The king of War - บทที่ 337 ตายแล้วตายแล้ว
ปรมาจารย์ถังก็ไม่ได้ปิดบัง บอกความจริงกับหยางเฉินแล้ว
หยางเฉินยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้เขาถึงเข้าใจแจ่มแจ้งถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนเหล่านั้นที่ปรมาจารย์ถังพูดถึงเมื่อสักครู่
ที่แท้หวงเหมยคือมารดาของเมิ่งฮุย
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว!” หยางเฉินหรี่ดวงตานิดหน่อย
“ไอ้หนุ่ม แกจะไปกับฉันเอง หรือให้ฉันหักแขนขาทั้งสี่ของแก แล้วเอาตัวแกไปเจอคุณหญิงหวง?”
ท่าทีของปรมาจารย์ถังแข็งกร้าวอย่างมาก พูดแบบหน้าตาไร้อารมณ์
ในสายตาของเขา หยางเฉินเป็นเพียงคนตาย
โดยเฉพาะลูกชายและอดีตสามีของหวงเหมย เป็นเพราะเขาถึงได้ตาย
“ดูแล้วแกคงมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากทีเดียวเลยสินะ!” หยางเฉินเยาะเย้ย
ในจิ่วโจวที่กว้างใหญ่ เขายังไม่เคยเจอคนที่กล้าบอกว่าจะบังคับเอาตัวไปมาก่อน
“ดูแล้วยังต้องให้ฉันลงมือเอง ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็หักแขนขาของแกก่อนเลยแล้วกัน”
ปรมาจารย์ถังพอพูดจบ ขยับเท้าทันใด ชั่วพริบตาเดียวก็พุ่งเข้าไปยังหยางเฉิน
หยางเฉินยืนอยู่ที่เดิม เดิมทีไม่ได้มีความคิดจะหลบเลี่ยง
ในเมื่อแกกล้าดูถูกฉัน งั้นจะให้แกได้รู้ถึงผลลัพธ์ของการประเมินการณ์ศัตรูต่ำ!
“เจ้าหมอนี่วอนหาที่ตาย!”
เห็นมุมปากหยางเฉินวาดรอยยิ้มหยอกเย้าขึ้นมา ปรมาจารย์ถังรู้สึกว่าหยางเฉินกำลังเย้ยหยันตนเอง ชั่วขณะนั้นโมโหยกใหญ่ ออกแรงกระโดดทันใด ร่างกายของเขาลอยขึ้นกลางอากาศสูง
เท้าของเขา ถีบเข้ามาบนศีรษะของหยางเฉินอย่างรุนแรง
สายตามองเห็นว่าเท้าของเขา กำลังจะถีบโดนศีรษะของหยางเฉิน ทว่ากลับยังคงไม่เห็นหยางเฉินหลบไปไหน
“ไอ้หนุ่ม ยังโอหังเสียจริง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถือว่าฆ่าแกทิ้ง คุณหญิงหวงก็คงไม่โทษฉันหรอก!”
ปรมาจารย์ถังตะโกนบอกแบบหน้าตาดุร้ายเต็มที่
“หมับ!”
ช่วงขณะที่เท้าของเขากำลังจะถีบบนศีรษะของหยางเฉินเข้า หยางเฉินยื่นมือฉับพลัน จับบนข้อเท้าของเขาไว้ทีหนึ่ง
วินาทีที่ปรมาจารย์ถังถูกหยางเฉินจับข้อเท้านั้น สำนึกได้ถึงสถานการณ์อันตรายแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปมากในชั่วขณะเดียว
“กึก!”
เห็นเพียงมุมปากหยางเฉินวาดเส้นรัศมีวงกลมที่โหดเหี้ยมขึ้นมากะทันหัน พละกำลังส่วนของมือระเบิดออกมาในชั่วขณะนั้น
ตามมาด้วยเสียงกระดูกแตกหักที่ชัดแจ๋วดังขึ้นทีหนึ่ง ตัวของปรมาจารย์ถังอยู่กลางอากาศ แต่ข้อเท้าถูกหักเรียบร้อย ปรากฏสภาพโค้งงอเก้าสิบองศาขึ้น
“ตึง!”
ร่างกายของปรมาจารย์ถังร่วงลงพื้นด้วยความหนักอึ้ง
“อ่า~”
เสียงร้องคำรามที่น่าเวทนาใจอย่างยิ่งเสียงหนึ่ง ดังขึ้นในค่ำคืนมืดมิด
หยางเฉินยืนอยู่ด้านหน้าของปรมาจารย์ถัง มองเขาจากบนลงมาข้างล่าง หรี่ตาพูดว่า “แกบอกว่าอยากหักแขนขาฉัน?”
“กึก!”
หยางเฉินเหยียบลงมาทีหนึ่ง ข้อเท้าอีกข้างหนึ่งของปรมาจารย์ถัง ชั่วขณะหนึ่งก็แตกหักแล้ว
“แกบอกว่ายังอยากฆ่าฉัน?”
เสียงของหยางเฉินนับวันยิ่งดังขึ้น หลังจากที่พูดจบ ก็เกิดเสียงกระดูกแตกหักชัดแจ๋วอีกสองทีดังขึ้นมา
แขนขาทั้งสี่ของปรมาจารย์ถังเสียหายทั้งหมด!
วิธีการที่เขาพึ่งข่มขู่หยางเฉินไปเมื่อสักครู่นั้น เวลานี้ถูกนำมาใช้บนตัวของตนเองทั้งหมดแล้ว
จนกระทั่งวินาทีนี้ เขาถึงสำนึกได้ว่าหวงเหมยหาเรื่องบุคคลที่น่าสยองมากแค่ไหนเข้าแล้ว
ตั้งแต่สองคนเริ่มต้นปะทะกัน ภายในเวลาหลายสิบวินาทีสั้นๆ แขนขาของเขาเสียหายหมด
ชายหนุ่มที่ความสามารถยิ่งใหญ่เกรียงไกรเช่นนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้ถึงรู้สึกเสียใจ ก็สายไปเสียแล้ว
“แก……แก สรุป…สรุปว่าเป็นใครกัน?”
ปรมาจารย์พูดเสียงสั่นเครือ ความเจ็บปวดที่แขนขาทั้งสี่โดนบดขยี้ ทำให้เขาเหมือนตายทั้งเป็น
ประเด็นสำคัญที่สุดคือความสามารถของเขาเสียหายหมด ไม่มีทางกลายเป็นแขกพิเศษของตระกูลหวงได้
เวลานี้ เขาแค่อยากรู้ว่าหยางเฉินเป็นใครกันแน่
อายุน้อยเช่นนี้ และความสามารถน่าสยองขวัญเช่นนี้ ทั้งจิ่วโจวที่กว้างใหญ่ จะมีสักกี่คน?
เวลานี้ในใจของเขาเหลือเพียงความรู้สึกเสียใจที่เข้มข้นไว้ส่วนหนึ่ง
หยางเฉินทำหน้าเย็นเฉียบ “ฉันเป็นใคร สำหรับแกแล้ว ยังสำคัญด้วยเหรอ?”
เขาพึ่งพูดจบ ก็ก้าวเท้ามาเหยียบ ดวงตาของปรมาจารย์ถังถลึงโต ชั่วขณะนั้นหยุดหายใจจนเสียชีวิต
หวงเหมยไม่รู้ว่ายอดฝีมือแกร่งสุดที่อยู่ข้างกายตนเอง ถูกหยางเฉินเหยียบตายในทีเดียวแล้ว
เวลานี้ เธอกำลังอยู่ที่ตระกูลเมิ่ง ดื่มด่ำการต้อนรับแบบแขกพิเศษ
“คุณหญิงหวง ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่เห็นปรมาจารย์ถึงกลับมาอีก?”
เมิ่งหงเย่รู้อย่างลึกซึ้งถึงความเก่งกาจของหยางเฉิน เวลานี้จึงเป็นกังวลอยู่บ้าง
หวงเหมยพูดแบบหน้าตาไร้อารมณ์ “ถึงแม้จะอยู่ที่ตระกูลหวง ปรมาจารย์สามารถจัดได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับต้นๆ คุณคงไม่ได้คิดว่าปรมาจารย์ถังออกหน้าด้วยตัวเอง ยังไม่สามารถจัดการเจ้าหมอนั้นได้หรอกมั้ง?”
“เจ้าบ้านเมิ่ง คุณดูถูกตระกูลหวงของพวกเราเกินไปแล้ว ตระกูลเมิ่งของคุณไม่มีผู้แข็งแกร่งที่เชิดหน้าชูตาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าตระกูลหวงของพวกเราจะไม่มีนะ!”
หวงอันพูดด้วยท่าทางเหยียดหยาม
เมิ่งหงเย่กล้าผิดใจคนของตระกูลหวงสองคนนี้ที่ไหนกัน รีบพยักหน้าตอบทันที “คุณหญิงหวงและคุณชายอันหมายความว่าหากปรมาจารย์ถังลงมือ หยางเฉินต้องย่ำแย่มากแน่”
ปากเขาพูดมาแบบนี้ ทว่าในใจกลับกังวลอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะหยางเฉินเคยปล่อยตระกูลเมิ่งไปครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าในครั้งนี้ยังไม่สามารถฆ่าหยางเฉินได้อีก งั้นตระกูลเมิ่งกับการพังพินาศ คงอยู่ห่างกันอีกไม่ไกลแล้ว
เวลาผ่านไปในแต่ละวินาที จากเวลาที่ปรมาจารย์ถังไปจากตระกูลเมิ่งก็ผ่านไปสามชั่วโมงเต็มๆ แต่ยังคงไม่เห็นเขากลับมา
จากเมืองเอกถึงเมืองเจียงโจว ใช้ระยะเวลาเดินทางไม่เกินสี่สิบนาที ไปกลับใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงยี่สิบนาทีก็เพียงพอแล้ว ที่เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาที หรือว่ายังไม่เพียงพอที่จะฆ่าหยางเฉินได้เหรอ?
เวลานี้ ไม่เพียงแค่เมิ่งหงเย่ร้อนใจมาก ในใจหวงเหมยเองก็แอบไม่สบายใจอยู่บ้าง
สมัยก่อนที่ปรมาจารย์ออกหน้า เดิมทีใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถกลับมาได้ ครั้งนี้ กลับเสียเวลานานขนาดนี้เลย
มีเพียงแค่ความเข้าใจในความสามารถของปรมาจารย์ถัง ถึงทำให้เธอรักษาความสงบมาได้ตลอด
“คุณป้าครับ ทำไมปรมาจารย์ถังยังไม่กลับมาอีก? เขาคงไม่ใช่เห็นเมืองเจียงโจวน่าเที่ยว เลยคิดจะอยู่ค้างคืนที่นั่นหรอกมั้งครับ?” หวงอันหัวเราะถามขึ้น
หวงเหมยถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง “หุบปาก!”
หวงอันไม่กล้าพูดอีก เขากลับไม่กังวลสักนิดเดียวว่าปรมาจารย์ถังจะล้มเหลว ยังหยิบมือถือออกมา จากนั้นกดเล่นขึ้นมา
ในเวลานี้ ภาพคนดูลนลานพุ่งเข้าห้องโถงใหญ่มา “ผู้……ผู้นำครับ ปรมาจารย์……ปรมาจารย์ถัง เขา……เขา……”
“เขาอะไรกันล่ะ? สรุปปรมาจารย์ถังเป็นอะไรกัน?” เมิ่งหงเย่ตวาดใส่
“ตายแล้ว! ตายแล้ว! ปรมาจารย์ถังตายแล้วครับ!”
คนคนนั้นพูดอย่างตกใจกลัวสุดฤทธิ์
“แกว่าอะไรนะ?”
เมิ่งหงเย่รีบลุกยืนขึ้นมาจากบนเก้าอี้ไม้ทรงโบราณทันที หน้าตื่นตกใจเต็มที่ “ปรมาจารย์ถังตายแล้ว?”
“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“แกดูชัดดีแล้วเหรอ?”
“แน่ใจเหรอว่าคนที่ตายคือปรมาจารย์ถัง?”
เมิ่งหงเย่โกรธเคือง คว้าคอเสื้อของคนคนนั้นเอาไว้ ถามติดๆ กันหลายคำถาม
ปรมาจารย์ถังแกร่งมากแค่ไหน เขาเคยเห็นมากับตาตนเอง ดีดผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเมิ่งกระเด็นด้วยนิ้วเดียว มีดใหญ่ของเพ้าดำ ตบเพ้าดำสลบในทีเดียว
ปรมาจารย์ถังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ จะถูกฆ่าได้อย่างไรกัน?
“ผู้นำครับ ที่ผมพูดจริงแท้แน่นอนครับ คนที่ถูกฆ่าเป็นปรมาจารย์ถังจริงๆ ศพอยู่ที่นอกประตูครับ ถ้าท่านไม่เชื่อ ผมจะให้คนยกศพเข้ามาตอนนี้เลยครับ”
คนคนนั้นสีหน้าหวาดผวาเต็มที่ รีบพูดทันที
“ยกศพเข้ามาให้ฉันดู!” เมิ่งหงเย่ดงแดงก่ำส่งเสียงคำราม
หวงเหมยและหวงอันทั้งสองคน เวลานี้สีหน้าเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อเช่นกัน เดิมทีไม่เชื่อว่าคนที่ตายจะเป็นปรมาจารย์ถัง
ไม่นานทั้งสองคนก็ยกศพร่างหนึ่งเข้ามาในห้องแล้ว
“ปรมาจารย์ถัง!”
ตอนที่เมิ่งหงเย่มองใบหน้าของศพชัดดีแล้ว ชั่วขณะนั้นเบิกดวงตาโต ร่างกายถอยหลังติดกันไปห้าหกก้าว ก่อนจะอ่อนแรงไปทั้งตัว ก้นกระแทกนั่งลงบนพื้น
เวลานี้ แขนขาทั้งสี่ของปรมาจารย์ถังมีเลือดสดไหลริน เห็นได้ชัดว่าทั้งแขนขาเสียหายทั้งหมด
ตายเรียบร้อยแล้ว ดวงตาทั้งคู่ยังเบิกโต ในลูกตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว