัง ก็ได้พยักหน้าอย่างเร็ว “เป็นผมที่ไปลักตัวเธอมาครับ แต่ว่าทั้งหมดนี้ เป็นคุณชายเมิ่งที่ทำให้ผมทำ”
“คุณหยาง คุณก็รู้ คุณชายเมิ่งเป็นผู้สืบทอดตระกูลเศรษฐีที่เมืองเอก คำสั่งของเขา ผมไม่กล้าไม่ทำนะครับ!”
“ต่อให้คุณล้างแค้น งั้นก็ควรไปที่ตระกูลเมิ่ง ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมนะ!”
ไหนๆ เว่ยเสียงก็ได้พูดออกไปแล้ว ว่าโจวยู่ชุ่ยได้ถูกเมิ่งฮุยพาตัวไป ตอนนี้สามารถที่จะผลักภาระได้ ก็ผลักไปให้ตระกูลเมิ่งทั้งหมด
เขาไม่เชื่อว่า หยางเฉินกล้าที่จะไปเอาตัวคนที่ตระกูลเมิ่ง
“ไหนๆ โจวยู่ชุ่ยไม่ได้อยู่ในมีแก งั้นฉันไว้ชีวิตแก เหมือนว่าก็ไม่มีประโยชน์อะไร?”
อยู่ๆ หยางเฉินหรี่ตาแล้วพูด
ได้ยินที่หยางเฉินพูด ใบหน้าของเว่ยเสียงก็ได้เต็มไปด้วยความกลัว เพราะว่ากลัว ร่างกายก็ได้สั่นอย่างแรง
“คุณ……คุณฆ่าผมไม่ได้นะ พ่อของผมเป็นผู้นำ เว่ยเฉิงโจว ถ้าเกิดคุณฆ่าผม ตระกูลเว่ยไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่!”
เว่ยเสียงก็ได้พูดตะโกนเสียงดัง
เขานั้นกลัวตายจริงๆ แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะขอทางรอดยังไงดี
สำหรับเขาแล้ว เหมือนว่ามีแค่ฐานะคนของตระกูลเว่ย สามารถทำให้ตัวเองนั้นมีโอกาสรอดมากขึ้น
หยางเฉินก็ไม่ได้ที่จะฆ่าเว่ยเสียงจริงๆ คำพูดเมื่อกี้ ก็แค่อยากจะได้เบาะแสที่มีประโยชน์ มาจากปากของเว่ยเสียงบ้างเท่านั้น
“นายรู้ว่า ฉันเกลียดอะไรมากที่สุดไหม?”
อยู่ๆ หยางเฉินก็ได้ถาม
“อะไรครับ?”
เว่ยเสียงก็ได้ถามออกไปอัตโนมัติ
ก็ตอนที่เขาถามประโยคนี้ไปโง่ๆ นั้น อยู่ๆ หยางเฉินก็ได้แตะออกไป
“ตึ้บ!”
ร่างอ้วนร้อยกว่าโลของเว่ยเสียง ก็ได้กระเด็นออกไป
โชคดีที่ตัวของเว่ยเสียงเนื้อเยอะ ในแรงกระแทกที่หนักขนาดนี้ ก็ยังไม่ได้สลบไป
ถึงแม้ไม่ได้สลบไป แต่ความเจ็บปวดที่มหาศาลนี้ ก็ยังอดร้องออกมาเสียงดังอย่างเจ็บปวดไม่ไหว
ทั้งคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เต็มไปด้วยเสียงร้องที่เจ็บปวดของเว่ยเสียง
บอดี้การ์ดสิบกว่าคน ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาห้าม ต่างก็ได้มองหยางเฉินด้วยสีหน้าที่น่ากลัวแบบนั้น
พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเว่ย คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ไม่เคยที่จะเจอกับคนที่แข็งแกร่งและน่ากลัวอย่างหยางเฉินมาก่อน
ไอ่อ้วนร้อยกว่าโล อยู่ในมือของเขา ก็เหมือนกับลูกบอลอย่างงั้น บอกว่าหิ้วก็หิ้วขึ้น บอกว่าถีบก็ถีบเลย
อย่าว่าแต่พวกเขา ต่อให้เป็นบอดี้การ์ดทั้งตระกูลเว่ยมารวมกัน เกรงว่าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน?
“ที่ฉันเกลียดที่สุด ก็คือการข่มขู่!”
หยางเฉินก็ได้ตอบคำถามที่เว่ยเสียงถามมาเมื่อกี้ออกไป
“คุณชายเมิ่งที่แกพูดมาเป็นใคร? ทำไมต้องให้โจวยู่ชุ่ยพูดแบบนั้นตอนไลฟ์สด? แล้วทำไมมันต้องพาตัวโจวยู่ชุ่ยไปด้วย?”
หยางเฉินเดินไปข้างๆ เว่ยเสียง จ้องมองเขาบนพื้น พูดออกมาอย่างเยือกเย็น “พูดเรื่องที่แกรู้ทั้งหมดมาให้ฉัน ถ้าเกิดคำตอบที่ได้มาทำให้ฉันไม่พอใจ แกก็จะได้รับรู้ล่วงหน้าว่า อะไรคือนรก!”
“ผม……ผมบอก ผมบอกคุณทั้งหมด!”
คราวนี้ เว่ยเสียงกลัวจริงๆ แล้ว ทนกับความเจ็บบนร่างกายแล้วก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดออกไป
“คุณชายเมิ่งก็คือเมิ่งฮุย เป็นรุ่นที่สายที่มีอำนาจที่สุดในตระกูลเมิ่ง ได้ยินมาว่ากับหยูเหวินหวูของตระกูลอวี๋เหวินความสัมพันธ์ที่ดีมาก!”
“ไลฟ์สดคราวก่อน ก็เป็นผมที่ได้วางแผนเองทั้งหมด! แต่ว่าเมิ่งฮุยเป็นคนบังคับผม เขาให้เวลาผมแค่เจ็ดวัน ให้ผมจัดการทำลายเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว”
“เป็นเมิ่งฮุยที่บอกใบ้ผม ว่าสามารถใช้โจวยู่ชุ่ย จากนั้นผมถึงได้ทำแบบนั้น”
“ส่วนทำไมเมิ่งฮุยจะเอาตัวโจวยู่ชุ่ยไปอีกนั้น บอกว่าจะฆ่าเธอทิ้ง!”
“คุณหยาง ผมได้เอาเรื่องที่ผมรู้ทั้งหมดที่รู้ บอกกับคุณหมดแล้ว ขอร้องคุณเห็นใจ ไม่ต้องฆ่าผม! ผมนั้นโดนบังคับ ถ้าเกิดผมไม่ทำแบบนี้ เมิ่งฮุยต้องเอาผมตายแน่ ผมไม่มีทางเลือกนะครับ!”
เว่ยเสียงร้องไห้แล้วจริงๆ ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยน้ำตา ร่างกายที่อ้วนก็ได้สั่น
“โจวยู่ชุ่ยถูกพาตัวไปตอนไหน? แล้วถูกพาตัวไปที่ไหน?”
หยางเฉินรีบถาม
ในตอนที่เขาไม่มีหลักฐานแบบนี้ แล้วก็มาหาเว่ยเสียง ก็เพราะกังวลว่าโจวยู่ชุ่ยจะถูกฆ่า
ตอนนี้เว่ยเสียงกลับพูด เมิ่งฮุยพาตัวโจวยู่ชุ่ยไป ก็เพื่อที่จะฆ่าเธอ
สามารถรู้ได้ หยางเฉินได้ร้อนใจมาก
โจวยู่ชุ่ยนั้นควรตาย แต่ว่าไม่ควรตายในน้ำมือของตัวเอง เพราะว่าฉินซีกับฉินยีจะเสียใจเอา
โจวยู่ชุ่ยได้ถูกคนแย่งตัวไปตอนที่คนของตัวเองส่งกลับบ้าน งั้นเขาจำเป็นต้องไปช่วย
“ก็ตอนที่คุณจะมา ประมาณยี่สิบกว่านาทีได้ ถูกคนของเมิ่งฮุยพาตัวไป” เว่ยเสียงก็ได้รีบพูด
ได้ยินแบบนั้น หยางเฉินก็ไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย หันตัวแล้วจะออกไป
“ไหนๆ ตระกูลเมิ่งเป็นกรงเล็บของพวกแก งั้นฉันก็จะถอนรากของมัน!”
หยางเฉินได้โมโหจริงๆ
กลับมาคราวนี้ เดิมทีเขาอยากที่จะทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปรุ่งเรือนด้วยมือตัวเอง ส่วนเรื่องความบาดหมางกับตระกูลอวี๋เหวิน เขาก็ยังไม่ได้มีความคิดที่จะจัดการ
แต่ว่าวันนี้ ตระกูลอวี๋เหวิน มีบางคนที่ไม่อยากที่จะปล่อยตนไป
ถ้าเกิดไม่เป็นเพราะว่าเขาพึ่งกลับมา ยังยืนไม่นิ่ง กลัวว่าคนรอบตัวตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ เขาจะไปทนกับการหาเรื่องของคนบางคนในตระกูลอวี๋เหวินทำไม?
ถึงแม้ว่ายังจะแตะตระกูลอวี๋เหวินไม่ได้ แต่ว่าตระกูลเมิ่งของเมืองเอก ก็ใช่ว่าจะแตะไม่ได้