The king of War - บทที่ 292 ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ภายในสิบวิ เลือกเอาว่าจะไสหัวไป หรือว่าตาย!”
ความหงุดหงิดในใจหยางเฉิน ก็อยากที่จะระเบิดออกมาตั้งแต่แรกแล้ว
“ผู้นำพูดแล้ว ขอแค่ไม่เอามันจนตาย จะทำยังไงก็ได้ พวกเราลุย ทำให้แขนขามันเดี้ยงก่อน!”
คนที่เป็นคนนำก็ได้โบกมือ นักสู้มีฝีมือสิบกว่าคนของตระกูลเว่ย ก็ได้พากันพุ่งไปทางหยางเฉิน
สีหน้าของหยางเฉินได้เรียบ มองศัตรูที่ได้เข้ามาหาตัวเองทีละคน เหมือนว่าไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
เห็นว่าอยู่ๆ เขาก็ได้เดินเข้ามา เดินเข้ามาอย่างสบายๆ คิดไม่ถึงว่าจะเข้าไปหานักสู้กว่าสิบคนเอง
“เชี้ย! เอามัน!”
คนที่ได้พุ่งเข้าไปทางหยางเฉินคนแรก ไม่ได้ออมมือเลยแม้แต่น้อย ก็ได้สับมีดไปทางแขนของหยางเฉิน
“ตึ้ง!”
หยางเฉินได้ออกหมัด จากนั้นก็ได้ตามด้วยเสียงกระดูกที่หัก หน้าอกของคนคนนั้นก็ได้ยุบไปเลย กระอักเลือดออกมา ร่างกายก็ได้เหมือนลูกบอล ที่โดนตบจนเด้งออกไป
คนคนนั้นกระเด็นออกไปเสร็จ แรงกระเด็นของนักสู้คนนั้น ก็ได้ทำให้นักสู้ข้างหลังกี่คนได้กระเด็นตามไปด้วย
“ตุบตั้บตุ้บ!”
ความเร็วของหยางเฉินไม่เปลี่ยน เดินแต่ละก้าว ไม่ก็ต่อยหมัดไป ไม่ก็เตะออกไป เห็นร่างได้กระเด็นออกไปล้มกับพื้นไม่หยุด
ไม่กี่วินาที บนพื้นก็ได้เต็มไปด้วยคนที่ได้โดนต่อยจนกระเด็นออกมา
ลมหายใจของหยางเฉินได้ปกติ ราวกับว่าที่เผชิญหน้าเมื่อกี้ไม่ได้เป็นนักสู้ที่จะมาทำร้ายตน แต่เป็นแค่คนธรรมดาที่เดินผ่าน
ยังไงซะเขาก็เป็นคนมีชื่อเสียงในประเทศจิ่วโจว คนที่เฝ้าเขตชายแดนเหนือที่ไม่เคยแพ้คนหนึ่ง ความสามารถก็ได้เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจิ่วโจว อย่าว่าแต่นักสู้ของตระกูลเว่ย ต่อให้เป็นนักสู้อันดับต้นๆ ของประเทศจิ่วโจว จะมีสักกี่คน ที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา?
ในสายตาของหยางเฉิน พวกที่บอกว่าเป็นการต่อสู้กับนักสู้ฝีมือของตระกูลเว่ย ก็เหมือนกับผู้ใหญ่ที่ตีกับเด็ก
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะหยางเฉินออมมือ เกรงว่าคนสิบกว่าคนพวกนี้ ได้ตายหมดแล้ว
“ไสหัวกลับไปบอกกับเว่ยเฉิงโจวเลยนะ รอฉันไปบ้านตระกูลเมิ่งก่อน แล้วก็ไปหาเขาด้วยตัวเอง!”
สายตาของหยางเฉินกวาดมองสักพัก ก็ได้พูดออกไปอย่างเยือกเย็น
พูดจบ เขาก็ได้หันตัวขึ้นรถ เป็นอีกครั้ง ที่ไม่มีอะไรมาขวาง ได้ขับไปทางเมืองเอก
ต่อให้โจวยู่ชุ่ยตายแล้วจริงๆ หยางเฉินก็จำเป็นที่จะเอาศพเธอกลับมา!
ต่อให้ไม่มีศพ หยางเฉินก็ได้เอาขี้เถ้ากลับมา!
ตระกูลเมิ่ง จำเป็นต้องชดใช้กับเรื่องนี้!
ในเวลาเดียวกัน เมืองเอก ตระกูลเมิ่ง คฤหาสน์หลังหนึ่ง
คนอายุประมาณสามสิบคนหนึ่ง ก็ได้นั่งอยู่ที่โซฟาหนังสุดหรู มือหนึ่งได้ถือแก้วไวน์ที่ได้มีไวน์ที่เป็นคอลเลกชั่นไวน์เต็มแก้ว ก็ได้ค่อยๆ เขย่า
เขาเป็นตระกูลเศรษฐีเมืองเอก รุ่นสามที่เก่งที่สุดในตระกูลเมิ่ง
ตรงข้ามเขาก็ได้เป็นคนที่ได้อายุน้อยกว่าคนหนึ่ง และข้างหลังก็ได้มีชายร่างกำยำอีกคนหนึ่ง หน้าตาแถบตะวันตก ร่างกายก็ได้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
“พี่ พี่ว่า เขาจะมาไหม?”
ชายอายุน้อยก็ได้มองไปทางเมิ่งฮุย ถามด้วยสีหน้าที่สงสัย
ถ้าเกิดหยางเฉินอยู่ที่นี่ ก็ต้องจำได้ว่า คนคนนี้ เป็นเมิ่งชวนที่เขานั้นมีความบาดหมางด้วย ในสมาคมประมูลเมิ่งจี้คนนั้น
แต่ว่าในตระกูลเมิ่ง จุดยืนของเมิ่งชวน ก็เทียบไม่ได้เลยแม้แต่นิ้วมือของเมิ่งฮุย
มุมปากของเมิ่งฮุยก็ได้ชี้ขึ้นเล็กน้อย “จากข่าวที่ฉันรู้ คนคนนั้น ทั้งบ้าบิ่น แล้วก็อวดเก่ง ฉันบอกว่าได้ฆ่าแม่สะใภ้ของเขา เขาก็ต้องมาแน่!”
เมิ่งชวนมองชายร่างกำยำที่อยู่ข้างหลังเมิ่งฮุยสักพัก ก็ได้พูดออกมาอย่างเป็นห่วงเล็กน้อยว่า “พี่ มีแค่โซโรคนเดียว จะฆ่าหยางเฉินได้เหรอ?”
“ตอนนั้น ที่อยู่ในสมาคมประมูลเมิ่งจี้ เขาก็ได้ขว้างปากกาออกไปง่ายๆ ก็ได้ฆ่าจวงปี้ฝานที่ได้อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร”
“ฝีมือของเขา น่ากลัวมากๆ ไม่แน่ได้เก่งกว่าเฉียนเปียวที่อยู่กับเขา ไม่รู้เท่าไหร่”
เมิ่งฮุยยิ้ม ก็ได้มองไปทางชายร่างกำยำ “โซโร นายแสดงฝีมือหน่อยสิ!”
สีหน้าของโซโรได้น่ากลัว แล้วก็ได้กระทืบไปกับพื้น
“ตุ้ม!”
เสียงได้ดังมาก มองพื้นที่ได้กระทืบไปเมื่อกี้ พื้นหินอ่อนราคาแพงก็ได้แตกไปเลยทันที
แต่ว่านั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ จุดที่ได้ยุบลงไปนั้นก็ได้มีรอยเท้าที่ชัดเจนเกิดขึ้น
“คุณชายชวนวางใจเถอะครับ มีผมอยู่ ต่อให้เป็นหยางเฉินสิบคน ผมก็สามารถที่จะฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย!”
โซโรพูดด้วยสีหน้าที่ภูมิใจ
“ฮ่าๆ ได้!”
เมิ่งชวนก็ได้หัวเราะออกมาอย่างดัง “มีโซโรอยู่ หยางเฉินต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
สมาคมประมูลเมิ่งจี้คราวก่อน หยางเฉินก็ได้ขว้างปากกาออกไปแท่งหนึ่งง่ายๆ ก็ได้ฆ่าจวงปี้ฝานไปเลยทันที ก็ได้ทำให้ใจของเมิ่งชวนได้มีความกลัวไว้แล้ว
ถ้าเกิดไม่เป็นเพราะว่าหาคนมีฝีมือมาต่อกรกับหยางเฉินไม่ได้ เขาก็คงฆ่าหยางเฉินไปนานแล้ว
ตอนนี้เห็นคนที่อยู่ข้างเมิ่งฮุย คนที่เก่งขนาดนี้ ใบหน้าของเขาก็ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่ ผมรู้ว่าโซโรเก่งมาก แต่ว่าเพื่อความปลอดภัย พวกเรายังต้องเตรียมการอะไรไว้ก่อนหรือเปล่า?”
ถึงแม้ว่าเมิ่งชวนเห็นได้ถึงความเก่งกาจของโซโรแล้ว แต่ว่าเขาก็ได้เห็นฝีมือของหยางเฉินเหมือนกัน ก็ยังเป็นกังวลเล็กน้อย
“เมิ่งชวน นี่มันไม่เหมือนกับลูกผู้ชายของตระกูลเมิ่งของพวกเราเลยนะ!”
ใบหน้าของเมิ่งฮุยก็ได้เต็มไปด้วยความอวดเก่ง มองเมิ่งชวนพูด “ต่อให้หยางเฉินมีสามหัวหกแขน ยังกล้าที่จะบุกมาที่ตระกูลเมิ่งอีกเหรอ? ต่อให้กล้าบุกเข้ามาจริงๆ นายคิดว่า เขามีโอกาสที่จะมาถึงข้างหน้าฉันเหรอ? ต่อให้มาถึง พวกเรายังมีโซโร กลัวอะไร?”
“ตระกูลเมิ่งของมีพลังอันแข็งแกร่ง ถ้าเกิดพวกนี้เขาก็ยังทำลายเข้ามาได้ง่ายๆ งั้นตระกูลเมิ่งก็เป็นแค่ตระกูลที่ไร้ประโยขน์จริงไหม?”
ได้ยินเมิ่งฮุยพูดแบบนี้ เมิ่งชวนถึงได้โล่งใจไปไม่น้อย ก็ได้รีบพูดไปว่า “พี่ เป็นผมที่คิดน้อยไป มองไอ่หมอนั่นเก่งเกินไป”
“นี่สิถึงจะเป็นน้องชายของฉันเมิ่งฮุย!”
เมิ่งฮุยยิ้ม อยู่ๆ ก็ถามว่า “เรื่องที่ฉันให้นายไปจัดการ ทำไปถึงไหนแล้วบ้าง?”
เมิ่งชวนพูด “พี่วางใจเถอะครับ ได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ผมได้ให้พวกนักข่าว ปล่อยข่าวเรื่องโจวยู่ชุ่ยได้ถูกฆ่าตายไปแล้วครับ คาดว่า ตอนนี้น่าจะเป็นข่าวดังของหลายๆ แห่งแล้วละครับ?”
“วันนี้ไป เจียงโจวก็ไม่มีเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอีก!”
มุมปากของเมิ่งฮุยได้ชี้ขึ้น ก็ได้เป็นรอยยิ้มที่ได้เต็มไปด้วยแผนร้าย
“พี่ ถ้าเกิดพวกเราฆ่าหยางเฉินไปจริงๆ ตระกูลอวี๋เหวินคงไม่ลงมือจัดการพวกเราใช่ไหม? ถึงแม้ว่าไอ่หมอนั้นเป็นคนที่โดนทิ้ง แต่ว่ายังไงก็เป็นคนของตระกูลอวี๋เหวิน” เมิ่งชวนพูด
“วางใจเถอะ คุณชายปิงก็ได้รับปากกับฉันแล้ว ขอแค่ตระกูลเมิ่งมั่นใจว่าสามารถที่จะฆ่าหยางเฉินได้ งั้นก็ทำไปเถอะ”
เมิ่งฮุยยิ้มพร้อมพูด “ในตระกูลอวี๋เหวินอำนาจของคุณชายปิง ก็เท่ากับอำนาจที่ฉันมีในตระกูลเมิ่ง ไม่แน่ใช้เวลาไม่นาน คุณชายปิงก็สามารถที่จะสานต่อตระกูลอวี๋เหวินได้แล้ว ถึงตอนนั้น อำนาจของตระกูลเมิ่งของพวกเรา ก็ต้องก้าวขึ้นไปอีกขั้นแน่”
ใบหน้าของเมิ่งชวนก็ได้เต็มไปด้วยการรอคอย ยังไงซะตระกูลเมิ่งมีอำนาจแล้ว เหมือนเขาที่เป็นเพลย์บอยของตระกูลเมิ่งแบบนี้ ตำแหน่งก็ได้ก้าวขึ้นไปเหมือนกัน
ตอนที่พี่น้องตระกูลเมิ่งกำลังวางแผนอนาคตของตระกูลเมิ่งนั้น ข่าวข่าวหนึ่ง ก็ได้เป็นข่าวดังอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้อยู่ในจุดที่สูงที่สุดในหัวข้อข่าว
“โจวยู่ชุ่ยตายแล้ว หยางเฉินได้ขาดการอธิบายกับพวกเรา!”
“ไลฟ์สดตอนเช้า ตอนบ่ายก็ได้ฆ่าทำลายหลักฐานแล้ว ความจริงเป็นอะไรกันแน่?”
“คนที่รับผิดชอบเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว ฆ่าแม่แย่งสมบัติ!”
ในทุกสำนักข่าว ต่างเป็นข่าวการตายของโจวยู่ชุ่ย
ถึงขั้นแม้แต่หัวข้อ ก็ได้ใช้ชื่อโจวยู่ชุ่ยกับหยางเฉินไปเลย
ยังไงซะตอนเช้า ไลฟ์สดของโจวยู่ชุ่ย พึ่งดังไปเอง เป็นข่าวดังของหลายสำนัก
ความดังของไลฟ์ยังไม่ทันลง กับชื่อของโจวยู่ชุ่ยกับหยางเฉิน ก็ได้เป็นที่รู้จักของคนในโซเชียล
“โจวยู่ชุ่ยตายแล้ว!”